ถ้าพูดถึง “ญี่ปุ่น” หลายคนอาจนึกถึงโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า แต่จริง ๆ แล้วนาโกย่าก็เป็นอีกเมืองที่น่าเที่ยวสุด ๆ ไม่แพ้ใครเลย! เมืองนี้อยู่ตรงกลางระหว่างภูมิภาคคันโตและคันไซ เป็นศูนย์กลางของการเดินทางและวัฒนธรรม เต็มไปด้วยทั้งความเป็นเมืองใหญ่และกลิ่นอายความเก่าแก่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ใครกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใครนาโกย่าคือคำตอบ! เราจะพาไปตั้งแต่แลนด์มาร์กชื่อดังอย่างปราสาทนาโกย่าไปจนถึงมุมลับที่หลายคนยังไม่รู้จัก พร้อมเล่าความพิเศษของแต่ละที่ให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ อ่านแล้วแพลนได้เลย ไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่ม แถมยังแทรกทิปส์เล็ก ๆ ที่ช่วยให้การเที่ยวสนุกขึ้นด้วย
ที่สำคัญเมืองนาโกย่าสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายไม่ต้องเช่ารถก็สนุกได้แบบเต็มวัน ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางสายชิลสายกิน หรือสายถ่ายรูป เรารับรองว่าคุณจะหลงรักสถานที่ท่องเที่ยวในนาโกย่าแน่นอนใครวางแผนจะเที่ยวนาโกย่าแล้วสงสัยว่า “ไปไหนดี” มามุงทางนี้
มาเมืองนาโกย่าทั้งที ไม่แวะปราสาทนาโกย่าเหมือนยังมาไม่ถึง! ที่นี่เป็นแลนด์มาร์กประจำเมือง มีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคเอโดะ ตัวปราสาทโดดเด่นด้วยหลังคาสีเขียวมรกตและปลาโลมาทองคำ (Shachihoko) บนยอด ที่นี่ไม่ใช่แค่สวยนะ แต่ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลึกซึ้งผ่านนิทรรศการด้านในด้วย ด้านนอกก็มีสวนให้เดินเล่นเพลิน ๆ โดยเฉพาะช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี เป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยมากโรแมนติกสุด ๆ เหมาะกับทั้งสายประวัติศาสตร์ สายถ่ายรูป และครอบครัวสามารถเข้าไปเช็คราคาตั๋วและที่จอดรถได้เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Nagoya Castle
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 น. ถึง 16.30 น.
การเดินทาง: ลงสถานี "Nagoyajo" ของรถไฟใต้ดินสายMeijo Line
ค่าเข้าชม: 500 เยน
สายช้อปต้องถูกใจสิ่งนี้! ย่านโอสุคือแหล่งรวมร้านค้าเล็ก ๆ ที่มีตั้งแต่แฟชั่นคาเฟ่ของสะสม ของกินเล่น ยันร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบญี่ปุ่นจ๋า เดินแล้วเพลินมาก เหมาะกับการหาอะไรมุ้งมิ้งติดมือกลับบ้าน แถมยังมีวัดโอสุคันนง (Osu Kannon)อยู่ในย่านด้วยนะ ใครอยากขอพร หรือลองเสี่ยงเซียมซีแบบญี่ปุ่นก็แวะได้เลย เป็นย่านที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะสายชอบเดินเล่นแบบไม่เร่งรีบ
การเดินทาง:
รู้ไหมว่าโตโยต้าที่เรารู้จักเริ่มต้นจากสิ่งทอ? ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะพาเราย้อนดูจุดเริ่มต้นของบริษัทโตโยต้าจากเครื่องจักรทอผ้า สู่การพัฒนารถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ มีโซนจัดแสดงทั้งเครื่องจักรเก่า รถยนต์ต้นแบบ และมีโชว์สาธิตแบบอินเทอร์แอคทีฟที่เด็ก ๆก็สนุกได้ ผู้ใหญ่ก็ได้ความรู้แบบเต็ม ๆเหมาะกับครอบครัวนักเรียน หรือใครที่หลงรักเทคโนโลยีญี่ปุ่น เป็นที่เที่ยวนาโกย่าที่ครอบครัว และเด็ก ๆต้องมา
เวลาเปิด-ปิด: 9.30 น. ถึง 17.00 น. *ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม: ตั๋วธรรมดาสำหรับผู้ใหญ่ 1,000 เยน (ดูเรทราคาตั๋วประเภทอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของToyota Commemorative Museum of Industry and Technology)
อันนี้เหมาะสุด ๆ กับการพาเด็กเที่ยวนาโกย่า! จุดเด่นคือโดมท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่มีทั้งโซนจัดแสดงเกี่ยวกับอวกาศ ฟิสิกส์ ชีววิทยา และธรรมชาติแบบให้ลองจับ ลองเล่นจริง น่าไปมาก ๆ โดยเฉพาะกับเด็กหรือสายครอบครัวที่สำคัญคืออธิบายสนุก เข้าใจง่าย แม้จะไม่เก่งวิทย์ก็ยังสนุกและได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันได้แบบชิล ๆ เป็นที่เที่ยวนาโกย่าในเมืองที่ควรมาอีกแห่งเลยล่ะ
เวลาเปิด-ปิด: 9.30 น. ถึง 17.00 น. *ปิดวันจันทร์
การเดินทาง: ลงสถานี "Fushimi" ของรถไฟใต้ดินสายHigashiyama Line
ที่นี่คือคอมโบสวนสัตว์ + สวนพฤกษศาสตร์ + จุดชมวิวธรรมชาติในที่เดียว! จุดเด่นก็คือน้อง “ชาบาน” ยีราฟสุดหล่อที่เคยดังในโซเชียล และสวนพฤกษศาสตร์กว้าง ๆ ที่มีทั้งซากุระ ทิวลิป และต้นไม้หายาก เหมาะกับครอบครัวคู่รัก หรือคนที่อยากมาสูดอากาศธรรมชาติแนะนำมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศจะโรแมนติกมาก
เวลาเปิด-ปิด: 9.30 น. ถึง 16.50 น. *ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม: 500 เยน
ศาลเจ้าเก่าแก่กว่า 1,900 ปี แถมยังเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น เพราะว่ากันว่าเป็นที่ประดิษฐานของดาบศักดิ์สิทธิ์ Kusanagi ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสมบัติของจักรพรรดิญี่ปุ่น บรรยากาศร่มรื่นมาก เหมาะกับสายมูที่อยากมาขอพรเรื่องโชคลาภ ความรัก หรือสุขภาพ แถมยังเดินทางสะดวก อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เป็นที่เที่ยวที่ให้ความรู้สึกสงบและได้ซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลึก ๆ เลยล่ะ
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง:ลงสถานี Atsuta Jingu Nishi ของรถไฟใต้ดินสาย Meijo Line แล้วเดินประมาณ 5 นาที
นี่คือแหล่งรวมทุกอย่างในนาโกย่าไม่ว่าจะช้อป กิน หรือเที่ยวกลางคืน อยากได้ทั้งแบรนด์เนมญี่ปุ่น ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือบาร์ชิค ๆ ก็มีครบ จุดเด่นของที่นี่คือ Nagoya TV Tower ที่ขึ้นไปชมวิวเมืองได้แบบ 360 องศา ยิ่งตอนกลางคืนแสงไฟสวยสุด ๆ เป็นที่เที่ยวนาโกย่าในเมืองที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศในเมืองใหญ่ ๆ ของญี่ปุ่นแบบครบจบในที่เดียว ใครชอบเดินเล่นตอนเย็น ๆ แวะช้อป จิบกาแฟ แล้วชมวิวตอนค่ำต้องมาที่นี่เลย
อีกหนึ่งที่เที่ยวในนาโกย่าที่ควรพาเด็ก ๆมาเรียนรู้! และอีกอย่างใครรักรถไฟหรือเดินทางด้วยรถไฟญี่ปุ่นบ่อย ๆ ต้องชอบที่นี่แน่นอน เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โชว์รถไฟตั้งแต่รุ่นเก่า ๆ จนถึงชินคันเซ็นและรถไฟแม็กเลฟล้ำ ๆ ที่เป็นรุ่นในอนาคต รับรองว่าเด็ก ๆ จะตื่นตาตื่นใจ ผู้ใหญ่ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะจะได้เห็นของจริงขนาดใหญ่สุดอลัง แถมยังมีห้องจำลองให้ทดลองขับรถไฟเองด้วยนะ เหมาะกับครอบครัวนักเรียน หรือแฟนพันธุ์แท้ที่ชอบรถไฟสุด ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 น. ถึง 17.30 น. *ปิดวันอังคาร
ค่าเข้าชม: 1,200 เยน
ถ้าอยากสัมผัสความงามแบบซามูไรยุคเอโดะ ต้องมา! พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงสมบัติล้ำค่าของตระกูลโทคุงาวะ เช่น ชุดเกราะ ดาบ ภาพวาด และของใช้ส่วนตัวที่ยังคงสภาพดีมาก บรรยากาศร่มรื่น มีสวนญี่ปุ่นให้เดินชมและถ่ายรูปแบบชิล ๆ หลังชมงานศิลป์ เหมาะกับสายประวัติศาสตร์ สายเสพอาร์ต หรือคนที่อยากเห็นของใช้ซามุไรของจริงแบบไม่ซ้ำใคร
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 น. ถึง 17.00 น. *ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม:
ใครชอบศิลปะสไตล์โมเดิร์นต้องถูกใจที่นี่! พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เน้นจัดแสดงงานศิลป์ของศิลปินทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ โดยเฉพาะศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสต์และโมเดิร์นอาร์ต ตัวอาคารออกแบบโดยสถาปนิกดังชื่อว่า เคนโซ ทันเกะ สไตล์เรียบเท่ เดินชมเพลิน ถ่ายรูปออกมาสวยมาก เหมาะกับสายครีเอทีฟ สายฮิป หรือใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากธรรมชาติมาชมงานศิลป์เท่ ๆ บ้าง
เวลาเปิด-ปิด: 9.30 น. ถึง 20.00 น. *ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม: 300 เยน
ที่นี่คือดินแดนในฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่โตมากับเลโก้! มีเครื่องเล่นสนุก ๆ มากมาย แบ่งเป็นธีมต่าง ๆ เช่น เมืองอียิปต์ โลกแห่งอัศวิน หรือแม้แต่ “มินิแลนด์” ที่จำลองสถานที่สำคัญในญี่ปุ่นด้วยเลโก้! สามารถเที่ยวเล่นใน LEGOLAND ได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อแน่นอน เหมาะกับครอบครัวคู่รัก หรือกลุ่มเพื่อน รับรองว่ามีรูปกลับไปอวดเพียบ
เวลาเปิด-ปิด:
ค่าเข้า:
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ใหญ่มากกกก! มีทั้งโชว์ปลาโลมา ฉลาม เต่าทะเล และแมวน้ำ พร้อมโซนจำลองระบบนิเวศจากหลายพื้นที่ทั่วโลก เป็นที่เที่ยวที่ให้ความรู้และความสนุกแบบลงตัว เหมาะกับทุกวัยโดยเฉพาะเด็ก ๆและคู่รักที่อยากเที่ยวชิล ๆ ในร่ม มีร้านอาหารและโซนให้นั่งเล่นเพียบ เดินทั้งวันก็ไม่เบื่อเลย
เวลาเปิด-ปิด: 9.30 น. ถึง 17.30 น.
ค่าเข้าชม:
ถ้าไปนาโกย่าช่วงฤดูหนาวแนะนำให้แวะ Nabana no Sato ที่เมือง Kuwana ใกล้ ๆ นาโกย่า (นั่งรถไม่ถึง 1 ชม.) ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปสวยใกล้นาโกย่าขึ้นชื่อเรื่อง "อีเวนต์ไฟประดับ" หรือ Illumination ที่อลังการที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีอุโมงค์ไฟสุดโรแมนติก ยิ่งมาเป็นคู่ยิ่งฟิน เหมาะกับสายถ่ายรูปสายโรแมนติก หรือใครที่อยากสัมผัสความงามของธรรมชาติในอีกรูปแบบหนึ่ง
เวลาเปิด-ปิด:
ค่าเข้าชม: 2,500 เยน
การเดินทาง: ลงสถานี JR “Nagoya” แล้วต่อรถบัสที่ Meitetsu Bus Center มาลงที่สถานที่จัดงาน
วัดแห่งนี้อยู่ในย่านช้อปปิ้งโอสุ ซึ่งตัววัดสวยงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัวจนสามารถมองเห็นได้ง่าย เป็นวัดพุทธสายชินงอนที่มีประวัติยาวนาน ภายในเงียบสงบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง รอบ ๆ วัดก็มีตลาดนัดเล็ก ๆ ขายของจุกจิกให้เลือกเพียบ เหมาะกับสายมู หรือใครที่อยากสัมผัสอีกมุมหนึ่งของชีวิตคนเมืองญี่ปุ่น
เวลาเปิด-ปิด: 6.00 น. ถึง 19.00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
ถ้าคุณชอบงานคราฟต์ งานเซรามิก หรือของแต่งบ้าน ที่นี่คือสวรรค์ของคุณ! Noritake คือแบรนด์เครื่องถ้วยชามเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่นี่มีทั้งพิพิธภัณฑ์ เวิร์กช็อปให้ลองทำ และร้านคาเฟ่เก๋ ๆในสวนสวย เดินชิลถ่ายรูปสวย ได้ความรู้ไปพร้อม ๆ กัน เหมาะกับสายฮิป สายอาร์ต หรือคนที่ชอบเที่ยวแบบเนิบ ๆ ไม่เร่งรีบ
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 น. ถึง 17.00 น. *ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม: 500 เยน
การเดินทาง: ลงสถานี “Kamejima” ของรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama แล้วเดินต่อประมาณ 6 นาที
ถ้าเป็นสายอนิเมะหรือโตมากับหนังของสตูดิโอจิบลิ บอกเลยว่าต้องมา Ghibli Park ให้ได้! ที่นี่ไม่ได้เป็นสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวนะ แต่จะเน้นความอบอุ่น ละมุนใจเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของ Totoro, Spirited Away, หรือ Howl’s Moving Castle เลยล่ะ เราจะได้เดินเล่นในฉากจำลองที่ทำละเอียดสุดๆ เหมือนในหนังจริง ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก และบางโซนยังจัดแสดงของที่ใช้ในภาพยนตร์ด้วย โดยเฉพาะบ้านซัตสึกิกับเมย์จาก My Neighbor Totoro ที่เดินเข้าไปแล้วเหมือนอยู่ในยุคโชวะจริงๆ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้า เพราะที่นี่เค้าคุมจำนวนคนเข้าอย่างดี เพื่อให้บรรยากาศสงบและเต็มอิ่มสุดๆ เดินชิลๆ ได้ทั้งวันไม่เบื่อเลย
เวลาเปิด-ปิด:
ค่าเข้าชม:
ที่นี่คือหอคอยชมวิวใจกลางนาโกย่าที่ดูเรียบแต่เท่มาก! MIRAI TOWER เดิมชื่อ Nagoya TV Tower นะ อยู่ในสวน Hisaya-odori Park พอมาถึงจะเห็นหอคอยทรงคลาสสิก ๆ ที่ดูชิคแบบวินเทจนิด ๆ แต่ข้างในเขารีโนเวทใหม่แล้ว ไฮเทคขึ้นเยอะเลย ด้านบนมีจุดชมวิวแบบกระจกใส มองเห็นวิวเมืองนาโกย่าได้ 360 องศา โดยเฉพาะตอนเย็น ๆ พระอาทิตย์ตกดิน สวยแบบใจฟูสุด ๆ ด้านล่างก็มีคาเฟ่และร้านค้าชิค ๆ ให้เดินเล่น ถ้ามาช่วงค่ำ หอคอยก็จะเปิดไฟสวยมาก เหมาะกับถ่ายรูปหรือจะนั่งชิลดูวิวก็ฟีลดีสุด ๆ เป็นอีกที่เที่ยวในเมืองนาโกย่าที่เดินทางง่าย แถมให้ฟีลเมืองใหญ่ที่อบอุ่นมาก
มาที่นี่เหมือนหลุดเข้าไปในหนังไซไฟเบา ๆ เพราะโครงสร้างของ Oasis 21 มันล้ำมาก! ด้านบนสุดคือ “Spaceship Aqua” หลังคาแก้วใส ๆ มีน้ำไหลเป็นลำธาร ให้เราเดินชมวิวเพลิน ๆ เหมือนอยู่ในยานอวกาศ แต่วิวที่เห็นคือสวนสาธารณะและหอคอย MIRAI TOWER อยู่ใกล้ ๆ ถ่ายรูปออกมาคือเท่มาก ส่วนด้านล่างจะเป็นโซนช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ และยังมีอีเวนต์หรือคอนเสิร์ตเล็ก ๆ จัดเป็นประจำด้วย บรรยากาศดีทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะตอนค่ำที่มีไฟประดับ ตรงนี้คือจุดนัดพบยอดฮิตของวัยรุ่นญี่ปุ่นเลยนะ ถ้าอยากสัมผัสเมืองนาโกย่าแบบล้ำ ๆ แต่ยังอบอุ่น นี่คืออีกจุดที่ห้ามพลาดเลย!
เวลาเปิด-ปิด: 6.00 น. ถึง 21.00 น. *ปิดวันจันทร์
ถ้ามานาโกย่าแล้วไม่ได้กินไก่ทอดยามะจัง เหมือนมาไม่ถึง! ไก่ทอด Tebasaki ที่นี่รสชาติเข้มข้น กรอบนอกนุ่มใน แถมเคลือบซอสสูตรพิเศษที่เผ็ดนิด ๆ เค็มหน่อย ๆ กำลังดี กินแล้วหยุดไม่ได้จริง ๆ ก็เลยเป็นของกินขึ้นชื่อนาโกย่ามีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและเผ็ดจัด ใครสายแกล้มเบียร์ยิ่งต้องมาลอง เพราะมีเมนูทานเล่นให้เลือกอีกเพียบ บรรยากาศร้านก็เป็นกันเองแบบอิซากายะญี่ปุ่นแท้ ๆ เหมาะกับทั้งเพื่อนฝูง คู่รัก หรือจะมาคนเดียวก็ไม่มีเหงา ที่สำคัญคือมีหลายสาขาทั่วนาโกย่า หาร้านไม่ยากเลย แถมเข้าไปดูเมนูของร้านได้ทางเว็บไซต์ด้วยนะ
เวลาเปิด-ปิด:
ใครชอบราเม็งน้ำซุปเข้มข้นถึงใจ ต้องไม่พลาด Hongotei Meieki ร้านราเม็งเจ้าดังที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้สถานีรถไฟนาโกย่า เมนูเด็ดคือ Tonkotsu Ramen น้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนข้นหอม พร้อมเส้นราเม็งเหนียวนุ่ม และหมูชาชูชิ้นใหญ่สะใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูราเม็งรสเผ็ดและราเม็งแห้งให้เลือกตามความชอบ จุดเด่นอีกอย่างคือบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวที่อยากเติมพลังหลังเดินเที่ยว หรือคนที่ชอบหาอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่กินแล้วอิ่ม ฟิน และคุ้มเกินราคา!
เวลาเปิด-ปิด:
การเดินทาง:ลงสถานี “Nagoya” ของรถไฟ JR ทางออก E5 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
EBIDOTE คือสวรรค์ของคนรักกุ้งทอด! จุดเด่นคือ “กุ้งชุบแป้งทอดตัวยาว” ที่ยาวจนล้นจาน กรอบฟู แต่ไม่อมน้ำมัน และที่สำคัญคือใช้กุ้งสดตัวโตเต็มคำ ทานคู่กับซอสรสเปรี้ยวหวานหรือมายองเนสญี่ปุ่น ยิ่งอร่อยสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวหน้ากุ้งทอด (Ebi Tendon) ที่จัดเต็มทั้งรสชาติและปริมาณ บรรยากาศร้านเรียบง่าย แต่อบอุ่น เหมาะกับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือสายกินที่อยากลองอะไรแตกต่างจากราเม็งหรือซูชิ รับรองว่าถ่ายรูปอัพโซเชียลได้เพียบ เพราะความยาวของกุ้งคืออลังมาก!
เวลาเปิด-ปิด:11.00 น. ถึง 21.30 น.
การเดินทาง:ลงสถานี “Nagoya” ของรถไฟ JR ทางออก Esca underground shopping center ชั้น B1
เหมาะกับ:ครอบครัว สายรักความสะดวกสบาย คู่รัก นักธุรกิจ
Hotel JAL City Nagoya Nishikiเป็นโรงแรมสไตล์โมเดิร์นกลางเมืองนาโกย่า ที่เดินทางสะดวกสุด ๆ เพราะใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน Fushimi แค่ไม่กี่นาที ห้องพักตกแต่งเรียบหรู แต่อบอุ่น นอนสบาย แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Wi-Fi เร็วปรี๊ด เครื่องฟอกอากาศ และอ่างอาบน้ำให้แช่ผ่อนคลายหลังเที่ยวทั้งวัน เหมาะกับทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่อยากได้ที่พักดี ๆ ในราคาคุ้มค่า ด้านล่างมีร้านอาหารบรรยากาศดีไว้ให้ฝากท้องยามเช้าหรือมื้อเบา ๆ ตอนค่ำ ใครชอบพักที่เดินทางสะดวก ใจกลางเมือง มีมาตรฐานแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่นี่ตอบโจทย์แน่นอน!
Japan
โรงแรมเจเอแอลซิตี้ นาโกยา นิชิกิ
•
9.1/10
Naka
THB 3,410.57
THB 2,557.93
เหมาะกับ:ครอบครัว สายรักความสะดวกสบาย คู่รัก สายติดแกลม
ใครที่ชอบความหรูหราแต่ไม่เวอร์เกินไป ขอแนะนำThe Royal Park Hotel Iconic Nagoyaเลย โรงแรมนี้อยู่ในย่าน Sakae ใจกลางเมือง เดินทางง่าย ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวเพียบ ห้องพักสไตล์โมเดิร์นเรียบเท่ พื้นที่กว้างขวาง มีวิวเมืองสวย ๆ ให้มองเพลิน ๆ จากหน้าต่าง จุดเด่นคือบริการระดับพรีเมียมและความใส่ใจในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหินอ่อน เตียงนุ่มนอนสบาย หรือฟิตเนสที่ครบเครื่อง เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนแบบหรูหราแต่ยังเข้าถึงได้ในราคาโอเค
Japan
โรงแรมรอยัลพาร์คไอคอนิคนาโกย่า
Sakae
THB 5,914.47
THB 4,435.86
เหมาะกับ:ครอบครัวสายรักความสะดวกสบาย นักธุรกิจ สายเที่ยวคนเดียวสายประหยัด
โรงแรมนี้คือคำตอบสำหรับนักเดินทางที่อยากได้ที่พักใกล้สถานีนาโกย่าแบบเดินถึงในไม่กี่นาที!Sotetsu Fresa Innมีห้องพักขนาดกะทัดรัดแต่ครบครัน ทั้งเตียงนุ่ม แอร์เย็น Wi-Fi แรง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม จุดเด่นคือระบบเช็กอินอัตโนมัติที่รวดเร็วมาก และมีของใช้จุกจิกให้เลือกหยิบฟรีหน้าล็อบบี้ เหมาะกับคนที่เดินทางบ่อย อยากได้ที่พักสะอาด ปลอดภัย และอยู่ใกล้รถไฟแบบสุด ๆ แถมราคาก็น่ารัก เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวแบบประหยัด หรือนักธุรกิจที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง!
Japan
โซเทตสึ เฟรซา อินน์ นาโกยา ซากุระโดริกุจิ
•
9.1/10
Nakamura
THB 3,253.56
THB 2,440.18
ปัจจุบันสามารถเดินทางได้ทั้ง เที่ยวบินตรง และ แบบต่อเครื่อง ขึ้นอยู่กับสายการบินและงบประมาณ:
สายการบินที่มี ไฟลต์ตรง จากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) ไปยังสนามบิน Chubu Centrair International Airport (NGO) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5–6 ชั่วโมง ได้แก่:
Tue, 17 Jun 2025
China Eastern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป นาโกย่า (NGO)
เริ่มจาก THB 5,065.25
Thu, 3 Jul 2025
Thai Lion Air
กรุงเทพ (DMK) ไป นาโกย่า (NGO)
เริ่มจาก THB 4,195.00
Thu, 19 Jun 2025
HK Express
เชียงใหม่ (CNX) ไป นาโกย่า (NGO)
เริ่มจาก THB 4,791.99
ถ้าอยากประหยัด หรือไม่เจอไฟลต์ตรงในวันที่ต้องการ ก็สามารถบินไปต่อเครื่องที่เมืองใหญ่อย่าง โตเกียว (NRT/HND) หรือ โอซาก้า (KIX) ได้ แล้วค่อยต่อภายในประเทศไปนาโกย่า ซึ่งในตัวเลือกนี้ เราขอแนะนำให้คุณแวะเที่ยวโตเกียวหรือเที่ยวโอซาก้าก่อนเลย แล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวนาโกย่า เรียกว่าเที่ยวแบบเอาคุ้ม ไม่แวะฟรี!
Wed, 9 Jul 2025
HK Express
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (NRT)
เริ่มจาก THB 4,334.39
Wed, 2 Jul 2025
Thai Lion Air
กรุงเทพ (DMK) ไป โตเกียว (NRT)
เริ่มจาก THB 4,010.00
Fri, 4 Jul 2025
Scoot
ไทเป (TPE) ไป โตเกียว (NRT)
เริ่มจาก THB 3,025.36
การเดินทางในนาโกย่าไม่ยากอย่างที่คิด! สำหรับใครที่ชอบเดินเที่ยวนาโกย่าแบบสบาย ๆ เมืองนี้มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกมาก ทั้งรถไฟใต้ดิน รถบัส และ JR ที่เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นวัดโอสุ ปราสาทนาโกย่า หรือย่านช้อปปิ้งซากาเอะ
ถ้าใครถือJR Passอยู่แล้ว บอกเลยว่าเที่ยวนาโกย่าด้วย JR Pass คุ้มสุด ๆเพราะสามารถนั่งJR ไปยังแหล่งท่องเที่ยวรอบ ๆ เมืองได้ง่าย เช่น อินุยามะ หรือกิฟุ โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และแน่นอน เหมาะกับสายเที่ยวนาโกย่าแบบไม่เช่ารถที่อยากเที่ยวแบบชิล ๆ ไม่ต้องขับเอง
สำหรับคนที่มีเวลาน้อย หรือแวะมาแค่วันเดียวก็สามารถเที่ยวนาโกย่าเช้าเย็นกลับได้สบาย ถ้ามาจากเกียวโตหรือโอซาก้าแค่ขึ้นชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง
แถมถ้าอยากเปลี่ยนเมืองไปเที่ยวต่อ ก็ง่ายมาก! จากนาโกย่าไปเกียวโตหรือนาโกย่าไปโอซาก้าก็สะดวกด้วยรถไฟชินคันเซ็น มีเที่ยวให้เลือกทั้งวัน เดินทางไว ประหยัดเวลา เที่ยวได้จุใจแน่นอนจ้า
ถ้าอยากรู้ว่าควรไปเที่ยวนาโกย่า (Nagoya)ช่วงไหนดีบอกเลยว่าทุกฤดูมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบบรรยากาศแบบไหน:
เป็นช่วงที่อากาศกำลังดี เย็นสบาย ไม่ร้อนเกินไป แถมยังมีดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วเมือง โดยเฉพาะที่ Tsuruma Park และริมแม่น้ำยามาซากิ เหมาะกับสายถ่ายรูป เดินเล่นชิล ๆ ในเมืองมาก ๆ
เที่ยวนาโกย่าหน้าร้อนถึงจะร้อนแต่ก็มีงานเทศกาลเยอะ เช่น เทศกาลนาโกย่ามัตสึริ ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่ นักท่องเที่ยวแน่นขนัด เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม (แต่อย่าลืมเตรียมหมวกกับพัดไปด้วยนะ!)
ช่วงนี้ฮิตมาก เพราะใบไม้เปลี่ยนสีสวยสุด ๆ ตามสวนสาธารณะและวัดต่าง ๆ เช่นที่ Tokugawa Garden หรือ Atsuta Shrine เหมาะกับสายโรแมนติกและคนที่อยากเห็นวิวธรรมชาติสวย ๆ โดยไม่ต้องออกจากเมืองไปไกล
ถึงนาโกย่าหน้าหนาวจะไม่หนาวจัดเท่าฮอกไกโด แต่ก็มีหิมะโปรยบ้าง ฟีลดีสุด ๆ ยิ่งถ้าอยากต่อรถไปเล่นสกีหรือแช่ออนเซ็น ก็สะดวกมาก เหมาะกับคนที่ชอบอากาศเย็น ๆ และบรรยากาศคริสต์มาส
ใช้แตะขึ้นรถไฟ รถบัส รถใต้ดินได้ทั่วเมือง ประหยัดเวลาต่อคิวซื้อตั๋ว และยังใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย
อย่างร้านไก่ทอด Yamachan หรือราเมงเจ้าดัง ตอนเย็นมักคนแน่น แนะนำจองหรือไปช่วงไม่พีค เช่น บ่ายแก่ ๆ
นาโกย่าเป็นเมืองที่ “เดินแล้วได้ของดี” เพราะจุดเที่ยวหลายที่อยู่ใกล้กัน เช่น Sakae – Osu Shopping Street –ปราสาทนาโกย่าเดินได้สบาย ๆ ถ้ารองเท้าดี
นาโกย่ามีอาหารเฉพาะตัวเยอะ เช่น มิโสะคัตสึ, ฮิตสึมะบุชิ (ข้าวหน้าปลาไหล), เทบะซากิ (ปีกไก่ทอด) อย่ามัวแต่กินราเมงกับซูชิเท่านั้นนะ!
นาโกย่าอากาศแปรปรวนบางช่วง โดยเฉพาะฤดูฝน (มิ.ย. – ก.ค.) พกร่มพับไว้ติดกระเป๋าก็อาจจะช่วยชีวิตคุณได้หลายครั้ง!