ถ้าคุณกำลังมองหาจุดหมายใหม่ในญี่ปุ่นที่ทั้งสงบ สวยงาม และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ขอแนะนำให้ลอง เที่ยว Nagano สักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักที่นี่แบบไม่รู้ตัว! เมืองนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ โอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่งดงามราวภาพวาด ไม่ว่าจะฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หรือความเขียวสดในฤดูร้อน Nagano ก็น่าท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ที่เที่ยว Nagano เด็ด ๆ ถึง 15 แห่ง ที่ครบรสทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่น ตั้งแต่วัดดังที่เงียบสงบ แหล่งออนเซ็นที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขา หมู่บ้านประวัติศาสตร์ที่เหมือนหลุดออกมาจากยุคเอโดะ ไปจนถึงลานสกีระดับโลกและเส้นทางเดินเขาที่เหมาะสำหรับสายชิลและสายแอดเวนเจอร์ Nagano มีครบหมดทุกอย่าง แถมยังเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็นได้แบบชิล ๆ ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ฟีลว่าเที่ยวโตเกียวเสร็จแล้วก็แวะ Nagano ต่อได้เลย แม้จะมีเวลาน้อย

พร้อมแล้วก็ตามเราไปดูกันเลยว่า 15 สถานที่ท่องเที่ยว Nagano ที่ไม่ควรพลาดมีอะไรบ้าง รับรองว่าอ่านจบแล้วอยากแพ็คกระเป๋าออกเดินทางทันที!

ใครอยากเห็นลิงแช่ออนเซ็นต้องไม่พลาดที่นี่! Jigokudani Monkey Park เป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่เราจะได้เห็นฝูงลิงญี่ปุ่นหรือ "ลิงหิมะ" ลงแช่ออนเซ็นกันอย่างสบายใจ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว หิมะขาวโพลนตัดกับไอน้ำจากบ่อร้อน มันคือภาพน่ารักที่ละลายใจสุด ๆ แต่ก่อนจะได้ชมภาพเหล่าครอบครัวลิงนั่งแช่ออนเซ็นชิล ๆ กลางหุบเขา คุณจะต้องเดินป่าเข้าไปสักระยะหนึ่งจากที่จอดรถ เพราะฉะนั้นควรเตรียมตัวไปให้พร้อมด้วยนะ ! ขอบอกว่าวิวป่าเขารอบ ๆ ระหว่างทางเดินก็สวย ฮีลใจไม่แพ้วิวน้องลิงเลย ที่นี่เหมาะกับสายถ่ายภาพ สายธรรมชาติ และคนที่อยากหาประสบการณ์แปลกใหม่ เป็นที่เที่ยว Nagano ที่ทั้งอบอุ่นและมีเสน่ห์มาก ๆ

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/ktpFobt4srfEY7RU9

เวลาเปิด-ปิด: 8.30 น. ถึง 17.00 น.

ค่าเข้าชม: 800 เยน

เป็นหนึ่งในปราสาทไม้ดั้งเดิมที่เก่าแก่และงดงามที่สุดของญี่ปุ่น ปราสาทมัตสึโมโตะ หรือที่หลายคนเรียกว่า "ปราสาทอีกา" เพราะสีดำของตัวอาคารที่ตัดกับท้องฟ้า มอบความรู้สึกขรึมขลัง น่าหลงใหล ไม่ว่าจะหน้าหนาวที่มีหิมะโปรย หรือหน้าร้อนที่ล้อมรอบด้วยดอกไม้บาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และมุมถ่ายภาพสวย ๆ เพียบเลย

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8HyjmdBkbCJ9TxRt7

เวลาเปิด-ปิด: 8.30 น. ถึง 16.30 น.

การเดินทาง: ลงสถานี "Kita-Matsumoto" ของรถไฟ JR สาย Oito Line จากนั้นเดินอีก 10 นาที

ค่าเข้าชม:

ที่นี่คือสวรรค์ของสายธรรมชาติและคนรักการเดินป่าอย่างแท้จริง เพราะ Kamikochi คือหุบเขาสุดอลังการกลางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น มีทั้งแม่น้ำใสแจ๋ว ป่าสีเขียว และภูเขาสูงตระหง่าน เป็นจุดชมวิวที่คนญี่ปุ่นยังต้องปักหมุดมาเดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ และถ่ายภาพสะพานคัปปะกับวิวเบื้องหลังที่งดงามสุดใจ เป็นที่เที่ยว Nagano ที่เต็มไปด้วยพลังธรรมชาติ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยล่ะ ไม่ว่าจะไปฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยตรึงใจแบบมีเอกลักษณ์จนลืมไม่ลง คุณสามารถดูข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Kamikochi

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/tnTQyGG55e67AeH26

เวลาเปิด-ปิด: 5.00 น. ถึง 19.00 น.

ที่เที่ยวธรรมชาติของนางาโนะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าโบราณกลางป่าใหญ่ ที่รายล้อมด้วยต้นซีดาร์สูงใหญ่อลังการ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่มีบรรยากาศขลังเหมือนมีพลังงานบางอย่าง ศาลเจ้าทะกะกุชิมีทางเดินที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ ช่วยให้ทุกก้าวที่เดินรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่สวยงามและยังเข้าถึงความสงบได้แบบเต็มขั้น เหมาะกับสายมู สายธรรมชาติ และคนที่อยากฮีลใจ

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/X1jcbxF7VVEyZeHq7

วัดพุทธชื่อดังของนางาโนะที่เก่าแก่กว่า 1,400 ปี ซึ่งถูกค้นพบเมื่อศตวรรษที่ 7 และยังเป็นวัดที่เก็บรักษาพระพุทธรูปองค์แรกที่ถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่ญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาสักการะกันเสมอ ตัววัดดูเรียบง่ายแต่สง่างาม และมีอุโมงค์ใต้ดินที่ให้คนลอง “เดินแบบมืด ๆ” เพื่อสัมผัสถึงการปล่อยวาง เหมาะกับคนที่มองหาสถานที่สงบใจ หรืออยากรู้จักวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/bX5Tu48zYb4Uh71Y8

เวลาเปิด-ปิด: 6.00 น. ถึง 16.00 น.

Hakuba Valley เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวยอดนิยมของคนที่อยากสัมผัสหิมะขาวบริสุทธิ์ในญี่ปุ่น ที่นี่เต็มไปด้วยลานสกีระดับโลกถึง 10 แห่ง ทั้งสกี สโนว์บอร์ด และกิจกรรมหิมะอีกเพียบ เหมาะทั้งมือใหม่ที่อยากลองเล่น และสายสปอร์ตตัวจริงที่อยากท้าทายความมันส์ ส่วนในฤดูอื่น ๆ ที่นี่ก็กลายเป็นพื้นที่ธรรมชาติสวยงามมาก มีเส้นทางเดินป่า ปั่นจักรยาน และวิวภูเขาอลังการสุดลูกหูลูกตา ที่พักในโซนนี้ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเรียวกังดั้งเดิมและโรงแรมแบบโมเดิร์น ถ้าใครชอบอากาศบริสุทธิ์ วิวหลักล้าน และกิจกรรมกลางแจ้งแบบจัดเต็ม Hakuba Valley คือที่เที่ยว Nagano ที่ตอบโจทย์แบบสุด ๆ เลย

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/6mcS2NYt1ZJLsmSTA

Narai-juku คือหนึ่งในหมู่บ้านโบราณบนเส้นทาง Nakasendo ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ยุคเอโดะไว้ได้อย่างดีเยี่ยม บ้านไม้โบราณเรียงรายสองข้างถนน ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวสุด ๆ เหมือนเดินย้อนเวลาไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน แถมยังมีร้านค้าเก่าแก่ คาเฟ่ และร้านขนมท้องถิ่นที่น่ารักมาก ใครชอบข้าวกล่องปลาย่าง ขนมโมจิ หรือของฝากแบบงานฝีมือหัตถกรรมที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่คือขุมทรัพย์เลยล่ะ เดินเล่นแบบสโลว์ไลฟ์ เก็บภาพฟีลวินเทจเพลิน ๆ เหมาะมากกับคนที่อยากสัมผัสความสงบและกลิ่นอายญี่ปุ่นดั้งเดิมแบบไม่มีคนพลุกพล่าน

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8iCv8RdoRzGQ4Rcf6

เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง

Shiga Kogen คือสวรรค์ของคนรักหิมะและธรรมชาติในทุกฤดูกาล เป็นพื้นที่ราบสูงที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นลานสกีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เชื่อมต่อกันกว่า 20 สกีรีสอร์ต เหมาะทั้งนักเล่นสกีและคนที่แค่อยากเล่นหิมะหรือชมวิวหิมะขาวโพลน ส่วนหน้าร้อนก็ไม่แพ้กัน มีเส้นทางเดินป่า เส้นทางจักรยาน และจุดชมวิวรอบทะเลสาบและป่าสน บรรยากาศเย็น ๆ สบายใจ เหมาะกับทั้งนักผจญภัย ครอบครัว และสายสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว Nagano ที่มีเสน่ห์ทุกฤดู

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/xT3VLAMdaHg7KyrUA

เวลาเปิด-ปิด: 8.30 น. ถึง 17.00 น.

โอบุเสะเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและกลิ่นอายศิลปะ เป็นบ้านหลังสุดท้ายของศิลปินชื่อดังระดับตำนานอย่าง "โฮคุไซ" ผู้วาดคลื่นยักษ์ Hokusai Wave อันโด่งดัง ใครที่ชอบศิลปะต้องไม่พลาดพิพิธภัณฑ์ Hokusai-kan ที่จัดแสดงผลงานของจริง บรรยากาศในเมืองสงบ เดินง่าย ถนนสายหลักเต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านขนม ร้านของฝาก และสวนแปะก๊วยที่งดงามในฤดูใบไม้ร่วง อาหารขึ้นชื่อคือขนมเกาลัดและซอฟต์ครีมรสเกาลัดที่ห้ามพลาด เหมาะมากกับคนที่อยากเที่ยวแบบสบาย ๆ ในวันช้า ๆ และหลงรักความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/KKHwmBgyDdcBMNn87

ทะเลสาบสุวะตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและเมืองเล็ก ๆ ที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ ทะเลสาบนี้มีขนาดใหญ่และสงบ เหมาะกับการมาปั่นจักรยานรอบ ๆ เดินเล่น หรือแค่นั่งจิบกาแฟชมวิวภูเขาสะท้อนน้ำ ในช่วงฤดูร้อนจะมีเทศกาลดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ และหน้าหนาวน้ำทะเลสาบจะแข็งตัวจนเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า “Omiwatari” หรือ “เส้นทางของเทพเจ้า” ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นที่เที่ยวธรรมชาติใน Nagano ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะกับทั้งคู่รัก ครอบครัว สายธรรมชาติ และแน่นอน แฟน ๆ อะนิเมะเรื่อง Your Name! บอกเลยว่าเห็นของจริงแล้วสวยจนน้ำตาจะไหล

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/1D5z2nAWZwGNDCAn8

หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมญี่ปุ่น Nozawa Onsen ขึ้นชื่อเรื่องบ่อออนเซ็นธรรมชาติที่เปิดให้ใช้ฟรีหลายจุดในหมู่บ้าน บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในมังงะ มีถนนสายเก่า คาเฟ่ ร้านขนมพื้นเมือง และที่พักสไตล์เรียวกังให้เลือกพักผ่อนกันแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่นี่เป็นที่นิยมมากในฤดูหนาวเพราะมีลานสกีคุณภาพดี และวิวภูเขาหิมะที่สวยสะกดใจ แต่ในฤดูร้อนก็สดชื่นไม่แพ้กัน เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสชีวิตชนบทของญี่ปุ่น แช่น้ำร้อนให้สบายตัว และหลีกหนีความเร่งรีบของเมืองใหญ่

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/nb5bAUZDgCBQDzj78

Senjojiki Cirque เป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของนางาโนะที่เห็นแล้วจะต้องร้องว้าวแน่นอน! มันคือแอ่งหุบเขาธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เกิดจากธารน้ำแข็งเมื่อหลายพันปีก่อน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,600 เมตร จุดเด่นคือวิวพาโนราม่าของภูเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่อยู่รอบตัวเราทั้งหมด! วิธีขึ้นก็ง่ายมาก ขึ้นกระเช้า Ropeway จากสถานี Komagane ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่เหมาะกับทุกฤดูเลยนะ ช่วงใบไม้ผลิก็มีดอกไม้ป่าเต็มหุบเขา หน้าร้อนอากาศเย็นสบาย เดินเทรลชิล ๆ ได้ ส่วนหน้าหนาวก็เป็นสวรรค์ของคนรักหิมะเลย ที่สำคัญคือวิวแต่ละมุมเหมือนโปสการ์ดไปหมด ถ่ายรูปตรงไหนก็เป๊ะ! ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มปอด โดยไม่ต้องเดินเขาหนัก ๆ ที่นี่ตอบโจทย์สุด ๆ

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/6RCaTnp4iCdmG1CWA

สายช้อปปิ้งมามุงทางนี้ได้เลย! Karuizawa Prince Shopping Plaza เป็นเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่บรรยากาศดีสุดๆ ตั้งอยู่กลางธรรมชาติ มีวิวภูเขาล้อมรอบ และมีสระน้ำอยู่ตรงกลางด้วย ฟีลคือเหมือนมาเดินเล่นในรีสอร์ตหรูมากกว่ามาช้อปปิ้ง! ที่นี่มีร้านแบรนด์ดังให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น กีฬา ของใช้ในบ้าน หรือของกินญี่ปุ่นๆ ก็มีหมด และที่สำคัญคือราคาดีมากกกก (แบบมาก) เพราะเป็น Outlet ของจริง เดินเพลิน เดินสบาย ไม่แออัดเลย ที่นี่ยังอยู่ใกล้สถานี Karuizawa เดินแป๊บเดียวก็ถึง แถมรอบ ๆ ยังมีคาเฟ่ชิค ๆ กับวิวต้นไม้เขียว ๆ หรือถ้ามาหน้าหนาวก็จะเห็นหิมะปกคลุมเป็นฉากหลัง ฟีลโรแมนติกสุด ๆ เหมาะมากกับวันพักผ่อนเบา ๆ ที่อยากชิลและช้อปในที่เดียว!

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/uJMiu2pNb3DMWHp68

เวลาเปิด-ปิด: 10.00 น. ถึง 19.00 น.

ที่นี่คือเส้นทางชมธรรมชาติสุดอลังการระดับตำนานของญี่ปุ่น! คนชอบภูเขา ชอบหิมะ ชอบวิวสวย ๆ ต้องมาให้ได้เลยนะ เส้นทางนี้จะพาเรานั่งรถ เคเบิลคาร์ รถบัส และกระเช้าลอยฟ้าแบบต่อเนื่อง ผ่านภูเขาหิมะอลังการสุด ๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณเมษา-มิถุนา) จะมี “กำแพงหิมะ” สูงเกือบ 20 เมตรให้เดินผ่าน ฟีลเหมือนอยู่ใน Game of Thrones ไปอีก! วิวข้างทางคือสวยแบบไม่ไหว มีทั้งหุบเขา หิมะ ทะเลสาบ ภูเขาไฟ และเขื่อนคุโรเบะที่อลังมาก เดินทางอาจจะหลายต่อหน่อย แต่ถือว่าคุ้มทุกนาที ใครสายธรรมชาติหรือสายถ่ายรูปห้ามพลาด เส้นทางนี้คือความเวอร์วังที่ต้องไปเห็นกับตาตัวเอง!

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/wyb734BMtkB6nSxEA

Uzuraya คือร้านโซบะเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใกล้วัดเซ็นโคจิ (Zenko-ji) ในเมืองนากาโนะ ความพิเศษของร้านนี้อยู่ที่ “โซบะเย็น” ที่เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเข้มข้นและเครื่องเคียงที่คัดสรรมาอย่างดี ตัวเส้นโซบะทำมือสดใหม่วันต่อวัน ใช้แป้งโซบะคุณภาพจากท้องถิ่น เส้นเหนียวนุ่ม กลิ่นหอม และเคี้ยวเพลินสุด ๆ บรรยากาศร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบบ้านชนบท พนักงานน่ารัก เป็นกันเอง เหมาะกับทั้งสายกินจริงจังและนักเดินทางที่อยากสัมผัสรสชาติญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ถ้ามาเที่ยวนากาโนะแล้วกำลังมองหาอาหารท้องถิ่นแท้ ๆ ร้านนี้คือหนึ่งใน “ที่ห้ามพลาด” เลย!

Sobatei Aburaya เป็นร้านโซบะที่ตั้งอยู่ในย่านเก่าเมือง Matsumoto ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการทำโซบะแบบฮันโดะชิ (handoshi) หรือการใช้แป้งโซบะ 100% แบบไม่ผสมแป้งสาลี เส้นจึงมีความหอม เนื้อแน่น และรสชาติเข้มข้นแตกต่างจากโซบะทั่วไป จุดเด่นของร้านคือเมนู “โซบะจุ่ม” เสิร์ฟพร้อมเทมปุระกรอบ ๆ และน้ำจิ้มสูตรพิเศษ รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ ตัวร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสงบ เป็นจุดแวะพักที่ดีเยี่ยมหลังเดินเล่นชมเมือง

Irohado เป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านคินาสะ (Kinasa) ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติอันเงียบสงบ ใครที่ขับรถขึ้นมาเที่ยวแถวนี้ ห้ามพลาดร้านนี้เลย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง “เบนโตะโฮมเมด” ที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ผักปลอดสาร ฤดูกาล และข้าวญี่ปุ่นหอมกรุ่น ที่สำคัญคือทุกเมนูทำสดใหม่จากใจเจ้าของร้าน ตัวร้านตกแต่งเรียบง่ายแต่มีความอบอุ่นแบบบ้าน ๆ และยังมีมุมขายของฝากเล็ก ๆ เช่น ขนมญี่ปุ่น น้ำผึ้ง และแยมโฮมเมด เป็นร้านที่เหมาะกับสายชิล สายธรรมชาติ หรือใครที่อยากชิมอาหารพื้นบ้านแท้ ๆ แบบไม่ปรุงแต่งเกินความจำเป็น

เหมาะกับ: สายรักความสะดวกสบาย ครอบครัว คู่รัก

Iroha Grand Hotel เป็นโรงแรมที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากพักในเมืองนากาโนะอย่างสะดวกสบาย อยู่ใกล้สถานีรถไฟนากาโนะ แค่เดินไม่กี่นาทีเท่านั้น ตัวโรงแรมตกแต่งทันสมัย เรียบหรู มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งห้องพักขนาดกำลังดี เตียงนุ่มสบาย และห้องน้ำสะอาดสะอ้าน จุดเด่นคือบรรยากาศเงียบสงบแม้อยู่ใจกลางเมือง และยังมีบริการอาหารเช้าที่จัดเต็มแบบญี่ปุ่นและตะวันตก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง เที่ยวได้ง่ายทั้งในเมืองและออกนอกเมือง เช่น ไป Zenko-ji หรือขึ้นเขาแถบ Hakuba แนะนำเลยสำหรับคนที่เน้นคุ้มค่า เดินทางง่าย และพักสบาย!

เหมาะกับ: สายติดแกลม สายรักความสะดวกสบาย ครอบครัว คู่รัก

ถ้าคุณกำลังวางแผนเที่ยว Hakuba แล้วมองหาที่พักน่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย HOTEL LA VIGNE คือคำตอบ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ในทำเลเงียบสงบแต่ไม่ไกลจากลานสกี Hakuba Happo One ทำให้เหมาะสุด ๆ สำหรับสายเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด ห้องพักตกแต่งเรียบง่าย แต่อบอุ่น มีวิวภูเขาให้ชมแบบชิล ๆ จากหน้าต่าง บริการของที่นี่ก็อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน พนักงานเป็นกันเอง พร้อมช่วยเหลือเสมอ เหมาะทั้งกับคู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัวที่อยากมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในฤดูหนาว หรือแม้แต่หน้าร้อนก็ยังฟินกับบรรยากาศเขียวสดชื่น

เหมาะกับ: สายชิล ครอบครัว คู่รัก สายเสพบรรยากาศ สายรักธรรมชาติ

ใครอยากสัมผัสประสบการณ์เรียวกังแบบดั้งเดิม พร้อมแช่ออนเซ็นกลางธรรมชาติ ต้องมาที่ Hakuba Ryujin Onsen RYOKAN SUI เลย! ที่นี่ตั้งอยู่ในโซนเงียบสงบของฮาคุบะ ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาและป่าไม้ ให้ความรู้สึกหลุดเข้าไปในอีกโลก ห้องพักเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ พร้อมเสื่อทาทามิและฟูกนอนที่นุ่มสุด ๆ จุดเด่นคือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่มองเห็นวิวภูเขาแสนสวย โดยเฉพาะถ้ามาช่วงหิมะตก บรรยากาศจะโรแมนติกมาก ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย มาพักผ่อนช้า ๆ เติมพลังให้ร่างกายและใจแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง

จองที่พัก Nagano กับ traveloka

ปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยไปยังนากาโนะโดยตรง สนามบินที่ใกล้นากาโนะที่สุดคือสนามบินมัตสึโมโตะ (Matsumoto Airport) แต่เป็นสนามบินภายในประเทศและไม่มีเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ ดังนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเลือกบินไปยังสนามบินหลักในญี่ปุ่น แล้วต่อด้วยการเดินทางภายในประเทศ:

*สนามบินยอดฮิตเพราะใกล้กับนางาโนะ แนะนำให้แวะเที่ยวโตเกียวก่อนสัก 2-3 วัน!

(ไหน ๆ ก็ลงสนามบินคันไซแล้ว ก็อาจจะแวะเที่ยวโอซาก้าก่อนไปนางาโนะเลยก็ดีนะ)

สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณหรือมีสัมภาระมาก การเดินทางด้วยรถบัสจากโตเกียวไปยังนากาโนะก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง มีบริการรถบัสด่วนจากสถานีชินจูกุ (Shinjuku) ไปยังนากาโนะ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

ใครกำลังคิดว่า “เที่ยวนากาโนะช่วงไหนดี” อยู่บ้าง? บอกเลยว่าไม่ว่าจะฤดูไหน Nagano ก็มีเสน่ห์คนละแบบ เพราะภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยขุนเขา ทำให้ที่นี่เปลี่ยนบรรยากาศตามฤดูกาลได้ชัดเจนมาก จะมาหน้าร้อน หน้าหนาว หรือใบไม้เปลี่ยนสี ก็มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งปี

เป็นช่วงยอดฮิตของคนที่ชอบหิมะ เพราะนากาโนะมี สกีรีสอร์ทใน Nagano เยอะมาก เช่น Hakuba และ Nozawa Onsen ให้เล่นสโนว์บอร์ด ฟินกับวิวหิมะขาวโพลน และปิดท้ายด้วย แช่ออนเซ็น Nagano อุ่นๆ ผ่อนคลายสบายตัวสุดๆ

สายถ่ายรูปต้องห้ามพลาด ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Nagano เพราะมีจุดชมวิวอย่าง Togakushi และ Kamikochi ที่สวยจนเหมือนโปสการ์ด ใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองตัดกับภูเขาเขียวๆ โรแมนติกมาก

แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่ เที่ยวนากาโนะหน้าร้อน ก็สดชื่นกว่าที่คิด! อุณหภูมิไม่ร้อนจัดเพราะอยู่บนที่สูง เหมาะกับการเดินป่า พายเรือ หรือแวะพักตามเมืองเล็ก ๆ น่ารัก ๆ อย่าง Karuizawa

ไม่ว่าคุณจะมาในฤดูไหน นากาโนะก็พร้อมต้อนรับด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อบอุ่นเสมอ ❤️

ใครยังลังเลอยู่ ลองจองตั๋วเครื่องบินไปนางาโนะกับ Traveloka ดูสิ แล้วมาเจอกันที่ Nagano นะ!

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางภายในนากาโนะหรือแผนที่การเดินทาง สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์การท่องเที่ยวนากาโนะได้ที่ Go Nagano