
โอฮาโย~ สวัสดีเช้าวันใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ได้ยินแบบนี้.. ก็ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าวันนี้เราจะพาทุกคนบินลัดฟ้าไปหาที่เที่ยวญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัยหรือดินแดนปลาดิบสุดปัง แถมยังเป็นจุดหมายในฝันที่คนไทยเที่ยวง่าย พาสปอร์ตไทยเข้าได้เลยไม่ต้องง้อวีซ่า! ที่นี่มีครบทุกแนว ทั้งธรรมชาติอลังการและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดเข้มข้น ใครที่หลงใหลในกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่ และความน่ารักของผู้คนบอกเลยว่าต้องโดน! ที่เที่ยวญี่ปุ่นไม่ว่าจะเที่ยวภูมิภาคไหนก็ฟิน จนต้องหลงรักญี่ปุ่นแบบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน~ พร้อมแล้วก็กาปฏิทิน แล้วเตรียมตัวออกเดินทางไปอินกับเสน่ห์ญี่ปุ่นกันเล้ยยย!
ญี่ปุ่น ประเทศเดียวเอาอยู่ทุกไลฟ์สไตล์การเที่ยว ไม่ว่าคุณจะเป็นสายธรรมชาติ สายคาเฟ่ หรือสายช้อปปิ้งย่านดังที่นี่มีครบ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบกด จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับ Traveloka กันด่วนๆ เว็บไซต์และแอปที่ช่วยให้คุณเลือกได้ทั้ง ตั๋วเครื่องบิน และ ที่พักญี่ปุ่น ในราคาสุดคุ้ม แถมยังจองง่าย จ่ายสะดวก กดวันเดินทางเสร็จ ก็เตรียมตัวไปเช็คอิน ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดปัง ได้เลย ที่สำคัญ! มีส่วนลดจัดเต็ม ลดหนักแบบจุกๆ รู้แบบนี้จะรออะไรอีก?! ไปดูกันเลยว่าที่เที่ยวญี่ปุ่นเด็ดๆ มีที่ไหนบ้าง!
Sat, 20 Dec 2025

Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)
เริ่มจาก THB 23,689.82
Mon, 29 Dec 2025

Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)
เริ่มจาก THB 23,734.00
Thu, 1 Jan 2026

Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)
เริ่มจาก THB 23,734.00
ก่อนจะเริ่มไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน มาลองทำความรู้จักกันก่อนว่าที่จริงแล้ว ญี่ปุ่นมีกี่ภูมิภาคกันแน่ และมีภูมิภาคใดบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่เตรียมตัวจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในปีนี้กัน
ญี่ปุ่นแบ่งประเทศออกเป็น 10 ภูมิภาคด้วยกัน โดยแต่ละภาคก็จะมีวัฒนธรรมและเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปดังนี้
สำหรับมือใหม่ที่กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่น แน่นอนว่าต้องเกิดข้อสงสัยในใจว่า จะไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้ง เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี? เพราะที่เที่ยวญี่ปุ่นนั้นมีเยอะมากจริง ๆ แถมยังกระจายออกไปในแต่ละภูมิภาค ดังนั้นเราลองมาทำความเข้าใจกับที่เที่ยวญี่ปุ่นในแต่ละเมืองยอดฮิตกันก่อน ก่อนจะตัดสินใจว่า เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี?
เมืองศูนย์กลางแห่งความเจริญ และเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นเที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี โตเกียว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลย เพราะเที่ยวโตเกียวคุณจะได้สัมผัสกับความเจริญและทันสมัยของญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ในเมืองนี้ ได้ไปเช็กอินกกับจุดเช็กอินชื่อดังอย่างเช่น แยกชิบูย่า ชินจูกุ ฮาราจุกุ สวนอุเอโนะ และที่เที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปชมภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียวได้แบบสะดวกสบายอีกด้วย
เมืองสุดคลาสสิคที่หลายคนชื่นชอบ การเที่ยวโอซาก้า คุณจะได้สัมผัสกับอาหารสตรีทฟู้ด และวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในหลาย ๆ พื้นที่ มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแลนด์มาร์คของโอซาก้าอย่างป้ายกุลิโกะแมน ตึกแฝด ปราสาทโอซาก้า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูเคน เป็นต้น เป็นเมืองที่ฟีลกู้ดสุด ๆ
ถัดจากโอซาก้าไปกันต่อที่เกียวโต อดีตเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่เคยรุ่งเรืองในอดีต และยังคงหลงเหลือความงดงามของบ้านเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ เที่ยวเกียวโต ไม่ได้มีดีแค่วัดวาอาราม แต่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายรอให้ทุกคนไปสัมผัส เช่น ป่าไผ่ Arashiyama, วัดทอง Kinkakuji, วัดน้ำใส ปราสาทนิโจ ถนน Sannenzaka เป็นต้น
ฟุกุโอกะ อีกหนึ่งเมืองสวยที่เป็นศูนย์กลางความเจริญของภูมิภาคคิวชู เป็นตัวเลือกสำหรับใครที่เคยไปโตเกียว โอซาก้า หรือเกียวโตมาแล้วอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาทางฝั้งคิวชูบ้าง เที่ยวฟุกุโอกะ ถือว่าตอบโจทย์ มีแหล่งช้อปปิ้งให้ขาช้อปได้เพลินเพลินมากมาย ที่สำคัญเมืองนี้อาหารอร่อยมาก!
พูดถึงที่เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวฮอกไกโดคือชื่อแรก ๆ เสมอที่คนไทยมักนึกถึง เพราะความหนาวเย็นที่เป็นจุดเด่นของฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาว ภาพของหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมเมือง คือสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ ฮอกไกโดมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น สวนสัตว์ Asahiyama, ลานสกี Kiroro, คลองโอตารุ, ซัปโปโร ทาวเวอร์ เป็นต้น
หนึ่งในเมืองที่มาแรงสำหรับคนไทย กับการเที่ยวฟุกุชิมะ เมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติผสมผสานกับศิลปะวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ใครชอบเที่ยวญี่ปุ่นในเมืองที่ไม่แมสมาก ฟุกุชิมะ คือพิกัดที่คุณต้องไปลองไป มีที่เที่ยวไฮไลท์ เช่น หมู่บ้านโบราณ Ouchijuku, ปราสาทสึรุกะ, จุดชมวิวสะพานแม่น้ำทาดามิ, ทะเลสาบโกชิกินุมะ เป็นต้น
ปิดท้ายกันด้วยเมืองยอดฮิตที่มีความแตกต่างไม่เหมือนที่ไหน ๆ ในญี่ปุ่นแน่นอน กับโอกินาว่า เมืองที่ได้ฉายาว่าเป็นฮาวายแห่งแดนญี่ปุ่น เกาะที่แยกตัวออกจากแผ่นดินใหญ่ เดินทางง่ายมีบินตรงจากเมืองไทยไปลงที่โอกินาว่าได้เลย ที่นี่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทะเลสวย อากาศดี อาหารการกินอร่อย และมีจุดเช็กอินให้ได้เที่ยวกันมากมาย เช่น หมู่บ้านอเมริกัน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่า หินรูปช้าง เป็นต้น
เคยมีคนกล่าวว่า "ไปญี่ปุ่น ไปกี่ครั้งก็ได้" นอกจากความชื่นชอบในวัฒนธรรมและธรรมชาติของญี่ปุ่นแล้ว สิ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนพูดคำนี้ออกมาก็เพราะว่าที่เที่ยวญี่ปุ่นนั้นมีเยอะมากจริง ๆ เอาเป็นว่าเที่ยวสัก 10 ครั้งก็ยังเที่ยวไม่ครบเลย เรามาลองดูกันว่า 50 ที่เที่ยวญี่ปุ่น จากทั่วประเทศญี่ปุ่นมีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง
ดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น หรือโตเกียวดิสนีย์แลนด์ ดินแดนแห่งความสนุกและความฝัน โดยเฉพาะเด็ก ๆ มาที่นี่ไม่ได้มีแค่เครื่องเล่นสุดมันส์ แต่ยังเต็มไปด้วย ขบวนพาเหรดสุดอลังการ ที่จะทำให้ทุกคนเหมือนหลุดเข้าไปในโลกการ์ตูนจากดิสนีย์ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกไปด้วยกันได้!
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
วิธีเดินทางไปดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น
สวนสนุกแห่งนี้เป็นที่เที่ยวที่ทุกคนต้องลองสักครั้งในชีวิต! ไปสัมผัส ความสนุก ความตื่นเต้น และ ความน่ารัก จากเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่ "ดิสนีย์แลนด์" แล้วจะไม่ผิดหวัง!

Japan

โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท – บัตรเข้าสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ & โตเกียวดิสนีย์ซี

8.9/10
Tokyo Disney Resort
THB 1,977.10
อีกหนึ่งที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ยูนิเวอร์แซล เจแปน ที่ต้องบอกเลยว่าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และเป็นสถานที่ยอดนิยมที่คนรักความบันเทิงทุกคนไม่ควรพลาด! ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกไปด้วยกันได้ เพราะมีเครื่องเล่นตื่นเต้นให้เลือกเพียบ
ไฮไลท์เด็ดที่นี่ไม่ควรพลาด!
วิธีเดินทางไปยูนิเวอร์แซล เจแปน
มาที่ ยูนิเวอร์แซล เจแปน แล้วจะไม่ผิดหวัง! เพลิดเพลินไปกับ เครื่องเล่นสุดตื่นเต้น และ โลกมหัศจรรย์ของแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่ทุกคนจะต้องหลงรัก!

Japan

โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท – บัตรเข้าสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ & โตเกียวดิสนีย์ซี

8.9/10
Tokyo Disney Resort
THB 1,977.10
ใครที่ไป เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นแล้วไม่ไป ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โออินาริซัง ถือว่าพลาดมากกกก เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี แต่ยังเต็มไปด้วยเสาโทริอิสีแดง กว่า หมื่นต้นที่เรียงรายเป็นอุโมงค์ยาว 4 กิโลเมตร ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป
จุดเด่นสุดฟิน
วิธีเดินทางไปที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ:
ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิมพร้อมกับวิวธรรมชาติที่สวยงามสุดๆ ต้องไปที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะแห่งนี้นะ คอนเฟิร์มเลยว่าไม่ผิดหวัง
ปราสาทฮิเมจิ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า ปราสาทนกกระสาขาว นี่แหละคือที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ต้องมาให้ได้ ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่แลนด์มาร์กที่สวยงามสุดๆ แต่มันยังมีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี เลยนะ นอกจากนี้ยังได้รับการจดทะเบียนเป็น มรดกโลก และถือเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี สวยจนใครๆ ก็ต้องหลงรัก ยิ่งถ้าคุณได้ใส่กิโมโนแล้วไปถ่ายรูปกับปราสาทท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่และสวยงามจะได้รูปสวยๆ กลับบ้านไปแน่นอน
วิธีการเดินทาง
จาก สถานีโอซาก้า นั่ง รถไฟ JR มุ่งหน้าไปยัง สถานีฮิเมจิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงแล้ว จากนั้นเดินไปอีกนิดก็ถึงปราสาทฮิเมจิแล้ว
พูดถึงที่เที่ยวญี่ปุ่นที่วิวดีและมีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ ต้องมา Hitachi Seaside Park กันเลย! ตั้งอยู่ในจังหวัด อิบารากิ ริมทะเล บอกเลยว่าที่นี่มี ดอกไม้นานาชนิด ที่พร้อมเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ทำให้ที่นี่เป็น แลนด์มาร์กยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
วิธีการเดินทางไป Hitachi Seaside Park
อยากได้ภาพสวยๆ กลับบ้าน พร้อมสัมผัสบรรยากาศแสนสดชื่น ต้องไป Hitachi Seaside Park เลยรับรองว่าถ่ายรูปมาแล้วจะสวยปังจนคนต้องถามว่า "ไปมาจากไหน?
ฟาร์มโทมิตะ ทุ่งลาเวนเดอร์สวยๆ ที่ไม่ไปไม่ได้ ใครอยากเห็น ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวยๆ ก็ต้องมาที่ ฟาร์มโทมิตะ กันเลย! ที่นี่เต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงบานสะพรั่งเรียงรายเป็นแถวที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เย็นสบายจนคุณจะหลงรักไปกับความสดชื่นของธรรมชาติ
ไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้
วิธีการเดินทางไปฟาร์มโทมิตะ
หากคุณอยากชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์สวยๆ และลิ้มรสซอฟต์ครีมอร่อยๆ อย่าลืมแวะไปฟาร์มโทมิตะแล้วมาชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ พร้อมกับดื่มด่ำกับรสชาติที่หอมหวานกันนะ
ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศ หมู่บ้านญี่ปุ่นเก่าแก่ ที่เหมือนหลุดมาจากหนังเรื่องนินจา บอกเลยว่าห้ามพลาด Shirakawa-Go หมู่บ้านในเขตกิฟูและโทนามา ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ที่นี่เต็มไปด้วย บ้านเรือนในสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 200-300 ปี และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมที่คนท้องถิ่นยังรักษาไว้ มาทั้งทีได้สัมผัสบรรยากาศคลาสสิคแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แบบนี้ต้องมาเยี่ยมชม
แนะนำช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยว: หน้าหนาว! เพราะหิมะจะตกโปรยปรายทั่วหลังคาบ้านมีแสงไฟประดบประดาตลอดหมู่บ้านทำให้บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
วิธีเดินทางไปShirakawa-Go
มาที่นี่แล้วได้ทั้งบรรยากาศสวยๆ และสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ อย่าลืมมาเยือน Shirakawa-Go แล้วล่ะ
ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มีทั้งวิวสวยและแช่ออนเซ็น แบบเต็มอิ่ม อย่าพลาด อุทยานแห่งชาติโกะ โทยะ ที่ตั้งอยู่ในเมือง ซับโปโร ที่นี่มีทั้ง เรียวกัง ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นสุดคลาสสิคและออนเซ็นชั้นยอดที่เรียกว่า โจซังเคออนเซ็น ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของหุบเขาและทะเลสาบ ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะเลือกมาเที่ยวกันทั้งในกลุ่มครอบครัว หรือ คู่รักเพื่อมาพักผ่อนและผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่สวยงามแบบสุดๆ
ไฮไลท์เด็ด: การแช่ออนเซ็นกลางธรรมชาติที่ โจซังเคออนเซ็น ที่นี่คุณสามารถแช่ตัวในออนเซ็นร้อนๆ ไปพร้อมกับวิวทะเลสาบและหุบเขาที่สวยงามได้เลย!
วิธีเดินทางไปยังอุทยาน
ใครที่ชอบการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและอยากได้บรรยากาศสุดชิล ต้องไม่พลาด อุทยานแห่งชาติโกะ โทยะ เด็ดขาดนะ
หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ป่าไผ่ซากาโนะก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด! ที่นี่จะมีป่าไผ่ เรียงรายทั้งสองข้างทางไปยาวกว่า 500 เมตร ทำให้คุณได้สัมผัสกับ บรรยากาศธรรมชาติ ที่ร่มรื่น และเดินเล่นไปตามทางได้อย่างเพลิดเพลิน
ไฮไลท์เด็ด: ถ้าคุณชอบการถ่ายรูป ที่นี่ก็มีมุมสวยๆ มากมายให้คุณได้ เซลฟี่ กับธรรมชาติและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสุดๆ นอกจากนี้ยังสามารถ เช่าชุดกิโมโน หรือ ชุดยูกาตะ มาถ่ายรูปได้ที่ร้านเช่าฝากไว้ที่ด้านหน้า ปังสุดๆ กับชุดแบบญี่ปุ่น!
วิธีเดินทาง
ที่ป่าไผ่ซากาโนะ คุณจะได้เดินเล่นท่ามกลางความเงียบสงบของป่า พร้อมกับสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ได้เต็มที่
หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทะเลและสัตว์น้ำ อย่าพลาดที่ Okinawa Churaumi Aquarium เลย! พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ไม่ใช่แค่หนึ่งในอควาเรียมขนาดใหญ่ที่สุดของโลก แต่ยังเป็นที่ที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับระบบนิเวศทะเลที่สมบูรณ์แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
จุดเด่น: มาแล้วต้องไปที่โซน KUROSHI SEA ที่มีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ สูงถึง 8.2 เมตร สามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลได้แบบใกล้ชิดเหมือนอยู่ในทะเลจริงๆ! นอกจากนี้ยังมีโซน The Sea of Tropical Fish ที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับสัตว์น้ำของโอกินาว่าญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
วิธีเดินทาง
ไปสัมผัสความมหัศจรรย์ใต้ทะเลของอควาเรียมโอกินาว่ากันเถอะ
ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วย ธรรมชาติสุดงาม และบรรยากาศเงียบสงบให้ชีวิตได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หมู่บ้านอิเนะ เป็นที่เที่ยวที่ต้องไป ตั้งอยู่ในเกาะของเมืองเกียวโต หมู่บ้านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดจากโลกแห่งความวุ่นวายกลับไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ริมทะเลที่มีบ้านเรือนคลาสสิคสวยงาม
ไฮไลต์
วิธีเดินทาง
ชวนเพื่อนๆ มาเติมเต็มความสงบสุขที่อิเนะกันนะ
นารา หรือ สวนกวาง ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิตสำหรับคนรักธรรมชาติและสัตว์น่ารักใครอยากสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบและเพลิดเพลินกับการอยู่ใกล้ชิดกับ น้องกวางน่ารัก ต้องมาที่สวนกวางนาราเลยิที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่อยู่ใกล้เมืองโอซาก้ามากๆ แค่นั่งรถไฟไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ว้าว!
จุดเด่น
วิธีเดินทาง
มาที่นาราแล้วจะหลงรักความน่ารักของเจ้ากวางแน่นอน
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับเมืองซากะจากซีรี่ย์สุดฮิต "STAY ซากะ…ฉันจะคิดถึงเธอ" ที่ถ่ายทอดความงดงามและความเรียบง่ายของเมืองนี้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แต่ไม่ใช่แค่ในซีรี่ย์นะที่เมืองซากะมีเสน่ห์ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของงานบอลลูนนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะมีบอลลูนยักษ์จากกว่า 100 ประเทศ เข้ามาร่วมแข่งขัน ช่วงเวลานี้เมืองซากะจะเต็มไปด้วยความคึกคักและบรรยากาศที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยสีสันจากบอลลูนขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าและตกแต่งทิวทัศน์เมืองได้อย่างสวยงามมาก ๆ
วิธีเดินทาง
หากใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดงานบอลลูนที่ซากะนะ! รับรองว่าคุณจะประทับใจและตื่นตาตื่นใจไปกับวิวสวยๆ และบรรยากาศที่ไม่มีที่ไหนเหมือนแน่นอน
อุทยานแห่งชาตินิกโก้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด! ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวมากนัก สามารถเที่ยวแบบเช้า - เย็นกลับได้สบายๆ เลย อุทยานนี้เต็มไปด้วยวิวภูเขาสวยๆ บริเวณทิศตะวันตกของเมืองนิกโก้ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตก, ลำธาร, น้ำพุร้อน, และ ทะเลสาบที่สามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด
คำแนะนำ: ถ้าอยากได้วิวที่สวยสุดๆ ต้องมาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะจะได้เห็นใบไม้สีส้ม สีแดงและสีทองสวยๆ ตระการตาแบบที่ต้องร้องว้าวเลย
วิธีเดินทาง
มากันเถอะ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติญี่ปุ่นสุดสวยจนไม่อยากกลับบ้าน
ตลาดปลาซึกิจิ คือสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่คุณต้องลองไปสักครั้ง ที่นี่เป็นตลาดปลาที่เต็มไปด้วย ของทะเลสดๆ จากทะเลญี่ปุ่นมากมาย และราคาก็ย่อมเยาแถมยังอร่อยสุดๆ ตลาดนี้เป็นแหล่งที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันมาเพื่อลิ้มลอง อาหารทะเลสดๆ อย่างใกล้ชิด โดยเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ทามาโกะ, อูนิ, และ หอยนางรมสด ที่ทั้งอร่อย สด และปลอดภัย พร้อมให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติที่ดีสุดๆ เมื่อได้ลองแล้ว รับรองว่าคุณจะต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งแน่นอน เพราะจะติดใจในความสดและรสชาติของอาหารทะเลที่นี่
วิธีเดินทาง
อากิฮาบาระ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ แหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และ IT ของญี่ปุ่นหากคุณชอบจับจ่ายซื้อของเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ เทคโนโลยีล้ำๆ ที่นี่คือสวรรค์ของนักช็อปตัวจริง นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ย่านนี้ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมป๊อปที่แฟนๆ เกมส์ และ อนิเมะ ไม่ควรพลาด ถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบอนิเมะหรือคาแร็กเตอร์ต่างๆ จากญี่ปุ่น คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยสเตชันเกมส์, การ์ตูน และ ของสะสมสุดปัง จากจักรวาลอนิเมะ
วิธีการเดินทาง
พูดถึงออนเซ็นทีไรก็ต้องนึกถึงการแช่ตัวในน้ำร้อนสบายๆ แต่คุณรู้ไหมว่าลิง เองก็ชอบแช่ออนเซ็นที่สวนลิงจิโกคุดานิคุณจะได้ไปชมลิงนับร้อยตัว ที่มารวมตัวกันแช่ออนเซ็นอย่างฟินๆ เหมือนมนุษย์เลย จัดเป็นภาพน่ารักที่ต้องถ่ายไปอวดเพื่อนๆ เรียกได้ว่าบรรยากาศสุดพิเศษที่ต้องลองสักครั้งในชีวิต
วิธีการเดินทาง
ปราสาทโอซาก้า หรือปราสาทโบราณที่มีความเก่าแก่และอลังการ ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ถึงแม้ว่าปราสาทดั้งเดิมจะถูกเผาทำลายไปแล้ว แต่ปราสาทที่เราเห็นกันในวันนี้เป็นการจำลองและอนุรักษ์จากเดิมอย่างดีซึ่งภายในจะมีวัตถุและเอกสารโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตระกูลญี่ปุ่นโทโยโทมินั่นเอง เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเดินชมและเก็บภาพสวยๆ กลับไปได้แน่นอน
วิธีการเดินทาง
สวนเค็นโรคุเอ็น เป็นหนึ่งในสวนญี่ปุ่นที่สวยงามที่สุดในที่เที่ยวญี่ปุ่นเลยนะ ภายในสวนมีการตัดแต่งต้นไม้ตามสไตล์เซนที่ช่วยให้บรรยากาศดูสงบ และแบ่งออกเป็น 6 พื้นที่ ที่มีลักษณะเฉพาะตัว แต่ที่พิเศษสุดๆ คงจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นแดงสดและมาผสมกับความสวยงามของสวนที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว ดูแล้วมันเหมือนภาพวาดเลย!
วิธีการเดินทาง:
คาวาโอเกะ เมืองสุดน่ารักในจังหวัดไซตามะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ!บ้านเมืองและร้านค้าต่างๆ ที่นี่จัดเต็มด้วยสไตล์ดั้งเดิม เรียกได้ว่ามาที่นี่เหมือนหลุดเข้าไปในยุคสมัยเก่าเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศญี่ปุ่นแบบแท้จริงต้องมา! และถ้าพูดถึงขนมญี่ปุ่นห้ามพลาด เซมเบ้ กรอบๆ ที่รสชาติจะทำให้คุณต้องร้องว้าว
วิธีการเดินทาง
โตเกียว เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ถ้าอยากสัมผัสกับความเป็นมหานครที่มีชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ ต้องมาแวะชิบูย่าและชินจูกุ องย่านที่ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็มีคนเต็มไปหมด ที่นี่คือแหล่งรวมทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ย่านการค้า ที่ให้เลือกซื้อของเด็ดๆ จนไปถึง รูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขยอดกตัญญูที่กลายเป็นตำนานในภาพยนตร์ Hachi: A Dog's Tale
วิธีการเดินทาง:
สวนฮิโรชิม่า อนุสรณ์สถาน ถือเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถ้าอยากรู้จักเรื่องราวของเหตุการณ์ทิ้งระเบิ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสัมผัสความเข้มข้นของประวัติศาสตร์ใน พิพิธภัณฑ์ สองส่วนหลัก ก็ต้องมาที่นี่เลย ในอนุสรณ์สถานจะมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของฮิโรชิม่า และเหตุการณ์ที่ทำให้เกาะนี้กลายเป็นจุดสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก! เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในเรื่องราวประวัติศาสตร์จริงๆ
วิธีการเดินทาง
วัดซันจูซันเก็นโด วัดเก่าแก่ที่อายุมากกว่าพันปีที่เที่ยวญี่ปุ่นแห่งนี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิม 1,001 องค์ เรียงรายอยู่ภายในวิหารไม้ให้เราได้ชมความงดงาม บรรยากาศที่นี่เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความสงบและศรัทธา ความหมายของชื่อวัด "ซันจูซันเก็นโด" ก็คือ “โถงแห่งเก็งนับพัน” ซึ่งก็เหมาะสมกับจำนวนพระพุทธรูปในวัดที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
วิธีการเดินทาง
ภูเขาฟูจิ นับเป็นแหล่งที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฟินที่สายธรรมชาติห้ามพลาดไม่ว่าจะเลือกนั่งรถไฟ ชมวิวภูเขาฟูจิแบบสบายๆ หรือจะเดินเที่ยวบริเวณรอบๆ แบบเต็มที่ก็ได้หมด เพราะไม่ว่ามุมไหน ภูเขาฟูจิก็สวยจนต้องหยิบกล้องมาถ่ายกันไปเพลินๆ บอกเลยว่าวิวภูเขาฟูจิเหมาะแก่การถ่ายรูปในทุกฤดู ยิ่งช่วง ฤดูใบไม้ร่วง หรือ ฤดูหนาว ฟูจิก็ยิ่งสวยเกินคำบรรยาย นอกจากวิวฟูจิที่สวยจนต้องร้อง "ว้าว!" แล้วยังสามารถเดินชม อุทยาน และ ทะเลสาบ รอบๆ ฟูจิได้อีกด้วย บรรยากาศแสนเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติสุดๆ
วิธีการเดินทาง
เมื่อพูดถึง โอซาก้า แล้วห้ามพลาด ย่านโดทงโบริ แหล่งที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เปล่งประกายยามค่ำคืน แถมยังคึกคักสุดๆ สำหรับใครที่ชอบช็อปปิ้ง แวะมาที่นี่แล้วคุณจะได้เต็มอิ่มกับร้านค้ามากมาย ทั้งของกินอร่อยๆและของฝาก แปลกใหม่เพียบ จุดเด่นของที่นี่ก็ต้องยกให้ป้ายปูยักษ์ที่ดังระดับโลกและป้ายนักวิ่งกุลิโกะ ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าเลย บรรยากาศยามค่ำคืนก็ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนตร์ ผสมกับแสงสีและเสียงของเมืองที่ไม่เคยหลับ!
วิธีการเดินทาง

เนินทรายทตโตริตั้งอยู่ในจังหวัดทตโตริ ภูมิภาคชูโกกุ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งและหาได้ยากในญี่ปุ่น ทอดยาวตามแนวชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นกว่า 16 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 2 กิโลเมตร เนินทรายเหล่านี้เกิดจากการสะสมของตะกอนที่ถูกพัดพามาจากแม่น้ำเซ็นไดและลมทะเลพัดขึ้นมา เนินทรายที่นี่มีความสูงชันและมีรูปร่างเปลี่ยนไปตามกระแสลม ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่กลางทะเลทรายขนาดเล็ก คุณสามารถลองขี่อูฐ, เล่นแซนด์บอร์ด หรือเพียงแค่เดินเล่นชมวิวทะเลและเนินทรายที่ตัดกันอย่างสวยงาม
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

โอคุโนะชิมะเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) จังหวัดฮิโรชิม่า ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากประชากรกระต่ายป่าที่เป็นมิตรและเชื่อง เกาะแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตแก๊สพิษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกทิ้งร้างไปแล้ว ปัจจุบันมีกระต่ายหลายร้อยตัวอาศัยอยู่ทั่วไปบนเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหารเม็ดสำหรับกระต่ายและสนุกกับการเล่นกับพวกมันได้ เป็นสถานที่ที่คนรักสัตว์ไม่ควรพลาด
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

น้ำตกนาจิ ในจังหวัดวาคายามะ เป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 133 เมตร เป็นน้ำตกที่มีสายน้ำต่อเนื่องเพียงสายเดียวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเส้นทางจาริกแสวงบุญคุมาโนะโคโดะ (Kumano Kodo) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก สิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษคือวิวของน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผา โดยมีเจดีย์สีแดงสามชั้นของวัดเซกังโทจิ (Seiganto-ji Temple) ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า เป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยาซากิ ภูมิภาคคิวชู เป็นหุบเขาที่เกิดจากการกัดเซาะของหินบะซอลต์จากลาวาภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso) ทำให้เกิดเป็นกำแพงหินสูงชัน มีน้ำตกมินาอิโนะทากิ (Manai no Taki) สูง 17 เมตรไหลลงสู่แม่น้ำโกคาเซะ (Gokase River) คุณสามารถเช่าเรือพายเข้าไปในหุบเขาเพื่อชมความงามของเสาหินและน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด ทาคาชิโฮะยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในตำนานเทพเจ้าของญี่ปุ่นอีกด้วย
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

หมู่บ้านโออุจิจุคุในจังหวัดฟุกุชิมะ เคยเป็นเมืองพักแรมที่สำคัญในสมัยเอโดะ (Edo Period) โดยเป็นจุดพักของนักเดินทางและซามูไรที่เดินทางระหว่างไอซุกับนิโก้ หมู่บ้านนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม มีอาคารไม้หลังคามุงจากทรงโบราณกว่า 30 หลังเรียงรายอยู่สองข้างทาง เป็นการย้อนยุคไปสู่ญี่ปุ่นในอดีตอย่างแท้จริง ไฮไลต์ของที่นี่คือการลิ้มลองเมนูขึ้นชื่ออย่าง เนกิโซบะ (Negi Soba) หรือบะหมี่โซบะที่ใช้ต้นหอมญี่ปุ่นทั้งต้นแทนตะเกียบในการรับประทาน
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

ปราสาทมัตสึโมโตะในจังหวัดนากาโน่ เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น และเป็นปราสาทที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้รับสมญานามว่า "ปราสาทอีกาดำ" (Crow Castle) เนื่องจากสีดำสนิทของตัวปราสาทตัดกับผนังสีขาว เป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตัวอาคารหลักสูง 6 ชั้น มีช่องหน้าต่างเล็กๆ ที่ออกแบบมาเพื่อการป้องกันข้าศึกโดยเฉพาะ ทำให้การเข้าชมภายในปราสาทเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การป้องกันของซามูไร
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

เมืองทาคายามะในจังหวัดกิฟุ ภูมิภาคชูบุ มีชื่อเสียงจากย่านเมืองเก่า ซังมาจิ ซูจิ (Sanmachi Suji) ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม ด้วยอาคารบ้านเรือนไม้แบบสมัยเอโดะ (Edo Period) เรียงรายตามท้องถนนแคบๆ ทำให้เหมือนหลุดเข้าไปในอดีต ทาคายามะมีชื่อเสียงด้านการผลิตสาเก (Sake) คุณจะได้เห็นโรงหมักสาเกหลายแห่งที่มีลูกบอลสาเก (Sugidama) แขวนอยู่ด้านหน้า และยังสามารถลิ้มลองเนื้อฮิดะ (Hida Beef) ที่เป็นเนื้อวัวคุณภาพเยี่ยมของท้องถิ่นได้อีกด้วย
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

อุจิเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างเกียวโตและนารา มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะแหล่งกำเนิดและศูนย์กลางการผลิต ชาเขียวมัทฉะ (Matcha) คุณภาพสูงของญี่ปุ่น เมืองนี้เต็มไปด้วยร้านชาเก่าแก่ที่เปิดมาหลายชั่วอายุคน และมีเมนูขนมหวานที่มีส่วนผสมของชาเขียวหลากหลายชนิดให้ลิ้มลอง นอกจากนี้ อุจิยังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple) ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโก และมีภาพปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยน
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

เกาะฮาชิมะ จังหวัดนางาซากิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ กุงคันจิมะ (Gunkanjima) หมายถึง "เกาะเรือรบ" เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายเรือรบ เป็นเกาะที่มีอดีตเป็นเหมืองถ่านหินที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างกลายเป็นเมืองผี (Ghost Island) ที่น่าทึ่งในยุคปัจจุบัน อาคารคอนกรีตที่ผุพังได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสื่อมโทรมและความงดงามที่ถูกทิ้งไว้ เกาะนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกและเปิดให้เข้าชมบางส่วนผ่านทัวร์ทางเรือเท่านั้น
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

สวนคาวาจิ ฟูจิ ในเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ มีชื่อเสียงจาก อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย (Wisteria Tunnel) ที่สวยงามตระการตา ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ดอกวิสทีเรียหลายสายพันธุ์และหลายสี (สีม่วง สีชมพู สีขาว) จะบานสะพรั่งห้อยย้อยลงมาเป็นม่านดอกไม้เหนือศีรษะของผู้มาเยือน สร้างเป็นอุโมงค์ที่มีสีสันและกลิ่นหอมชวนฝัน เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในคิวชู
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

ทะเลสาบบิวะในจังหวัดชิงะ เป็น ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่จนมองไม่เห็นอีกฝั่ง ทะเลสาบแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การล่องเรือ การว่ายน้ำ การพายเรือคายัค และการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ ทิวทัศน์ที่น่าประทับใจที่สุดคือ โทริอิกลางน้ำ (Torii Gate in the Water) ของศาลเจ้าชิราฮิเงะ (Shirhige Shrine) ที่ให้ความรู้สึกคล้ายศาลเจ้าอิตสึคุชิมะที่มิยาจิมะ แต่เงียบสงบกว่ามาก
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

เนิงเกิร์ล เทอร์เรซ ในเมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด เป็นหมู่บ้านกระท่อมไม้เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในป่าท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นที่รวบรวมงานฝีมือทำมือ (Handmade Craft) และร้านขายของที่ระลึกที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติและป่าไม้ของฮอกไกโด ที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวในหนังสือของนักเขียนชื่อดัง ซาโตชิ คุราโมโตะ (Satoshi Kuramoto) ในช่วงฤดูหนาว หมู่บ้านแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและมีการจัดไฟสว่างไสว ทำให้บรรยากาศดูราวกับอยู่ในเทพนิยาย
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

บ่อน้ำร้อนเบปปุในจังหวัดโออิตะ ภูมิภาคคิวชู มีชื่อเสียงจาก "จิโกคุเมกุริ" หรือ "บ่อนรก" (Hells) ทั้ง 8 แห่ง ซึ่งเป็นบ่อโคลนเดือดและน้ำพุร้อนที่มีลักษณะแตกต่างกันไปตามแร่ธาตุและอุณหภูมิ เช่น Umi Jigoku (บ่อนรกทะเล) ที่มีน้ำสีฟ้าโคบอลต์เดือดพล่าน และ Chinoike Jigoku (บ่อนรกสระเลือด) ที่มีน้ำสีแดงคล้ายเลือด บ่อเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับแช่ แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ชม และคุณสามารถลองชิมไข่ต้มจากไอน้ำร้อนของบ่อได้
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

ปราสาทมัตสึเอะในจังหวัดชิมาเนะ เป็นหนึ่งใน ปราสาทดั้งเดิม 12 แห่ง ที่หลงเหลืออยู่ของญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ (National Treasure) มีชื่อเล่นว่า "ปราสาทนกกระยางดำ" (Plover Castle) เนื่องจากรูปทรงที่ดูสง่างามคล้ายนกกระยาง ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji) และเป็นปราสาทที่สวยงามที่ยังคงโครงสร้างไม้ภายในไว้เกือบทั้งหมด คุณสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศของยุคศักดินาได้อย่างแท้จริง
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

แม้ว่าจะตั้งอยู่ในใจกลางโตเกียว แต่ Shibuya Sky เป็นแลนด์มาร์คที่เปิดใหม่และมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ซ้ำกับการชมวิวทั่วไป หอสังเกตการณ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร Shibuya Scramble Square ที่ความสูง 229 เมตร ทำให้คุณสามารถมองเห็นวิวเมืองโตเกียวได้แบบ 360 องศา รวมถึงการมองลงไปเห็นห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Scramble Crossing) จากมุมสูง และในวันที่อากาศดีก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิและโตเกียวสกายทรีได้ด้วย เป็นจุดชมวิวที่ทันสมัยและน่าตื่นเต้นที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

คามิโคจิ คือหุบเขาและที่ราบสูงที่สวยงามในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ (Northern Japanese Alps) จังหวัดนากาโน่ เป็นที่รู้จักในฐานะ "สวิตเซอร์แลนด์แห่งญี่ปุ่น" จุดเด่นคือแม่น้ำอาซูสะ (Azusa River) ที่มีน้ำใสสีฟ้าคราม และทิวทัศน์ภูเขาสลับซับซ้อนที่งดงามตระการตา จุดถ่ายภาพยอดนิยมคือ สะพานคัปปะบาชิ (Kappa Bridge) ซึ่งเป็นสะพานแขวนไม้ที่ทอดข้ามแม่น้ำ โดยมีฉากหลังเป็นยอดเขาโฮทากะ (Mount Hotaka) คามิโคจิเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินป่าและสัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

ฮาคุบะเป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงระดับโลกในจังหวัดนากาโน่ โดยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 แม้จะรู้จักกันดีว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว แต่ในฤดูร้อนก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการปีนเขา เดินป่า และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ ที่สวยงามไม่แพ้กัน จุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง เช่น Hakuba Happo-one Nature Study Course ที่ให้วิวพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

สวนโมเอเรนูมะตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เป็นผลงานชิ้นเอกของการออกแบบภูมิทัศน์โดยสถาปนิกและประติมากรชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นชื่อดัง Isamu Noguchi สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ถมของบ่อขยะเก่า โดดเด่นด้วยแนวคิดการสร้างให้เป็น "งานศิลปะขนาดใหญ่" มีรูปทรงเรขาคณิต เช่น พีระมิดแก้ว (Hidamari) และภูเขาที่มีรูปทรงที่แม่นยำทางคณิตศาสตร์ สวนแห่งนี้มอบความรู้สึกที่แตกต่างจากสวนสาธารณะทั่วไปในญี่ปุ่น เป็นการผสมผสานงานศิลปะและธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

สวนสัตว์อาซาฮิยามะตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮิคาวะ จังหวัดฮอกไกโด เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นจากแนวคิดการจัดแสดงสัตว์ที่เรียกว่า "การจัดแสดงตามพฤติกรรม" (Behavioral Exhibition) ที่เน้นให้ผู้เข้าชมได้เห็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์อย่างใกล้ชิดและน่าตื่นเต้น เช่น อุโมงค์แก้วใต้น้ำที่ให้ชมการว่ายน้ำของเพนกวินแบบ 360 องศา, การให้อาหารแมวน้ำในเสาแก้วทรงกระบอก, และการเดินขบวนของเพนกวินในช่วงฤดูหนาว
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งนี้ตั้งอยู่ในภูเขาซาโอะ จังหวัดมิยางิ เป็นที่อาศัยของสุนัขจิ้งจอกหลากหลายสายพันธุ์ที่ถูกปล่อยให้เดินเล่นอย่างอิสระในพื้นที่ป่าเปิด คุณสามารถให้อาหาร (ในบริเวณที่กำหนด) และสังเกตพฤติกรรมของสุนัขจิ้งจอกที่เชื่องและเป็นมิตรได้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใครและได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนรักสัตว์
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

กินซังออนเซ็นในจังหวัดยามากาตะ เป็นเมืองน้ำพุร้อนบนภูเขาที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากยุคไทโช (Taisho Period) โดดเด่นด้วยอาคารเรียวกังไม้โบราณที่ตั้งเรียงรายตามลำธาร และสะพานไม้ที่ทอดยาวข้ามธารน้ำ ในช่วงฤดูหนาว หิมะจะปกคลุมทั่วบริเวณ และเมื่อโคมไฟแก๊สโบราณสว่างขึ้นในยามค่ำคืน หมู่บ้านแห่งนี้จะส่องประกายระยิบระยับ สร้างบรรยากาศโรแมนติกและคลาสสิกให้กับผู้มาเยือน
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

น้ำตกเคกอนในอุทยานแห่งชาตินิกโก้ จังหวัดโทชิกิ เป็นหนึ่งใน สามน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีน้ำไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันถึง 97 เมตรลงสู่ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) น้ำตกแห่งนี้มีขนาดใหญ่และทรงพลัง ทำให้เกิดละอองน้ำลอยฟุ้งตลอดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้จากจุดชมวิวฟรี หรือลงลิฟต์เพื่อไปยังจุดชมวิวที่ฐานน้ำตกเพื่อชมความงามอย่างใกล้ชิด
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

แหลมมันซาโมะในโอกินาว่า เป็นหน้าผาหินปูนที่ยื่นออกไปในทะเล มีชื่อเสียงจากรูปทรงที่คล้าย งวงช้าง ที่เป็นเอกลักษณ์ แหลมแห่งนี้ตั้งอยู่บนแนวชายฝั่งตะวันตกของเกาะหลักโอกินาว่า และมีทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิกที่สวยงามตระการตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน คำว่า "มันซาโมะ" มีความหมายว่า "พื้นที่ที่ผู้คนนับหมื่นสามารถนั่งได้"
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

บ่อน้ำสีฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ (Biei) จังหวัดฮอกไกโด เป็นบ่อน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยบังเอิญเพื่อป้องกันโคลนจากภูเขาไฟโทกาจิดาเกะ (Mount Tokachidake) ไฮไลต์คือสีฟ้าเทอร์ควอยซ์อันน่าอัศจรรย์ของน้ำในบ่อ ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ที่ละลายอยู่ในน้ำสะท้อนกับแสงแดด และมีตอไม้สนคารามัตสึ (Larch Trees) ที่ตายแล้วตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ สร้างทิวทัศน์ที่ดูลึกลับและงดงาม
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:

จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุชิมะ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและช่างภาพนิยมมาถ่ายภาพ สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำทะดะมิ (Tadami Line) ที่ทอดผ่านหุบเขาและแม่น้ำ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทั้งสี่ฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาวที่ทิวทัศน์ปกคลุมด้วยหิมะ ภาพของขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านสะพานแห่งนี้ในยามเช้าที่มีหมอกปกคลุมถือเป็นภาพสัญลักษณ์ของความเงียบสงบในชนบทของญี่ปุ่น
วิธีการเดินทาง:
ข้อมูลที่ควรรู้:
การวางแผนงบประมาณเที่ยวญี่ปุ่นเป็นสิ่งสำคัญมากที่ช่วยให้คุณสนุกกับการเดินทางได้อย่างสบายใจ งบประมาณโดยเฉลี่ยสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น 5-7 วัน แบบประหยัดจะอยู่ที่ประมาณ 28,000 - 55,000 บาทต่อคน (ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง) ซึ่งราคานี้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาการเดินทาง ฤดูกาล (ช่วงไฮซีซัน เช่น ซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสี จะแพงขึ้น) และรูปแบบการท่องเที่ยวที่คุณเลือก ทั้งนี้ ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุด (ประมาณ 10,000 - 25,000 บาท) ตามมาด้วย ค่าที่พัก และ ค่าอาหาร/ค่าเดินทางภายในประเทศ ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาและจองล่วงหน้าจะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณลงได้มากครับ
นี่คือตัวอย่างงบประมาณคร่าวๆ สำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน (แบบมาตรฐาน) เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้น:
รายการค่าใช้จ่าย | ประมาณการ (บาท) | หมายเหตุ |
|---|---|---|
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ | 12,000 - 20,000 | ขึ้นอยู่กับสายการบิน และช่วงเวลาที่จอง |
ที่พัก (4 คืน) | 8,000 - 15,000 | เฉลี่ยคืนละ 2,000 - 3,750 บาท (พักแบบประหยัด-กลาง) |
ค่าอาหาร | 5,000 - 8,000 | เฉลี่ยมื้อละ 300 - 500 บาท / วันละ 1,000 - 1,600 บาท |
ค่าเดินทางภายใน | 2,000 - 4,000 | ค่ารถไฟ/รถบัส (เช่น ซื้อบัตร JR Pass บางส่วน หรือใช้ IC Card) |
ค่าเข้าชมสถานที่ | 1,000 - 2,000 | ค่าเข้าวัด/ปราสาท/พิพิธภัณฑ์ |
รวมโดยประมาณ | 28,000 - 49,000 | (ไม่รวมค่าช้อปปิ้งส่วนตัว) |
หากตัดสินใจกันได้แล้วว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเมืองไหนดี ลองไปดูกันว่าที่เที่ยวญี่ปุ่นนั้น มีโรงแรมหรือที่พักญี่ปุ่นที่ไหนน่าสนใจบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนออกเดินทางสำหรับทุกคน เราได้รวมมาให้แล้วรับรองว่าคุณภาพดีคุ้มราคา ถูกที่สุดเมื่อจองกับ Traveloka แน่นอน
โรงแรมเกรเซอรี่ ชินจูกุ โลเคชั่นตั้งอยู่ใจกลางย่านชินจูกุ มีแลนด์มาร์คเป็นเจ้าก็อตซิล่าบนยอดตึกที่เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับชาวไทย เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนระดับพรีเมียมให้กับทุกคนในราคาประหยัดเมื่อเทียบกับโลเคชั่น เดินทางง่ายและสะดวกมาก เหมาะสำหรับคนที่วางแผนมาเที่ยวโตเกียวจริง ๆ

Shinjuku

โรงแรมเกรเซอรี่ ชินจูกุ

8.8/10
•




Shinjuku
THB 6,763.01
THB 6,017.93
แกรนด์ เมอร์เคียว ซัปโปโร โอโดริ ปาร์ค โรงแรมราคาดีงาม ใจกลางย่านสวนโอโดริ ซึ่งถือเป็นไข่แดงของเมืองซัปโปโรเลย ใครอยากหาที่พักใจกลางเมือง แบบราคาสบายกระเป๋า สะอาดสะอ้าน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แนะนำที่นี่จริง ๆ

Chuo

Grand Mercure Sapporo Odori Park

8.4/10
•





Chuo
THB 47,250.33
THB 35,437.75
สำหรับใครที่มีแพลนเที่ยวโอซาก้า โรงแรมนิกโก โอซาก้า ตอบโจทย์มากสำหรับคุณ ด้วยราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าเงิน และมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ดีไซน์สวยงามและมีวิวเมืองสวย ๆ จากในห้องพัก เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อน และครอบครัว

Shinsaibashi

โรงแรมนิกโก โอซาก้า

9.0/10
•




Shinsaibashi
THB 3,402.03
THB 2,551.52
สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นควรที่จะตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ ในการเข้าเมืองให้ครบถ้วยเสียก่อน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเช็กว่าตัวเองพร้อมจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้วหรือยัง ซึ่งปัจจุบันทางญี่ปุ่น ก็ได้มีการลดหย่อนมาตรการโควิดลง โดยนักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีน Covid-19 แล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่คุณจำเป็นต้องเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อซึมซับบรรยากาศ วัฒนธรรม และ วิถีชีวิตของประชากรชาวญี่ปุ่นแบบเต็มอรรถรส ก็มีหลายเรื่องที่เราควรจะทราบก่อนจะเดินทางไปถึงญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยให้การตระเวนไปเที่ยวตามแหล่งที่เที่ยวญี่ปุ่นด้รับประสบการณ์อย่างเต็มที่ ทำให้ทริปเที่ยวของเราไปอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดพื้นที่ราว ๆ 377,975 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ประกอบไปด้วยเกาะหลักจำนวน 5 เกาะได้แก่ ฮนชู, ฮกไกโด, ชิโกกุ, คิวชู และโอกินาวะ เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น คือ เมืองโตเกียว ทางทิศเหนือของประเทศติดกับรัสเซีย ทางทิศตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลีและประเทศจีน ทางทิศใต้ติดกับประเทศไต้หวัน
เราสามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นผ่านการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป Traveloka โดยสายการบินที่มีเที่ยวบินเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นก็มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ เช่น AirAsia, Thai Airways, Bangkok Airways เป็นต้น ซึ่งเราสามารถขึ้นเครื่องได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือสนามบินดอนเมืองตามตั๋วเครื่องบินที่เราจองไว้ ใช้เวลาในการบินตรงไปลงญี่ปุ่นประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที
หากพูดถึงการเดินทางไปยังที่เที่ยวญี่ปุ่นด้วยวิธีต่าง ๆ บอกเลยว่าที่ญี่ปุ่นเนี่ยมีการคมนาคม - การขนส่งที่ค่อนข้างครบถ้วนเลย เริ่มจากรถไฟความเร็วสูงชินคังเซ็น ที่สามารถเดินทางไปตามเมืองหลัก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นด้วยความเร็วสูง หรือ เจแปนเรลเวย์ บริการรถไฟที่ครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศ พร้อมตั๋วเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวช่วยอำนวยความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายของเราได้เป็นอย่างดี แต่นอกจากรถไฟที่ญี่ปุ่นก็ยังมีรถประจำทาง รถแท็กซี่ จักรยาน รถเช่าต่าง ๆ ให้เราเลือกตามความสะดวก
สำหรับภาษาที่จำเป็นต่อการสื่อสารระหว่างเดินทางไปที่เที่ยวญี่ปุ่นประชากรชาวญี่ปุ่นนิยมสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่น รวมถึงเป็นภาษาราชการของประเทศเลย การใช้ภาษาอังกฤษอาจจะพอถูไถไปได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านตามแถบชนบทก็จะนิยมการสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นเสียมากกว่า
จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็ควรแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลที่สามารถใช้ได้ประเทศเป้าหมาย โดยทางประเทศญี่ปุ่นจะซื้อขายแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินสกุลเยน (JPY) อัตราการแลกเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแต่ละช่วงเวลา ต้องเช็กตรวจสอบค่าเงินตามเวลาที่เราจะเดินทางไปอีกที
เวลาที่ประเทศญี่ปุ่นจะเดินเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง โดยค่าเวลามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ GMT+9 เขตเวลา Asia/Tokyo และมีชื่อเขตเวลา คือ Japan Time (JT) เมื่อคำนวณกับระยะเวลาที่เราเดินทางไปญี่ปุ่น คือ 5 ชม. 30 นาที หากเราเดินทางออกจากประเทศไทยช่วงเช้าตรู่ เราก็จะเดินทางถึงญี่ปุ่นประมาณช่วงบ่ายพอดี

Japan

โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท – บัตรเข้าสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ & โตเกียวดิสนีย์ซี

8.9/10
Tokyo Disney Resort
THB 1,977.10
ญี่ปุ่นมีฤดูกาลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปด้วย! มาดูข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นกัน
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน)
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)
Sat, 17 Jan 2026

Japan Airlines
ซัปโปโร (CTS) ไป โอซาก้า (ITM)
เริ่มจาก THB 2,757.51
Sat, 17 Jan 2026

Japan Airlines
โตเกียว (HND) ไป โอซาก้า (ITM)
เริ่มจาก THB 2,480.53
Thu, 18 Dec 2025

Japan Airlines
โตเกียว (NRT) ไป โอซาก้า (ITM)
เริ่มจาก THB 3,247.96
Tags:
ที่เที่ยวญี่ปุ่น
ที่พักญี่ปุ่น
โรงแรมญี่ปุ่น


























