EPIC Sale อภิมหาดีลในตำนานกลับมาแล้ว!
5 - 11 พฤศจิกายนนี้ Traveloka ลดยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี สูงสุด 80%

พิเศษ! เตรียมตัวเก็บดีลและส่วนลดสุด Epic ใน Epic Hour
แจกส่วนลดสุดปัง ทุกวัน เวลา 11:00 - 12:00 น.

นราธิวาส เป็นจังหวัดที่หลายคนอาจยังลังเลที่จะเดินทางไป เพราะเหตุการณ์และข่าวคราวต่างๆ ที่เราล้วนเคยได้ยินได้ฟังกันมา และนั่นละที่ทำให้เราพลาดโอกาสในการได้ไปสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่นของเมืองนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่จริงๆ แล้วที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายๆ เหมือนอีกหลายจังหวัดในเมืองไทยนั่นละ วันนี้เราเลยขอจัดเส้นทางขับรถเที่ยวนราธิวาสแบบชิลล์ๆ มาไว้ให้พิจารณา ถ้าอยากเที่ยวเมืองเล็กบรรยากาศสบายสไตล์ New Normal แห่งนี้ จองตั๋วเครื่องบินนราธิวาสได้ที่ Traveloka เลยน้า ตั๋วก็ราคาดี ค่าครองชีพเมืองนี้ก็สบาย ไม่ไปแล้วจะเสียดายแน่นอน

เพราะอยู่ห่างจากสนามบินนราธิวาสแค่ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น หาดบ้านทอน จึงเป็นสถานที่ประเดิมทริปที่เราขอชักชวนให้แวะมา นอกจากจะได้พักสายตายืดแข้งยืดขาสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้สาแก่ใจกับชายหาดสวยบรรยากาศสงบของที่นี่แล้วนะ หาดนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเรือกอและซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของภาคใต้ที่เหลืออยู่แห่งสุดท้ายของจังหวัดนี้ด้วยจ้า นอกจากนั้นยังมีวิถีชีวิตชุมชนไทย-มุสลิมที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านให้เราได้เรียนรู้กันด้วยนะ อย่ามองข้ามจ้ะ รับรองว่าเพลิน

ไม่ไกลกันนักจากหาดบ้านทอน ขับรถสบายๆ แค่ราวๆ 20 นาที ก็จะมาถึงที่ หาดนราทัศน์ อีกหนึ่งหาดสวยของนราธิวาสเค้าละ หาดนี้เป็นชายหาดทรงโค้งที่กินความยาวกว่า 5 กิโลเมตรเลยนะ มีปลายหาดด้านหนึ่งจรดกับปากแม่น้ำบางนรา ใครชอบเดินเล่นชมวิวเก็บรูปชิลล์ๆ บอกเลยว่าที่นี่ดี เพราะมีชายหาดกว้าง ร่มรื่นด้วยทิวสนยาวเหยียดเพิ่มชีวิตชีวา ถ้าแวะมาช่วงเย็นๆ ถือว่าเป็นอีกพิกัดที่โรแมนติกเลยเชียวละ เป็นหาดหนึ่งที่คนรักทะเลไม่ควรพลาดเลย

ปิดท้ายการทัวร์ชมความสวยของทะเลเมืองนราฯ ด้วยการขับรถต่อมาอีกนิดเดียวก็จะถึง อ่าวมะนาว อีกหนึ่งหาดสวยที่เราว่าคนรักทะเลก็น่าจะแฮปปี้ หาดนี้กินความยาวราวๆ 4 กิโลเมตร มีปลายหาดด้านหนึ่งอยู่ติดกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ด้วยนะ บริเวณชายหาดของที่นี่ก็กว้างขวาง เต็มไปด้วยเม็ดทรายสีขาวสวยสะอาดตา บางช่วงของชายหาดมีโขดหินขนาดใหญ่ ริมหาดมีสวนรุกขชาติให้ความร่มรื่นไปอีกจ้า ที่เก๋คือเค้ามีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาดให้เดินเล่นกันด้วยนะ เป็นอีกหาดที่อยากชวนให้แวะมาเช็คอินกัน

ชมความสวยของชายหาดเมืองนราธิวาสกันมาตั้งหลายที่ ขอชวนขับรถต่อมาเสริมความเป็นสิริมงคลกันซักหน่อยดีกว่า พุทธอุทยานเขากง คือพิกัดแรกที่อยากชวนให้มาปักหมุดไหว้พระกัน เพราะที่นี่มีองค์พระใหญ่สีทองกระจ่างที่ว่ากันว่างดงามและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคให้ ประดิษฐานอยู่ในบริเวณยอดเขากงเลยจ้า ใกล้ๆ กันยังมีเจดีย์สิริมหามายาซึ่งด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยนะ แวะมากราบกันเด้อ

วัดชลธาราสิงเห คือพิกัดต่อมาที่เราอยากชวนให้ปักหมุดมากัน ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองนราธิวาสมาเนิ่นนานตั้งแต่ประมาณสมัยรัชกาลที่ 5 เลยละ มีบรรยากาศโดยรอบที่สงบร่มรื่นแสนสบาย และมีจุดเด่นที่สถาปัตยกรรมซึ่งสวยงามภายในวัดนี่ละ ตั้งแต่กุฏิโบราณสวยเตะตาซึ่งปัจจุบันปรับเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านในกุฏินั้นมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามแปลกตา อีกหนึ่งไฮไลท์คือพลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ 6 ริมแม่น้ำตากใบ ซึ่งงดงามน่าประทับใจเลยละ วัดนี้มีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตแดนของบ้านเราด้วยนะ ใครชอบประวัติศาสตร์พลาดที่นี่ไม่ได้จริงๆ

อีกครึ่งชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น เราก็ได้เปลี่ยนฟีลมาชมความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้กันใน ศูนย์วิจัยและศึกษาป่าพรุสิรินธร หรือป่าพรุโต๊ะแดง ซึ่งเป็นพิกัดธรรมชาติที่อัดแน่นไปด้วยต้นไม้และสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์ เพราะป่าพรุนั้นได้ชื่อว่าเป็นผืนป่าที่เต็มไปด้วยการสะสมของอินทรียวัตถุเอาไว้มากมาย ในป่านี้จึงเต็มไปด้วยความหลากหลายทางพันธุกรรมอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ใครชอบต้นไม้ขอให้มาเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติของที่นี่เลยจ้า เชื่อว่าต้องเพลินมากเชียวละ อย่าลืมปักหมุดมาเด้อ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา - บาลา คือผืนป่าที่ได้รับสมญานามว่าเป็น ‘แอมะซอนแห่งอาเซียน’ เลยนะ ป่าผืนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสันกาลาคีรีและกินพื้นที่สองจังหวัดคือยะลากับนราธิวาส แถมยังอัดแน่นไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบสุดๆ เลยละ ป่าฝั่งจังหวัดนราธิวาสนั้นคือผืนป่าบาลาซึ่งสามารถเที่ยวได้อย่างสะดวกเพราะมีถนนตัดผ่านด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นพืชแปลกตาหรือสัตว์ป่าหายากอีกมากมายก็หาชมได้ที่นี่เลยจ้า สายธรรมชาติห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

น้ำตกสิรินธร คือหนึ่งน้ำตกสวยซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา - บาลา เป็นน้ำตกที่มีรูปร่างลักษณะซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจแบบสุดๆ เลยละ เพราะแทนที่จะเป็นสายน้ำซึ่งตกลงมาจากผาสูงอย่างที่เราคุ้นเคยกัน ที่นี่กลับมีลักษณะคล้ายลำธารซึ่งไหลเลาะมาตามชั้นหินที่ลาดลดหลั่นกันลงไป แม้จะมีแอ่งที่ลงเล่นน้ำได้แต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยกันด้วยน้า ยิ่งช่วงน้ำหลากในหน้าฝนห้ามลงเล่นนะ อันตรายจ้า อย่าหาทำ!

เพราะทุกวันนี้ ทะเลหมอกไม่ได้มีให้เห็นกันแค่ในภาคเหนือหรือภาคอีสานเท่านั้นนะ แต่ภาคใต้ก็มีทะเลหมอกสวยๆ ให้ไปปักหมุดกันหลายที่ และหนึ่งในนั้นคือ ทะเลหมอกสุคิริน หรือทะเลหมอกผานับดาว ซึ่งเป็นพิกัดชมวิวยามเช้าที่สุดปังของนราธิวาสเลยเชียวละ หมอกขาวๆ แน่นๆ ลอยปกคลุมผืนป่าและภูเขาสีเขียวกว้างไกลแบบพาโนรามา ฟินในฟินเลยนะบอกตรงนี้! ใครเป็นสายแค้มปิ้งที่นี่เค้าให้เอาเต็นท์มากางได้จ้า แต่จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายใดๆ ให้นะ เชื่อเหอะ … สายลุยรักธรรมชาติน่าจะถูกใจ

ชมทะเลหมอกกันเต็มตา ก็ได้เวลาคว้ากุญแจสตาร์ทรถขับกันยาวๆ ไปชมความสวยของ น้ำตกซีโป อีกหนึ่งน้ำตกยอดฮิตของนราธิวาสเค้าละ น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกไซส์ใหญ่ที่มีความสูง 7 ชั้น โดยมีน้ำตกชั้นที่ 7 เป็นชั้นที่สวยที่สุดเลยจ้า และเพราะความสวยของธรรมชาติ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของทั้งชาวนราธิวาสและนักเดินทางจากต่างพื้นที่เลยนะ ถ้าชอบเที่ยวน้ำตกต้องลองมาที่นี่ดู

จากความสวยของธรรมชาติ ก็ขอชวนออกสตาร์ทมาชมสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกของ มัสยิด 300 ปี หรือที่คนท้องถิ่นอาจจะรู้จักกันในชื่อมัสยิดวาดีลฮูเซ็นหรือมัสยิดตะโละมาเนาะ มัสยิดโบราณซึ่งสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง แถมยังมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะแบบไทย จีน และมลายูเข้าไว้ด้วยกัน ประดับประดาด้วยงานแกะสลักที่ละเอียดงดงามตามมุมต่างๆ ของอาคาร ทุกวันนี้ที่นี่ยังทำหน้าที่เป็นศาสนสถานอยู่น้า ถ้าอยากชมด้านในต้องทำการขออนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามของหมู่บ้านก่อนจ้ะ แต่ถ้าจะชมแค่ด้านนอกก็แวะมาได้ตามสะดวกเลยเด้อ

ปิดท้ายทริปนี้กันด้วยการขับรถต่อมาไม่ถึงสิบนาที เพื่อชมความงามของ น้ำตกปาโจ ซึ่งเป็นน้ำตกที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คยอดนิยมของนราธิวาสเค้าเลยละ โดยน้ำตกนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 4 ชั้น และชั้นที่สวยที่สุดก็คือชั้นแรกซึ่งเป็นสายน้ำที่ตกลงมาตามหน้าผาหินที่สูงประมาณ 60 เมตรเลยนะ เส้นทางเดินสู่น้ำตกก็แสนจะสะดวกสบาย มีมุมสวยให้แวะถ่ายรูปกันได้หลายมุมเลยละ เป็นการส่งท้ายทริปที่อิ่มตาอิ่มใจแบบสุดๆ จ้า บอกเลย

นราธิวาสนับเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสงบเรียบง่าย มีวัฒนธรรมงดงามในสไตล์ท้องถิ่นที่น่าเรียนรู้ศึกษา และที่สำคัญยังเป็นพิกัดซึ่งมีธรรมชาติโดยเฉพาะผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แบบสุดๆ เลยละ ใครเป็นสายเขียวชอบเที่ยวแบบไม่แออัดแนะนำให้จัดเลยนะ ธรรมชาติก็สวย ผู้คนก็น่ารัก ถ้าไม่ปักหมุดมาบอกเลยว่าน่าเสียดาย!