ถ้าอยากไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สถานที่เที่ยวบางแสนเป็นที่แรกๆ ที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง เพราะไม่ว่าตอนไหนชีวิตก็ต้องการวิตามิน SEA แต่ถ้าจะให้ขึ้นเครื่องไปรับวิตามิน SEA ไกล ๆ กันบ่อย ๆ ก็คงจะไม่ไหว (เกรงใจสตางค์ในกระเป๋า) แบบนี้ต้องที่นี่เลย “บางแสน” สถานที่พักตากอากาศชายทะเลตั้งแต่สมัยโบราณกาล แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เรียกว่าเป็นชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพที่สุดเลยน่าจะถูกกว่า แล้วถ้าจะให้เอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในบางแสน มันเลยต้องเป็นมหากาพย์อย่างแน่นอน งั้นมาดูกันเลย “มหากาฬ 20 ที่เที่ยวบางแสน รวมมาให้แล้วว่ามันดีต่อใจ”

เช็คราคาและจองที่พักบางแสน กับ Traveloka

1. น้ำตกชันตาเถร

น้ำตกที่สวยงามอันเป็นต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำบางพระ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว – เขาชมภู่ อยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทไปเพียง 15 กิโลเมตร ตัวน้ำตกมีทั้งหมด 5 ชั้น โดยชั้นที่สวยงามที่สุดอยู่ที่ชั้นที่ 4 ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเท้าจากทางเข้าไปถึงตัวน้ำตกชั้นที่ 4 เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนชั้นที่ 5 การเดินทางเข้าถึงค่อนข้างลำบากเพราะเป็นหน้าผาสูงชันที่ต้องปีนป่ายเพื่อขึ้นไปสู่ตัวน้ำตกชั้นบนสุด จึงไม่ค่อยมีผู้แวะไปเยือนมากนัก นอกจากจะเป็นที่ท่องเที่ยวเพื่อชมความงามของน้ำตก และผืนป่าสีเขียวขจีอันอุดมสมบูรณ์ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงพฤศจิกายนแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมกราคมยังเป็นช่วงที่เหมาะแก่การดูนก โดยเฉพาะนกเงือกอีกด้วย

พิกัด : น้ำตกชันตาเถร

2. อ่างเก็บน้ำบางพระ

แหล่งน้ำจืดที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ที่ใช้เป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาเพื่อแจกจ่ายสู่ชาวชลบุรี โดยบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพที่สวยงามของต้นไม่ใหญ่ที่ขึ้นเรียงรายให้ความร่มเงา และให้บรรยากาศที่ร่มเย็น เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย ในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ของทุกปี จะมีอุโมงค์ดอกไม้สีม่วงอ่อนปนขาวบานสะพรั่งยาวของดอกเสลาเป็นทิวเลียบข้างตลอดสองข้างถนนแสนโรแมนติกอีกด้วย จึงเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวและคนชลบุรี โดยเฉพาะเหล่านักปั่นและนักวิ่ง

พิกัด : อ่างเก็บน้ำบางพระ

3. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

พื้นที่ป่าแห่งเดียวในจังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ ซึ่งได้นำสัตว์บางส่วนจากสวนสัตว์ดุสิตมาปล่อยเลี้ยงไว้ตามธรรมชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเขาเขียวขึ้นมาใหม่ให้ จนกลายเป็นสวนสัตว์เปิดที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลกอีกด้วย ภายในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีสัตว์นานาพันธุ์อาศัยอยู่มากถึง 300 ชนิด โดยมีจุดเด่นอยู่ที่สวนนก ซึ่งมีเนื้อที่มากถึง 5 ไร่ที่ถูกครอบไว้ด้วยกรงเหล็กและตาข่ายขนาดใหญ่ นอกจากความหลากหลายทางธรรมชาติที่จะได้ชมจากสวนสัตว์เปิดแห่งนี้แล้ว ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งที่สร้างความนิยมเป็นอย่างมากให้กับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวแห่งนี้ คือ กิจกรรมการนั่งรถชมชีวิตสัตว์ในเวลากลางคืน หรือ Night Safari ของสวนสัตว์ที่เดียวในเมืองไทยอีกด้วย

พิกัด : สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

4. แกรนด์แคนยอนคีรี ชลบุรี

Landmark สุดชิคของชลบุรี เหมืองถ่านหินคีรีนครเก่าที่ปิดทำการไปแล้วในปัจจุบัน อยู่แถวแยกคีรีไม่ไกลจากหาดบางแสน มีทัศนียภาพที่สวยงามอลังการ รูปร่างแปลกตาไม่เหมือนใคร ด้วยบ่อน้ำสีเขียวขนาดใหญ่ซึ่งรายล้อมด้วยหน้าผาหินสูงชันสีน้ำตาลอมขาว และต้นไม่สีเขียวขจี มีลักษณะคล้ายแกรนด์แคนยอน ภายในพื้นที่บางส่วนยังมีเนินดินสีขาวปนเทา รูปร่างแปลกตาจากการกัดเซาะของน้ำฝน กลายเป็นกองภูเขาหิมะ เท่ ๆ ชิค ๆ เหมาะเป็นสถานที่เที่ยวถ่ายภาพฮิป ๆ เป็นที่สุด

พิกัด : แกรนด์แคนยอนคีรี ชลบุรี

5. เขาสามมุข

แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่คู่กับชายหาดบางแสน ด้วยเป็นเนินเขาที่ไม่สูงมากนักตั้งอยู่ถัดจากชายหาดบางแสน เชิงเขาด้านทิศเหนือหันออกสู่ทะเล บนยอดเขาเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สามสุขอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่อยู่ของฝูงลิงจำนวนมาก ทั้งยังเป็นจุดชมวิวชายหาดบางแสนมุมสูงที่สวยงามอีกด้วย

พิกัด : เขาสามมุข

6. ศาลเจ้าแม่หินเขา

ศาลเจ้าเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ไม่ไกลจากสะพานปลาอ่างศิลา ตั้งอยู่ภายในพระตำหนักมหาราช เขตพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราช เดิมเป็นเพียงศาลเจ้าเล็ก ๆ บนโขดหินขนาดใหญ่ แต่ต่อมามีผู้มีจิตศรัทธาสร้างศาลเจ้าแม่หินเขาขึ้นใหม่โดยให้มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามแบบจีนอย่างเช่นที่เห็นในปัจจุบัน และยังคงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คน และชาวประมงในย่านอ่างศิลาให้การเคารพบูชา นอกจากศาลเจ้าแม่หินเขาแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เพราะเป็นสถานตากอากาศสำหรับผู้ป่วยแห่งแรกของไทย ที่ยังคงสภาพอาคารเก่าแก่สุดคลาสสิคอันสวยงามแบบยุโรปทั้งตึกขาว และตึกแดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมกัน

พิกัด : ศาลเจ้าแม่หินเขา

7. ตลาดเก่าอ่างศิลา

หมู่บ้านชาวประมงเดิมของอ่างศิลา ที่แต่แรกมีบ้านชาวประมงอาหารอยู่เพียง 180 หลังคาเรือน ปัจจุบันได้ถูกฟื้นฟูให้เป็นตลาดเก่า บนถนนความยาวราว 700 เมตร ที่กลายเป็นแหล่งชอปปิ้งซื้อของฝาก ของกิน และอาหารทะเลแปรรูปคุณภาพดี ราคาย่อมเยาว์ โดยเฉพาะสินค้าขึ้นชื่อที่ขาดไม่ได้ของี่นี่ นั่นก็คือ ครกอ่างศิลา

พิกัด : ตลาดเก่าอ่างศิลา

8. วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ)

ศาลเจ้าจีนอันมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของทั้งชาวชลบุรี และนักท่องเที่ยว ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามโดยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ มีอายุมามากกว่า 10 ปี ถูกออกแบบอย่างสวยงามทั้งภายนอกและภายในตามอย่างสถาปัตยกรรมแบบจีนอันโอ่งโถงตระการตา ประดับประดาด้วยสีสัน และลวดลายมังกรอันวิจิตรงดงาม บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่ มีอาคาร 4 ชั้นอันเป็นที่ประดิษฐานของเทวรูปเทพเจ้าต่าง ๆ ทั้งเจ้าแม่กวนอิมพันมือ และเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ซึ่งเป็นที่นิยม และมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จึงมีผู้คนนิยมมากราบไหว้สักการะ ขอพรเสริมบารมี และไหว้แก้ปีชง นอกจากนี้ที่ชั้นบนสุดของตัวอาคารยังเป็นจุดชมวิวทะเลมุมสูงที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย

พิกัด : วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม

9. พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางพันกรพันเนตร (ศาลเจ้าแม่กวนอิม อ่างศิลา)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : เว็ปไซต์มูลนิธิโลกุตรธรรทประทีป อ่างศิลา http://lokutarathum.com

ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันเนตรพันกร อันเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่อ่างศิลา สร้างขึ้นโดยมูลนิธิโลกุตรธรรทประทีป ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ภายในประดิษฐานเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรสีทองอร่าม ที่สวยงามตามปะติมากรรมแบบจีน ในส่วนของเรื่องศรัทธาความเชื่อนั้น เชื่อกันว่าเจ้าแม่กวนอิมศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการขอพรด้านสุขภาพ การเจ็บไข้ได้ป่วยให้หาย และมีสุขภาพแข็งแรงดีขึ้น

พิกัด : ศาลเจ้าแม่กวนอิม อ่างศิลา

10. ชายหาดบางแสน

ชายหาดขนาดใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพมากที่สุด เป็นแห่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมมาช้านาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 จนได้รับการขนานนามว่า “บางแสนดินแดนสุขี” แม้จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย แต่ในปัจจุบันได้มีการจัดระเบียบพื้นที่ และเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความสะอาด และความปลอดภัยของชายหาด จึงกลายเป็นชายหาดที่สะอาดสะอ้านน่าท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล ชายหาดบางแสนเป็นหาดทรายต่อเนื่องกันที่มีความยาวมากที่สุดในจังหวัดชลบุรี มีความยาวถึง 4.5 กิโลเมตร แต่แบ่งเป็น 3 ส่วน โดยหาดบางแสนคือพื้นที่ตอนกลางของชายหาด เป็นชายหาดกว้าง และตื้น ระดับน้ำทะเลไม่สูงมากนัก จึงเป็นพื้นที่ ๆ เหมาะกับการลงเล่นน้ำทะเลมากกว่าส่วนอื่น ๆ ทั้งยังเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำ – ห้องอาบน้ำไว้ และกิจกรรมทางน้ำมากมายไว้บิการ การเดินทางก็สะดวก เนื่องด้วยมีถนนขนาดใหญ่ตัดเลาะเรียบข้างทิวต้นมะพร้าวของชายหาด สามารถขับรถมาจอดแล้วลงเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดทราย

พิกัด : ชายหาดบางแสน

11. หาดวอนนภา

ชายหาดตอนล่างของหาดบางแสน ที่บรรยากาศเงียบสงบ ลมแรงเพราะไม่มีแนวต้นมะพร้าวขึ้นกั้นขวางทางลม ผู้คนไม่พลุกพล่าน เนื่องด้วยชายหาดมีลักษณะเป็นแนวหินกั้นยาวตลอดแนวของหาดทราย และหาดทรายมีความกว้างไม่มากนัก ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ ช่วงท้ายหาดมีสะพานปลา ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายอาหารทะเลของชาวประมงอีกด้วย

พิกัด : หาดวอนนภา

12. แหลมแท่น

ชายหาดทางตอนเหนือของหาดบางแสนซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับเขาสามมุข มีลักษณะเป็นแหลมหินยื่นออกไปในทะเล ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำในบริเวณนี้ เนื่องจากทั่วบริเวณพื้นที่เป็นโขดหินสูงขนาดใหญ่วางตัวเรียงรายโดยตลอดแนว ซึ่งจะค่อนข้างลื่นเมื่อถูกน้ำทะเล แต่มีลมทะเลพัดแรง อากาศเย็น จึงเป็นจุดชมวิวที่มีบรรยากาศดี เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่นรับลม ชมวิว และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกสุดชิลล์

พิกัด : แหลมแท่น

13. ถนนคนเดินบางแสน

อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเก๋ ๆ ของบางแสน อยู่ไม่ไกลจากแหลมแท่น ที่มาพร้อมสโลแกนเท่ ๆ Shop & Show ที่ไม่เพียงเป็นย่านช้อปปิงสินค้า ของที่ระลึก อละของกินของใช้เท่านั้น แต่ยังได้เพลินเพลินไปกับดนตรีสด มินิคอนเสริต์ และการแสดงต่าง ๆ ระหว่างการเดินช้อปปิ้งอีกด้วย เปิดบริการเฉพาะวันศุกร์ และวันเสาณืตั้งแต่เวลาห้าโมงเย็นเป็นต้นไป

พิกัด : ถนนคนเดินบางแสน

14. ตลาดหนองมน

แหล่งรวมของฝากจากชายทะเลอันมีชื่อเสียงมาช้านาน อยู่ห่างจากทางแยกไปชายหาดบางแสนเพียง 1 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกเพราะตั้งอยู่ติดกับถนนเศรษฐกิจสายหลักอย่างถนนสุขุมวิท มีทั้งอาหารทะเลสด อาหารทะเลแห้ง อาหารทะเลแปรรูป และอาหารทะเลปรุงสำเร็จ แต่ทีเด็ดขึ้นชื่อที่พลาดไม่ได้เลย ก็คงจะหนีไม่พ้น ข้าวหลามหนองมน ฮ่อยจ๊อปูลูกใหญ่ ๆ และแจงลอนสูตรดั้งเดิมแสนอร่อย

พิกัด : ตลาดหนองมน

15. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงมานานหลายสิบปี ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่ชั้นล่างของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาลัยบูรพา ไม่ไกลจากชายหาดบางแสน เป็นพื้นที่จัดแสดงความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลแบบสมจริง โดยการจำลองท้องทะเลมาไว้ในตู้กระจกขนาดใหญ่ หรือ อความเรี่ยม (Aquarium) ซึ่งเลี้ยงปลาทะเล สัตว์นานาพันธุ์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในทะเลที่หลากหลายไว้ในอควเรี่ยมแห่งนี้ นอกจากจะได้เที่ยวชมโลกใต้ท้องทะเลที่งดงามเสมือนจริงแล้ว ยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอีกด้วย

พิกัด : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

16. วังแสนสุข สวนพุทธแดนนรก เมืองสวรรค์

หรือวัดแสนสุขวิสุทธิวรารามเดิม วัดเก่าแก่กว่า 30 ปีซึ่งเดิมเคยมีพระภิกษุมาจำพรรษา แต่ต่อมาเสื่อมโทรมลง จึงได้รับการปรับปรุงเป็นพื้นที่จัดแสดงปะติมากรรมตามความเชื่อในพุทธศาสนา ในเรื่องการทำความดี ละเว้นความชั่ว โดยภายในแบ่งออกเป็น 3 โซนคือ สวนพุทธ แดนนรก และเมืองสวรรค์ จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกแหวกแนว ไม่ซ้ำใคร และยังช่วยเตือนสติให้นักท่องเที่ยวหมั่นทำความดี และวางตนอยู่ในสติอีกด้วย เรียกว่ามาเที่ยวทั้งดี ได้กลับไปถึง 2 ต่อเลย

พิกัด : วังแสนสุข

17. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน ชลบุรี

พื้นที่อนุรักษ์ป่าชายเลนผืนสุดท้ายของชลบุรี บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่อันอุดมสมบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิทยาที่มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนที่ยาวที่สุดในประเทศไทยความยาวกว่า 2,300 เมตร ภายในพื้นที่ป่าชายแลนยังคงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตันหลากหลายทั้งต้นไม่ และสัตว์ต่าง ๆ อาทิ ปูก้ามดาบ ปูแสม ปลาตีน ปลานวลจันทร์ หอยนางรม และนกต่าง ๆ เป็นต้น ยังมีซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ แล้วยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย

พิกัด : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน ชลบุรี

18. สะพานชลมารควิถี 84 พรรษา

Landmark แห่งใหม่ของบางแสนกับถนนเลียบชายทะเลเมืองชลบุรี ซึ่งทั้งสองข้างทางถูกโอบล้มด้วยทะเล ความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณหน้าเทศบาลตำบลบางทราย ไปจนถึงวงเวียนเรือใบในเขตเทศบาลชลบุรี โดยหากแล้วเสร็จตลอดทั้งโครงการจะมีระยะทางรวมกว่า 17 กิโลเมตร ไปจนถึงพื้นที่ตำบลอ่างศิลา ซึ่งจะเลาะเลียบชายหาด บางส่วนตัดป่านกลางทะเล ผ่านพื้นที่ป่าชายเลน ทำให้เป็นถนนที่มีวิวสวยงาม เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ถ้าได้มาจอดรถข้างทางรับลมทะเลเย็น ๆ ยามอัสดง รอชมวิวพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงาม คงเป็นบรรยากาศที่แสนโรแมนติก

พิกัด : สะพานชลมารควิถี

19. ตลาดประมงท่าเรือพลี

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Facebook ตลาดประมงท่าเรือพลี ชลบุรี

ท่าเรือประมงท้องถิ่นขนาดเล็กในอดีต ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บางทราย ไม่ไกลจากป่าชายเลน ซึ่งได้รับการปรังปรุงให้เป็น Landmark แห่งใหม่ของคนรักอาหารทะเล เพราะได้เปิดให้เป็นสตรีทซีฟู้ด ที่รวบรวมอาหารทะเลใหม่ ๆ แทบทุกชนิดทั้งแบบสด ๆ และแบบปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วไว้ให้ในที่เดียว เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลาบ่าย 4 โมงเป็นต้นไป เหล่าคนรักอาหารทะเลต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียวเชียว

พิกัด : ตลาดประมงท่าเรือพลี

20. วัดบางพระวรวิหาร วัดเขาพระพุทธบาทบางทราย หรือวัดเขาบางทราย

Credit:http://bangphrachon.go.th

วัดราษฎร์มหานิกาย พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตินิกาย ศูนย์รวมจิตใจของชาวบางพระ วัดเก่าแก่ที่เชื่อกันว่าถูกสร้างไว้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา บนเนินเขาไม่ไกลจากตัววัดด้านล่าง ยังเป็นที่ประดิษฐานมณฑปซึ่งบรรจุรอยพระพุทธบาทจำลองไว้อีกด้วย จึงเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวชลบุรี และยังมีระเบียงชมวิว สำหรับชมวิวมุมสูงของตัวเมืองบางแสน บางทราย และสะพานชลมารควิถีที่ทอดยาวเลียบขนานไปกับทะเลบางแสน ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจ

พิกัด : วัดบางพระวรวิหาร

มหากาพย์ทั้ง 20 ที่เที่ยวของบางแสน จัดว่าดีเลย มีให้ครบอรรถรส ทั้งแบบทัศนียภาพเว่อร์วังอลังการปานอยู่ต่างประเทศ ทั้งแบบที่ดีต่อใจได้กราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมีทั้งแบบที่เที่ยวชิลล์ ๆ เพลิน ๆ ตามสไตล์ฮิปสเตอร์ แต่ถ้าจะให้โดนสุด ๆ เอาแบบที่มันดีต่อใจจนเกินกว่าจะมีคำบรรยายได้เลย มันต้องนอนพักค้างคืนริมทะเล เอนตัวลงข้างหาดทราย ฟังเสียงคลื่น และสายลมกันสักคืน หรือต่อกันยาว ๆ 2 คืนไปเลย ร่างกายจะได้รับวิตามิน SEA เข้าไปให้ครบทั้ง 32 ส่วนของอวัยวะ เอาแบบที่ลึกสุดใจกันไปเลย