โฮจิมินห์ คือเมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งมีชื่อเดิมที่คุ้นหูกันในนาม ‘ไซ่ง่อน’ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อตามประธานาธิบดีโฮจิมินห์ในภายหลัง เทียบกับเมืองหลวงอย่างฮานอยแล้วโฮจิมินห์มีความทันสมัยมากกว่า และยังได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศเลยด้วยนะ แถมโฮจิมินห์ยังมีที่เที่ยวซึ่งให้บรรยากาศแบบยุโรปมากกว่าเมืองอื่นๆ ด้วยจ้า เมืองนี้จึงเหมาะกับคนชอบความสะดวกสบายและอยากได้พิกัดถ่ายรูปในฟีลคลาสสิกสุดๆ เลยละ ถ้าสนใจ ลองไปจองตั๋วเครื่องบินโฮจิมินห์กับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp ไว้เลยน้า แล้วไปดูซิว่าที่เที่ยวโฮจิมินห์ที่เราเอามารีวิวคราวนี้น่ะ จะถูกใจคุณมั้ย?

โบสถ์สวยสไตล์กอธิกผสานกับเรอเนสซองส์ที่โดดเด่นด้วยสีชมพูสุดมุ้งมิ้งใจกลางเมืองโฮจิมินห์แห่งนี้ นับเป็นโบสถ์ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเมืองเลยเชียวละ โบสถ์นี้สร้างขึ้นในยุคที่เวียดนามอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1876 โน่นเลยจ้า นอกจากจะมีสีสันสดใสสะดุดตาแล้ว โบสถ์นี้ยังมีหอคอยด้านหน้าที่สูงถึง 60 เมตรเลยนะ และเพราะสีชมพู - ขาวที่สวยหวานชวนให้คิดถึงบรรยากาศแห่งความสุขและความรักนี่ละ ทำให้ที่นี่กลายเป็นพิกัดยอดฮิตในการมาถ่ายพรีเวดดิ้งของหนุ่มสาวชาวเวียดนามเค้าเลยจ้ะ มาถึงโฮจิมินห์แล้วอย่าพลาดเชียว

เพราะกาแฟนั้นนับเป็นอีกหนึ่งของฝากเวียดนามที่หลายคนติดอกติดใจ ในเมืองใหญ่อย่างโฮจิมินห์จึงมีคาเฟ่มากมายให้เราได้แวะไปนั่งชิลล์กัน ที่สำคัญคือนอกจากรสชาติเข้มๆ หอมๆ ของกาแฟแล้วนะ ร้านกาแฟในโฮจิมินห์ยังมีให้เลือกกันสารพัดรูปแบบเลยจ้า รับประกันว่าแจ่มทุกร้านเชียวละ ใครชอบถ่ายรูปแนะนำให้จัดคอสตูมมาให้พร้อมเลยจ้ะ จะสวยเข้ม สวยคลาสสิก หรือบรรยากาศชิคๆ คูลๆ ก็มีให้เลือกนั่งเลือกแชะกันแบบจุกๆ ไปเลยน้า ส่วนคอกาแฟก็มีให้เลือกชิมกันสารพัดรูปแบบและรสชาติเลยจ้า แค่มาไล่เช็คอินคาเฟ่ก็เพลินแล้วละ เอาจริง!

นอกจากจะเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโฮจิมินห์แล้วนะ มหาวิหารแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์คริสต์ที่งดงามที่สุดของเวียดนามอีกด้วยจ้า โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สร้างขึ้นในยุคที่ฝรั่งเศสปกครองเวียดนามน้า ไฮไลท์หนึ่งของมหาวิหารแห่งนี้คือหอคอยคู่ด้านหน้าซึ่งมีความสูงประมาณ 40 เมตร มีสวนเล็กๆ และรูปปั้นพระแม่มารีสีขาวสะอาดอยู่บริเวณลานด้านหน้า ที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งแลนด์มาร์คหลักของโฮจิมินห์ในบรรดาที่เที่ยวทั้งหมดเลยเชียวนะ มาถึงเมืองนี้แล้วต้องแวะเช็คอินจ้า ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงไม่รู้เด้อ

ถ้ามองหาพิกัดเดินเล่นช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ในโฮจิมินห์อยู่นะ แนะนำให้ปักหมุดตรงนี้ไว้เลยจ้า เพราะนี่คือลานกว้างใจกลางเมืองโฮจิมินห์ที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงและอาคารสวยๆ มากมาย ลานนี้จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่ออกมาเดินเล่นพักผ่อนกันแบบสบายๆ ในช่วงเย็นถึงค่ำนะ ยิ่งช่วงวันหยุดจะยิ่งมีชีวิตชีวากันสุดๆ เลยเชียวละ แถมบางวันจะมีโชว์เปิดหมวกให้เราได้ชมกันด้วยน้า สองฝั่งถนนนั้นร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ แถมยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้แวะนั่งชิลล์กันไปตลอดทางเลยจ้า The Cafe Apartment อันโด่งดังก็อยู่ในละแวกนี้นี่ละ นับเป็นอีกพิกัดในโฮจิมินห์ซึ่งน่าจดลงลิสต์ที่เที่ยวต้องไปเอาไว้เลย

อาคารสไตล์อาร์ต - เดโคสวยคลาสสิกสีเหลืองสดใสแห่งนี้ คืออีกหนึ่งพิกัดซึ่งไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงโฮจิมินห์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีศิลปะในดวงใจทั้งหลาย ด้านในของที่นี่มีงานศิลปะสไตล์เวียดนามตั้งแต่ในยุคอดีตถึงปัจจุบันให้ชมกันมากมายเลยละ ที่นี่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1929 จ้า แถมยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโฮจิมินห์เลยเชียวนะ นอกจากจะได้มาเดินดูชิ้นงานศิลปะกันจนจุใจแล้ว ที่นี่ยังมีมุมสวยๆ ให้แวะชมแวะแชะกันอยู่หลายจุดเลยด้วยจ้า ชมงานอาร์ตด้านในแล้วออกมาถ่ายรูปชิคๆ ด้านนอกกันต่อได้เลยน้า มาที่เดียวคุ้มค่าสุดๆ แน่นอน

สำหรับสายประวัติศาสตร์ที่มาเยือนโฮจิมินห์นะ เชื่อว่าต้องไม่ยอมพลาดการมาเช็คอินที่อุโมงค์นี้กันแน่นอน เพราะนี่คือหนึ่งในความมหัศจรรย์อันแสนชาญฉลาดของชาวเวียดนาม ที่สร้างอุโมงค์ความยาวกว่า 200 กิโลเมตร โยงใยเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่อยู่ใต้ดินคล้ายกับรังมดแยกออกไปยังหลุมหลบภัยหลายแห่ง เพื่อเป็นที่ซ่อนตัวของเหล่าทหารเวียดกงในเวลาใช้ซุ่มโจมตีศัตรู จนสามารถเอาชนะทหารอเมริกันซึ่งเป็นผู้บุกรุกให้ล่าถอยออกไปได้ นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโฮจิมินห์และเวียดนามที่ควรแวะไปเช็คอินจริงๆ

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้เมื่อไปถึงโฮจิมินห์กันทั้งที ก็คือการไปชมความงดงามที่น่าตื่นตาของอาคารนี้นี่ละ ที่นี่ออกแบบโดย Gustave Eiffel สถาปนิกชาวฝรั่งเศสซึ่งออกแบบหอไอเฟลและอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพของอเมริกา และเปิดใช้งานในช่วงราวปี ค.ศ.1863 ก่อนจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในราวปี ค.ศ.1886 ด้านนอกว่าสวยแล้วนะ ด้านในของที่นี่ยิ่งอลังการสุดๆ เลยเชียวละ ปัจจุบันที่นี่ยังเปิดให้บริการทางไปรษณีย์ แถมยังมีบริการรับแลกเงิน และร้านขายของที่ระลึกอีกด้วยจ้า แวะมาซื้อเป็นของฝากเวียดนามจากโฮจิมินห์กันได้นะ มาที่เดียวได้ทั้งช้อปทั้งแชะจ้ะ คุ้มจะตาย!

บอกเลยว่าเป็นพิกัดสำคัญที่ท่านนักช้อปพลาดไม่ได้! เพราะนอกจากจะเป็นตลาดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในโฮจิมินห์แล้วนะ ที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวซึ่งมาเช็คอินได้สนุกสุดๆ อีกด้วยจ้า ตลาดนี้มีร้านค้ากว่า 1,600 ร้าน มีขายกันตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ ของฝาก ผัก ผลไม้ ไปจนถึงอาหารพร้อมชิมกันเลยละ ที่นี่มีของขายตั้งแต่เช้ายันดึกกันเลยจ้า ช่วงกลางคืนมีการปิดถนนด้านหน้าให้อารมณ์เหมือนได้มาเดินช้อปในถนนคนเดินเลยนะ รับรองว่ามาแล้วต้องได้ของฝากเวียดนามจากโฮจิมินห์กลับไปรีวิวที่บ้านกันแบบจุใจแน่นอน

หากอยากได้สีสันสดใสเอาไว้ถ่ายรูปเช็คอินในโฮจิมินห์นะ นี่คืออีกหนึ่งพิกัดที่อยากชวนให้แวะมา เพราะเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโฮจิมินห์กันเลยจ้า จะเรียกว่าปากคลองตลาดสไตล์เวียดนามก็ว่าได้ ตลาดนี้เปิดให้บริการกันตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วยนะ มีช่วงว่างเมื่อไหร่ก็ลองแวะมาเดินเล่นกันได้ ที่นี่มีทั้งดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง ไปจนถึงสตรีทฟู้ดสไตล์เวียดนามเลยจ้า มีทั้งดอกไม้ที่คุ้นตาซึ่งเรารู้จักกันดี และดอกไม้ที่เราไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ เป็นอีกพิกัดน่าเดินเล่นในโฮจิมินห์ที่เหมาะจะมาแชะ ชม ชิลล์กันได้แบบเพลินๆ

อีกพิกัดกลางเมืองโฮจิมินห์ที่ให้กลิ่นอายสไตล์ยุโรปแบบเต็มที่ ก็คืออาคารสไตล์เฟรนช์ - โคโลเนียลแห่งนี้นี่ละ ที่นี่เปิดให้บริการกันตั้งแต่ยุคอาณานิคมจนถึงปัจจุบันเลยนะ ทุกวันนี้ก็ยังคงมีการแสดงสารพัดรูปแบบผลัดเปลี่ยนมาโชว์กันในโรงโอเปร่าแห่งนี้ตลอดเวลา ใครอยากมาถ่ายรูปเช็คอินกันเฉยๆ ก็ได้ หรือถ้ามีโชว์ที่น่าสนใจ จะลองซื้อบัตรเข้าไปชมด้านในกันซักรอบก็น่าจะเริ่ดเชียวละ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าโดนเมื่อไปถึงโฮจิมินห์เลยน้า อย่าลืมลงลิสต์ไว้เชียว

วัดเทียนหาว หรือ วัดเจ้าแม่สวรรค์ เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ชาวเวียดนามให้ความเคารพนับถือกันมากมายเชียวละ ตัววัดตั้งอยู่ในย่านไชน่าทาวน์กลางเมืองโฮจิมินห์เลยจ้า วัดนี้อายุเกือบ 300 ปี เชื่อกันว่าที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองเหล่าคนเดินเรือทั้งหลาย ด้านในมีองค์เจ้าแม่ทับทิมให้กราบสักการะขอพรกัน ว่ากันว่าที่นี่นั้นขึ้นชื่อเรื่องการขอพรในด้านการเดินทางและการค้าขายด้วยนะ ใครอยากลองต้องปักหมุดจ้า เสร็จจากการมูที่โฮจิมินห์แล้วกลับมารีวิวให้รู้ด้วยเด้อ

หนึ่งในพิกัดสุดโรแมนติกยามค่ำคืนของโฮจิมินห์ ซิตี้ ก็ต้องมีที่นี่อยู่ในลิสต์ด้วยแน่นอนละ เพราะนี่คือสะพานคนเดินซึ่งมีความยาวประมาณ 170 เมตร ทอดตัวข้ามคลอง Thay Tieu ผ่านต่อไปยังทะเลสาบ Ho Ban Nguyet ตลอดความยาวสะพานนั้นเก๋สุดๆ ตรงที่มีการประดับไฟ LED เป็นระยะ ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่ท่ามกลางดวงดาวกันเลยจ้า ช่วงวันหยุดจะมีการปล่อยน้ำเป็นสายคล้ายน้ำตกซึ่งประดับไฟหลากสีเพิ่มเติมอีกด้วยนะ บอกตรงนี้ว่าเป็นพิกัดที่ทรมานใจคนโสดสุดๆ เลยเชียวละ แต่ถ้ามาโฮจิมินห์เป็นคู่นะ ฟันธงเลยว่านี่คือที่เที่ยวที่มาแล้วต้องฟิน!

เพราะเวียดนามนั้นคืออีกประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารท้องถิ่นซึ่งมีให้เลือกชิมสารพัดอย่างทั้งคาว - หวาน และแน่นอนว่าเมืองใหญ่อย่างโฮจิมินห์นั้นต้องมีสารพัดร้านรวงให้แวะเข้าไปเลือกชิมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านใหญ่ ร้านเล็ก หรือแม้กระทั่งแผงลอยข้างทาง จะเป็นอาหารว่างหรืออาหารจานหลักก็มีให้เลือกจัดหนักชิมกันได้แบบจุใจเลยละ การกินจึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อไปเที่ยวโฮจิมินห์เลยน้า จัดให้จุกกันไปเลยจ้า กลับบ้านมาแล้วค่อยไดเอ็ทก็แล้วกัน!

แม้จะเป็นอาคารที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งไม่สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ไปโฮจิมินห์เข้าชมกันได้ แต่บอกเลยว่าแค่ไปเดินชมความสวยของอาคารโบราณแห่งนี้ก็เพลินสุดๆ แล้วจ้า กลางวันก็สวยหวานคลาสสิกสบายตา ส่วนกลางคืนก็เพิ่มความหวือหวาขึ้นอีกนิดเพราะมีแสงไฟ ที่สำคัญคือเดินทางง่ายเพราะอาคารนี้อยู่ริมถนน Nguyen Hue Walking Street เลยละ แนะนำให้ไปเดินเล่นในช่วงเย็นๆ เป็นต้นไปนะ เพราะจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดชิลล์ของถนนนี้ในยามค่ำคืนต่อกันเลยจ้ะ มาช่วงเย็นแสงสวยด้วยน้า รับรองว่าถ่ายรูปออกมาปังแน่นอน

ว่ากันว่า นี่คือวัดในลัทธิเต๋าซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของโฮจิมินห์เลยเชียวนะ วัดนี้สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ.1909 จ้า ด้านในวัดประดิษฐานรูปจำลองเก่าแก่ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ไว้ให้ได้กราบไหว้ขอพรกันด้วยละ เชื่อกันว่าที่นี่เหมาะกับการมาขอพรในเรื่องของธุรกิจ สุขภาพ หรือโชคลาภนะ นอกจากนั้นยังมีไฮไลท์เป็น Buu Long Pagoda ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีการผสานศิลปกรรมสไตล์เวียดนาม ไทย เมียนมาร์ และอินเดียเข้าไว้ด้วยกันจ้ะ อยากเห็นว่าสวยแปลกตาขนาดไหน ต้องไปชมด้วยตาตัวเองนะ กลับจากโฮจิมินห์แล้วมารีวิวกันด้วยล่ะ จะได้รู้กันว่าเด็ดเบอร์ไหน!

และนี่คือไฮไลท์กิจกรรมที่ต้องทำเมื่อไปเที่ยวโฮจิมินห์กันทั้งที บอกเลยว่าเมืองนี้ที่เที่ยวเด็ดๆ เค้าก็ไม่น้อยหน้าใครเลยละ ที่สำคัญก็คือโฮจิมินห์มีที่เที่ยวซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียงกันเลยนะ จึงเดินทางค่อนข้างง่ายและเที่ยวกันได้อย่างสะดวกสบายเชียวละ ใครอยากลองเที่ยวเวียดนามแบบชิลล์ๆ ไม่ลำบากเกินไป ลองจองตั๋วเครื่องบินโฮจิมินห์กับ Traveloka Travel & Lifestyle Superapp แล้วไปเที่ยวโฮจิมินห์กันดูก่อนซักครั้งนะ เชื่อว่าหลายคนน่าจะประทับใจ