ใครบอกว่าแค่ไก่เท่านั้นที่จะงามเพราะขน? ไก่งามเพราะขนฉันใด คนก็งามได้เพราะ ”ขนตา” ฉันนั้น เคยไหมวันไหนเบื่อๆเนือยๆ จะออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่อยากออกแบบหน้าสดขนาดนั้น บางคนขาดความมั่นใจ อาจจะเพราะ คิ้วบาง ขนตาสั้นกุด ตาตก หรืออะไรก็ว่าไป และรู้สึกขี้เกียจจะแต่งหน้า จะบอกสาวๆทุกคนว่า อย่าเครียดไปค่ะ

ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสาวๆ หลายคนได้หันมาใส่ใจกับขนตากันมากขึ้น เพราะถ้าเรามีขนตาที่หนางอนยาว จะช่วยเสริมให้เรามีใบหน้าที่ดูมีมิติน่ามองจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาว ๆ หลายคนได้ให้ความใส่ใจการต่อขนตามากขนาดนี้ แต่เราเชื่อว่าปัญหาที่ตามมาของสาว ๆ หลายคนคือเลือกไม่ได้ระหว่างต่อขนตา หรือ ลิฟติ้งขนตา แบบไหนดีกว่ากัน? และควรเลือกแบบไหนดี? ถึงจะเหมาะกับใบหน้าของเรา ซึ่งในวันนี้เราก็ได้มีข้อมูลดี ๆ เป็นความรู้ก่อนต่อขนตา 101 มาแชร์เพื่อเป็นทางเลือกให้คุณสาว ๆ นั้นเลือกขนตาที่เหมาะกับใบหน้ามาฝากทุกคนค่ะ

การต่อขนตา หรือ Eyelash Extensions คือ การติดขนตาปลอมแทรกเข้าไปกับขนตาจริงโดยใช้กาวที่เป็นมิตรต่อดวงตาและวัสดุที่เป็นธรรมชาติไม่ระคายเคืองต่อดวงตาเสริมให้ดวงตาของเรากลมโตน่ามองดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งขนตาปลอมที่ใช้ก็มีทำมาจากหลากหลายวัสดุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เส้นผม, เส้นไหมสังเคราะห์, วัสดุสังเคราะห์อื่นๆ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือ ไฟเบอร์ และจากขนสัตว์ เช่น ขนมิ้งค์ ขนกระต่าย หรือขนม้า นั่นเอง โดยสาว ๆ สามารถเลือกความยาวและความหนาของขนตาได้หลากหลายดังนี้

การต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น หรือที่หลายคนอาจเรียกว่า ต่อขนตาแบบธรรมชาติ คือการต่อโดยใช้ขนตาปลอม 1 เส้น ต่อ ขนตาจริง 1 เส้น ซึ่งแบบนี้จะได้ความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับสาวตาเรียว เพราะจะทำให้ตาดูเฉี่ยวแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่และเน้นความเซ็กซี่ของดวงตา

การต่อขนตาแบบวอลลุ่ม หรือ ต่อขนตาแบบช่อ 3D คือการจับเส้นขนตาจริง 1 เส้น กับ ขนตาปลอม (2-5 เส้น) เป็นช่อ เข้าด้วยกัน ซึ่งการต่อแบบนี้จะทำให้ดูหนามากกว่าแบบเส้นต่อเส้น ขนตาจะชัดและดูหนา เหมาะกับคนที่ชอบขนตาแน่นๆ ให้ลุคที่ดูแต่งหน้าเต็มโดยที่ไม่ต้องติดขนตาปลอม ทำให้สาว ๆ แทบไม่ต้องแต่งหน้าในชีวิตประจำวันเลยล่ะค่ะ

การต่อขนตาแบบไฮบริด คือการต่อแบบผสมกันระหว่าง เส้นต่อเส้นและวอลลุ่ม ซึ่งลุคที่ได้จะคล้ายๆกับแบบวอลลุ่ม แต่ดวงตาคุณจะดูคมชัด และดูมีมิติมากกว่า เนื่องจากเป็นการใช้เทคนิคต่อเส้นต่อเส้นและต่อด้วยช่อสลับกันไปมานั่นเองค่ะ

โดยข้อดีของการต่อขนตา คือ ขนตาหนาเด้งใบหน้าดูมีมิติ ไม่ต้องแต่งหน้าเยอะก็สามารถออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เลยนอกจากนี้ยังราคาไม่แพงอีกด้วย โดยสาว ๆ สามารถเลือกขนาดความหนา ความยาว และวัสดุได้ตามบัดเจทที่มี ไม่ว่าจะเลือกต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น หรือ ต่อขนตาแบบธรรมชาติโดยระยะเวลาของความติดทนนั้นอยู่ที่วิธีการรักษาของแต่ละคนบางคนเมื่อติดขนตาปลอมไปแล้วคงทนยาวนานถึง 3 เดือนซึ่งระยะเวลาการติดทนของขนตาปลอมนั้นขึ้นอยู่กับการรักษานั่นเอง โดยข้อควรระวังหลังต่อขนตาเพื่อไม่ให้ขนตาปลอมร่วงเร็วแต่อยู่ยาวนานขึ้นคือ ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า หรือดวงตาที่เป็น oil based ทุกชนิด เพราะส่วนผสมที่เป็นน้ำมัน (oil based) จะทำให้กาวต่อขนตานั้นเสื่อมคุณภาพลงได้ นอกจากนั้นก็ควรเลือกเช็ดใบหน้าด้วยสำลีหรือผ้าขนหนูอย่างเบามือที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นขนตาจริงของเราก็อาจร่วงตามขนตาปลอมได้ค่ะ ซึ่งราคาการต่อขนตาจะอยู่ที่ประมาณ 800 - 3,500 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิดของการต่อและจำนวนเส้นนั่นเองค่า)

การลิฟติ้งขนตา หรือ Eyelash lifting คือ การดัดโคนขนตาหรือยกโคนขนตา ซึ่งลิฟติ้งขนตานี้จะช่วยให้ขนตางอนเหมือนปัดขนตาด้วยมาสคาร่าอยู่ตลอดเวลาซึ่งระยะเวลาของความงอนจะอยู่ที่ประมาณ 6 สัปดาห์ถึง 2 เดือน หากสาว ๆท่านใดที่มีขนตาที่หนาอยู่แล้วแต่ไม่งอนการลิฟติ้งขนตานี้จะช่วยเสริมให้ดวงตาเป็นธรรมชาติมากกว่าการต่อขนตานั่นเองค่ะ

โดยข้อดีของการลิฟติ้งขนตา คือจะมีความเบาสบายมากกว่าการต่อขนตาและมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าเพราะใช้ขนตาตัวเองในการทำลิฟติ้งนอกจากนี้ยังดูแลง่ายไม่ต้องกลัวขนตาจริงร่วงอีกด้วย ซึ่งถ้าหากสาว ๆ ท่านใดที่มีขนตาที่หนาอยู่แล้วและชื่นชอบความเป็นธรรมชาติเราขอแนะนำการลิฟติ้งขนตานี้ค่ะซึ่งราคาการลิฟติ้งขนตาจะอยู่ที่ประมาณ 800-2,000 บาท

หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้วเราเชื่อว่าสาว ๆ คงได้ข้อมูลสำหรับการเลือก ต่อขนตา กับ ลิฟขนตา แบบไหนดีกว่ากัน? ไม่มากก็น้อยใช่ไหมคะ? ซึ่งช่วยให้สาว ๆ เลือกได้ว่าใบหน้าของคุณนั้นเหมาะกับการต่อขนตาปลอมหรือลิฟขนตามากกว่ากัน แอบกระซิบบอกสาว ๆ ทุกคนว่า ไม่ว่าจะต่อขนตาปลอมหรือลิฟติ้งขนตานี้จะช่วยเสริมให้ดวงตาคุณมีมิติน่ามองเพิ่มขึ้นไปอีก รับรองว่าจึ้งแน่นอนค่ะ