จองรีสอร์ทและบ้านพักนครนายก บรรยากาศดี ราคาถูก กับ Traveloka ผู้ให้บริการจองออนไลน์แสนสะดวก มาพร้อมกับ
ส่วนลดสูงสุด 81%นครนายก จังหวัดภาคกลางขนาดเล็กที่แสนสงบ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ป่า ภูเขา แต่ละสถานที่อุดมไปด้วยอากาศบริสุทธิ์พร้อมให้นักท่องเที่ยวไปเติมพลังกาย พลังใจ จุดเด่นของนครนายกคือในช่วงกันยายน - กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่ดอกบัวสีชมพูบานให้เห็นกันอย่างเต็มที่
จังหวัดนครนายกอยู่ในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย จากการขุดค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณต่างๆ ทำให้สันนิษฐานได้ว่านครนายกเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ตั้งแต่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงยุคปัจจุบัน ชื่อนครนายกสันนิษฐานได้จาก 2 ที่มา อย่างแรกคือเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งก่อนรัชสมัยของพระเจ้าอู่ทอง (ไม่ปรากฏหลักฐานระบุพระนาม) ทรงอยากสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนอพยพมาตั้งถิ่นฐานยังพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นป่ารกร้างและมีไข้ป่าชุกชุมมาก จึงได้ทรงประกาศยกเว้นการเก็บอากรค่านาแก่ผู้ที่จะเข้ามาหักร้างถางพงตั้งรกรากบริเวณนี้ ชาวบ้านจึงเรียกเมืองนี้ว่าเมืองนายกและกลายเป็นนครนายกในเวลาต่อมา ส่วนอีกข้อสันนิษฐานเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่การปกครองหัวเมืองชั้นนอกและชั้นในของหัวเมืองที่อยู่ทางด้านเหนือนั้นมีสมุหนายกเป็นผู้ปกครอง ส่วนหัวเมืองทางด้านใต้นั้นอยู่ภายใต้อาณัติของของสมุหกลาโหม ซึ่งเมืองนครนายกก็รวมอยู่ในหัวเมืองทางด้านใต้นี้ด้วย แต่ต่อมาในภายหลังได้มีการโยกย้ายเมืองนี้ให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของทางด้านสมุหนายก จึงมีการเรียกเมืองนี้ว่านครนายกนับตั้งแต่นั้นมา
จังหวัดนครนายกอยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 107 กิโลเมตร สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นพื้นราบ เว้นแต่ทางตอนเหนือและตะวันออกจะมีภูเขาสูงชัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่เรารู้จักกันดี สภาพพื้นดินส่วนใหญ่เหมาะแก่การเพาะปลูก ทำนา และทำสวนผลไม้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นตราประจำจังหวัดนครนายกเป็นรูปช้างชูงวงเกี่ยวรวงข้าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์และการเป็นเมืองเกษตรของนครนายกนั่นเอง ดังนั้น ผลผลิตทางการเกษตรจึงเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองนี้ นอกไปจากพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวในนครนายก ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความงามตามธรรมชาติ อาทิ ป่าไม้และน้ำตกต่างๆ อันเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ในจังหวัดนครนายกนั่นเอง
เนื่องจากจุดขายหลักของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดนครนายก มักจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เน้นในเรื่องของความงามตามธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ ที่พักในจังหวัดนครนายกจึงมีให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่ โฮมสเตย์ในสวนผลไม้ โรงแรมขนาดเล็กและใหญ่ ไปจนถึงรีสอร์ทขนาดเล็กหรือรีสอร์ทแอนด์สปาแบบสุดหรู แต่ไม่ว่าจะเป็นที่พักในรูปแบบใด ส่วนใหญ่จะมีจุดขายหรือทำเลที่ตั้งไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือการอยู่ใกล้ชิดกับความงามตามธรรมชาติของเมืองนครนายก ไม่ว่าจะเป็นสวนผลไม้ ภูเขา ป่าไม้ น้ำตก หรืออย่างน้อยที่สุดก็มักจะต้องมีพื้นที่สนามหญ้ากว้างขวางไว้ให้ผู้เข้าพักอาศัยได้ใช้เดินเล่นสูดอากาศดีๆ หรือจัดปาร์ตี้สังสรรค์กลางแจ้ง ซึ่งตัวอย่างของที่พักในสไตล์รีสอร์ทที่น่าสนใจในนครนายกก็มีหลากหลาย อาทิ
, , , และ เป็นต้นเป็นโรงแรมขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ห้องพักค่อนข้างครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่จำเป็น ภายนอกตกแต่งด้วยสีที่เรียบง่าย ส่วนห้องพักด้านในเน้นการใช้สีสันสดใสตกแต่งเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา พื้นที่ลานจอดรถกว้างขวางสะดวกและเป็นสัดส่วน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
หนึ่งที่พักในจังหวัดนครนายกที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอย่างน้ำตกวังตะไคร้ และเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ในพื้นที่กว้างขวาง มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ทั้งในแบบห้องพักและบ้านพักเป็นสัดส่วน สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ สปา สนามเด็กเล่น สนามหญ้า และจุดทำกิจกรรมอีกมากมาย
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
โรงแรมสไตล์โมเดิร์นที่ตกแต่งในรูปแบบทันสมัย สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องใช้ภายในห้องพัก อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองและแหล่งชุมชน จึงเดินทางง่าย ใกล้ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
โรงแรมราคาดีที่เน้นการตกแต่งแบบผสมผสาน เรียบง่าย และมุ่งเน้นที่ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลักใหญ่ มีห้องพักหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้บริการตามความต้องการและจำนวนของผู้เข้าพัก พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ที่พักเรียบง่ายในสไตล์ครอบครัว มีให้เลือกทั้งแบบเป็นห้องพักบนตึกและแบบเป็นบ้านหลังเดี่ยว ด้านในตกแต่งแบบสบายๆ ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน แต่มีข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
อีกหนึ่งที่พักสไตล์รีสอร์ทในนครนายก เงียบสงบเพราะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวนร่มรื่นที่รายรอบ เป็นส่วนตัวเพราะที่พักเป็นหลังเดี่ยวมีระยะห่างจากกัน แต่ละหลังจึงมีพื้นที่เป็นสัดส่วนไม่แออัด ในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
รีสอร์ทในบรรยากาศบ้านสวนพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับคนชอบพักอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นในหมู่แมกไม้ บ้านพักแต่ละหลังมีพื้นที่ห่างกันเป็นส่วนตัว และมีห้องพักหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้บริการตามความต้องการ
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ตั้งอยู่ไม่ไกลมากจากน้ำตกวังตะไคร้ มีบ้านพักหลายขนาดให้เลือกใช้บริการตามความต้องการและปริมาณของผู้เข้าพัก บ้านพักตกแต่งแบบเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง มีสระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่ให้ใช้สอย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายในห้องพักครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
อีกหนึ่งที่พักราคาดีในนครนายก ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเขียวขจีเป็นธรรมชาติ เงียบ สงบ ไม่พลุกพล่าน ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ที่พักตกแต่งสวย แลดูโปร่งสบาย ในสไตล์ลอฟท์ ห้องพักแสนสะดวกด้วยอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นครบครัน
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
อีกหนึ่งที่พักใกล้ชิดธรรมชาติในนครนายก พื้นที่กว้างขวาง ครอบคลุมพื้นที่สีเขียวร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่สุดสายตา เหมาะสำหรับคนที่ชอบพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ทำกิจกรรมหลากหลายทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และสปา
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
ที่พักขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่โล่งกว้างเต็มไปด้วยต้นไม้ให้ความร่มรื่น บรรยากาศโดยรวมตกแต่งแบบไทยประยุกต์ มีมุมสบายให้เลือกนั่งพักผ่อนได้หลากหลาย ทั้งภายในและนอกตัวอาคาร ตรงกลางที่พักมีสระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่เหมาะกับการใช้พักผ่อนหย่อนใจในวันสบายๆ ของครอบครัว
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
อีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจในนครนายก บรรยากาศโดยรวมตกแต่งในบรรยากาศทันสมัย เน้นความสดใสของสีสันและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ เน้นโทนสีขาวเป็นหลักเพื่อความโปร่งสบายตา แต่ให้บรรยากาศสนุกสนาน มีชีวิตชีวา ถูกใจคนชอบถ่ายรูปเพราะมีมุมน่ารักๆ มากมาย พื้นที่กว้างมีกิจกรรมให้ทำมากมายอย่างการว่ายน้ำ ทำสปา หรือเล่นกีฬากลางแจ้งอื่นๆ
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
เป็นที่พักในนครนายกที่อยู่ใกล้กับน้ำตกวังตะไคร้และเขื่อนขุนด่านปราการชล ตัวที่พักให้บรรยากาศแบบสมัยใหม่ แต่แฝงไว้ด้วยความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ มีให้เลือกทั้งแบบห้องพักบนตึกและบ้านพักเป็นหลัง พื้นที่สนามหญ้าส่วนกลางกว้างขวางร่มรื่น มีสระว่ายน้ำให้ใช้บริการ
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
รีสอร์ทสไตล์บ้านสวนที่อยู่ไม่ไกลจากเขื่อนขุนด่านปราการชล บ้านพักแต่ละหลังกว้าง มีพื้นที่สวนส่วนกลางระหว่างกันเพิ่มบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ทุกหลังตกแต่งแบบเรียบง่าย พร้อมข้าวของเครื่องใช้ครบครัน พื้นที่สวนส่วนกลางกว้างขวาง ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์
คลิกเพื่อจองที่พัก >>
เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทางด้านน้ำตกเหวนรก มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวสองจุดใหญ่ๆ โดยส่วนแรกคือการเที่ยวชมวิวบนสันเขื่อน ซึ่งผู้มาเยือนจะได้เห็นทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่กว้างสุดสายตาที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงเขียวครึ้ม ในขณะที่อีกด้านของสันเขื่อนจะเป็นวิวแบบพาโนรามาของตัวเมืองนครนายก ซึ่งทิวทัศน์บริเวณบนสันเขื่อนนี้จะสวยงามมากที่สุดในช่วงพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น บริเวณสันเขื่อนแห่งนี้ ยังเป็นที่นิยมในการวัดพลังกล้ามเนื้อขาของเหล่าคนรักการปั่นจักรยานอีกด้วย เราจึงมักเห็นภาพนักปั่นมากหน้าหลายตาเป็นระยะๆ ตลอดเส้นทางถนนที่ขึ้นมาท่องเที่ยวยังสันเขื่อนด้านบน ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากยามมาเยือนเขื่อนขุนด่านปราการชลแห่งนี้ นั่นก็คือการลงเล่นน้ำบริเวณด้านล่างเขื่อน ซึ่งนอกจากจะมีสายน้ำตลอดปีจากการผันน้ำตามปกติแล้ว ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทางเจ้าหน้าที่มักจะมีการผันน้ำเป็นพิเศษ เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีโอกาสได้เล่นน้ำและทำกิจกรรมพักผ่อนอื่นๆ ริมน้ำกันอย่างสนุกสนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่บริเวณนี้จะมีผู้คนค่อนข้างคับคั่งในช่วงวันหยุดนั่นเอง และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาที่พักในนครนายกซึ่งอยู่ใกล้เขื่อนขุนด่านปราการชลแห่งนี้ บอกได้เลยว่ามีหลายตัวเลือกที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น
, , , และ เป็นต้นเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
เป็นน้ำตกขนาดกลางซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของนครนายก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ห่างจากตัวเมืองนครนายกประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นสายน้ำเส้นยาวที่ไหลผ่านลดหลั่นมาตามชั้นหินที่มีขนาดไม่สูงมาก และในส่วนของชั้นหินแต่ละชั้น จะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่และเล็กรองรับปริมาณน้ำที่ไหลรินลงมาท่ามกลางพื้นที่ป่าไม้เขียวขจี จึงเป็นน้ำตกที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาแวะพักและลงเล่นน้ำจำนวนมาก เนื่องจากลงเล่นน้ำได้หลายจุด และสามารถเล่นได้ตลอดทั้งปี แถมยังมีบริเวณแอ่งซึ่งลงเล่นน้ำได้ให้เลือกหลายที่ตามความพึงพอใจ มีจุดชมวิวเป็นสะพานทอดข้ามผ่านน้ำตก สามารถมองเห็นน้ำตกนางรองไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ แต่ต้องเดินขึ้นไปทางตามทางลาดยางอีกราว 200 เมตร และแม้จะสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ฤดูกาลที่ดีที่สุดมักจะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน และควรระวังน้ำไหลหลากรุนแรงในช่วงฤดูฝน ซึ่งนักท่องเที่ยวควรจะต้องติดตามป้ายประกาศของทางอุทยานให้ดีเพื่อความปลอดภัย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม รถยนต์พร้อมคนขับคันละ 50 บาท รถตู้พร้อมคนขับคันละ 100 บาท ผู้โดยสารเพิ่มเติมคนละ 10 บาท
อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายใต้การดูแลของมูลนิธิจุมภฏ – พันธุ์ทิพย์ บริพัตร มีพื้นที่โดยรวมราว 1,400 ไร่ ภายในมีพันธุ์ไม้ดอกและไม้ประดับมากมาย จุดเด่นคือลำธารที่ไหลรินเป็นระยะทางยาวเหยียดผ่านโขดหินน้อยใหญ่ เกิดเป็นเกาะแก่งเล็กๆ กระจายตัวตลอดสายน้ำ ซึ่งสายน้ำแห่งนี้เกิดจากการไหลมารวมตัวกันของลำธารสองสาย คือคลองมะเดื่อจากน้ำตกเหวกระถิน และคลองตะเคียนจากน้ำตกแม่ปล้อง โดยตลอดระยะสายน้ำของวังตะไคร้ มีต้นตะไคร้น้ำและตะไคร้หางนาคขึ้นอยู่ทั่วไป โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาลงเล่นในสายน้ำเย็นสดชื่นของวังตะไคร้ โดยมีไฮไลท์คือการล่องแก่งด้วยห่วงยางเป็นระยะทางยาวจากต้นน้ำไปยังท้ายน้ำ แต่นอกจากนั้นด้านในวังตะไคร้ยังมีส่วนอื่นให้ได้เที่ยวชมกัน เช่น สระปทุม ซึ่งเป็นสระบัวขนาดใหญ่สองฝั่งถนน มีให้ชมทั้งดอกบัววิคตอเรียและบัวพันธุ์อื่นๆ อีกกว่า 200 สายพันธุ์ และยังมีกิจกรรมโรยตัวข้ามสายน้ำระยะทางยาวกว่า 100 เมตรอีกด้วย และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักน่าสนใจใกล้น้ำตกวังตะไคร้อยู่ ตัวอย่างที่พักน่าสนใจมีหลายแห่ง อาทิ
, , , และ เป็นต้นเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม รถยนต์ทุกประเภท พร้อมผู้โดยสารไม่เกิน 8 คน คันละ 150 บาท (เกินจากนั้นคิดคนละ 10 บาท) รถจักรยานยนต์ ค่าจอดรถคันละ 10 บาท นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาพร้อมรถยนต์ คนละ 10 บาท
มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าวัดพราหมณี สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี มีที่มาเมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี และเมื่อมาถึงบริเวณนี้มีช้างเชือกหนึ่งเกิดล้มลง จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกทำเลที่ตั้งของวัดนี้เพื่อใช้เป็นจุดพักกองทัพ จนกระทั่งสงครามสิ้นสุดลง โดยวัดแห่งนี้เคยถูกทิ้งให้กลายเป็นวัดร้างอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2526 มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์เป็นศิลปะแบบล้านช้าง หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากเป็นพระพุทธรูปที่มีริมฝีปากเป็นสีแดงสด อันเป็นที่มาของการเรียกขานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ว่าหลวงพ่อปากแดง โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่ในท้องถิ่นยืนยันว่าริมฝีปากขององค์หลวงพ่อจะมีสีแดงเช่นนี้มาตั้งแต่ครั้งสมัยโบราณโดยไม่มีใครทราบสาเหตุและที่มา ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมากราบไหว้บูชา นมัสการองค์หลวงพ่อปากแดงเพื่อเป็นสิริมงคลกันอย่างแน่นขนัดทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและก่อนวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล จะมีนักท่องเที่ยวแน่นขนัดเป็นพิเศษ ส่วนบริเวณภายในวัดมีบริการที่จอดรถสะดวกสบาย และมีร้านค้าให้เช่าวัตถุมงคล รวมถึงขายของที่ระลึกเป็นระยะทางยาวไปตลอดเส้นทาง
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 18.00 น.
เป็นลำธารสายเล็กๆ ไหลรินอยู่กลางป่าไม้ มีด้วยกันทั้งหมด 5 คลอง แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปจะสามารถเที่ยวชมได้จนถึงบริเวณคลองที่ 3 เท่านั้น เนื่องจากในส่วนของคลองชั้นที่ 4 และ 5 เป็นเขตหวงห้ามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เส้นทางเข้าไปเที่ยวยังคลองมะเดื่อมีสภาพเส้นทางที่ยากลำบาก ขรุขระเพราะเป็นถนนลูกรังดินแดง และบางส่วนเป็นหิน ส่วนใหญ่รถที่เข้ามาเที่ยวยังบริเวณคลองนี้ได้จึงมักจะต้องเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ทำให้เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางสุดโปรดสายหนึ่งของเหล่าสิงห์นักขับรถออฟโรด ซึ่งมักจะนำรถมาทดสอบสมรรถภาพกันอยู่เป็นระยะๆ ทีเดียว โดยรอบเส้นทางเข้าสู่คลองมะเดื่อ มีที่พักในแนวใกล้ชิดธรรมชาติเปิดให้บริการอยู่เรียงราย หรือใครจะเลือกใช้บริการลานกางเต๊นท์ในบริเวณที่มีให้ก็สามารถติดต่อเจ้าของพื้นที่ให้บริการได้โดยตรง
ตั้งอยู่ในอำเภอสาลิกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก มีต้นนำมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นับเป็นจุดเล่นน้ำสุดฮิตของชาวนครนายก เพราะนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำนครนายกแล้ว ยังอยู่ใกล้กับเขื่อนขุนด่านปราการชลอีกด้วย สายน้ำแห่งนี้จึงเป็นจุดที่รับน้ำซึ่งปล่อยมาจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ทำให้บริเวณนี้มีน้ำในลำน้ำตลอดทั้งปี ซึ่งบริเวณนี้มีลักษณะการไหลของน้ำไหลลดหลั่นกันลงมาคล้ายขั้นบันได และเมื่อยามที่ทางเขื่อนทำการปล่อยน้ำออกมาจะทำให้เกิดกระแสน้ำซึ่งเหมาะกับการล่องแก่งอย่างปลอดภัย เพราะเป็นกระแสน้ำในระดับที่ไม่รุนแรงจนทำให้เกิดอันตราย โดยนักท่องเที่ยวนิยมใช้วิธีล่องแก่งด้วยแพยางและห่วงยางขนาดใหญ่ โดยปล่อยไหลให้ลอยไปตามกระแสน้ำ และนอกจากจะมาเล่นน้ำแล้ว บริเวณแถบนี้ยังมีซุ้มสำหรับบริการอาหารแก่นักท่องเที่ยว ให้ได้แวะมานั่งกินลมชมวิวพร้อมทั้งรับประทานอาหารอร่อยๆ อย่างสุดเพลินอีกด้วย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 18.30 น.
อัตราค่าบริการ รถยนต์ 4 ที่นั่ง ราคาคันละ 20 บาท / รถยนต์ 5 ที่นั่ง 30 บาท และรถยนต์ 6 ที่นั่ง 50 บาท
หากไม่นับน้ำตกเหวนรกในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำตกสาลิกานับเป็นน้ำตกที่สวยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครนายก น้ำตกสาริกาตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นรวม 9 ชั้น ส่วนที่สูงที่สุดเป็นสายน้ำขนาดใหญ่ที่ทิ้งตัวลงจากหน้าผาสูงราว 200 เมตร ก่อนจะขังเป็นแอ่งน้ำที่มีขนาดน้อยใหญ่ซึ่งบางแห่งไม่ลึกมากจึงเหมาะแก่การลงเล่นน้ำของนักท่องเที่ยว ส่วนล่างสุดจะเป็นน้ำตกซึ่งไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่รองรับอยู่ด้านล่างจึงเป็นจุดที่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ และมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมากที่สุด ช่วงที่เหมาะแก่การมาเที่ยวน้ำตกสาริการคือช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างในช่วงเดือนตุลาคม เนื่องจากยังคงเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะ แต่ไม่ไหลเชี่ยวกรากเท่าในช่วงกลางฤดูฝน บริเวณโดยรอบของน้ำตกสาลิกาจะมีร้านค้าและร้านอาหารให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท
เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และยังเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคกลางอีกด้วย น้ำตกเหวนรกถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางเข้ามายังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยากมาเห็นด้วยตา เนื่องจากเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลบ่าลงมาจากหน้าผาสูงชัน 90 องศา ทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ตระการตาทั้งในเรื่องของละอองน้ำที่ตกกระทบกระจายออกมาเป็นวงกว้าง รวมถึงเสียงดังสนั่นของสายน้ำที่ตกจากที่สูงลงมากระทบแก่งหินด้านล่าง ลักษณะน้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตก 3 ชั้น น้ำตกชั้นแรกมีความสูง 50 เมตร การจะไปถึงน้ำตกชั้นแรกต้องใช้การเดินเท้าเข้าไปราว 1 กิโลเมตร และไต่ตามบันไดเหล็กลงไปยังจุดชมวิวที่ทางอุทยานทำไว้อีกราว 200 เมตร สำหรับน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 อยู่สูงขึ้นไปอีกราว 150 เมตร และยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชม เนื่องจากเกรงจะมีผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติและสัตว์ป่าที่อยู่โดยรอบบริเวณนั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานในการนำทางเพื่อความปลอดภัย และช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเข้าชมคือช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม เพราะเป็นช่วงน้ำหลากที่มีน้ำมาก และน้ำตกจะมีความสวยงามยิ่งใหญ่อลังการ หากต้องการมองหาที่พักดีๆ ในนครนายกที่อยู่ใกล้บริเวณน้ำตกเหวนรก ก็นับว่ามีหลายแห่งที่เป็นตัวเลือกอันน่าสนใจ อาทิ
, และ เป็นต้นเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
อัตราค่าบริการ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท
พื้นที่กลางแจ้งกว่า 53 ไร่โอบล้อมด้วยขุนเขาแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน#พระพุทธรูป#ปางแสดงโอวาทปาติโมกข์สีทองสูงถึง 13.5 เมตรดูสง่างามเป็นอย่างยิ่ง ด้านหน้าองค์พระยังมีพระพุทธรูป 1,250 องค์ อันเป็นการระลึกถึงวันจาตุรงคสันนิบาตที่มีพระสาวกมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 - 18.00น.
เป็นร้านอาหารที่เปิดบริการในย่านนี้มากว่า 10 ปี เน้นให้บริการอาหารอีสานรสจี๊ด รวมถึงอาหารไทยอื่นๆ บรรยากาศร้านกว้างขวางสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก จานเด็ดที่แนะนำคือไก่ย่าง เพราะไก่ย่างร้านนี้รสอร่อยเด็ดจนถึงขั้นกวาดรางวัลชนะเลิศในจังหวัดนครนายกมาแล้ว
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 21.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 037-385168, 087-1323919
ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ อยู่ใกล้กับน้ำตกสาลิกา บรรยากาศสบายๆ สไตล์เป็นกันเอง ให้บริการก๋วยเตี๋ยวเรือทั้งหมูและเนื้อ รวมไปถึงอาหารไทยรสอร่อยและอาหารอีสานรสแซ่บ เมนูที่แนะนำคือก๋วยเตี๋ยวเรือที่เสิร์ฟมาในกะลา อันเป็นที่มาและซิกเนเจอร์ของร้านนี้
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 15.00 น. (เว้นวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ 083-295-8119
อีกหนึ่งร้านอาหารบรรยากาศเริ่ดในนครนายก ตั้งอยู่ในบริเวณป่ามะขามฟอเรสต์ ใกล้กับเขื่อนขุนด่านปราการชล บรรยากาศสุดชิลล์เพราะเป็นร้านอาหารริมน้ำที่ตั้งโต๊ะกันในลำธาร สามารถนั่งกินไปพลางเอาขาแช่น้ำเย็นๆ ไปได้พร้อมกัน เมนูแนะนำคือ ต้มยำปลาคังและเมี่ยงปลา
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 086-1385187
สนามบินที่อยู่ใกล้จังหวัดนครนายกมากที่สุดคือ
ในกรุงเทพฯ จากนั้นให้เดินทางต่อด้วยรถประเภทต่างๆสำหรับทางลัด สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 305 (เลียบคลองรังสิต) ผ่านอำเภอองครักษ์ โดยระยะทางทั้งหมดเท่ากับ 106 กิโลเมตร หรือเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งเส้นทางยาวกว่า โดยเลี้ยวขวาที่หินกอง จากนั้นมุ่งสู่ถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) ระยะทางทั้งหมด 137 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ มีรถประจำทางออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร โดยออกทุกวัน ทุก 30 นาที ตั้งแต่เวลา 5.30 - 8.30 น. อีกทั้งมีรถประจำทางสายอื่น เช่น กรุงเทพฯ-หินกอง-นครนายก กรุงเทพฯ-รังสิต-องครักษ์-นครนายก ตลอดจนรถประจำทางปรับอากาศชั้น 2 ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-องครักษ์-โรงเรียนนายร้อยทหารจปร. (ผ่านตัวเมืองนครนายก)
เส้นทางที่ 2 มีรถประจำทางจากนครนายกไปจังหวัดใกล้เคียง เช่น ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระบุรี และจันทบุรี
สามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินรถประจำทางดังกล่าวได้จากบริษัท ขนส่ง จำกัด (กรุงเทพฯ) ที่หมายเลข 0-2391-2504 และสถานีขนส่งผู้โดยสาร นครนายก หมายเลขโทรศัพท์ 0-3731-4660
จากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง คุณสามารถเรียกแท็กซี่เพื่อไปจังหวัดนครนายกได้โดยตรงและสะดวกสบาย การเดินทางใช้เวลาประมาณ 75 - 90 นาที ค่าโดยสารไม่เกิน 2,000 บาท
คุณสามารถโดยสารตุ๊กตุ๊กเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักนครนายกต่างๆในตัวเมืองได้อย่างสะดวก โดยส่วนใหญ่รถจะจอดรอรับผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง ทั้งนี้ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก บริเวณศาลากลาง
สำหรับผู้ที่ชอบการท้าทายต้องห้ามพลาดกิจกรรมล่องแก่งที่สามารถทำได้ตลอดปี (น้ำจะแรงที่สุดในช่วงเดือน ก.ค. - ต.ค.) ซึ่งมีระดับความยากตั้งแต่ 3-5 โดยเส้นทางจะเริ่มต้นที่บริเวณเชิงสะพานท่าด่าน และใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นสถานที่ที่ชาวนครนายกให้ความเคารพสักการะ แต่เดิมเป็นเพียงเสาไม้สูงหนึ่งเมตรตั้งอยู่ไม่ไกลจากกำแพงเมือง จากนั้นจึงมีการบูรณะโดยสร้างเป็นศาลาจตุรมุขภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมศรัทธาของเมือง
การเที่ยวชมตลาดทำให้คุณได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่น เช่นเดียวกับการเที่ยวตลาดวัดหลวงพ่อปากแดง ที่ตลาดแห่งนี้คุณจะได้ชมวัดที่สวยงามและเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ไม่ว่าของท้องถิ่นหรือนำเข้า ผลไม้ งานหัตถกรรม สินค้านำเข้าจากกัมพูชาในราคาสมเหตุผล การเดินทางก็ไม่ยากลำบากเพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น