‘ไต้หวัน’ หนึ่งในประเทศยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวหลงใหลเป็นอย่างมาก ยิ่งตอนนี้ไต้หวันเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวชมกันแล้ว ยิ่งทำให้ประเทศแห่งนี้ดูคึกคักมากเข้าไปใหญ่ เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ที่เที่ยวไต้หวันนั้นกับมีเยอะแยะมากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้มาแวะเวียนกันทั้งร้านอาหาร ธรรมชาติ ตลาดกลางคืนสุดขึ้นชื่อ และอีกหลากหลายจุดท่องเที่ยวที่บอกได้เลยว่าครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปทัวร์ไต้หวันที่ไหนดี ที่ไหนเด็ด เราจะตามเก็บกันให้ครบ กันแบบ 4 วัน 3 คืน

แนะนำได้เลยว่าช่วงเวลาในไต้หวันครั้งนี้ของคุณจะสนุกสนานอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ตามไปกดจองตั๋วเครื่องบินไต้หวันผ่าน Traveloka Travel & Lifestyle App กันได้เลยแล้วออกมาท่องเที่ยวแบบคุ้มค่าคุ้มราคาไปพร้อมกันกับเราได้เลย

เริ่มต้นกันที่วันแรกของการเดินทางผ่านตั๋วเครื่องบินที่เราได้ทำการกดจองผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka Travel & Lifestyle App ตัวช่วยเรื่องการเดินทางดี ๆ ที่จะทำให้เราสามารถออกเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด เรียกได้ว่าซื้อตั๋วผ่านแอปนี้แอปเดียวก็สามารถออกเดินทางได้อย่างสุดคุ้ม

โดยการออกเดินทางในครั้งนี้ของเราจะไปทัวร์ไต้หวันที่ไหนดี เริ่มแรกก็คงต้องบอกเล่ากันก่อนว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่อยู่ห่างจากไทยไม่มากนัก ทำให้เวลาที่ไต้หวันจะเร็วกว่าเราประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้หมดปัญหาเรื่องการปรับเปลี่ยนเวลา แถมยังเป็นประเทศที่สามารถเสาะหาที่เที่ยวไต้หวันได้อย่างง่ายดาย เพราะเป็นแหล่งรวมจุดเช็กอินที่หากใครมาเที่ยวแล้วจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน

เล่าเรื่องราวของไต้หวันกันมาพอสมควรก็ได้เวลาลงจอดที่สนามบินไต้หวันกันแล้ว เมื่อถึงที่สนามบินก็ได้เวลานั่งรถไฟเข้าเมืองไปลงกันที่ Taipei main station หรือสถานีรถไฟกลางใจกลางเมืองไต้หวัน ซึ่งที่เราตัดสินใจพักที่นี่เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สะดวกสบายแถมสามารถเดินต่อไปท่องเที่ยวได้ในหลากหลายจุด

ซึ่งหลังจากที่เราเก็บกระเป๋าเสร็จกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็จะออกเดินทางไปยังที่เที่ยวไต้หวันที่แรกของวันอย่าง วันหลงซาน (Lungshan Temple) หรือ บางคนจะออกเสียงว่า วันหลวงซาน หนึ่งในวัดที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากในประเทศไต้หวัน ที่สายมูเตลูห้ามพลาด เพราะนอกจากจะมีเรื่องความสวยงามแล้ว ยังเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากราบไหว้บูชาพระเพื่อขอพรเกี่ยวกับเรื่องความสำเร็จ หน้าที่การงาน และขอให้สมหวังในเรื่องของความรักนั่นเอง ว่าแล้วก็ขอตัวเดินทางไปกราบไหว้ ขอพรให้ตัวเองกันก่อนจะแวะไปเดินเล่นถ่ายรูปและชื่นชมความงดงามภายในวัดกันก่อนเลย

หลังจากเดินเท่ียวชมวัดหลงซานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปท่องเที่ยวกันต่อที่อีกวัดที่น่าสนใจในไต้หวันอย่าง วัดต้าหลงตง เป่าอัน (Dalongdong Baoan Temple) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า วันเป่าอัน หนึ่งในวัดพุทธแบบจีนอันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1804 โดยผู้อพยพชาวจีนฟูเจี้ยน ที่สร้างเพื่อตั้งไว้เป็นที่สักการบูชาและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับชาวพุทธ

และด้วยความงดงามของวัดแห่งนี้จึงทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม โดย UNESCO ว่าเป็นวัดที่มีความงดงามและวิจิตรมากที่สุดของเมืองไทเปนั่นเอง จึงทำให้สถานที่เที่ยวไต้หวันแห่งนี้ เป็นที่จับตามองและเดินทางมาเช็กอินจากเหล่าทัวร์และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเองอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจาก Instagram

ทัวร์ไต้หวันที่ไหนดี ที่ไหนเด็ดกันไปบ้างแล้วก็ได้เวลามาหาอะไรรับประทานกันบ้าง วันนี้เราจึงพามาเปิดกันด้วยเมนูแรกที่ Lin Dong Fang Beef Noodle ( 林东芳牛肉面) หรือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าดัง ที่หากใครเดินทางมาที่ไต้หวันแล้วละก็ต้องไม่พลาดกับร้านที่หลายคนโหวตให้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่อร่อยที่สุด จนตั้งให้เป็น The Besy Beef Noodle กันเลยทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจากInstagram

โดยร้านแห่งนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่หัววันยันตี 4 และปิดในทุกวันอาทิตย์ ทำให้คนอัดแน่นมารับประทานค่อนข้างเยอะ แถมภายในร้านมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดเพราะอยากดูแลทุกคนให้ได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้คนมารอคิวค่อนข้างมาก แต่รับรองได้เลยว่าหากคุณได้ลิ้มลองรสชาติของก๋วยเตี๋ยวชามนี้แล้วละก็จะต้องติดใจเป็นอย่างมาก เพราะด้วยรสชาติของน้ำซุป และเนื้อตุ๋นที่เปื่อยมาอย่างดีงาม เอ็นแก้วชิ้นใหญ่กรุบกรอบและความหอมอร่อยที่ลงตัวแบบเรียกได้ว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว

ก่อนแวะกลับไปที่พักเวลามาไต้หวันจะพลาดที่เที่ยวยอดฮิตไปได้อย่างไรกับ อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) ที่เที่ยวไต้หวันสุดขึ้นชื่อ ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชก ที่เป็นที่รักของชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก

จึงได้มีการออกแบบอนุสรณ์สถานมาให้เป็นอาคารสีขาว ประกอบไปด้วยหลังคาสีน้ำเงินรูปทรง 8 เหลี่ยม และมีบันไดด้านหน้าถึง 89 ขั้น เพื่อบอกเล่าถึงอายุขัยไขของท่านประธานาธิบดีนั่นเอง ดังนั้นสถานที่แห่งนี้เลยกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อชื่นชมและเดินถ่ายรูปเล่นกันนั่นเอง

มาถึงไต้หวันซื้ออะไรดี เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันเยอะมาก เพราะเดินทางมาท่องเที่ยวทั้งที ทั้งของกินของใช้ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ว่าเด็ด แต่หนึ่งในนั้นที่เราจะพาทุกคนไปกันคือ การไปเดินเล่นซื้อของกินกันที่ ตลาดกลางคืนซื่อหลิน (Shilin Night Market) หนึ่งในตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไต้หวัน

ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในย่านที่มีความคึกคักมากที่สุด โดยภายในตลาดจะมีอยู่ 2 โซนหลัก ๆ ด้วยกันคือ โซนตลาดในอาคารเก่าที่จะอัดแน่นไปด้วยร้านอาหารสตรีทฟู้ดสไตล์ไต้หวันมากมายและร้านขนม รวมไปถึงร้านเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง และของฝากต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีโซนบริเวณด้านนอกอาคารที่เรียงรายไปด้วยแหล่งรวมของกินอื่น ๆ อีกมากที่บอกได้เลยว่าสามารถเดินเที่ยวเล่นได้ทั้งสองโซนตลอดทั้งค่ำคืนเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ขอตัวไปหาอะไรรับประทานก่อนจะกลับโรงแรมไปพักผ่อนกันก่อนเลย

เริ่มต้นเช้าวันที่สองหลังจากไต้หวันเปิดประเทศให้เราได้เดินทางมาท่องเที่ยวหนึ่งในสถานที่แรกที่เราอยากไปมาก ๆ เลยนั่นก็คือ อุทยานเย่หลิว Yehliu Geopark เป็นอุทยานทางธรรมชาติที่มีความงดงามเป็นอย่างมากเป็นพื้นที่ติดชายทะเลที่ทุกคนสามารถมาชื่นชมความสวยงามทางด้านธรณีวิทยาได้อย่างใกล้ชิด

โดยที่ภายในอุทยานแห่งนี้มีหินรูปร่างต่าง ๆ ที่เกิดจากการที่คลื่นลมทะเลกัดเซาะจนกลายมาเป็นร่างแปลกตาอาทิ หินช้าง หินรูปเสือดาว และไฮไลท์เด็ดอย่างหินราชินี ที่เป็นเอกลักษณ์เด็ดของที่แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ นับได้ว่าเป็นจุดเช็กอินที่เราอยากเดินทางมาเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความสวยงามของธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองแล้วยังมีบรรยากาศโดยรอบของลมทะเลที่ทำให้เราสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจเดินเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว บอกเลยว่าต้องไปถ่ายรูปเช็กอินสักหน่อยแล้ว!

เดินทางชมความงดงามของริมโขดหินกันไปแล้วก็ได้เวลาไปต่อกันกับที่เที่ยวไต้หวันที่ถัดมาอย่าง น้ำตกซือเฟิ่น Shifen Waterfall หรือ ไนแองการ่าไต้หวัน น้ำตกที่มีลักษณะคล้ายกับเกือกม้าเหมือนกับไนแองการ่าที่อเมริกาที่เราสามารถเดินทางมาเที่ยวชมได้ที่เมืองไทเปแห่งนี้

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าหลายเท่าแต่ความงดงามของสายน้ำที่หลั่งไหลลงมาจากหน้าผาสุดอลังการก็ทำให้เราสามารถมองเห็นเป็นสายรุ้งได้อย่างสวยงาม ไม่แพ้กับที่อเมริกาเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวหลากหลายคนนิยมมาเดินเที่ยวชมและทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปพร้อมกับการแวะชมความงดงามอีกด้วยเช่น การมาปั่นจักรยาน และปิกนิกที่ริมน้ำตกนั่นเอง แต่สายเราก็ต้องขอเดินเเวะไปถ่ายรูปคู่กับน้ำตกและสายรุ้งกันที่มุมยอดฮิตกันก่อนเลย

หลังจากเที่ยวเล่นกันไปเหนื่อยพอสมควรเราก็กลับมาที่พักเพื่อแวะอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนออกมาหาอะไรทานกันต่อที่ Yong Kang Beef Noodles อีกหนึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ต้องบอกเลยว่ายังติดใจกับร้านเมื่อวานไม่หายวันนี้เลยขอมาปักหมุดกับอีกร้านสุดขึ้นชื่อไม่แพ้กันที่ต้องบอกเลยว่าร้านนี้เค้าเปิดเป็นสองช่วงเวลา ซึ่งเรามาในเวลาเย็นเข้าหน่อยแล้ว ทำให้คนค่อนข้างเยอะนิดนึง

ซึ่งมาร้านนี้บอกเลยว่าเมนูที่ต้องลองให้ได้คือ เมนูเนื้อตุ๋นชิ้นใหญ่ที่ทางร้านจะเสิร์ฟคู่ไปกับเอ็นตุ๋นนุ่ม ๆ ที่บอกได้เลยว่าฟินสุด ๆ เพราะรสชาติของน้ำซุปเข้าเนื้อได้เป็นอย่างดี แถมมีรสชาติของน้ำซุปให้เราเลือกด้วยกันถึงสองแบบคือ แบบเผ็ด และ แบบใส ซึ่งส่วนตัวเราชอบแบบใสมากกว่าเพราะรสชาติของน้ำซุปค่อนข้างเข้มข้นและอร่อยนัวมาก ๆ ทานคู่ไปกับผักดองที่ทางร้านเสิร์ฟให้ยิ่งช่วยทำให้รสชาติของก๋วยเตี๋ยวเรามีหลายมิติมากยิ่งขึ้นนั่นเอง แนะนำเลยว่ามาไต้หวันซื้ออะไรดีอย่างแรกที่ต้องลองเลยคือก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เพราะอร่อยเด็ดของจริง

อีกหนึ่งสิ่งที่ไต้หวันเปิดประเทศและทำให้เราอยากเดินทางมามากที่สุดคือ 春水堂 Chun Shui Tang ชุนซุ่นถาง ร้านชานมไข่มุกร้านแรกของไต้หวันที่ต้องบอกเลยว่าเป็นรสชาติดั้งเดิมที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งภายในร้านมีให้เราเลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ที่ต้องบอกเลยว่าสายชานมไข่มุกแบบเราที่เคยลองแต่แบบเย็น ๆ วันนี้ได้ลองแบบร้อนดูแล้ว ติดใจเป็นอย่างมาก มันนัวละมุน ทานคู่ไปกับไข่มุกนุ่ม ๆ ยิ่งฟินสุด ๆ

แถมภายในร้านยังไม่ได้มีแค่ชานมไข่มุกอย่างเดียวยังมีอาหารและขนมหวานอีกหลากหลายอย่างที่ต้องบอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้กัน ใครที่ชื่นชอบชานมไข่มุกแล้วละก็ ร้านนี้ถือเป็นหนึ่งในลิสต์ที่หากมีเวลามาไต้หวันแล้วละก็ต้องมาลิ้มลองรสชาติของต้นตำรับที่นี่เลย ว่าแล้วก็ขอตัวไปรับประทานก่อนจะมืดไปกว่านี้แล้วแวะกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเริ่มเช้าวันถัดไปกันเลย

เริ่มต้นเช้าวันที่สาม ในเช้าวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมที่เที่ยวไต้หวันสุดฟิน ที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยดูหนังเรื่อง Spirited Away หนังชื่อดังที่ได้มีการนำฉากบางฉากมาจากที่หมู่บ้านแห่งนี้ในประเทศไต้หวันนั่นก็คือ หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Village) เมืองจีหลง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์มากมาย

และกลิ่นอายของความคลาสสิคที่เหมือนกับว่าเราได้ย้อนยุคไปในสมัยโบราณ โดยภายในที่เที่ยวแห่งนี้จะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ขนมและโรงน้ำชาสุดขึ้นให้คุณได้มาเดินเที่ยวชมและสัมผัสไปกับบรรยากาศได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งจุดเด่นของที่นี่เลยจะเป็นโคมไฟสีแดงที่ห้อยอยู่ตามแนวทางเดินที่เมื่อเดินไปได้ถึงช่วงเย็น ๆ ก็จะจุดไฟเพื่อทำให้เห็นเป็นภาพบรรยากาศที่งดงามอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่อบอุ่นอย่างมากเลยทีเดียว แนะนำเลยว่าหากใครได้มาแล้วต้องไม่พลาดกับไอติมผักชีถั่วตัดสุดขึ้นชื่อของที่นี่ และยังมีร้านค้าอีกมากมายที่บอกเลยว่าอิ่มจุก ๆ กันอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ขอตัวไปเดินเล่นถ่ายรูปเช็กอินกันก่อนเลย

ขอบคุณรูปภาพจากInstagram

หลังจากเที่ยวเล่นในหมู่บ้านจิ่วเฟิ่นไปได้ถึงช่วงบ่าย ๆ ก็กลับมาพักผ่อนที่ห้องกันแปปนึงก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวร้านคาเฟ่ร้านนึงกันต่อ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นร้านคาเฟ่ที่เราอยากมาเป็นอย่างมากกับร้าน Fujin Tree 353 Cafe by simple kaffa ร้านคาเฟ่ชิค ๆ ที่มีทั้งกาแฟ ของหวาน และของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีโซนให้เรานั่งทั้งแบบ Outdoor และ Indoor

ขอบคุณรูปภาพจากInstagram

โดยที่ร้านคาเฟ่แห่งนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดปักหมุดเช็กอินที่เที่ยวไต้หวัน ที่เราอยากมาเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินเที่ยว มานั่งเล่นชิว ๆ ถ่ายรูปเพลิน ๆ กันที่ร้านแห่งนี้เลย โดนเมนูที่เราชอบมากของทางร้านจะเป็นลาเต้ ที่เนื้อสัมผัสของกาแฟจะนุ่มละมุนลิ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เวลามาไต้หวันทั้งที อีกหนึ่งที่ที่คนนิยมมาเดินเที่ยวชมกันนั่นก็คือ ย่านซีเหมินติง แหล่งชอปปิ้งยอดนิยมที่หากใครไม่รู้ว่ามาไต้หวันซื้ออะไรดี ถ้ามาที่นี่จะได้ของกลับไปอีกเพียบ เพราะไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับแล้ว ยังมีร้านอาหารสตรีทฟู้ดมากมายเรียงรายมาให้เราได้เดินเที่ยวชมกันอย่างจัดเต็ม

เรียกได้ว่ามาที่นี่จบครบในที่เดียวเลย โดยร้านอาหารที่เราอยากแนะนำก็จะมีทั้ง ไก่ทอด สุดขึ้นชื่อ บะหมี่อาจงแสนอร่อยที่หากใครไม่ชอบแนวใบโหระพาก็อาจจะไม่ชอบ ซึ่งส่วนตัวแล้วทางเราชอบมาก กับอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ลองไม่ได้เลยนั่นก็คือ เต้าหู้เหม็นทอด ข้าง ๆ ร้านบะหมี่อาจงที่บอกเลยว่า ถึงแม้กลิ่นจะไม่พึงประสงค์ แต่รสชาติเต้าหู้เหม็นที่ทอดร้อน ๆ ใหม่ ๆ ทานคู่กับน้ำซอสของทางร้านแล้วละก็ มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ แต่บอกเลยว่าต้องทานแบบที่ทอดร้อน ๆ เท่านั้นนะถึงจะอร่อย นอกจากนี้ยังมีร้านอีกมากมายที่สามารถเดินเที่ยวชมเเละเลือกซื้อกันได้เลยว่าแล้วก็ขอแวะไปหาอะไรรองท้องกันเบา ๆ ก่อนเลยแล้วกันทุกคน

ขอบคุณรูปภาพจากInstagram

ปิดท้ายคืนนี้เราจะพามากินหม้อไฟไต้หวันสุดขึ้นชื่อที่หากใครมาที่ไต้หวันแล้วละก็จะต้องมาลองที่ร้านนี้กับ Mala Yuanyang Hotpot บุฟเฟ่ต์หมาล่าแบบจัดเต็มที่มีหลากหลายเมนูให้คุณได้เลือกสรรทั้งเนื้อ ของทะเล ผัก ของทอด ของหวาน และเครื่องดื่มอีกมากมายที่จัดเต็มมาให้คุณได้รับประทานกันแบบจุก ๆ เรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม

ขอบคุณรูปภาพจากInstagram

ที่หากคุณเป็นสายกินตัวยงแล้วละก็จะต้องหลงรักร้านหมาล่าที่นี่อย่างแน่นอน แอบกระซิบว่าถึงแม้ร้านจะเหมือนที่ไทย แต่รสชาติหมาล่าของที่นี่จะแตกต่างกันออกไป มีความเผ็ด และชาแบบนัว ๆ มากกว่าของไทย หากอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็มาลองกันได้เลย แต่ทางเราขอวาร์ปไปทานกันต่อก่อนเลย

มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทางมาที่เที่ยวไต้หวันที่วันนี้เราจะพามายังสถานที่ที่เรียกได้ว่าเวลามาไต้หวันจะพลาดไม่ได้กับการเดินทางมา ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market) ตลาดปลาสุดยิ่งใหญ่ที่ไม่เป็นสองรองใคร เมื่อเทียบกันแล้วก็อาจเทียบได้กับตลาดปลาที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพราะด้วยวัตถุดิบและคุณภาพที่บอกได้เลยว่า คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ

โดยภายในตลาดปลาแห่งนี้จะมีหลากหลายโซนให้เราได้เดินเล่นกันทั้งโซนของสด โซนปิ้งย่าง โซนนั่งทาน และโซนซูชิบาร์ ที่ต้องบอกเลยว่าทางเราชอบโซนซูชิบาร์เป็นอย่างมาก เพราะจะสามารถยืนทานซูชิกันได้แบบสด ๆ แถมราคาย่อมเยา เรียกได้ว่าเราสั่งกันมาแบบจัดเต็ม นอกจากนี้ยังมีโซนที่ขายแบบสามารถซื้อไปทานได้เลยก็จะมีทั้งของสดและของหวาน ที่ทีเด็ดเค้าเลยคือ พุดดิ้งนม และพุดดิ้งชาเขียว รวมไปถึงชีสเค้ก ที่บอกเลยว่าอร่อยฟินสุด ๆ ใครที่ทานของคาวแล้วก็สามารถตบด้วยของหวานในนั้นได้เลยถูกมาก ๆ

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแลนด์มาร์กเด็ดที่หากใครเดินทางมาที่เที่ยวไต้หวันแล้วละก็จะต้องแวะมาที่ ตึกไทเป 101 จุดเช็กอินที่ต้องบอกเลยว่าใครมาแล้วจะต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปกับตึกที่มีขนาดสูงกว่า 508 เมตร 101 ชั้น ที่มาพร้อมด้วยนวัตกรรมการออกแบบสมัยใหม่ที่ทำให้ตัวตึกสามารถทนทานต่อการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ ซึ่งภายในตัวห้างจะมีร้านค้าชั้นนำมากมาย และมีจุดชมวิว ที่สามารถขึ้นชมได้แบบ 360 องศา

ที่ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ไต้หวันเปิดประเทศแล้วก็มีนักท่องเที่ยวมากมายแวะเวียนมาถ่ายรูปหน้าตึกกันเป็นจำนวนมากทำให้เราหาโลเคชั่นที่ถ่ายค่อนข้างยาก ดังนั้นบอกเลยว่าหากใครที่จะมาแวะถ่ายรูปแล้วละก็ให้เดินข้ามไปฝั่งตรงข้าม แล้วเดินเยื้องไปตรงสนามบ้านด้านข้างจะมีเนินเล็ก ๆ สามารถไปถ่ายมุมนั้นก็จะได้รูปที่เห็นมุมตึกน่ารัก ๆ แบบนี้เลย

ก่อนเดินทางกลับกันก็ขอพาทุกคนไปแวะทานเสี่ยวหลงเป่ากันก่อนเลยที่ Din Tai Fung ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกันมาบ้าง เพราะมีเปิดหลายสาขาที่เมืองไทย แต่ไหน ๆ ไต้หวันก็เปิดประเทศทั้งทีเราเลยอยากพาทุกคนมาลิ้มลองรสชาติแบบดั้งเดิมกันถึงถิ่นกันบ้างว่ารสชาติออริจินอลจะอร่อยเหมือนที่เมืองไทยหรือไม่

ซึ่งต้องบอกเลยว่า รสชาติที่นี่จะมีความละมุนมากกว่าแถมยังมีเมนูให้เลือกหลากหลายกว่ามาก โดยเมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ เสี่ยวหลงเป่าปู ช็อกโกแลต และขนมจีบกุ้ง กับเกี๊ยวกุ้งผัดซอส ที่บอกเลยว่าอร่อยฟินสุด ๆ ถ้าหากใครได้มาแล้วละก็ห้ามพลาดเมนูเหล่านี้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ที่เที่ยวไต้หวันแบบ 4 วัน 3 คืนที่เราได้อัดแน่นแหล่งดี ๆ มาให้คุณแบบจุก ๆ แบบที่เรียกได้ว่าทัวร์ไต้หวันที่ไหนดี เราจะพาคุณไปทุกที่ รับรองได้เลยว่าไต้หวันเปิดประเทศในครั้งนี้ จะต้องลุกเป็นไฟ สามารถท่องเที่ยวกันได้แบบจัดเต็มกันไปเลยว่าแล้วหากใครที่อยากมาท่องเที่ยวแบบนี้แล้วละก็ไม่รอช้ารีบตามมากันได้เลย