ใครที่เป็นสายมู เชื่อว่าต้องเคยได้ยินเรื่อง พญานาค กันมาบ้างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ตำนานพญานาค ที่เล่าขานกันมายาวนาน ความเชื่อว่าท่านคือผู้คุ้มครองลุ่มน้ำโขง ไปจนถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเสริมดวง ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และดลบันดาลโชคลาภ การเงิน การงานให้สมหวัง เลยไม่แปลกที่หลายคนอยากออกทริปไปตามรอยสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อไหว้พญานาค กันสักครั้ง
ส่วนถ้าใครที่เพิ่งเริ่มสนใจสายมูและอยากลองมูพญานาคบ้าง วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักว่า พญานาค คืออะไร มีที่มาจากตำนานโบราณ อย่างไร พร้อมแชร์วิธีไหว้พญานาค ของไหว้ที่ควรเตรียม และรวมลิสต์พิกัดดังสายมูทั่วไทยที่ต้องไปเช็กอิน บอกเลยว่าอ่านจบแล้ว เตรียมกดจองตั๋วเครื่องบินไปมูได้แบบพร้อม ๆ กันทันที
ตามคติความเชื่อโบราณ พญานาค (Naga / Phaya Naga) ถือเป็นสัตว์กึ่งเทพ มีรูปลักษณ์เหมือนงูใหญ่มีหงอน สายตาดุดัน และเกล็ดเป็นประกายหลากสี มีพลังอิทธิฤทธิ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบันดาลฝน คุ้มครองผู้ศรัทธา หรือแม้แต่จำแลงกายเป็นมนุษย์ก็ยังทำได้
ลักษณะของพญานาค ตามตำนานโบราณ จะต่างกันไปตามตระกูล บางองค์มีเพียงเศียรเดียว แต่ถ้าเป็นพญานาคที่มีบารมีสูงก็สามารถแผ่เศียรได้หลายหัว ตั้งแต่ 3 เศียร 5 เศียร 7 เศียร ไปจนถึง 9 เศียร โดยเฉพาะองค์พญาอนันตนาคราช ผู้เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงที่เล่ากันว่าสามารถแผ่เศียรได้ไม่จำกัด
แม้จะถูกขนานนามว่า เจ้าแห่งอสรพิษ แต่พญานาคไม่ได้จัดอยู่ในฝ่ายชั่วร้าย ตรงกันข้ามกลับนับเป็นผู้มีบุญญาบารมี อยู่ในสุคติภูมิ และมีถิ่นพำนักทั้งในแหล่งน้ำใหญ่ เช่น แม่น้ำ หนอง บึง ตลอดจนในชั้นสวรรค์จาตุมหาราชิกา
และด้วยอิทธิฤทธิ์อันยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์นี้เอง ทำให้ผู้คนลุ่มน้ำโขงศรัทธามาช้านาน เชื่อว่าการกราบไหว้บูชา องค์พญานาค จะนำพา ความอุดมสมบูรณ์ อำนาจบารมี และโชคลาภ มาสู่ชีวิต
ตำนานเกี่ยวกับพญานาคฝังแน่นอยู่ในวิถีชีวิตคนอีสานและลุ่มน้ำโขงมาอย่างยาวนาน เล่ากันว่าพญานาคมักปรากฏกายในคืนวันออกพรรษา หรือคืนเพ็ญเดือน 11 ที่แม่น้ำโขง เชื่อมโยงกับเมืองบาดาลที่พญานาคสถิตอยู่
อีกหนึ่งเรื่องเล่าที่สะท้อนศรัทธาก็คือ การแปลงกายของพญานาคเป็นมนุษย์เพื่อติดต่อกับผู้คนบนโลก จนกลายเป็นที่มาของงานบุญใหญ่ประจำปีอย่าง ประเพณีบุญบั้งไฟ ที่จัดขึ้นเพื่อบูชาพญานาคและขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์แก่บ้านเมือง
ถ้าเจาะลึกในตำนานเก่าแก่ จะพบว่า พญานาค นั้นไม่ได้มีเพียงรูปร่างเดียว แต่ยังถูกแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ แต่ละตระกูลก็มีลักษณะ สีสัน และความสามารถแตกต่างกันไป ซึ่งสะท้อนถึงพลังและบารมีของพญานาคในสายต่างๆ ดังนี้
พญานาคตระกูลนี้มีผิวกายสีทองอร่าม ถือเป็นสายชั้นสูงสุด กำเนิดขึ้นมาเองโดยไม่ต้องผ่านการเกิดแบบทั่วไป เชื่อว่ามีบารมีและอำนาจเหนือพญานาคทั้งหลาย อาศัยอยู่ในวิมานทิพย์บนสวรรค์ โดยมี ท้าววิรูปักษ์หนึ่งในผู้ปกครองโลกทั้งสี่เป็นต้นตระกูล ตัวอย่างพญานาคที่หลายคนรู้จัก เช่น พญามุจลินท์นาคราช ผู้แผ่พังพานปกป้องพระพุทธเจ้า
ตระกูลพญานาคชั้นสูงรองลงมาจากตระกูลนาคทอง กำเนิดจากการไข่ ลักษณะเด่นคือเกล็ดสีเขียวมรกต ร่างใหญ่โต พญานาคตระกูลนี้อาศัยอยู่เมืองบาดาลที่ไม่ลึกมาก ทำให้ใกล้ชิดกับโลกมนุษย์มากที่สุด จนมีตำนานรักระหว่างนาคกับมนุษย์อยู่หลายเรื่อง หากมีบารมีสูงก็สามารถแผ่เศียรได้ถึง 9 เศียรเลยทีเดียว พญานาคที่เป็นที่รู้จักในตระกูลนี้คือ พญาศรีสุทโธนาคราช แห่งคำชะโนด
เกล็ดของนาคตระกูลนี้สะท้อนแสงระยิบระยับเหมือนสีรุ้ง ถือกำเนิดจากครรภ์ของมารดา มักพำนักในถ้ำหรือป่าลึก ด้วยความที่พบเจอได้ยาก ทำให้ถูกยกให้เป็นตระกูลที่ลึกลับและเปี่ยมด้วยอำนาจเหนือธรรมชาติมากที่สุดตระกูลหนึ่ง
พญานาคตระกูลนี้มีผิวกายสีดำ เกิดได้ทั้งจากไข่หรือจากสิ่งหมักหมม ลักษณะเด่นคือร่างกายแข็งแรงบึกบึน มักถูกมอบหมายให้เฝ้าสมบัติและทรัพย์ในเมืองบาดาล ถึงจะเป็นตระกูลที่ต่ำกว่า แต่ถ้าขยันบำเพ็ญเพียร ก็สามารถยกระดับเป็นผู้ปกครองได้เช่นกัน พญานาคตระกูลนี้ที่คนรู้จักคือ องค์ดำแสนสิริจันทรานาคราช นักรบผู้เกรียงไกรแห่งบาดาล
นอกจาก 4 ตระกูลหลักแล้ว ตำนานยังกล่าวว่ามีพญานาคสืบเชื้อสายย่อย ๆ อีกนับพัน และสัตว์เลื้อยคลานอย่างงูต่าง ๆ ก็ถูกเชื่อว่าเป็นลูกหลานของพญานาคด้วยเหมือกัน
นอกจากเรื่องราวของตำนานพญานาค ที่เราได้ยินกันทั่วไปแล้ว ยังมีการกล่าวถึงจอมกษัตริย์นาคาผู้ทรงอำนาจถึง 9 พระองค์ ที่ปกครองเมืองบาดาล แต่ละองค์ต่างมีบุคลิก อานุภาพ และบทบาทเฉพาะตัว ซึ่งกลายเป็นตำนานศรัทธาที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
เมื่อรู้จักตำนานและกษัตริย์นาคทั้ง 9 องค์แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอยากลองกราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลกันบ้าง ซึ่งตามความเชื่อของชาวไทย-ลาว การไหว้พญานาคนั้นไม่ได้ซับซ้อน แต่สิ่งสำคัญคือตั้งจิตให้ศรัทธาและบริสุทธิ์จากนั้นเตรียมของไหว้และคาถาให้พร้อม ดังนี้เลย
ถ้าอยากไหว้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องเตรียมของเยอะ แต่เน้นความเรียบง่ายและตั้งใจจริง ๆ
ถือว่าเป็นวันพิเศษที่เชื่อว่าการบูชาจะเสริมพลังบุญและความเป็นสิริมงคลมากขึ้น
เริ่มต้นด้วยการตั้งนะโม 3 จบ จากนั้นสวดตามนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (3 จบ)
กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดี (กล่าวพระนาม เช่น ปู่มุจลินทร์นาคราช) วิสุทธิเทวา ปูเชมิ
ทุติยัมปิ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดี (กล่าวพระนาม) วิสุทธิเทวา ปูเชมิ
ตะติยัมปิ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดี (กล่าวพระนาม) วิสุทธิเทวา ปูเชมิ
เมตตัญจะมหาลาโภปิโยนาคะ ขันธปริตตัง
ที่สำคัญ ควรกล่าวพระนามพญานาคที่ตนศรัทธา เช่น “ปู่ศรีสุทโธนาคราช” หรือ “พญามุจลินท์นาคราช” เพื่อเจาะจงในการอธิษฐานขอพร จะเป็นเรื่องการเงิน การงาน หรือแม้แต่ขอให้ท่านช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีก็ได้ทั้งนั้น
ถ้าอยากตามรอยพญานาค ไม่ต้องบินไกลถึงลุ่มน้ำโขงก็ได้ เพราะในไทยเรามีหลายพิกัดศักดิ์สิทธิ์ให้ไปมู แถมแต่ละที่ยังมีเรื่องราวตำนานที่แตกต่างกันออกไปด้วย มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
ไม่ต้องเดินทางไกลจากกรุงเทพก็สามารถไปกราบ พญานาค ได้ เพราะวัดป่าคลอง 11 ในปทุมธานีเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สายมูนิยมมากราบไหว้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคำชะโนดสองเลย จุดเด่นคือองค์พญานาคขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านที่โบสถ์ไม้กลางสระน้ำ ผู้คนเชื่อว่าพญานาคที่นี่ช่วยเรื่องการงาน การเงิน และความมั่นคงในชีวิต จึงมักมีพ่อค้าแม่ค้าและคนทำธุรกิจเดินทางมากราบสักการะ เพื่อเสริมบารมีและเรียกทรัพย์ นอกจากนี้วัดยังมีบรรยากาศสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการนั่งสมาธิหรือขอพรแบบสงบๆ อีกด้วย
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/1NjbWFucd2CYTgRP8
ถัดจากกรุงเทพฯ ลงมาไม่นาน ก็มีอีกหนึ่งพิกัดสายมูที่ห้ามพลาดอย่าง วัดถ้ำแจง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ประดิษฐาน พญานาค องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว! ที่นี่ประดิษฐาน พ่อปู่พญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช ตัวองค์สูงกว่า 30 เมตร ลำตัวเลื้อยขดเป็นวงยาวหลายร้อยเมตร ดูอลังการและงดงามสุด ๆ
เกล็ดพญานาคที่นี่มีสีเขียวน้ำเงินเหลือบแสง เห็นแล้วทั้งขลังและสวยจนต้องหยุดมอง ไฮไลต์ของการสักการะคือการลอดผ่านช่องใต้ลำตัวพญานาคตั้งแต่ต้นไปถึงปลาย เปรียบเสมือนการชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากตัว ก่อนจะไปอธิษฐานขอพรด้านโชคลาภ ความก้าวหน้า และความสุขสงบของครอบครัว บอกเลยว่าใครได้มาที่นี่จะได้ทั้งพลังศรัทธาและรูปถ่ายสุดอลังการกลับบ้านแน่นอน
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/qonqGvCgjGAKUFXS9
ถ้าพูดถึงพญานาค แน่นอนว่าต้องนึกถึงเมืองหนองคาย และหนึ่งในสถานที่ที่ถูกเล่าขานกันมากแห่งหนึ่งก็คือ วัดถ้ำศรีมงคล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ถ้ำดินเพียง ตำนานบอกว่าถ้ำแห่งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองบาดาลของพญานาค ภายในถ้ำให้บรรยากาศที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์ทั้งความลึกลับ
ความพิเศษของถ้ำดินเพียงอยู่ที่เส้นทางด้านในที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา บางจุดยังมีน้ำใสไหลตลอดทั้งปี ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่คอยหล่อเลี้ยงถ้ำเอาไว้ ทำให้เหล่าผู้ศรัทธานิยมเดินทางมาไหว้พญานาค ขอพรด้านโชคลาภ ความก้าวหน้า และความมั่งคั่งกันไม่ขาดสาย เพราะเชื่อว่าการได้ก้าวเข้าสู่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เปรียบเสมือนการได้สัมผัสพลังของพญานาคโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ใครที่อยากลองเข้าไปด้านในต้องมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำทางเสมอ เพราะเส้นทางคดเคี้ยวและซับซ้อน หากเข้าไปเองอาจหลงทางได้ง่ายๆ
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/Xh8zrGzCBCQ5LCAy5
ดินแดนในตำนานที่สายมูรู้จักกันดี คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา องค์พญานาคผู้ยิ่งใหญ่ที่คอยคุ้มครองชาวบ้านและผู้มีศรัทธา จึงไม่แปลกที่ทุกวันจะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาขอพร โดยเฉพาะเรื่องการเงิน การงาน โชคลาภ และความสมหวังในชีวิต หลายคนยังนิยมมาขอเลขเด็ดที่นี่ เพราะเชื่อว่าพ่อปู่และแม่ย่าจะดลบันดาลโชคให้ผู้ศรัทธา จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นผู้คนมาร่วมพิธีขอเลขและส่องหาตัวเลขจากขันน้ำมนต์หรือพิธีบวงสรวงอย่างเนืองแน่นอยู่เสมอ และยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เล่าต่อกันว่าถูกหวยจากเลขที่ได้มาจากคำชะโนดจริงๆ
นอกจากเรื่องโชคลาภแล้ว คำชะโนดยังมีป่าโบราณที่มีบรรยากาศขลัง ร่มครึ้ม และเงียบสงบ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่บอกเลยว่า ถ้าอยากสัมผัสพลังขององค์พญานาคแบบเต็มๆ และได้เสริมดวงโชคลาภไปพร้อมกัน ต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้งในชีวิต
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/v9NaSjntWQaDQYHT6
ที่สุดแห่งความศรัทธาและความลี้ลับต้องยกให้ ถ้ำนาคา ที่ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ไฮไลต์ของที่นี่คือก้อนหินยักษ์ที่มีลวดลายคล้ายเกล็ดพญานาค และรูปร่างเหมือนงูยักษ์ขดตัวอยู่จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณปากถ้ำยังมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายหัวนาค จนทำให้หลายคนเชื่อว่า ที่นี่คือสถานที่สถิตของพญานาคองค์สำคัญ
ผู้คนต่างเดินทางมาที่นี่เพื่อกราบสักการะและขอพร ทั้งเรื่องความสำเร็จ โชคลาภ ไปจนถึงการเสริมสิริมงคลให้ชีวิต นอกจากพลังศรัทธาแล้ว เสน่ห์อีกอย่างของถ้ำนาคาก็คือการเดินป่าขึ้นไปสู่ถ้ำที่ทั้งตื่นเต้นและท้าทาย ราวกับกำลังเดินตามรอยตำนานพญานาคด้วยตัวเอง ทำให้ที่นี่ไม่ใช่แค่การมู แต่ยังได้ผจญภัยและใกล้ชิดธรรมชาติไปพร้อมกัน จึงไม่แปลกที่ถ้ำนาคาจะกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ใครๆ ต่างบอกว่า ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/T7cAAzuqGtdoJax28
ได้ลิสต์พิกัดศักดิ์สิทธิ์ไว้ครบแล้ว ถึงเวลาวางแผนออกทริปตามรอย พญานาค กันแบบง่ายๆ จะไปใกล้กรุงเทพฯ อย่างวัดป่าคลอง 11 หรือจะบินลัดฟ้าไปอีสานเพื่อสักการะคำชะโนดกับถ้ำนาคา ก็จัดการได้ในแอปเดียวกับ Traveloka
เพราะใน Traveloka เพื่อนๆ สามารถ
ไม่ว่าจะเป็นทริปตามรอยพญานาค ขอพรเรื่องโชคลาภ การงาน หรืออยากได้ทั้งความศักดิ์สิทธิ์และการผจญภัยในทริปเดียว แค่มี Traveloka ก็พร้อมเนรมิตทริปสายมูของคุณให้เป็นสะดวกและง่ายขึ้นได้ทันที!