เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกคงหนีไม่พ้น “ไทม์สแควร์ (Time Square)” ที่เที่ยวยอดฮิตที่รวมแสงสีเสียง ร้านค้า และร้านอาหารเอาไว้มากมาย โดยมีผู้คนและนักท่องเที่ยวมาเยือนสูงถึง 400,000 คนต่อวัน

ในบทความนี้ จะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับไทม์สแควร์ในอเมริกาว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร พร้อมวิธีการเดินทาง และจุดเช็กอินน่าสนใจรอบไทม์สแควร์ รวมไปถึงการจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกากับ Traveloka ที่จะช่วยให้แผนการเดินทางไปไทม์สแควร์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น

ไทม์สแควร์ (Times Square) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก และยังเป็นหนึ่งในแลนมาร์กสำคัญของนครนิวยอร์ก มีจุดเด่นในเรื่องแสงสีเสียงและความครึกครื้นของผู้คนในพื้นที่ โดยบริเวณ Times Square จะมีลักษณะคล้ายกับ “หูกระต่าย” ที่เกิดจากการตัดกันของถนน 2 สายคือ ถนนบรอดเวย์และถนนเซเวนท์ เอเวนิว

ไทม์สแควร์ในนครนิวยอร์กเดิมทีพื้นที่นี้เคยถูกเรียกว่า ‘ลองแกร์ สแควร์’ และได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Times Square หลังจากมีการก่อสร้างตึกไทม์ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสำนักพิมพ์ “The New York Times” ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1904

โดยในช่วงศตวรรษที่ 19 ไทม์สแควร์ยังเป็นสถานที่ที่มีความอันตรายในด้านการค้ายาเสพติดและอาชญากรรม จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ไทม์สแควร์ได้กลายมาเป็นย่านการค้าที่มีเสน่ห์และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่าง โรงละครบรอดเวย์, ไนท์คลับ, ร้านค้า, ร้านอาหาร และโรงแรมนั่นเอง

ไทม์สแควร์ตั้งอยู่กลางเกาะแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก โดยเป็นจุดตัดของถนน 4 สายด้วยกันคือ ถนนบรอดเวย์ (Broadway), ถนนเซเวนท์ เอเวนิว (7th Avenue), ถนนเวสต์ โฟตี เซเคอนด์ (42nd Streets) และถนนเวสต์ โฟตี เซเวนท์ (47th Streets) ถ้าหากใครจองที่พักอเมริกาในนิวยอร์กเรียบร้อยแล้วสามารถเดินทางมายัง Times Square ได้ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถบัส และรถไฟใต้ดิน

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/WUPGjLAidQrWtajv6

โดยปกติแล้วไทม์สแควร์เป็นพื้นที่เปิดที่สามารถสัญจรหรือเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา โดยช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวจะเป็นช่วงเวลาเย็นหรือกลางคืน เพราะจะสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแสงสีเสียงโดยรอบได้อย่างเพลิดเพลิน และนอกจากนี้ ไทม์สแควร์ยังเป็นพื้นที่ยอดนิยมในการถ่ายรูปและเช็กอินของเหล่านักท่องเที่ยวอีกด้วย

อีกช่วงเวลาหนึ่งที่แนะนำสำหรับการมาท่องเที่ยวที่ไทม์สแควร์คือช่วงที่มีเทศกาลสำคัญอย่างเช่น เทศกาลคริสต์มาส หรืออีกช่วงคือเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เห็นบรรยากาศของการเฉลิมฉลองของผู้คน รวมไปถึงร้านค้า และร้านอาหารต่าง ๆ ในพื้นที่

สำหรับการเดินทางไปยังไทม์สแควร์ (Times Square) นั้น สามารถไปได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลการเดินทางด้วยวิธีต่าง ๆ มาไว้ให้แล้ว ดังนี้

การเดินทางไปยังไทม์สแควร์โดยรถไฟหรือ Subway นั้น สามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟสาย Babylyon Branch, Harlem, Hudson, NC, Path, Port Washington Branch และ Ronkonkoma Branch เข้าสู่ตัวเมือง Manhattan และต่อจากนั้นให้นั่ง Subway สาย 1, 3, 7, A, F หรือ N ไปลงสถานี Times Square-42 Street เพื่อไปถึงไทม์สแควร์นั่นเอง

การเดินทางสู่ไทม์สแควร์ด้วยรถบัสถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศเมือง Manhattan โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถบัสได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นสาย 163, M104, M15, M42, M7, Q101 หรือ SIM1C ที่สามารถลงป้าย Times Square ได้เลย

อีกหนึ่งวิธีการเดินทางสู่ไทม์สแควร์คือการเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งจะมีทั้งการเช่ารถยนต์หรือใช้บริการรถแท็กซี่ โดยสามารถกด GPS และขับไปตามเส้นทางถนนที่ตัดผ่านไทม์สแควร์อย่างถนนบรอดเวย์, ถนนเซเวนท์ เอเวนิว, ถนนเวสต์ โฟตี เซเคอนด์ หรือถนนเวสต์ โฟตี เซเวนท์ ได้เลย

ไทม์สแควร์ (Times Square) เป็นย่านการค้าที่รวมร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไว้มากมาย อีกทั้งยังมีพื้นที่ที่กว้างขวาง จนหลายคนอาจตัดสินใจไม่ถูกว่าควรถ่ายรูปหรือเช็กอินที่ไหนดี ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมจุดเช็กอินน่าสนใจที่ไม่ควรพลาดมาไว้ให้แล้ว ดังนี้

One Times Square แลนมาร์กที่โดดเด่นในย่านไทม์สแควร์ และเป็นหนึ่งในป้ายโฆษณาดิจิทัลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีลักษณะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ใจกลางไทม์สแควร์ นับเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะต้องแวะถ่ายรูปกับป้ายโฆษณาของตึก One Times Square เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าได้มาถึงย่านนี้แล้วเรียบร้อย

JumboTron หรือเหล่าป้ายโฆษณาดิจิทัลขนาดใหญ่ในย่านไทม์สแควร์ เป็นอีกหนึ่งจุดน่าเช็กอินที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเพลิดเพลินกับแสงสี โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนที่ป้ายเหล่านี้จะมีการเปิดแสงไฟที่ฉูดฉาดและส่องสว่างไปทั้งย่านไทม์สแควร์

Minskoff Building อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไทม์สแควร์ โดยอยู่ติดกับถนน West 45th เป็นที่ตั้งของโรงละครบรอดเวย์ Minskoff Theatre โรงละครขนาด 1,710 ที่นั่งที่เปิดในปี ค.ศ. 1973 โดยละครเพลงที่มีชื่อเสียงจากโรงละครแห่งนี้มากที่สุดเรื่องหนึ่งคือ The Lion King ซึ่งเป็นละครเพลงบรอดเวย์ที่ทำรายได้สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Minskoff Theatre เลยทีเดียว

Madame Tussauds พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งชื่อดังที่มีโมเดลหุ่นขี้ผึ้งของเหล่าบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ นักแสดง และนักดนตรีชื่อดังกว่า 200 ตัว เปิดโอกาสให้คุณได้ใกล้ชิดทั้ง มาดอนน่า, โรเบิร์ต แพตตินสัน และเหล่าคนดังอีกมากมาย โดยมีพื้นที่จัดนิทรรศการมากถึง 5 ชั้น

นอกจากโซนโมเดลหุ่นขี้ผึ้งแล้ว ที่ Madame Tussauds ยังมีโซนนิทรรศการอื่น ๆ อีกอย่างเช่น Marvel Universe 4D Movie, Clown Chaos 7D หรือ Warner Bros. Icons of Horror ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะที่ Madame Tussauds New York เท่านั้น

บันไดกระจกสีแดง (Ruby-Red Stairs) เป็นส่วนหลังคาของจุดจำหน่ายตั๋วละครบรอดเวย์ TKTS โดยบันไดกระจกที่มีลักษณะคล้ายอัฒจันทร์นี้จะประกอบได้ด้วยกระจกสีแดงเรียงกันเป็นบันไดถึง 27 ขั้น สามารถจุคนได้มากถึง 100 คน กลายมาเป็นอีกหนึ่งจุดน่าเช็กอินของไทม์สแควร์ โดยในช่วงเวลากลางคืนจะมีการเปิดไฟ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้คนในพื้นที่ให้เข้ามาถ่ายรูปเยี่ยมชมจนถึงเวลาตี 1 ของทุกวัน

การจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าครั้งแรกที่ไทม์สแควร์ (Times Square) เกิดขึ้นในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ปี ค.ศ. 1904 ซึ่งเป็นการส่งท้ายปีเก่า และเฉลิมฉลองการเปิดสำนักงานใหญ่ของ The New York Times อย่างอลังการ โดยได้มีการประดับไฟทั่วทั้งตึกไทม์ทาวเวอร์ และได้มีการจุดพลุเฉลิมฉลองที่บริเวณยอดตึก จนทำให้ผู้คนในพื้นที่หลั่งไหลกันมาชมพลุ พร้อมรวมตัวกันฉลองปีใหม่กันในพื้นที่นี้ จึงทำให้ไทม์สแควร์กลายเป็นพื้นที่สำคัญในการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีของชาวนิวยอร์กมาอย่างยาวนานนั่นเอง

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1907 อดอล์ฟ ออคซ์ ผู้เป็นเจ้าของ New York Times ได้มีไอเดียในการสร้างลูกบอลยักษ์บอกเวลาจากโลหะผสมไม้ และถูกประดับไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ กว่า 100 ดวง จากนั้นจึงนำไปติดตั้งไว้ที่เสาธงยอดตึกวันไทม์สแควร์ เมื่อถึงเวลา 23.59 น. ของคืนวันที่ 31 ธันวาคม ลูกบอลจะถูกปล่อยลงมาเพื่อเป็นการเคาท์ดาวน์ โดยลูกบอลจะลงมาถึงโคนเสาในช่วงเวลาเที่ยงคืนพอดี ซึ่งในปีถัด ๆ มา กิจกรรม Ball Drop ก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์การฉลองปีใหม่ที่ไทม์สแควร์มาจนถึงปัจจุบัน