แพลนเที่ยวสุราษแบบ 3 วัน 2 คืน เช่ารถขับเที่ยวรอบเมืองสุราษ

เทศกาลซัมเมอร์มาถึงแล้ว! เราเลยอยากจะพาทุกคนไปดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติสุดแสนเย็นสบายกันที่ “จังหวัดสุราษธานี” หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่งรวบรวมโอโซนชั้นดี แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างกุ้ยหลินเมืองไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเดินทางมาเที่ยวชมกันเลย วันนี้เราเลยอยากขอพาทุกคนไปเที่ยวสุราษเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ด้วยการเช่ารถขับเที่ยวรอบเมืองสุราษแบบชิว ๆ ไปพร้อม ๆ กัน

แต่ก่อนจะออกเดินทางสิ่งแรกที่เราต้องทำกันเลยนั่นก็คือ การจองตั๋วเครื่องบินที่คุณสามารถจองผ่านหน้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของ Traveloka ในขั้นตอนอันแสนง่ายได้อย่างสะดวก แถมตอนนี้เขายังมีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า “Price Alerts” ตัวช่วยที่จะมาเปรียบเทียบและแจ้งเตือนพร้อมทั้งอัปเดตราคาของสายการบินต่าง ๆ ตามที่เราต้องการผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เราสามารถซื้อตั๋วในราคาที่ถูกและคุ้มค่ามากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ดี ๆ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอย่างเรามากเลยทีเดียว

วันแรกของการเดินทาง

เริ่มต้นเช้าวันแรกของการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดสุราษธานี จากที่ได้แพลนเอาไว้คือ เราจะเช่ารถขับเที่ยวกัน ซึ่งเราได้เลือกใช้บริการจากทราเวลโลก้าอีกเช่นเคย เพราะเป็นการจองบริการเช่ารถขับที่คุณสามารถเลือกสถานที่รับ วันเวลา และประเภทของรถได้ตามจำนวนผู้เดินทางในขั้นตอนอันแสนง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลาในการติดต่อบริษัทเช่ารถอื่น ๆ ให้ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงเท่านี้เราก็สามารถขับรถเที่ยวเล่นในสุราษกันได้อย่างเต็มที่แล้ว

หลังจากลงเครื่องและรับรถเสร็จเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวมุ่งหน้าไปที่โรงแรมเพื่อทำการเก็บกระเป๋าสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนเตรียมตัวออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน สุธารส ติ่มซำ ที่เปิดขายติ่มซำสูตรเด็ดมาอย่างยาวนาน และกลายเป็นร้านที่รู้จักในหมู่ของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ซึ่งต้องขอเกริ่นก่อนว่า ติ่มซำ นั้นเป็นหนึ่งในเมนูอาหารสุดขึ้นชื่อของทางภาคใต้ ที่นอกเหนือจากอาหารใต้ที่มีรสชาติเผ็ดแล้ว ติ่มซำก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนทั่วไปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมัยก่อนทางตอนใต้ของไทยเป็นสถานที่อพยพของชาวจีน จึงได้มีการรับเอาวัฒนธรรมและอารยธรรมอันหลากหลายมาเผยแพร่และสืบทอดกันแบบรุ่นสู่รุ่น จึงไม่แปลกที่เมนูนี้กลายเป็นเมนูเด็ดที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวที่นี่ ก็ต้องแวะมาชิมรสชาติให้ได้สักครั้ง

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวกันที่สถานที่แรกอย่าง เขื่อนเชี่ยวหลาน แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากบริเวณสถานที่แห่งนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น กุ้ยหลินแห่งเมืองไทย

เพราะด้วยความสวยงามของธรรมชาติและป่าเขาบริเวณรอบตัวเขื่อน ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบเกิดเป็นภาพความงดงามที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก โดยการเดินทางมาในครั้งนี้เราแค่จะจอดรถลงไปถ่ายรูปกันที่บริเวณแนวสันเขื่อน แต่ไม่ได้เข้าไปพักที่บริเวณด้านใน แต่หากใครอยากซึมซับกับธรรมชาติและไปสัมผัสสัญลักษณ์ของกุ้ยหลินเมืองไทยด้วยตาของตนเองสักครั้ง ก็สามารถมานอนค้างคืนได้อีกเช่นกัน รับรองว่าหากใครได้มาแล้วจะต้องติดใจและรู้สึกประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน

ถ่ายรูปกันที่แนวสันเขื่อนเชี่ยวหลานกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็เดินทางไปกันต่อที่ สะพานแขวนรูปหัวใจ หรือ สะพานแขวนเทพพิทักษ์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ใช้เป็นสะพานสัญจรของชาวบ้านในย่านนี้

ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดสุราษฯ ที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจและไม่พลาดที่จะเดินทางมาเก็บภาพบรรยากาศของธรรมชาติที่งดงาม เพราะวิวที่สะพานแห่งนี้สวยงามมากราวกับเราอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์กันเลยทีเดียว ว่าแล้วทางเราก็ขอตัวไปถ่ายรูปเล่นและเดินเที่ยวชมทัศนียภาพ พร้อมรับลมเย็น ๆ ตรงหน้ากันก่อนล่ะ

วันที่สองของการเดินทาง

อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่สองอันสดใส ในวันนี้เราจะอาสาพาทุกคนไปดื่มด่ำและสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่ หมู่บ้านคีรีวง แหล่งโอโซนเมืองใต้ของไทยที่ต้องบอกเลยว่าภาคใต้ไม่ได้มีดีแค่วิวทะเลสวยเท่านั้น แต่ยังมีธรรมชาติดี ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวชมกันได้อีกด้วย

ซึ่งหมู่บ้านคีรีวงแห่งนี้เป็นหนึ่งในบริเวณของชุมชนเก่าแก่ที่อพยพมาอาศัยอยู่ที่บริเวณเชิงเขาหลวง เพื่อตั้งรกรากอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำลำธาร ทำให้เกิดเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามของธรรมชาติอันเงียบสงบ จนทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประจำปี 2541

เที่ยวเล่นชมความงดงามของวิวธรรมชาติโดยรอบของหมู่บ้านกันไปแล้ว ก็ได้เวลาออกมาหาอาหารและเครื่องดื่มรับประทานกันที่ คาเฟ่ คีรีวง วัลเลย์ วิลล่า หนึ่งในร้านกาแฟ และร้านอาหารที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาดื่มด่ำกับการรับประทานอาหาร พร้อมทั้งชมวิวหลักล้านในราคาหลักร้อยกันได้แบบสุดฟิน เนื่องจากบริเวณร้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่จะทำให้คุณได้นั่งทานอาหารไปพร้อมกับชมวิวของลำธาร และภูเขาโดยรอบในเวลาเดียวกันได้อย่างเพลิดเพลิน

นอกจากนี้ภายในร้านยังมีโซนให้เลือกนั่งได้หลากหลายมุม พร้อมกับวิวถ่ายรูปดี ๆ ที่บอกเลยว่าคาเฟ่นี้จะทำให้คุณได้รูปกลับไปอัปลงโซเชียลกันอย่างรัว ๆ แนะนำเลยว่ายิ่งถ้ามาช่วงหน้าฝนแล้วละก็ ภายในหมู่บ้านแห่งนี้จะมีหมอกจาง ๆ ปกคลุมทำให้ได้บรรยากาศสุดโรแมนติกไปอีกแบบเลยทีเดียว

รับประทานอาหารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถออกไปเที่ยวกันต่อที่ หินพัด จุดชมวิวทะเลหมอกสุดขึ้นชื่อของเมืองสุราษฯ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสก เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมความสมบูรณ์แบบของวิวธรรมชาติโดยรอบ และหินรูปพัดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นไฮไลท์เด็ดของสถานที่แห่งนี้ที่ใครมาก็ต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

นอกจากนี้หากใครที่อยากมาชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตกด้วยแล้ว ก็สามารถเดินทางมาได้ที่แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ โดยเราแนะนำให้มาช่วงเช้า เพราะจะมีทะเลหมอกจาง ๆ ปกคลุมบริเวณโดยรอบให้คุณได้ถ่ายรูปเล่นเหมือนอยู่ที่ภาคเหนือกันเลย

ชมวิวกันไปแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศยามเย็นกันต่อที่ เนินทรายเหมืองแกะ หรือ ภูเขาทราย แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิปที่เหมาะสำหรับสายถ่ายรูป ซึ่งจัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดสุราษฯ ที่หากใครได้เดินทางมาจะต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว เนื่องจากบริเวณสถานที่นี้มีลักษณะเป็นเนินทรายที่ทับทมกันไปมา จนทำให้เกิดเป็นรูปลักษณ์ที่แปลกตาและกลายมาเป็นศิลปะทางธรรมชาติที่งดงามนั่นเอง

ซึ่งเราแนะนำให้มาช่วงประมาณ 3 - 4 โมงเป็นต้นไป เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่แสงพระอาทิตย์ค่อนข้างนิ่ม ทำให้ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ดูแสงจ้าจนเกินไป อีกทั้งเวลานำไปแต่งสีจะทำให้ได้ภาพที่สวยงามและลงตัวมากย่ิงขึ้น

วันที่สามของการเดินทาง

เดินทางมาถึงเช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมความสวยงามตระการตาของธรรมชาติกันที่ ป่าต้นน้ำบ้านราด บ่อน้ำผุดเมืองสุราษฯ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะไฮไลท์เด็ดอย่างน้ำสีฟ้ามรกตอันบริสุทธิ์และวิวต้นไม้สีเขียวโดยรอบที่ทำให้บริเวณพื้นที่แห่งนี้ยิ่งดูน่าสนใจ และดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

เมื่อเดินเข้ามาแล้วจะมีโซนให้เราเลือกเดินได้หลากหลายจุด โดยในแต่ละมุมของบ่อน้ำนี้ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถเดินเที่ยวเล่นได้อย่างเต็มที่ หรือหากใครที่อยากเล่นน้ำคลายร้อน บริเวณด้านในก็มีบ่อที่คุณสามารถลงไปแช่น้ำใสเย็น ๆ ได้ เรียกได้ว่าสถานที่แห่งนี้น้ำใสธรรมชาติสวยไม่แพ้ทะเลอันดามันเลยทีเดียว

เที่ยวชมและถ่ายรูปกับธรรมชาติกันแล้ว เราก็ขอพาคุณขยับมาเที่ยวกันต่อที่ นาบัว คาเฟ่ ร้านคาเฟ่สุดชิคใกล้ ๆ กับสนามบินสุราษฯ ที่เปิดให้บริการขนมและเครื่องดื่มให้คุณได้รับประทานไปพร้อมกับการนั่งชมวิวนาบัวขนาดใหญ่ตามแต่ละจุดต่าง ๆ ซี่งแน่นอนว่าสายถ่ายรูปอย่างเราก็ต้องไม่พลาดมาแชะภาพสวย ๆ ริมบัวพร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ ก่อนเดินทางกลับกันก่อน ว่าแล้วก็ขอตัวไปเก็บภาพบรรยากาศดี ๆ พร้อมกับการจิบกาแฟชิว ๆ รอขึ้นเครื่องกันก่อนเลย

แชะภาพกันไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนเดินทางกลับเราก็อยากพาทุกคนไปแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนที่ วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฯ อันเก่าแก่ ที่เปิดให้ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวได้เดินทางมากราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ในเจดีย์โบราณสีขาวอันงดงามท่ามกลางความเงียบสงบและความร่มเย็นภายในตัววัด

เมื่อเดินเข้ามาแล้วในบริเวณตัววัดแห่งนี้จะเต็มไปด้วยโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมายที่หลงเหลือมาให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้มาเดินเที่ยวชมความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่สมัยอดีตมาจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ได้มีการบูรณะเปลี่ยนแปลง และฟื้นฟูวัตถุบางชิ้นไปบ้างแล้ว เพื่อให้ยังคงสภาพเดิม และมีความงดงามให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสมาเที่ยวชมกันนั่นเอง

หลังจากไหว้พระขอพรกันเป็นที่น่าพอใจ เราก็ขับรถไปยังสนามบินเพื่อเตรียมตัวเช็กอินและขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพกัน ซึ่งทริปนี้ก็ถือเป็นการเดินทางที่แสนสนุก ครบเครื่องเป็นอย่างมาก เรารู้สึกได้เลยว่าธรรมชาติดี ๆ จะช่วยเติมพลังให้เรามีชีวิตชีวาและสดชื่นมากขึ้น หากคุณพอมีเวลาได้ออกมาพักสักนิดแล้วละก็ เราอยากชวนให้ทุกคนได้ออกมาท่องเที่ยวผ่อนคลายสมองและความเหนื่อยล้าจากการทำงานด้วยการพักผ่อนให้ธรรมชาติบำบัด พร้อมทั้งใช้เวลากับตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น