บึงกาฬ จังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย อาจยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเท่าจังหวัดยอดฮิตอื่น ๆ แต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดใจ ผู้แสวงหาความเงียบสงบและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยภูมิประเทศที่โดดเด่นทั้งภูเขา ลำธาร น้ำตก และยังเป็นจังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง จึงมีที่เที่ยวริมแม่น้ำโขงเยอะไม่แพ้ ที่เที่ยวนครพนม นอกจากธรรมชาติแล้ว บึงกาฬยังเปี่ยมด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าค้นหา ผู้คนเป็นมิตร อาหารอีสานรสจัดจ้านถูกปาก และยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น วัดอาฮงศิลาวาส ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในจุดที่เชื่อกันว่าเป็น “สะดือแม่น้ำโขง” ไม่ว่าคุณจะเป็นสายผจญภัย สายธรรมชาติ หรือสายถ่ายรูป บึงกาฬมีครบทุกมุมให้คุณได้สัมผัสอย่างเต็มอิ่ม และอาจกลายเป็นจุดหมายใหม่ที่คุณอาจหลงรักแบบไม่รู้ตัว
หินสามวาฬ เป็นจุดเช็กอินสุดอลังการในบึงกาฬที่สายธรรมชาติห้ามพลาด! จุดเด่นคือหินขนาดยักษ์รูปร่างเหมือนวาฬพ่อแม่ลูกเรียงกันอยู่บนหน้าผา มองออกไปเห็นวิวป่าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะตอนเช้าถ้าได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงหลายแห่ง เช่น จุดชมวิวถ้ำฤๅษี ประตูภูสิงห์ จุดชมวิวหินหัวช้าง บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ เหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติ รักการถ่ายรูป และสายแอดเวนเจอร์ที่ชอบเดินเทรลเบา ๆ อารมณ์อยากรีเฟรชใจกลางป่าแต่ไม่ต้องปีนเขาหนัก ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 5.00 น. ถึง 17.00 น.
ภูทอก หรือวัดเจติยาคีรีวิหาร จ.บึงกาฬ เป็นจุดหมายที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต! ที่นี่โดดเด่นด้วยทางเดินไม้ที่สร้างลัดเลาะรอบภูเขา สูงและหวาดเสียวพอประมาณ ถ้ากลัวความสูงต้องเตรียมใจนิดนึง แต่รับรองว่าวิวสวยสุด ๆ โดยเฉพาะตอนเช้าหรือหน้าหนาว จะได้เห็นทะเลหมอกลอยคลอเคลียภูเขา เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมะ ชอบความสงบ หรือใครที่อยากท้าทายความกลัวความสูงก็ต้องมา ที่สำคัญคือได้สัมผัสทั้งความงามของธรรมชาติและศรัทธาในคราวเดียว
ถ้ำนาคา ที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นจุดหมายที่ทั้งสายมูและสายธรรมชาติต้องห้ามพลาด! จุดเด่นคือหินรูปร่างคล้ายพญานาคขนาดใหญ่ มีลวดลายเหมือนเกล็ดงู ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า "ซันแครก" (Sun Crack) นอกจากความงดงามทางธรณีวิทยาแล้ว ยังมีตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่ดึงดูดผู้คนให้มาเยือน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าเบา ๆ ชื่นชอบธรรมชาติ และผู้ที่มีความเชื่อในเรื่องพญานาค ต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ และมีไกด์ท้องถิ่นนำทางเพื่อความปลอดภัย ใครอยากสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและตำนานที่น่าค้นหา ต้องลองไปสักครั้ง!
น้ำตกถ้ำพระ หรือที่หลายคนเรียกว่า “สวนน้ำกลางป่า” แห่งบึงกาฬ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลอยู่บนภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ จุดเด่นคือ “สไลเดอร์ธรรมชาติ” ที่เกิดจากร่องน้ำไหลผ่านโขดหิน ทำให้สามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงต้นตุลาคม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง และครอบครัวที่ต้องการพาเด็กๆ มาเล่นน้ำท่ามกลางธรรมชาติ การเดินทางต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณ 10 นาที แล้วเดินเท้าต่ออีกเล็กน้อย บรรยากาศร่มรื่นและอากาศสดชื่น ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนบึงกาฬ
เวลาเปิด-ปิด: 8.00 น. ถึง 16.00 น.
ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อำเภอเซกา เดิมมีชื่อในภาษาท้องถิ่นว่า “น้ำตกห้วยกระอาม” (สะอาม) เพราะน้ำตกนี้เกิดจากธารน้ำของห้วยกะอามไหลมาตามหน้าผาหิน เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง น้ำตกนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยเฉพาะชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด เมื่อแสงแดดส่องกระทบน้ำตก จะเกิดละอองน้ำที่กระจายเป็นสีรุ้งสวยงาม จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกเจ็ดสี
เวลาเปิด-ปิด: 8.30 น. ถึง 17.00 น.
ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามและเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือ “สะพานหิน” ที่เป็นลานหินทรายกว้างประมาณ 100 เมตร มีน้ำไหลลอดผ่านใต้แนวหิน เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ น้ำตกนี้เกิดจากลำห้วยชะแนน ไหลลดหลั่นกันมาเป็นชั้นๆ กว่า 2 ชั้น นอกจากนี้ ยังมี “บึงจระเข้” บึงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เหนือน้ำตก ประมาณ 300 เมตร ซึ่งบริเวณริมบึงมีหาดทรายกว้าง เหมาะสำหรับสายลุยที่ชอบถ่ายรูปวิวธรรมชาติสวย ๆ
น้ำตกตาดวิมานทิพย์ เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของบึงกาฬที่สายธรรมชาติต้องลองไปเยือน! ที่นี่เป็นน้ำตกสูงจากหน้าผาหินทรายกลางป่าภูวัว น้ำไหลลงมาเป็นสายสวยงามสุด ๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน จะมีปริมาณน้ำตกไหลมากกว่าฤดูอื่น ๆ และบรรยากาศจะเขียวชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย เหมาะกับสายลุยที่ชอบเดินป่าเบา ๆ ผจญภัยหน่อย ๆ แต่ไม่โหดเกินไป ใครที่ชอบธรรมชาติแบบสงบ ไม่วุ่นวาย อยากนั่งฟังเสียงน้ำตกท่ามกลางป่าเขา บอกเลยว่าที่นี่คือ “วิมาน” สมชื่อจริง ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 6.00 น. ถึง 14.00 น.
ลานธรรมภูสิงห์ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูสิงห์ เป็นลานกว้างที่มีหินทรายแดงขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายสิงโตหมอบ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ภูสิงห์” บริเวณนี้ประดิษฐานพระพุทธรูป “หลวงพ่อพระสิงห์” สีทองอร่าม ให้ผู้มาเยือนได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและความสงบ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจน
เวลาเปิด-ปิด: 05.00 น. ถึง 18.30 น.
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ อำเภอโซ่พิสัย เป็นสถานที่ที่นำเสนอวิถีชีวิตชาวอีสานผ่านบ้านไม้เก่าอายุกว่า 60 ปี ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ดั้งเดิม เช่น ห้องครัวอีสานโบราณ ผ้าซิ่น และภาพถ่ายขาวดำของในหลวงรัชกาลที่ 9 นอกจากนี้ ยังมีภาพวาดสตรีทอาร์ตพญานาคบนฝาบ้านไม้ สะท้อนวัฒนธรรมและความเชื่อของชุมชน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นและวิถีชีวิตชาวอีสานแบบร่วมสมัย แถมพิพิธภัณฑ์ยังมีเพจเฟสบุคคูล ๆ ของพิพิธภัณฑ์คอยอัปเดทกิจกรรมต่าง ๆ ของคอมมูนิตี้อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 8.00 น. ถึง 17.00 น.
เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด! ที่นี่มีลานหินกว้างที่เต็มไปด้วยหลุมเล็กใหญ่คล้าย ๆ ร่องรอยอุกกาบาตกระจายทั่วบริเวณ ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของหินตามธรรมชาติ ในช่วงหน้าฝน หลุมเหล่านี้จะมีน้ำขัง คล้ายอ่างจากุชชี่ธรรมชาติ จุดนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและการชมวิวธรรมชาติแบบไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศจะสวยงามและโรแมนติกมาก ๆ ส่วนการเดินทางก็สะดวกมาก ๆ แค่ขับรถขึ้นไป แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 50 เมตรเท่านั้น
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
วัดอาฮงศิลาวาส เป็นวัดเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในบึงกาฬที่เงียบสงบและมีเสน่ห์สุด ๆ จุดเด่นอยู่ตรง “สะดือแม่น้ำโขง” ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำ! ช่วงหน้าพรรษายังเป็นช่วงที่มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคให้ลุ้นอีกด้วยนะ เหมาะกับสายเที่ยวที่ชอบความสงบ รักธรรมชาติ และสนใจเรื่องความเชื่อของชาวบ้านท้องถิ่น หรือจะแค่มานั่งชิลริมโขง ฟังเสียงน้ำไหล รับลมเย็น ๆ ก็ได้
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
หนึ่งในจุดเช็กอินของที่เที่ยวบึงกาฬที่สายธรรมชาติและสายมูไม่ควรพลาด ที่นี่มีหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายพญานาคเล่นน้ำในลำธารกลางหุบเขา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งและเชื่อมโยงกับตำนานท้องถิ่น จึงทำให้ชาวบ้านมากราบไหว้ บูชาหินที่ห้วยหินแหบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยเบา ๆ และสนใจเรื่องราวทางวัฒนธรรมและความเชื่อ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติกับเรื่องราวลึกลับ ห้วยหินแหบคือคำตอบที่ลงตัวที่สุด!
วัดสว่างอารมณ์ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า วัดถ้ำศรีธน ตั้งอยู่ที่อำเภอปากคาด เป็นวัดที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยพระอุโบสถทรงระฆังคว่ำที่ตั้งอยู่บนโขดหินใหญ่ และถ้ำด้านล่างที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และสัมผัสความสงบของธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจน
วัดโพธาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดหลวงพ่อพระใหญ่" ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไคร้ อำเภอเมืองบึงกาฬ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางจิตใจของชาวบึงกาฬและชาวลุ่มน้ำโขง ภายในวัดประดิษฐาน "หลวงพ่อพระใหญ่" พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านช้าง ซึ่งเป็นศูนย์รวมศรัทธาและมีเรื่องเล่าปาฏิหาริย์มากมาย นอกจากนี้ ยังมีเรือกำปั่นโบราณอายุกว่า 70 ปีให้ชมและขอโชคลาภอีกด้วย เหมาะสำหรับสายบุญที่อยากสัมผัสวัดเก่าแก่และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น หรือใครที่กำลังมองหาที่สงบใจและเติมพลังบวกให้ชีวิต
เวลาเปิด-ปิด: 6.00 น. ถึง 19.00 น.
ศาลเจ้าแม่สองนาง เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวบึงกาฬ ตั้งอยู่ริมถนนเจ้าแม่สองนาง หน้าโรงพยาบาลบึงกาฬ เป็นสถานที่ที่ผู้คนกราบไหว้บูชาและขอพรให้เจริญรุ่งเรือง ตำนานเจ้าแม่สองนางเล่าถึงสองพี่น้องที่ล่องเรืออพยพมาตามแม่น้ำโขงแล้วเรือล่มเสียชีวิต ชาวบ้านจึงได้ตั้งศาลขึ้นเพื่อเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณทั้งสอง ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีพิธีบวงสรวงและรำบวงสรวงอย่างยิ่งใหญ่ เป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสประเพณีและความศรัทธาของชาวบึงกาฬ
เวลาเปิด-ปิด: 7.00 น. ถึง 21.00 น.
ที่นี่คือบึงน้ำจืดขนาดใหญ่กลางหุบเขาในจังหวัดบึงกาฬ มีวิวสวยสงบ เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์สุด ๆ ช่วงเช้าจะมีหมอกลอยเหนือน้ำ โรแมนติกเหมือนในหนังเลยล่ะ แถมยังเป็นแหล่งดูนกน้ำและสัตว์ป่าหายาก ใครเป็นสายถ่ายรูป สายปิกนิก หรืออยากมานั่งชิลชมพระอาทิตย์ตก บอกเลยว่าตอบโจทย์มาก ๆ เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายชิล สายครอบครัว หรือใครที่อยากเติมพลังใจจากธรรมชาติแบบเงียบ ๆ ก็เชิญที่นี่เลย!
แก่งอาฮง หรือที่รู้จักกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” เป็นจุดที่แม่น้ำโขงลึกที่สุดและมีความลึกลับน่าค้นหา ตั้งอยู่หน้าวัดอาฮงศิลาวาส จังหวัดบึงกาฬ ที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับพญานาคและเชื่อว่าเป็นประตูสู่เมืองบาดาล กระแสน้ำวนที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ยิ่งเพิ่มความขลังให้กับสถานที่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ สายบุญ และสายมูที่อยากสัมผัสความสงบและพลังศรัทธา ช่วงออกพรรษายังมีโอกาสได้ชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ เป็นสวรรค์ของสายธรรมชาติและนักผจญภัยที่แท้จริง! ที่นี่มีป่าดิบแล้งและป่าเต็งรังที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้าง เก้ง หมี และชะมด ไฮไลต์คือ “กิ้งก่าภูวัว” สัตว์หายากที่พบได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีน้ำตกสวย ๆ อย่างน้ำตกชะแนนและน้ำตกถ้ำพระ ที่มีสไลเดอร์ธรรมชาติให้เล่นกันสนุก ๆ เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายลุย ชอบเดินป่า กางเต็นท์ และสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด ถ้าอยากหลีกหนีความวุ่นวาย มาสูดอากาศบริสุทธิ์และฟังเสียงธรรมชาติที่นี่ รับรองว่าใจฟูแน่นอน!
ที่นี่มีน้ำตกไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางป่าเขียวขจี บรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี น้ำใสไหลเย็น เล่นได้แบบเพลิน ๆ เหมาะมากกับสายแคมป์ปิ้งหรือคนที่อยากหนีความวุ่นวายไปพักใจในธรรมชาติ ที่สำคัญคือไม่ต้องเดินไกลมาก เหมาะทั้งครอบครัว คู่รัก หรือจะมากับแก๊งเพื่อนก็สนุก ใครกำลังมองหาที่นั่งปิคนิคหรือเล่นน้ำคลายร้อนแบบโลคอล ๆ ต้องลองแวะมาที่นี่เลย!
เวลาเปิด-ปิด: 7.00 น. ถึง 16.30 น.
อุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นจุดหมายปลายทางสุดชิลของสายธรรมชาติที่อยากหนีความวุ่นวายไปพักใจ บรรยากาศที่นี่เขียวขจี อากาศสดชื่นตลอดปี เดินป่าเบาๆ ชมวิวสวยๆ ก็ได้ หรือจะมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นแบบเงียบๆ ก็ฟินสุดๆ ที่ห้ามพลาดคือ “หินรถบัส” จุดชมวิวไฮไลต์ที่หินรูปร่างคล้ายรถบัสจอดอยู่ริมหน้าผา วิวตรงนี้อลังการมาก มองเห็นผืนป่ากว้างสุดลูกหูลูกตา เหมาะกับสายแคมป์ปิ้งที่ชอบความเงียบสงบ และรักธรรมชาติแบบแท้จริง บอกเลยว่ามาแล้วจะอยากกลับมาอีก!
เวลาเปิด-ปิด: 8.00 น. ถึง 16.00 น.
ร้านอาหารบรรยากาศริมโขงที่มีอาหารให้เลือกหลากหลายเมนู ตั้งแต่ต้ม ผัด แกง ทอด เมนูแนะนำ ได้แก่ หอยนางรมทรงเครื่อง กุ้งแช่น้ำปลา และผัดฉ่าปลาแม่น้ำโขง เหมาะสำหรับการนั่งรับประทานอาหารพร้อมชมวิวแม่น้ำโขง
เวลาเปิด-ปิด: 16.00 น. ถึง 23.00 น.
ร้านอาหารที่มีบรรยากาศดี ตกแต่งสวยงาม มีโซนดนตรีหน้าร้าน เมนูแนะนำ ได้แก่ ลาบปลาน้ำโขง และเนื้อโคขุนย่างจิ้มแจ่ว เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารพร้อมชมวิวแม่น้ำโขงและฟังเพลงเพลิน ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 17.00 น. ถึง 24.00 น.
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีเมนูอาหารพื้นบ้านให้เลือกหลากหลาย เมนูแนะนำ ได้แก่ ลาบปลาแข้ ต้มยำปลาคัง และไข่เจียวหมูสับ เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารในบรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำ
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 20.00 น.
เหมาะกับ: กลุ่มเพื่อน สายรักความสะดวก ครอบครัว
The One Hotel เป็นที่พักยอดนิยมในตัวเมืองบึงกาฬที่ผสมผสานความสะดวกสบายและความทันสมัยอย่างลงตัว ห้องพักสะอาด กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงห้องอาหารภายในโรงแรมที่ให้บริการอาหารหลากหลาย ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับเทสโก้โลตัสและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดภูทอก ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย เหมาะสำหรับครอบครัว นักธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบแต่ไม่ห่างไกลจากความสะดวกสบายของเมือง
Thailand
The One Hotel
•
8.0/10
Bueng Kan
THB 1,229.64
THB 1,150.53
เหมาะกับ: สายคอนเทนต์ คนรักความสงบ สายเสพวิว
Lake House Naka Cave ตั้งอยู่ริมบึงโขงหลงในอำเภอบึงโขงหลง เป็นที่พักที่โดดเด่นด้วยวิวทะเลสาบที่สวยงามและบรรยากาศเงียบสงบ ห้องพักตกแต่งอย่างทันสมัย สะอาด และมีระเบียงส่วนตัวให้ชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือผืนน้ำ พนักงานเป็นมิตรและให้บริการอย่างอบอุ่น เหมาะสำหรับคู่รักหรือผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย มาสัมผัสธรรมชาติและพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้กับถ้ำนาคา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดบึงกาฬ
Thailand
เลคเฮ้าส์ นาคา เคฟ
Bueng Khong Long
THB 2,212.43
THB 2,179.59
เหมาะกับ: สายคุมบัจเจต สายเที่ยวคนเดียว สายชิล
B2 Bueng Kan Boutique & Budget Hotel เป็นที่พักราคาประหยัดในตัวเมืองบึงกาฬที่ให้ความสะดวกสบายเกินราคา ห้องพักสะอาด ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ทันสมัย พร้อมเตียงนุ่มสบายและเครื่องปรับอากาศที่เย็นฉ่ำ ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดและร้านอาหารท้องถิ่น ทำให้การหาของกินสะดวก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการที่พักคุณภาพดีในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสายแบ็คแพ็ค นักธุรกิจ หรือครอบครัวที่ต้องการประหยัดงบประมาณ
Thailand
B2 Bueng Kan Boutique & Budget Hotel
•
9.2/10
Bueng Kan
THB 540.00
THB 479.57
การเดินทางไปจังหวัด บึงกาฬ สามารถเลือกได้หลายวิธีตามงบประมาณและความสะดวก ดังนี้:
✅ เหมาะกับคนต้องการเดินทางเร็ว
✅ ประหยัด ง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
✅ เหมาะกับคนอยากแวะเที่ยวระหว่างทาง
✅ เหมาะกับสายชิล ที่มีเวลาเหลือ ๆ หรือคนที่อยากแวะเที่ยวอุดรกับเที่ยวหนองคายก่อนแบบจอย ๆ
Sun, 14 Sep 2025
Thai AirAsia
กรุงเทพ (BKK) ไป อุดรธานี (UTH)
เริ่มจาก THB 870.00
Mon, 8 Sep 2025
Thai Lion Air
กรุงเทพ (DMK) ไป อุดรธานี (UTH)
เริ่มจาก THB 750.00
Sun, 31 Aug 2025
Thai Lion Air
หาดใหญ่ (HDY) ไป อุดรธานี (UTH)
เริ่มจาก THB 1,275.00