เมื่อพูดถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในที่เที่ยวญี่ปุ่น หนึ่งในจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวไทยคงหนีไม่พ้น อุโมงค์เมเปิ้ล หรือ โมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ที่นี่เป็น จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นที่สวยติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ และมักจะถูกแนะนำในทุกไกด์บุ๊กช่วงฤดูใบไม้ร่วง ด้วยแนวต้นเมเปิ้ลสีแดง ส้ม ทองที่เรียงรายตลอดทางเดินกว่า 200 เมตร ทำให้เกิดเป็นอุโมงค์ธรรมชาติสุดโรแมนติกที่ไม่ว่าใครก็ต้องตกหลุมรัก
ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลคือตั้งแต่ปลายตุลาคมถึงกลางพฤศจิกายน ซึ่งตรงกับเทศกาล Momiji Matsuri ของคาวากูจิโกะพอดี บรรยากาศในช่วงนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติที่มาเก็บภาพใบไม้แดงญี่ปุ่นกับฉากหลังภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ทั้งโรแมนติก เดินทางง่าย และมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร “อุโมงค์ใบไม้แดงคาวากูจิโกะ” แห่งนี้คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาดในทริปญี่ปุ่นปลายปี! อ่านจบแล้วกดจองตั๋วเครื่องบินและที่พักใกล้อุโมงค์เมเปิ้ลและทะเลสาบคาวากุจิโกะกับ Traveloka เลย!
แน่นอนว่าหัวใจหลักของที่นี่ก็คือ “อุโมงค์เมเปิ้ล” หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Momiji Corridor ซึ่งเป็นทางเดินเลียบคลองเล็ก ๆ ริมถนนริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) ซึ่งเป็นที่เที่ยวใกล้ภูเขาไฟฟูจิมีต้นเมเปิ้ลปลูกเรียงรายกว่า 60 ต้น ยาวประมาณ 150–200 เมตร เมื่อถึงช่วงปลายตุลาคมถึงกลางพฤศจิกายน ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีเป็นแดงสด เหลืองทอง และส้มพริ้วสวยงามจนเกิดเป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
จุดนี้ถือเป็นอุโมงค์ใบไม้แดงคาวากูจิโกะที่โด่งดังไปทั่วโลก และเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นที่ถ่ายรูปสวยที่สุด เพราะมีลำธารเล็ก ๆ คั่นกลาง และมีการประดับไฟ Light-up ยามค่ำคืนช่วงเทศกาลใบไม้แดงด้วย! ไม่ว่าคุณจะมาเดินเล่น ถ่ายรูป หรือแค่หยุดยืนซึมซับบรรยากาศ บอกเลยว่าประทับใจแน่นอน
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลก็คือจุดถ่ายรูปฟูจิใบไม้เปลี่ยนสี หรือฉากสุดคลาสสิกที่ใบเมเปิ้ลสีแดงสดช่วยกรอบวิวภูเขาไฟฟูจิด้านหลังเอาไว้อย่างลงตัว หากมาในวันที่ท้องฟ้าเปิด คุณจะได้ภาพวิวที่สวยเหมือนโปสการ์ดโดยไม่ต้องแต่งภาพเลยสักนิด!
หลายคนมักจะขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณใกล้เคียง เช่น ทางเดินเหนือสะพาน หรือบริเวณสวนเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ เพื่อเก็บมุมนี้แบบเต็ม ๆ เป็นไฮไลท์ที่ทำให้หลายคนเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน เพราะอยากเห็นฟูจิท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีแบบในฝัน และใช่เลย! ที่นี่คือจุดที่คุณจะได้เห็นแบบนั้นจริง ๆ
ถ้ามาในช่วงปลายตุลาคมถึงกลางพฤศจิกายนพอดี คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเทศกาลใบไม้แดง คาวากูจิโกะ (Momiji Matsuri) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีบริเวณอุโมงค์เมเปิ้ลมีทั้งร้านขายอาหารพื้นเมือง คาเฟ่ชั่วคราว งานศิลปะจากใบเมเปิ้ล และกิจกรรมวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ลองเพียบ!
ไฮไลท์ของเทศกาลคือช่วงกลางคืนที่มีการเปิดไฟ Light-up ทั่วอุโมงค์ ทำให้ใบไม้แดงยามค่ำคืนเปล่งประกายอย่างสวยงาม เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุด ๆ เหมาะกับทั้งสายถ่ายรูป คู่รัก หรือครอบครัว ถ้าคุณอยากสัมผัสอุโมงค์เมเปิ้ลญี่ปุ่นในแบบที่คึกคักและอบอุ่นที่สุด ต้องไม่พลาดช่วงเทศกาลนี้เลย!
นอกจากการชมใบไม้แดงในอุโมงค์แล้ว บรรยากาศโดยรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะเองก็งดงามไม่แพ้กันเลย โดยเฉพาะเส้นทางเดินเลียบทะเลสาบที่เชื่อมต่อกับอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสี คุณสามารถเดินชมวิวใบไม้แดงได้ตลอดแนวทะเลสาบ พร้อมเห็นภูเขาไฟฟูจิสะท้อนอยู่ในผิวน้ำ
ระหว่างทางจะมีทั้งคาเฟ่เก๋ ๆ ร้านขายของที่ระลึก และม้านั่งพักเป็นระยะ ทำให้การเที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลไม่ใช่แค่การชมใบไม้ แต่คือการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างสงบ ใครที่อยากพักใจจากความวุ่นวาย และเก็บช่วงเวลาเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยความงาม นี่คือกิจกรรมที่คุณต้องลองด้วยตัวเอง!
อุโมงค์เมเปิ้ล หรือ โมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko) ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) โดยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จะกลายเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นที่สวยที่สุด มีทั้งวิวใบไม้แดง ฟูจิ และทะเลสาบในจุดเดียว ทำให้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สามารถเที่ยวแบบไปเช้า–เย็นกลับจากโตเกียวได้ด้วย โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน แนะนำให้ใส่อุโมงค์เมเปิ้ลเข้าไปในทริปฟูจิแบบ One Day Trip ได้เลยจ้า!
สำหรับนักท่องเที่ยวไทย สามารถบินเข้าสู่สนามบิน Narita หรือ Haneda (โตเกียว) ได้โดยสายการบินหลักและโลว์คอสต์หลายเจ้า เช่น Thai Airways, ANA, ZIPAIR หรือ AirAsia X จากนั้นต่อรถไฟหรือรถบัสมายัง Kawaguchiko ได้ง่าย ๆ
ถ้าคุณมี JR Pass ก็อาจใช้ร่วมกับการเดินทางบางช่วงได้ แต่แนะนำให้เช็กเส้นทางล่วงหน้า เพราะอุโมงค์เมเปิ้ลอยู่ในโซนที่รถไฟ JR อาจไม่ครอบคลุมเต็มทั้งหมด บางส่วนต้องใช้บริการรถไฟเอกชนหรือรถบัสในพื้นที่
การเดินทางจากโตเกียวมายังอุโมงค์ใบไม้แดงคาวากูจิโกะทำได้ง่ายมาก โดยมี 3 วิธีหลัก ๆ:
🚄 รถไฟ (Rail) + รถบัสต่อ
🚌 รถบัสตรงจากโตเกียว
🚗 เช่ารถขับเอง
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้อุโมงค์เมเปิ้ลกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นก็คือ “ความครบเครื่องว” ไม่ว่าจะเป็นต้นเมเปิ้ลสีสดใส, วิวภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ, บรรยากาศงานเทศกาล, และ การเดินทางที่สะดวกจากโตเกียว ทั้งหมดนี้รวมกันอย่างลงตัว กลายเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
จุดเด่นแรกคือ ความยาวของอุโมงค์ที่แม้จะไม่ยาวมากนัก (ราว 150–200 เมตร) แต่มีการจัดภูมิทัศน์ให้ต้นเมเปิ้ลเรียงตัวอย่างสวยงาม บวกกับทางน้ำเล็ก ๆ ที่คั่นกลางและใบไม้ที่ปลิวลงมาบนพื้นราวกับพรมธรรมชาติ ทำให้อุโมงค์ใบไม้แดงคาวากูจิโกะเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับประเทศ
อีกหนึ่งไฮไลท์คือ “ฟูจิคู่ใบไม้แดง” ที่หาดูไม่ได้ง่าย ๆ จากที่อื่น และสามารถชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืนในช่วงเทศกาล Momiji Matsuri ที่มีการประดับไฟ Light-up ยามค่ำคืน สร้างบรรยากาศโรแมนติกเกินต้าน เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่คนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายนต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต
สุดท้าย ความสะดวกของการเดินทางก็ทำให้เที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ไม่ว่าคุณจะมาแบบครอบครัว คู่รัก หรือเที่ยวคนเดียวก็ตาม ที่นี่เปิดต้อนรับทุกคนด้วยเสน่ห์ธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือนเลยล่ะ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นเมเปิ้ลบริเวณอุโมงค์ใบไม้แดงคาวากูจิโกะจะเปลี่ยนสีพร้อมกัน สร้างภาพสุดอลังการของสีแดง ส้ม เหลืองไล่เฉดตลอดทางเดิน ที่สำคัญคือคุณจะได้เห็นวิวใบไม้แดงประกอบฉากกับภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา เหมาะกับการถ่ายภาพสวย ๆ มากเลยจ้า!
โดยเฉพาะช่วงประมาณวันที่ 1–23 พฤศจิกายน มักจะตรงกับเทศกาล Momiji Matsuri ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานจะมีการประดับไฟ Light-up ยามค่ำคืนทั่วทั้งอุโมงค์เมเปิ้ลพร้อมร้านค้า อาหาร และกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมาย ใครที่อยากสัมผัสความโรแมนติกของใบไม้เปลี่ยนสีทั้งกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าต้องไม่พลาดช่วงนี้!
สำหรับคนที่วางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายนก็แนะนำให้เช็กพยากรณ์ใบไม้แดงล่วงหน้าจากเว็บไซต์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เพราะสีของใบไม้จะแตกต่างไปเล็กน้อยในแต่ละปีขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพอากาศ หากมาในจังหวะที่พีคพอดี รับรองว่าคุณจะได้ภาพสุดประทับใจที่เก็บไว้ในใจไปอีกนานแน่นอน!
กิจกรรมแรกที่พลาดไม่ได้คือการเดินเล่นชิล ๆ ท่ามกลางอุโมงค์ใบไม้แดงคาวากูจิโกะที่ทอดยาวกว่า 150 เมตร สองฝั่งทางเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลหลากสีที่เรียงรายกันอย่างลงตัวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใครที่เป็นสายถ่ายรูปจะต้องถูกใจแน่นอน เพราะแสงธรรมชาติตกกระทบใบไม้ทำให้เกิดเฉดสีอุ่น ๆ ที่งดงามมาก ไม่ต้องถามว่า “จุดชมโมมิจิที่สวยที่สุดอยู่ตรงไหน” เพราะสวยทั้งทาง!
คุณสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งครึ่งวันในการเดินชม เดินถ่ายรูป พักใต้ต้นไม้ หรือจิบกาแฟจากคาเฟ่ใกล้ ๆ พร้อมชื่นชมวิวสวย ๆ ของใบไม้แดงและภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับทุกวัย ไม่ว่าจะมากับเพื่อน ครอบครัว หรือมาเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวก็เพลินได้สบายเลยจ้า
ถ้ามาเที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลช่วงต้นถึงกลางพฤศจิกายน อย่าลืมแวะเทศกาลใบไม้แดง Momiji Matsuri ที่จัดขึ้นบริเวณริมคลองใกล้อุโมงค์ ภายในงานมีทั้งการแสดงดนตรีพื้นเมือง ร้านอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่น คาเฟ่ชั่วคราว และกิจกรรมเวิร์กช็อปงานฝีมืออีกมากมาย
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือช่วงกลางคืนที่มีการประดับไฟทั่วทั้งอุโมงค์ ทำให้ใบเมเปิ้ลเปล่งประกายยามค่ำคืนในบรรยากาศสุดโรแมนติก บอกเลยว่าเหมาะมากกับคู่รักหรือสายถ่ายภาพกลางคืน! เป็นประสบการณ์ที่ทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายนของคุณพิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินบนบก ลองล่องเรือชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีบนทะเลสาบคาวากูจิโกะดูสิ! กิจกรรมนี้จะทำให้คุณได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น สะท้อนบนผิวน้ำ พร้อมฉากหลังภูเขาไฟฟูจิแบบพาโนรามา ถือเป็นมุมมองที่สวยงามไม่แพ้บนฝั่งเลย
มีทั้งบริการเรือท่องเที่ยวแบบลำใหญ่ (Sightseeing Boat) และเรือพายเล็ก ๆ ที่เช่าสำหรับคนที่อยากใช้เวลาส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ ใครที่อยากเก็บภาพฟูจิ +ใบไม้แดงในมุมที่ไม่เหมือนใคร หรือแค่ใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศเงียบสงบของทะเลสาบ
HOTEL MYSTAYS Fuji Onsen Resort มีทีเด็ดตรงที่มีห้องพักหลายห้องมาพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิแถมยังใกล้ Fuji-Q Highland และ Arakurayama Sengen Park แค่เดินไม่กี่นาที เหมาะมากกับคนที่วางแผน เที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ล และอยากแวะชมจุดดังอื่นๆ ในพื้นที่ด้วย อีกหนึ่งจุดแข็งคือมีออนเซ็นทั้งในร่มและกลางแจ้งให้ได้แช่ผ่อนคลายหลังสิ้นวันแห่งการเดินทาง การบริการที่เอาใจใส่จากพนักงาน ความสะอาด และบรรยากาศที่เงียบสงบ ก็ทำให้หลายคนรีวิวว่าที่นี่คือที่พักที่คุ้มค่าและครบในที่เดียว
Fuji View Hotel เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ ให้คุณชมวิวฟูจิซังแบบพาโนรามาจากห้องพัก ห้องอาหาร และบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งของโรงแรม ที่นี่ยังมีสวนขนาดใหญ่ในพื้นที่กว้างขวางกว่า 100,000 ตารางเมตรที่ให้สัมผัสความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลญี่ปุ่นอย่างเต็มอิ่ม แถมยังมีบริการรถรับ-ส่งฟรีและบริการเช่าจักรยานสำหรับคนที่อยากปั่นเที่ยวรอบ ๆ ทะเลสาบ Kawaguchi ด้วย
La Vista Fuji Kawaguchiko โรงแรมสไตล์หรูที่ตกแต่งด้วยดีไซน์แฝงกลิ่นอายโปรวองซ์ (Southern French) พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิ และทะเลสาบ Kawaguchi ในทุกห้องพัก ใครอยากให้ทริปอุโมงค์ใบไม้แดงเสริมด้วยความสงบและเหนือระดับ ที่นี่ตอบโจทย์! ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสุดไฮเอนด์ เช่น ออนเซ็นแบบเปิดโล่ง สปา กิจกรรมผ่อนคลาย และอ่างน้ำส่วนตัวที่ให้ชมวิวฟูจิได้จากในห้อง แถมยังใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ เช่น Kachi-Kachi Ropeway และ Fuji-Q Highland อีกด้วย
ถ้าพร้อมจะออกไปเที่ยวอุโมงค์เมเปิ้ลแล้ว อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินและจองที่พักใกล้อุโมงค์เมเปิ้ลและทะเลสาบคาวากุจิโกะกับ Traveloka ที่เดียวครบจบทั้งเที่ยวบินและที่พักด้วยราคาน่ารักสบายกระเป๋า แถมมีโปรโมชั่นเด็ด ๆ มาแจกเป็นประจำ!