ฮัลโหลเพื่อน ๆ บทความนี้ Traveloka จะพาทุกคนไปเปิดโลกใหม่กับ 20 ที่เที่ยวซาอุดิอาระเบียที่ห้ามพลาดในปี 202 ที่ต้องไปให้ได้ บอกเลยว่าประเทศนี้กำลังมาแรงสุด ๆ ไม่ได้มีดีแค่ประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาทราย ทะเลแดง เมืองโบราณที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ไปจนถึงแลนด์มาร์กสุดล้ำสมัยที่สายเที่ยวห้ามพลาด และที่สำคัญเราไม่ได้แค่รวมที่เที่ยวมาให้ แต่ยังมีลิสต์ ที่พักซาอุดิอาระเบีย ยอดนิยม ใกล้แหล่งท่องเที่ยว เดินทางสะดวก เหมาะทั้งสายผจญภัย สายชิล และครอบครัว แถมยังแนะนำกิจกรรมสนุก ๆ ให้เลือกเพียบ ทริปนี้จะยิ่งฟินขึ้น ถ้ามี Traveloka เป็นตัวช่วย เพราะคุณสามารถจอง ตั๋วเครื่องบินไปซาอุดิอาระเบีย โรงแรม และ กิจกรรมท่องเที่ยว ได้ครบจบในที่เดียว ราคาดี โปรโมชั่นมาแรง และที่สำคัญ เชื่อถือได้แน่นอน เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วไปตะลุยที่เที่ยวซาอุดิอาระเบีย เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ทั้งคุ้มค่า สนุก และจัดเต็มกันได้เลย
ถ้าใครชอบบรรยากาศย้อนยุคต้องห้ามพลาดที่นี่เลย! เมืองเก่าแห่งนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กซาอุดิอาระเบีย ที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ไฮไลต์คืออาคารบ้านเรือนอายุกว่า 400 ปี ที่สร้างจากหินปะการังและไม้ในสไตล์ “ฮิจาซี (Hejazi)” ดูแปลกตาและงดงามสุด ๆ ยังมีกำแพงเมืองเก่าและหอคอยสังเกตการณ์ที่ยังคงตั้งตระหง่านให้เราได้ชมความยิ่งใหญ่ในอดีต แถมยังได้แวะไปที่ Naseef House บ้านเก่าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของกษัตริย์ กลายเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยว
⏰ เวลาเปิด–ปิด : เมืองเก่าเดินชมได้ตลอดทั้งวัน แต่ร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเปิด 09:00–22:00 น.
ถ้ามาเที่ยวซาอุดิอาระเบียแล้วไม่ได้มาเดินตลาดนี้ถือว่าพลาดเลย เพราะที่นี่คือตลาดพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเจดดาห์ ตั้งอยู่ใจกลางย่านเก่าแก่ Al Balad เดินเล่นได้เพลิน ๆ ทั้งวัน ของที่ขายก็หลากหลายมาก ตั้งแต่ของฝาก เสื้อผ้า เครื่องเทศ น้ำหอมอาหรับ ไปจนถึงเครื่องประดับเงินแท้ สายกินก็ห้ามพลาดของกินสตรีทฟู้ดเพียบ ทั้ง ชาวาร์มา (Shawarma) หอม ๆ และ ฟาลาเฟล (Falafel) รสชาติเข้มข้น เดินไปกินไปฟินสุด ๆ ยิ่งถ้ามาตอนเย็น ๆ อากาศไม่ร้อน แถมบรรยากาศคึกคัก มีทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ทำให้ได้สัมผัสความเป็นเจดดะแบบแท้จริง
⏰ เวลาเปิด–ปิด : 10:00 – 23:00 น. (ปิดช่วงละหมาด)
ประตูเมืองเก่าแก่ที่เป็นเส้นทางสู่เมืองเมกกะ ไฮไลต์คือซุ้มประตูหินโบราณที่ยังคงความขลังและงดงาม รอบ ๆ ก็เต็มไปด้วยชุมชนเก่าและตลาดท้องถิ่น มีทั้งผลไม้สด ๆ เครื่องเทศ และของราคาถูกให้เลือกซื้อ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวไม่พลาด ก่อนจะเดินทางต่อสู่เมืองศักดิ์สิทธิ์เมกกะ
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดให้เข้าชมตลอดวัน (เป็นสถานที่กลางแจ้ง)
ใครมาเจดดาห์แล้วอยากหามุมพักผ่อน ต้องมาที่ Middle Corniche Park สวนสาธารณะริมทะเลแดงสุดชิล บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการพาครอบครัวมาเดินเล่น ปิกนิก หรือแค่หามุมชมวิวทะเลก็ฟินแล้ว ภายในมีทั้งสนามเด็กเล่น ทางเดินเลียบทะเล และลานกว้างให้ทำกิจกรรม ช่วงเย็น ๆ จะเห็นคนท้องถิ่นออกมาเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน คึกคักไปอีกแบบ
⏰ เวลาเปิด–ปิด: 08:00–00:00 น. (ฟรี)
อีกหนึ่งไฮไลต์ของเมืองนี้ต้องยกให้ Jeddah Corniche ริมทะเลยาวกว่า 30 กม. ที่ตกแต่งด้วยประติมากรรมสาธารณะกว่า 20 ชิ้น เรียกได้ว่าเดินไปก็มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ตลอดทาง ไฮไลต์สุดปังคือ King Fahd Fountain น้ำพุทะเลที่สูงที่สุดในโลก พุ่งสูงถึง 312 เมตร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน เดินเล่น ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกสวย ๆ หรือหาของอร่อยกินรอบ ๆ ซึ่งมีทั้งร้านอาหารซีฟู้ดและคาเฟ่บรรยากาศดีให้เลือก
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอด (น้ำพุจะเปิดช่วงเย็น–ค่ำ)
มาเจดดาห์ทั้งทีต้องไม่พลาดกิจกรรมทางน้ำที่ ทะเลแดง เพราะขึ้นชื่อว่าน้ำใส ปะการังสวย และเต็มไปด้วยสัตว์ทะเลหลากชนิด ใครชอบดำน้ำต้องฟินแน่นอน เพราะมีทั้งดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และไฮไลต์อย่าง ดำน้ำชมเรือจม ที่ตื่นเต้นสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือสปีดโบ๊ท ตกปลา และทัวร์ดำน้ำจากบริษัทต่าง ๆ ให้เลือกเยอะ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 300–600 SAR/ทริป
⏰ เวลาเปิด–ปิด: ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการทัวร์ (ส่วนใหญ่เริ่ม 08:00–17:00 น.)
อีกหนึ่งไอคอนของเจดดาห์ที่ทุกคนต้องมาเช็กอินคือ Al Rahma Mosque หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Floating Mosque” ไฮไลต์คือสถาปัตยกรรมสีขาวสะอาดตา โดมสีน้ำเงินตัดกับท้องฟ้าและน้ำทะเลแดงได้อย่างสวยงามมาก ยิ่งเวลาน้ำขึ้นสูง ตัวมัสยิดจะเหมือนลอยอยู่เหนือน้ำ กลายเป็นภาพที่ทั้งโรแมนติกและศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและชื่นชมสถาปัตยกรรมได้ แต่ต้องแต่งกายสุภาพและเลือกเวลาเข้าชมที่ไม่มีการละหมาด
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอด (เข้าได้เฉพาะช่วงที่ไม่มีการละหมาด)
ถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายความเป็นเจดดะแบบดั้งเดิม ต้องมาเดินเล่นใน Jeddah’s Old City หรือย่าน Al Balad ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณซึ่งมีระเบียงไม้แกะสลักสวย ๆ เรียกว่า Roshan บรรยากาศเต็มไปด้วยตรอกเล็ก ๆ ร้านค้าพื้นเมือง และสตรีทอาร์ตเก๋ ๆ ที่ซ่อนอยู่ตามกำแพง สายคาเฟ่ก็ต้องถูกใจ เพราะมีร้านดั้งเดิมให้นั่งจิบชาอาหรับหอม ๆ เพลิน ๆ เหมาะกับทั้งสายถ่ายรูปและคนที่อยากอินกับบรรยากาศย้อนยุค
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอด แต่ร้านส่วนใหญ่เปิด 10:00–22:00 น.
Masjid Al Qiblatayn หรือ “มัสยิดสองทิศทาง” เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงเพราะในอดีตเคยมี ทิศกิบละฮ์ 2 ทิศทาง ก่อนที่ทิศกิบละฮ์จะเปลี่ยนไปสู่เมืองเมกกะ มัสยิดแห่งนี้จึงมีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์สำหรับชาวมุสลิม มัสยิดนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอิสลามร่วมสมัย โดดเด่นด้วยโดมสีขาวใหญ่ สองเสาที่แสดงถึงทิศกิบละฮ์เก่าและใหม่ ภายในเงียบสงบ เหมาะแก่การสวดมนต์และทำสมาธิ สิ่งที่ควรแวะชมเมื่อมาที่นี่เสาเก่าที่ระบุทิศกิบละฮ์เดิม, ภาพวาดและลวดลายอิสลามบนกำแพง แต่หากใครมาเที่ยวซาอุดิแาระเบียแห่งนี้แนะนำให้แต่งกายให้สุภาพนะ ผู้หญิงควรใส่ฮิญาบและเสื้อคลุมยาว เตรียมรองเท้าที่ถอดง่าย เพราะต้องถอดก่อนเข้ามัสยิด พกน้ำดื่มและหมวก เพราะสภาพอากาศร้อนในบางช่วง แม้ที่นี่อาจจะไม่ได้มีที่เที่ยวซาอุดิอาระเบียมากนัก แต่ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่อง ที่พักเมกกะ ที่ต้องบอกเลยว่าวิวแลังการดาวล้านดวงมาก
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง (แนะนำให้มาในช่วงเช้าหรือก่อนละหมาดเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงคนแน่น)
เมื่อเดินเข้าสู่ AlUla Public Library คุณจะรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกที่ผสมผสาน ความรู้และศิลปะของทะเลทราย อาคารออกแบบให้โปร่งโล่ง มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา ทำให้ทุกมุมเต็มไปด้วยความสงบ ภายในมีชั้นหนังสือมากมาย ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์อาหรับ ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น มีมุมนิทรรศการและพื้นที่อ่านหนังสือกลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา สามารถใช้เวลานั่งอ่าน ชมงานศิลปะ และถ่ายรูปสวย ๆ กับสถาปัตยกรรมกระจกและไม้สไตล์โมเดิร์นผสมแบบดั้งเดิม มาดินะห์ถือเป็นอีกเมืองที่มีที่เที่ยวซาอุดิอาระเบียเยอะมาก ถ้าจะให้แวะวันเดียวหมดก็คงจะล้าเกินไปใช่มั้ยละ แนะนำให้มองหา ที่พักมาดินะห์ กันไว้ด้วยนะ จะได้นอนเก็บแรงไปเที่ยวต่อได้ในวันต่อไปแบบไม่ล้า
⏰ เวลาเปิด–ปิด: 08:00–18:00 น.
อีกหนึ่งที่เที่ยวซาอุดิอาระเบียที่ไม่ควรพลาดก็คือ AlUla Old Town หมู่บ้านดินโบราณที่ซ่อนตัวอยู่กลางทะเลทราย เมื่อก้าวเข้ามาคุณจะได้สัมผัสเสน่ห์ของตรอกซอกซอยแคบ ๆ และบ้านเก่าที่สร้างจากดินและหินปะการัง ไฮไลต์ของเมืองเก่าแห่งนี้คือ Al-Diyafa House และ Al-Khuraybah ที่ยังคงเก็บรายละเอียด สถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ระหว่างเดินเที่ยวสามารถแวะตลาดเล็ก ๆ ซื้อเครื่องประดับ งานหัตถกรรมพื้นเมือง หรือของฝากติดไม้ติดมือกลับไปได้ อย่าลืมขึ้นไปยังจุดชมวิวบนกำแพงเมืองเพื่อมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองเก่า AlUla และทะเลทรายโดยรอบ บอกเลยว่าบรรยากาศย้อนยุคและโรแมนติกสุด ๆ
⏰ เวลาเปิด–ปิด: ร้านค้าส่วนใหญ่ 09:00–17:00 น. แต่ในย่านเมืองเก่าเปิดตลอด
ถ้าพูดถึงแลนด์มาร์ก AlUla ที่โด่งดังที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Elephant Rock หรือ Jabal AlFil อย่างแน่นอน หินธรรมชาติที่มีรูปร่างคล้ายช้างยักษ์ตั้งตระหง่านกลางทะเลทรายแห่งนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง AlUla ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเช็กอิน เสน่ห์ของที่นี่คือรูปร่างหินที่ชัดเจนเหมือนช้างจริง ๆ เมื่อถ่ายรูปจากมุมต่าง ๆ จะได้ภาพที่ไม่ซ้ำกันเลย ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก แสงและเงาที่ตกกระทบหินยิ่งทำให้บรรยากาศอลังการสุด ๆ บริเวณรอบ ๆ ยังมีพื้นที่ปิกนิกเล็ก ๆ ให้พักผ่อน นั่งชิล ชมวิวทะเลทรายไปพร้อมกับแลนด์มาร์กธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่นี้
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอดวัน
ใครมาเที่ยว AlUla แล้วอยากเห็นวิวมุมกว้างแบบ 360 องศา ต้องไม่พลาดที่ Harrat View Point จุดชมวิวบนเนินสูงกลางทะเลทราย ที่จะพาคุณสัมผัสความงดงามของภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งภูเขาไฟเก่า และเนินหินสลับซับซ้อนราวกับภาพวาดธรรมชาติ ไม่ว่าจะมาช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือยามเย็น บรรยากาศก็โรแมนติกสุด ๆ เหมาะกับการถ่ายรูปพาโนรามาเก็บไว้เป็นความทรงจำ แถมวิวที่นี่อลังการจนกลายเป็นอีกหนึ่ง แลนด์มาร์กซาอุดิอาระเบีย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกยกให้เป็น Must-Visit
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอดวัน
Al Maraya คืออาคารกระจกสะท้อนแสงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่กลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่ มันเหมือนกระจกยักษ์ที่สะท้อนภูเขาและท้องฟ้าจนดูเหมือนกำลังมองภาพวาดที่มีชีวิต ไฮไลต์คือสถาปัตยกรรมกระจกโค้งสุดล้ำ กับลานกว้างรอบ ๆ ที่สร้างมิติแปลกตาให้นักท่องเที่ยว กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการถ่ายรูปมุมสูง ชมลานกลางแจ้ง และแวะโซนจัดนิทรรศการศิลปะที่มักมีการจัดแสดงงานระดับโลก
⏰ เวลาเปิด–ปิด: ขึ้นอยู่กับงานจัดแสดง (ตรวจสอบตารางงานล่วงหน้า)
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ AlUla คือ Hegra หรือ Madain Saleh เมืองโบราณของชาวนาบาเทียน (Nabataean) ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO ไฮไลต์เด็ดคือ Qasr Al Farid สุสานเดี่ยวขนาดใหญ่แกะสลักบนหน้าผาหินทรายที่งดงามและถ่ายรูปออกมาอลังการมาก นอกจากนี้ยังมี The Lion Tomb สุสานแกะสลักสัญลักษณ์สิงโต และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่เล่าเรื่องอารยธรรมเก่าแก่ เส้นทางเดินเท้าและจุดชมวิวรอบ ๆ ทำให้คุณได้ซึมซับทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติไปพร้อม ๆ กัน
⏰ เวลาเปิด–ปิด: 08:00–18:00 น.
ใครชอบอะไรแปลก ๆ ต้องมาลองที่ Wadi Al-Jinn หุบเขาที่เต็มไปด้วยตำนานเกี่ยวกับ “ญิน” สิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติ ไฮไลต์ที่ทำให้ที่นี่โด่งดังคือปรากฏการณ์ที่ รถสามารถไหลขึ้นเนินเอง โดยไม่ต้องมีใครเข็นทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนมาทดลองและถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะจริงหรือแค่ภาพลวงตา แต่บอกเลยว่าความน่าพิศวงของ Wadi Al-Jinn เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวซาอุดิอาระเบีย
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอดวัน
ปิดท้ายด้วยสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอิสลาม นั่นคือ Al-Masjid an-Nabawi มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ในเมืองมาดินะห์ ที่โดดเด่นด้วยโดมสีเขียว และพื้นที่ Rawdah ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาจากทั่วโลกต่างเดินทางมาที่นี่ บริเวณรอบนอกยังมีสวนและลานกว้างร่มรื่น เหมาะกับการนั่งพักผ่อนและซึมซับบรรยากาศศรัทธา แต่ต้องบอกเลยว่าช่วงเวลาละหมาดคนจะหนาแน่นมาก
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิด 24 ชั่วโมง (ช่วงละหมาดคนแน่นมาก)
Jebel Fihrayn หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกกันว่า “Edge of the World” เป็นจุดชมวิวสุดอลังการของริยาดที่คุณจะได้เห็นทะเลทรายทอดยาวแบบไม่มีสิ้นสุด ที่สำคัญหน้าผาสูงชันที่มองเห็นทะเลทรายสีทองคล้ายภาพวาด สามารถถ่ายรูปพาโนรามาได้สวยสุด ๆ เนื่องจากที่ริยาดเจชต็มไปด้วยที่เที่ยวซาอุดิอาระเบียน่าสนใจหลายแห่ง แนะนำให้มองหา ที่พักริยาด (Riyadh) ดี ๆ ไว้พักผ่อนเอนกายสักคืนก่อนไปตะลุยเที่ยวซาอุดิอาระเบียต่อ
⏰ เวลาเปิด–ปิด: เปิดตลอดวัน (แนะนำช่วงเช้า 06:00–09:00 น. หรือช่วงเย็น 16:00–19:00 น.)
Kingdom Centre คือแลนด์มาร์กสำคัญของริยาด ด้วยสถาปัตยกรรมโดดเด่นมีช่องกลางตึกรูปตัว “V” ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ Sky Bridge ชั้นบนสุด ชมวิวเมืองริยาดแบบ 360 องศา เห็นทั้งตึกสูงและภูมิประเทศรอบเมือง นอกจากนี้ยังสามารถช้อปปิ้งที่ Kingdom Centre Mall มีร้านแบรนด์เนม ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย เหมาะกับทั้งสายช้อปและสายถ่ายรูป
⏰ เวลาเปิด–ปิด:
ปราสาทดินโบราณ Masmak Fortress สร้างในศตวรรษที่ 19 เป็นสัญลักษณ์สำคัญของการก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ไฮไลต์คือกำแพงหนาและป้อมปราการที่บอกเล่าประวัติศาสตร์สงครามและราชวงศ์ สามารถเดินชมป้อม ปืนใหญ่ และจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ได้ ก่อนจะแวะไปจุดที่เที่ยวซาอุดิอาระเบียในภูมิภาคต่อไป อย่าปล่อยให้ร่างกายล้าก่อนน้าา เพราะที่ซาอุดิอาระเบียมี ที่พักริยาด สวย ๆ วิวอลังการเยอะมาก แวะมาพักผ่อนสุดบรรยากาศความหรูหราก่อนได้นะ
⏰ เวลาเปิด–ปิด: 08:00–16:00 น. (ปิดวันศุกร์ช่วงละหมาด)
ทะเลแดงที่เจดดาห์เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่สวยที่สุดในโลก ด้วยน้ำทะเลใสและแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้คุณสามารถเห็น ฝูงปลาเขตร้อน หอยเม่น และปะการังหลากสีสัน กิจกรรมที่ควรทำ เช่นการดำน้ำตื้น (Snorkeling) ชมปะการังใกล้ชายฝั่ง หรืแดำน้ำลึก (Scuba Diving) สำรวจแนวปะการังและซากเรือเก่า ถ่ายภาพใต้น้ำเก็บเป็นที่ระลึก
ไม่มีอะไรจะโรแมนติกและน่าตื่นเต้นเท่าการขี่อูฐท่ามกลางทะเลทราย AlUla อีกแล้ว ที่นี่เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสกับความกว้างใหญ่ของทะเลทราย, แสงทองอบอุ่นของพระอาทิตย์ตก, และวิวภูเขาหินทรายสุดอลังการ บรรยากาศที่นี่เหมาะกับการถ่ายรูปพาโนรามา หรือนั่งชิลชมธรรมชาติแบบเงียบสงบ
Souq Al Alawi เป็นตลาดพื้นเมืองเก่าแก่ที่สุดของเจดดาห์ที่สายช้อปและนักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด ที่นี่เต็มไปด้วย เครื่องเทศหอม, งานหัตถกรรมพื้นเมือง, น้ำหอมอาหรับสุดคลาสสิก, และ เครื่องเงินสวย ๆ เดินเล่นเพลิน ๆ คุณสามารถแวะชิมอาหารท้องถิ่นหรือหยิบของฝากกลับบ้านได้
ที่พักซาอุดิอาระเบีย ⭐⭐⭐⭐⭐
โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมักกะห์ ใกล้ Haram Mosque เพียงไม่กี่ก้าว ทำให้คุณสามารถเดินไปยังมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ได้สะดวก ไฮไลต์ของที่พักซาอุดิอาระเบีย มักกะห์ คล็อก รอยัล ทาวเวอร์, อะ แฟร์มอนต์ โฮเทล (Makkah Clock Royal Tower, A Fairmont Hotel) ที่นี่คือห้องพักสุดหรูพร้อมวิวเมืองและนาฬิกายักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ บริการระดับพรีเมียม มีร้านอาหารหลากหลายทั้งอาหารตะวันตกและอาหารท้องถิ่น สปาและฟิตเนสครบครัน รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวและรถรับส่ง VIP สำหรับผู้เข้าพัก
Saudi-arabia
มักกะห์ คล็อก รอยัล ทาวเวอร์, อะ แฟร์มอนต์ โฮเทล
9/10
•
Mecca
ดูราคา
ที่พักซาอัลอูล่า ⭐⭐⭐⭐⭐
รีสอร์ทหรูกลางทะเลทรายอัลอูล่า โดดเด่นด้วย วิลล่าส่วนตัวพร้อมสระน้ำหรืออ่างอาบน้ำกลางแจ้งให้คุณดื่มด่ำกับวิวภูเขาหินทรายและทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา บริการสปาและฟิตเนสครบครัน ห้องอาหารในรีสอร์ทเสิร์ฟ อาหารท้องถิ่นและนานาชาติแบบ Fine Dining ไฮไลต์คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกจากห้องพักหรือระเบียงส่วนตัว บันยัน ทรี อะลูลา (Banyan Tree Alula) เหมาะสำหรับคู่รักหรือคนที่อยากพักผ่อนท่ามกลางความสงบและธรรมชาติสุดอลัง
Saudi-arabia
บันยัน ทรี อะลูลา
Al Ula
ดูราคา
ที่พักซาอัลอูล่า ⭐⭐⭐⭐⭐
ที่พักแนวบูติกกลางทะเลทรายที่รวมความหรูหราเข้ากับไลฟ์สไตล์แบบ Eco-Luxury ทุกยูนิตมี เต็นท์หรูและวิลล่ากระจกใส ให้คุณมองเห็นท้องฟ้าและภูมิประเทศแบบพาโนรามา บริการ กิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ขี่อูฐ ชมดาว และทัวร์ทะเลทราย พร้อมสปาและห้องอาหารเสิร์ฟอาหารสุขภาพและอาหารท้องถิ่น ไฮไลต์ของ Caravan by Habitas ที่พักแห่งนี้ คือ ประสบการณ์พักในทะเลทรายอย่างใกล้ชิดแต่หรูหรา เหมาะสำหรับนักเดินทางสายผจญภัยที่ต้องการสัมผัสทะเลทรายแบบเต็มอิ่มโดยไม่ละความสะดวกสบาย
Saudi-arabia
Caravan by Habitas
Al Ula
ดูราคา
ซาอุดิอาระเบีย (Saudi Arabia) อยู่ในตะวันออกกลาง บนคาบสมุทรอาหรับ มีพรมแดนติดกับ จอร์แดน อิรัก คูเวต บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน และเยเมน เมืองสำคัญ เช่น ริยาด (Riyadh) เมืองหลวง, มักกะห์ (Makkah), มาดินะห์ (Medina), เจดดาห์ (Jeddah), อัลอูล่า (AlUla) เป็นประเทศทะเลทรายใหญ่ มีภูเขา ทะเลแดง และทะเลทรายสวยงาม เช่น Edge of the World, Hegra
การบินจากไทยไปซาอุดิอาระเบียไม่ซับซ้อน แต่ก็มีหลายตัวเลือกให้เลือกตามสไตล์การเที่ยวของคุณ
จากไทยบินตรงได้หลายสายการบิน เช่น Saudia, Thai Airways หรือเลือกบินเชื่อมต่อผ่าน ตะวันออกกลางอย่าง Emirates, Qatar Airways
Wed, 17 Sep 2025
Gulf Air
กรุงเทพ (BKK) ไป ริยาด (RUH)
เริ่มจาก THB 8,461.20
Thu, 25 Sep 2025
Air Arabia
กรุงเทพ (BKK) ไป ริยาด (RUH)
เริ่มจาก THB 8,732.70
Tue, 9 Sep 2025
Etihad
กรุงเทพ (BKK) ไป ริยาด (RUH)
เริ่มจาก THB 8,859.79
ถ้าพูดถึงอากาศซาอุดิอาระเบียต้องบอกเลยว่าช่วงเมษายน–กันยายน ร้อนมาก ๆ ร้อนแบบทะเลทรายแท้ ๆ อุณหภูมิกลางวันบางเมืองอาจทะลุ 40–45°C เลยทีเดียว ถ้าไปช่วงนี้แม้จะได้เห็นทะเลทรายสวย ๆ แต่ต้องเตรียมตัวทั้ง หมวก แว่นกันแดด น้ำดื่ม ให้พร้อม และอย่าลืมทาครีมกันแดด เพราะแดดแรงมาก
อากาศเย็นสบาย อยู่ราว 20–28°C กลางวัน ไม่ร้อนเกินไป กลางคืนเย็นฉ่ำ แต่ทะเลทรายบางพื้นที่อาจเย็นจัด แนะนำพกแจ็กเก็ตบาง ๆ
เหมาะกับทุกกิจกรรม
ถ้าไปซาอุดิอาระเบีย สิ่งแรกที่ควรเข้าใจคือ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของที่นี่ เพราะจะช่วยให้เที่ยวสบายไม่มีสะดุด
1. แลกเงินที่ธนาคารไทย
2. แลกเงินที่สนามบินซาอุดิอาระเบีย
3. ATM ในเมือง
ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศอาหรับแท้ ๆ ดังนั้นภาษาหลักคือภาษาอาหรับ แต่ไม่ต้องตกใจไปถ้าเรารู้จักพื้นฐานและทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เที่ยวได้ง่ายมาก
ภาษาอาหรับ | ความหมาย (ไทย) | ใช้เมื่อ |
مرحبا (Marhaba) | สวัสดี | ทักทายทั่วไป |
شكرا (Shukran) | ขอบคุณ | ขอบคุณคนช่วยเหลือ |
نعم (Na'am) / لا (La) | ใช่ / ไม่ใช่ | ตอบคำถามง่าย ๆ |
من فضلك (Min Fadlak/Fadlik) | กรุณา | ขอความช่วยเหลือ / ขอสิ่งของ |
كم السعر؟ (Kam al-siar?) | ราคาเท่าไหร่? | ซื้อของในตลาด |
مرحبا بكم (Marhaban bikum) | ยินดีต้อนรับ | พูดกับแขกหรือต้อนรับ |
أين الحمام؟ (Ayna al-hammam?) | ห้องน้ำอยู่ที่ไหน? | หา WC |
السلام عليكم (As-salamu alaykum) | สันติสุขจงมีแด่ท่าน | คำทักทายอย่างเป็นทางการ |
💡 เคล็ดลับ: แค่จำ 5–10 คำพื้นฐานก็ช่วยให้เดินทางสะดวกและมัดใจคนท้องถิ่นได้
Q: คนไทยต้องขอวีซ่าไหม? A: ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว แต่ไม่ยุ่งยากเลย สามารถทำ E-Visa ออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ทางการของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ใช้เวลาไม่กี่นาที เอกสารหลัก ๆ ที่ต้องมีคือพาสปอร์ตที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และรูปถ่ายดิจิทัล พอได้รับอนุมัติแล้วก็ปริ้นท์ออกมาใช้เดินทางได้ทันที
Q: ผู้หญิงเที่ยวซาอุดิอาระเบียได้ไหม? A: ได้เลย เพราะปัจจุบันซาอุดิอาระเบียเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวหญิงเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกครองชาย (Mahram) เหมือนแต่ก่อนแล้ว เพียงแค่ควรแต่งกายสุภาพ เช่น ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือเดรสยาวปิดเข่า ส่วนผ้าคลุมหัว (ฮิญาบ) ไม่ได้บังคับสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าไปมัสยิดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรใส่เพื่อความเคารพ
Q: ค่าใช้จ่ายเที่ยวซาอุดิอาระเบียแพงไหม? A: โดยรวมใกล้เคียงกับการเที่ยวดูไบหรือกาตาร์ แต่บางเมืองค่าครองชีพถูกกว่า เช่น เจดดาห์กับริยาด โรงแรมระดับ 3–4 ดาวเริ่มต้นที่ 2,000–3,500 บาท/คืน อาหารท้องถิ่นราคาประมาณ 150–300 บาทต่อมื้อ ถ้าชอบหรูหราก็มีโรงแรม 5 ดาวและร้าน fine dining ให้เลือกเยอะ
Q: การเดินทางในซาอุดิอาระเบียสะดวกไหม? A: สะดวกมาก มีทั้งรถไฟความเร็วสูง (Haramain High-Speed Rail) ที่วิ่งเชื่อมเมกกะ–มาดินะห์–เจดดาห์ ใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังมีแท็กซี่ Grab/Uber ให้เรียกง่าย ๆ ถ้าชอบผจญภัยก็สามารถ เช่ารถ กับ Traveloka ขับเองได้ (แต่ควรศึกษากฎจราจรให้ดีก่อน)
Q: อาหารในซาอุดิอาระเบียเป็นยังไง? A: บอกเลยว่าสายกินฟินแน่นอน เมนูเด็ดที่ต้องลอง เช่น Kabsa (คับซะห์) ข้าวหมกเนื้อหรือไก่ สไตล์อาหรับจานใหญ่, Shawarma (ชาวาร์มา) คล้ายเคบับ หาซื้อได้ตามข้างทาง, Dates (อินทผลัม) ของฝากยอดฮิต หวานหอมกินเพลิน ส่วนร้านอาหารนานาชาติ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อิตาลี ก็หาง่ายในเมืองใหญ่ ๆ เช่น ริยาด
Q: กฎข้อห้ามที่นักท่องเที่ยวควรรู้มีอะไรบ้าง? A: มีไม่กี่ข้อที่ควรระวัง เช่น ห้ามดื่มหรือพกพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ห้ามแสดงความรักในที่สาธารณะ (เช่น จูบ กอดแนบชิด), ห้ามวิจารณ์ศาสนาหรือราชวงศ์, แต่งกายสุภาพ โดยเฉพาะเวลาไปมัสยิดหรือเมืองศักดิ์สิทธิ์
Q: ซาอุดิอาระเบียปลอดภัยไหม? A: ปลอดภัยมาก เพราะรัฐบาลเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวกลางคืนได้ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างเจดดาห์และริยาด แต่ก็เหมือนเที่ยวต่างประเทศทั่วไป ควรรักษาทรัพย์สินมีค่าและไม่เดินในซอยเปลี่ยวคนเดียว
Q: อินเทอร์เน็ตและซิมการ์ดเป็นยังไง? A: อินเทอร์เน็ตแรงใช้ได้ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อซิมการ์ดจากค่ายดังอย่าง STC, Zain, Mobily ได้ทันทีที่สนามบิน ราคาแพ็กเกจเริ่มต้นประมาณ 30–50 SAR (300–500 บาท) ใช้งานได้ทั้งโซเชียลและ Google Maps สบายหายห่วง
Q: ใช้บัตรเครดิตได้ไหม? A: ใช้ได้เกือบทุกที่ โดยเฉพาะในโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ในเมืองใหญ่ บัตรที่นิยมใช้ได้แก่ Visa, MasterCard และ American Express แต่ถ้าไปยังเมืองเล็กหรือแหล่งชุมชน ควรพกเงินสดติดตัวไว้บ้าง เพราะบางร้านค้าท้องถิ่นอาจรับเฉพาะเงินสด
Q: คนไทยที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถเข้าไปเที่ยวในเมกกะหรือมาดินะห์ได้ไหม? A: สำหรับ เมกกะ (Makkah) ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าไป เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่สามารถเที่ยวเมืองรอบ ๆ ได้ ส่วน มาดินะห์ (Madinah) นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถเข้าชมบางส่วนของเมืองได้ แต่เขตมัสยิดศักดิ์สิทธิ์อนุญาตเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น
Q: ซาอุดิอาระเบียมีของฝากอะไรน่าซื้อกลับไทยบ้าง? A: ของฝากยอดนิยมได้แก่ อินทผลัมคุณภาพสูง เช่น Ajwa Dates, น้ำหอมอาหรับ (Oud & Attar) กลิ่นหอมเฉพาะตัว, เครื่องเทศ เช่น ซาฟฟรอน การ์ดามอม, ผ้าพันคอ Keffiyeh สัญลักษณ์ของตะวันออกกลาง, งานหัตถกรรมไม้และทองเหลือง
Sat, 20 Sep 2025
Thai Lion Air
กรุงเทพ (DMK) ไป เจดดาห์ (JED)
เริ่มจาก THB 8,049.45
Sat, 20 Sep 2025
flynas
กรุงเทพ (DMK) ไป เจดดาห์ (JED)
เริ่มจาก THB 8,365.68
Tue, 23 Sep 2025
Thai VietJet Air
กรุงเทพ (BKK) ไป เจดดาห์ (JED)
เริ่มจาก THB 8,447.31