สถานที่ท่องเที่ยว City and Borough of Wrangell

ดูจุดหมายปลายทางอื่นๆ
ค้นหา

สิ่งที่ผู้คนนิยมในCity and Borough of Wrangell

แสดงความคิดเห็นเมื่อคุณทำได้!

สิ่งนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้มากในการวางแผนการเดินทางของพวกเขา

รายละเอียดเกี่ยวกับ City and Borough of Wrangell

เกี่ยวกับแรนเกลล์ (Wrangell), สหรัฐอเมริกา

แรนเกลล์ (Wrangell) คือเมืองเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในรัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนเมืองใหญ่ๆ แต่บอกเลยว่าเสน่ห์ของที่นี่คือความเงียบสงบและธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์สุดๆ เหมือนเพื่อนที่ชอบชวนเราไปพักใจหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงนั่นแหละ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแบบ Unseen ที่ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวอะแลสกันแท้ๆ แรนเกลล์คือคำตอบ!

สถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็กอินห้ามพลาดในแรนเกลล์

ถึงจะเป็นเมืองเล็ก แต่แรนเกลล์ก็มีอะไรให้ทำเยอะกว่าที่คิดนะ! เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วตามไปเก็บแต้มเช็กอินกันเลย:

  • Petroglyph Beach State Historic Park: ชายหาดที่มีภาพสลักหินโบราณอายุหลายพันปี เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เราจะได้เดินเล่นชมศิลปะไปพร้อมๆ กับสูดอากาศบริสุทธิ์
  • Mount Dewey Trail: สายเทรคกิ้งต้องไม่พลาด! เส้นทางเดินป่าขึ้นเขาที่ไม่ยากเกินไป แต่ได้เห็นวิวเมืองแรนเกลล์แบบพาโนรามา
  • Anan Creek Wildlife Observatory: ใครอยากเห็นหมีกริซลี่จับปลาแซลมอนต้องมาที่นี่! เป็นประสบการณ์สุดตื่นเต้นที่เราจะได้ดูสัตว์ป่าในระยะใกล้
  • Wrangell Museum: พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองแรนเกลล์ ตั้งแต่ยุคชนเผ่าพื้นเมือง Tlingit ไปจนถึงยุคที่รัสเซียเข้ามาปกครอง
  • Chief Shakes Island: เกาะเล็กๆ ที่มีบ้านของหัวหน้าเผ่า Shakes ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของชนเผ่า Tlingit เป็นสถานที่ที่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชนเผ่าพื้นเมือง

อะไรที่ทำให้แรนเกลล์ไม่ควรพลาด

สิ่งที่ทำให้แรนเกลล์แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในอะแลสกาคือความเป็นกันเองของคนที่นี่ และความรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกอีกใบที่เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ลองนึกภาพตัวเองตื่นเช้ามาจิบกาแฟ มองออกไปเห็นภูเขาหิมะและทะเลสีฟ้าคราม แค่นี้ก็คุ้มแล้ว!

  • ประสบการณ์ Immersive วัฒนธรรม: ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชนเผ่า Tlingit ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ การชมการแสดง และการพูดคุยกับคนท้องถิ่น
  • ธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์: ได้สัมผัสความงามของป่าดิบชื้น ทะเล ภูเขา และธารน้ำแข็ง
  • กิจกรรมกลางแจ้งหลากหลาย: ไม่ว่าจะเดินป่า พายเรือคายัค ตกปลา หรือดูสัตว์ป่า ก็มีให้เลือกทำได้หมด

ลิสต์ที่ต้องทำในแรนเกลล์

มาแรนเกลล์แล้วต้องทำอะไรบ้าง? นี่คือลิสต์กิจกรรมที่เพื่อนแนะนำเพื่อนว่าห้ามพลาด:

  1. ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง LeConte Glacier: ธารน้ำแข็งสีฟ้าครามขนาดใหญ่ที่ไหลลงสู่ทะเล เป็นภาพที่สวยงามอลังการจนต้องร้องว้าว
  2. ตกปลาแซลมอน: แรนเกลล์เป็นแหล่งตกปลาแซลมอนที่ขึ้นชื่อ ใครอยากลองตกปลาด้วยตัวเองต้องมาที่นี่
  3. เดินป่าใน Tongass National Forest: ป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ
  4. แช่น้ำพุร้อน Chief Shakes Hot Springs: ผ่อนคลายร่างกายในน้ำพุร้อนธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยป่าเขา
  5. ชิมอาหารทะเลสดๆ: แรนเกลล์เป็นเมืองท่าที่มีอาหารทะเลสดใหม่ให้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปู หรือกุ้ง

ย่านน่าเที่ยวในแรนเกลล์

ถึงแรนเกลล์จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีหลายย่านที่น่าเดินเล่นและสำรวจ:

  • Downtown Wrangell: ย่านใจกลางเมืองที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์
  • Shoemaker Bay: ท่าเรือที่คึกคักไปด้วยเรือประมงและเรือท่องเที่ยว
  • Zimovia Highway: ถนนที่เลียบชายฝั่งและมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

ย่านแนะนำสำหรับนักเดินทางแต่ละประเภท

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางสไตล์ไหน แรนเกลล์ก็มีมุมที่ตอบโจทย์:

  • คนเที่ยวคนเดียว: Downtown Wrangell เป็นย่านที่ปลอดภัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • ครอบครัว: Shoemaker Bay เป็นย่านที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ
  • สายแอดเวนเจอร์: Tongass National Forest เป็นสวรรค์ของคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
  • คนรักความหรู: LeConte Glacier เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการล่องเรือชมวิวแบบส่วนตัว

อาหารห้ามพลาดในแรนเกลล์

มาแรนเกลล์แล้วต้องลองชิมอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น:

  • ปลาแซลมอนย่าง: เมนูคลาสสิกที่หากินได้ทุกร้าน
  • ปู Dungeness: ปูเนื้อแน่นหวานฉ่ำที่จับได้จากทะเลแถบนี้
  • กุ้ง Spot Prawn: กุ้งตัวโตเนื้อเด้งที่อร่อยจนหยุดไม่ได้

เทศกาล งานอีเวนต์ และวัฒนธรรมประจำถิ่นในแรนเกลล์

ถ้าอยากสัมผัสวัฒนธรรมของแรนเกลล์อย่างใกล้ชิด ลองมาเที่ยวในช่วงเทศกาลสำคัญ:

  • Wrangell Garnet Festival: เทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อเฉลิมฉลองอัญมณีประจำเมือง
  • Fourth of July Celebration: งานเฉลิมฉลองวันชาติอเมริกาที่มีขบวนพาเหรด การแสดง และดอกไม้ไฟ
  • Tent City Days: เทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเพื่อรำลึกถึงยุคที่แรนเกลล์เป็นเมืองเหมืองทอง

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวแรนเกลล์

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวแรนเกลล์คือช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) เพราะอากาศอบอุ่นและมีแสงแดดเยอะ แต่ถ้าอยากเห็นหมีกริซลี่จับปลาแซลมอน ต้องมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม)

การเดินทางในแรนเกลล์

การเดินทางในแรนเกลล์สะดวกสบาย เพราะเมืองไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเท้าหรือเช่ารถจักรยานได้ แต่ถ้าอยากไปเที่ยวที่ไกลๆ อาจจะต้องเช่ารถยนต์

แหล่งช้อปปิ้งในแรนเกลล์

ถ้าอยากซื้อของฝากจากแรนเกลล์ ลองแวะไปที่ร้านค้าใน Downtown Wrangell:

  • Garnet Jewelry: เครื่องประดับที่ทำจากอัญมณี Garnet ซึ่งเป็นอัญมณีประจำเมือง
  • Native Art: งานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยชนเผ่า Tlingit
  • Alaskan Souvenirs: ของที่ระลึกต่างๆ ที่เกี่ยวกับอะแลสกา

จุดลับและที่เที่ยวแบบไม่แมส

ถ้าอยากหนีจากนักท่องเที่ยว ลองไปสำรวจสถานที่เหล่านี้:

  • Rainbow Falls: น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า
  • Volunteer Park: สวนสาธารณะที่เงียบสงบและมีวิวทะเลที่สวยงาม
  • Institute Creek Trail: เส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในแรนเกลล์

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในแรนเกลล์อาจจะไม่เร็วเท่าในเมืองใหญ่ แต่ก็มี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีตามร้านกาแฟและโรงแรม

บทสรุป: แรนเกลล์ควรเป็นทริปต่อไปของคุณหรือไม่?

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่เงียบสงบ ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น แรนเกลล์คือคำตอบ! ลองจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดและโรงแรมราคาประหยัดกับ Traveloka แล้วออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อะแลสกากัน!

พร้อมเดินทางรอบโลกกับเราหรือยัง?

Traveloka ก่อน แล้วค่อยเที่ยวทั่วโลก ดาวน์โหลดเลย!