0

Traveloka TH

08 Feb 2019 - 13 min read

30 พิกัดเที่ยวญี่ปุ่นดีต่อใจ ไปกับใครยังไงก็ฟิน รับรอง!!!

ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็จะนึกถึงประเทศที่มีความหลากหลายทั้งเรื่องของสถานที่เที่ยว ความงดงามของธรรมชาติ และอาหารการกินที่มีให้เที่ยวหลายรูปแบบ อีกทั้งยังสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีไม่มีเบื่อ ซึ่งเชื่อเลยว่า "ญี่ปุ่น" ได้กลายเป็นประเทศสุดโปรดของใครหลายคน ที่เชื่อเลยว่าสำหรับนักเดินทางบางท่าน ต้องไป เที่ยวญี่ปุ่น มากันเกินคนละหนึ่งรอบอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นมาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลเพราะ TravelokaXperience ได้นำ 30 พิกัดทีห้ามพลาดเมื่อมา เที่ยวญี่ปุ่น ที่ดีต่อใจมาฝาก รับรองเลยว่าไม่ว่าจะไปกับใครยังไง เมื่อไหร่ ตอนไหนก็ฟิน!!! ซึ่งจะคัดมาแต่ละสถานที่เด็ดๆ ทั้งนั้น หรือถ้าหากคนที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้ว จะลอกไอเดียไปใส่ในแพลนก็ได้ไม่ว่ากัน

ซื้อบัตรเข้าชมที่เที่ยวญี่ปุ่น กับ Traveloka Xperience

เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับ Traveloka

30 พิกัด เที่ยวญี่ปุ่นดีต่อใจ ไปกับใครยังไงก็ฟิน

1. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) - เที่ยวญี่ปุ่น

เปิดประเดิมทริป เที่ยวญี่ปุ่น ที่แรกด้วยศาลเจ้าเก่าแก่อันโด่งดังที่อยู่ใจกลางโตเกียว กับ “ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)” หรือว่า เมจิจิงกุ ที่ใครๆ ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ เราขอแนะนำว่าห้ามพลาด เพราะถึงแม้จะเป็นศาลเจ้าที่อยู่ในย่านฮาราจูกุ แต่ก็เต็มไปด้วยความร่มรื่น ไม่พลุกพล่าน รายล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย ที่จะทำให้คุณประหลาดใจว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ใจกลางโตเกียว ด้านหน้าศาลเจ้าจะโดดเด่นด้วยโทริอิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นวัดที่ยังคงมีผู้คนมาทำพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น และมีคนมากมายมาไหว้พระขอพร รวมถึงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเค้าดาวท์วันสิ้นปี

2. โตเกียวดิสนี่ย์แลนด์ และดิสนี่ย์ซี (Tokyo Disneyland & Tokyo Disneysea)

โตเกียวดิสนี่ย์แลนด์ และดิสนี่ย์ซี (Tokyo Disneyland & Tokyo Disneysea) - เที่ยวญี่ปุ่น

สวนสนุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในโตเกียว อันเป็นสถานที่ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่หลายคนใฝ่ฝัน รวมถึงคนที่ชื่นชอบดิสนี่ย์ เพราะภายในโตเกียวดิสนี่ย์แลนด์ และดิสนี่ย์ซีจะเป็นสวนสนุกภายในธีมดิสนีย์ ที่จะมีทั้งปราสาท เครื่องเล่นมากมาย รวมไปถึงจุดถ่ายรูปน่ารักๆ เต็มไปหมด นอกจากนั้นภายในสวนสนุกแห่งนี้ ยังเป็นที่นิยมสำหรับการซื้อของฝาก ของที่ระลึก รวมไปถึงยังมีขบวนพาเหรด ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับดิสนี่ย์แลนด์ รับรองเลยว่าเป็นที่ เที่ยวญี่ปุ่น ที่เที่ยววันเดียวก็ไม่พอ!

วัน และเวลาเปิดปิด: 08.00 - 22.00 น.
Google Maps

ซื้อบัตรเข้าชมโตเกียวดิสนีย์แลนด์ หรือ โตเกียวดิสนีย์ซี กับ Traveloka Xperience

3. ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland)

ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland) - เที่ยวญี่ปุ่น

ถ้าใครเคยไปเที่ยวสวนสนุกดิสนี่ย์แลนด์มาแล้ว แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ “ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland)” สวนสนุกธีมปาร์คที่ด้านในจะมีตัวละครซานริโอมากมาย เหมาะสำหรับทั้งเด็กเล็กๆ และเด็กโต รวมถึงผู้ใหญ่ก็สามารถเข้าได้ แต่ถึงแม้ว่าซานริโอ พูโรแลนด์ จะเป็นสวนสนุกขนาดเล็ก แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพราะด้านในจะมีทั้งเครื่องเล่น ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งจะมีสินค้าบางอย่างที่สามารถซื้อได้แค่ที่นี่เท่านั้น

วัน และเวลาเปิดปิด: 10.00 - 17.00 น.
Google Maps

ซื้อบัตรเข้าชมซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland) กับ Traveloka Xperience

4. วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)

วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) - เที่ยวญี่ปุ่น

ไป เที่ยวญี่ปุ่น ทั้งทีก็ต้องอย่าลืมที่จะไปถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คสำคัญของโตเกียว นั่นก็คือโคมแดงอันใหญ่ยักษ์ที่ตั้งอยูที่วัดอาซากุสะ หรือวัดเซนโซจิที่ทุกคนรู้จักกันดี เพราะคนส่วนใหญ่นิยมที่จะมาไหว้พระขอพรที่วัดนี้ ยิ่งในช่วงวันขึ้นปีใหม่ก็จะได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากการมาไหว้พระที่วัดนี้แล้ว บริเวณด้านหน้าวัดก็ยังมี “ถนนนากามิเสะ” ที่เต็มไปด้วยร้านค้าขายของมากมาย รวมถึงยังมีร้านขายของกินอร่อยๆ ให้เลือกช้อปกันเพลินๆ แนะนำถ้าใครมาเที่ยวที่วัดนี้ ก็อย่าลืมพัดควันธูปในกระถางธูปยักษ์เข้าหาตัว เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้โชคดี ปราศจากโชคร้าย

วัน และเวลาเปิดปิด: 06.00 - 17.00 น.
Google Maps

5. โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) - เที่ยวญี่ปุ่น

เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของโตเกียวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ต้องขอเกริ่นก่อนว่า “โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)” นั้นเป็นหอโทรทัศน์ และจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว เพราะมีที่เที่ยวญี่ปุ่นแห่งนี้นั้นมีความสูงมากกว่า 600 เมตรด้วยกัน มีแบ่งเป็นทั้งสองชั้นคือ 350 เมตร และ 450 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรเข้าชม และขึ้นไปชมวิวได้ โดยที่คุณจะสามารถมองเห็นวิวเมืองญี่ปุ่นสวยๆ ได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว แนะนำถ้าไม่อยากไปต่อคิวรอ ก็ให้ซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าไปก่อน

วัน และเวลาเปิดปิด: 08.00 - 22.00 น.
Google Maps

ซื้อบัตรเข้าชมเข้าชมโตเกียวสกายทรี กับ Traveloka Xperience

6. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko)

ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) - เที่ยวญี่ปุ่น

ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากเห็นวิวทะเลสาบแบบชัดๆ แนะนำให้มาที่ “ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko)” เพราะเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นอีกหนึ่งที่คนส่วนใหญ่นิยมมาเพื่อชมวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ ทะเลสาบแห่งนี้จัดว่าเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน 5 ของทะเลสาบที่อยู่ล้อมรอบกับภูเขาไฟฟูจิ ที่สำคัญบริเวณนี้ยังได้รับความนิยมตลอดทั้งปี เพราะในช่วงฤดูซากุระ ก็จะเห็นความงามของดอกซากุระที่กำลังเบ่งบาน หรือแม้แต่กระทั่งในช่วงดอกไม้เปลี่ยนสี ทั่วทั้งบริเวณนี้ก็จะเต็มไปด้วยสีแดง และเหลืองของใบไม้ที่กำลังผลัดใบ

7. Robot Restaurant

Robot Restaurant - เที่ยวญี่ปุ่น

เชื่อว่าคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ จะต้องรู้จัก และอยากไปชมโชว์สุดอลังการในธีมโรบอทกันที่ “Robot Restaurant” ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเป็นร้านที่คนให้ความสนใจเยอะมาก และถ้าหากไม่จองตั๋วไปล่วงหน้าก็อาจจะอดดู เพราะว่าร้านนี้จะเต็มตลอด ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนร้านที่เอาไว้โชว์โรบอท จะมีการแสดงที่สุดอลังการ มาในธีมญี่ปุ่น และโรบอท ไฮไลท์คือจะมีสาวญี่ปุ่นน่ารักๆ ใส่ชุดตามธีมต่างๆ มาโชว์ให้ดู ซึ่งบอกเลยว่าแสง สี เสียงคือมาครบ ใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ หรือชอบดูโชว์อยู่แล้ว แนะนำให้ปักหมุดเอาไว้เลย

ซื้อบัตรเข้าชมการแสดงร้านอาหารโรบอท กับ Traveloka Xperience

8. ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) - เที่ยวญี่ปุ่น

แลนด์มาร์คแห่งสำคัญของเมืองมัตสีโมโต้ (Matsumoto) ก็คือ “ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)” เป็นปราสาทที่เก่าแก่ และยังคงสภาพที่สมบูรณ์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ สร้างด้วยไม้ทั้งหมด เน้นโทนสีดำ และขาว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปราสาทอีกา(Fugashi-Jo)” ที่สำคัญที่ปราสาทมัตสึโมโต้ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี และจุดชมซากุระที่นิยม เพราะบริเวณรอบปราสาทจะมีต้นซากุระมากมายหลายพันต้น ถ้าใครแวะมาเที่ยวที่เมืองมัตสึโมโต้ อย่าลืมมาเที่ยวที่ปราสาทมัตสึโมโต้แห่งนี้

วัน และเวลาเปิดปิด: 08.30 - 17.00 น.
Google Maps

9. มาเทอร์ฟาร์ม (Mother Farm)

มาเทอร์ฟาร์ม (Mother Farm) - เที่ยวญี่ปุ่น

สำหรับคนที่มาเที่ยวโตเกียว แล้วไม่อยากอยู่แค่ในโตเกียว แนะนำให้มาเที่ยวที่ “มาเทอร์ฟาร์ม (Mother Farm)” ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ (Chiba) อยู่ใกล้ๆ กับโตเกียว สามารถมาเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้ โดดเด่นด้วยการเป็นสวนสัตว์แบบเปิด ที่จะมีทั้งอัลปาก้า แพะ แกะ และสัตว์ชนิดอื่นๆ ให้คุณได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด และป้อนอาหารได้ นอกจากนั้นยังมีส่วนที่เป็นทุ่งชมดอกไม้ และมีผลไม้ที่สามารถเก็บให้ได้ตามฤดูกาล แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวกันเป็นครอบครัว

ซื้อบัตรเข้าชมมาเทอร์ฟาร์ม (Mother Farm) กับ Traveloka Xperience

10. ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอญี่ปุ่น (Universal studio japan)

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอญี่ปุ่น (Universal studio japan) - เที่ยวญี่ปุ่น

ข้ามมาฝั่งโอซาก้ากันบ้าง ใครที่ไปเที่ยวแถบคันไซ แนะนำให้ไปเที่ยวที่ “ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอญี่ปุ่น (Universal studio japan)” ที่เที่ยวในญี่ปุ่นอีกแห่งที่โด่งดัง และได้รับความนิยมไม่แพ้กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ แต่สิ่งที่ทำให้ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอแตกต่างจากสวนสนุกแห่งอื่นๆ ก็เพราะว่าไม่ได้มีแค่คาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงภาพยนตร์อื่นๆ ที่อยู่ในค่าย Universal ด้วย ไฮไลท์ของยูนิเวอร์แซลญี่ปุ่นคือ จะมีโซนที่เป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์โดยเฉพาะ คนที่เป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์ต้องห้ามพลาด

ซื้อบัตรเข้าชมยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน กับ Traveloka Xperience

11. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN) - เที่ยวญี่ปุ่น

นอกจากสวนสนุกยูนิเวอร์แซลที่อยู่ในโอซาก้าแล้ว ถ้าหากคุณได้มาเที่ยวที่โอซาก้าก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN)” เพราะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คหลักของเมืองนี้ โดดเด่นด้วยอควาเรียมขนาดใหญ่ มีส่วนจัดแสดงอันยิ่งใหญ่อลังการ ด้านในจะมีส่วนจัดแสดงมากถึง 15 ตู้ด้วยกัน ซึ่งด้านในคุณจะได้เห็นสัตว์น้ำนานาชนิด อาทิ ปลากระเบน ฉลามวาฬ เพนกวิน แมวน้ำ รวมถึงสัตว์หายากพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย รับรองเลยว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปตลอดทั้งวัน เพราะจะมีกิจกรรมให้ทำมากมายภายในนั้น

วัน และเวลาเปิดปิด: 10.00 - 20.00 น.
Google Maps

ซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง เมืองโอซากา กับ Traveloka Xperience

12. เมืองเกียวโต

เมืองเกียวโต - เที่ยวญี่ปุ่น

“เกียวโต” (Kyoto) เป็นที่สุดของความดั้งเดิมของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นขนานแท้ หากใครที่อยากเสพความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ แนะนำให้มาเที่ยวที่เกียวโต เพราะเกียวโตนั้นแต่เดิมเคยเป็นเมืองหลวงเก่า และมีอายุมากกว่า 1,000 ปีมาแล้ว ทั้งหมดของเกียวโต สิ่งนั้นคือความเป็นญี่ปุ่นที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่อง การแต่งตัว อาหาร หรือแม้แต่ศาลเจ้า และวัด ทุกสิ่งล้วนแต่ยังคงความงดงามแบบดั้งเดิม แนะนำสำหรับใครที่อยากเที่ยวเกียวโตให้คุ้มค่า ก็ให้ซื้อทัวร์รอบเกียวโตแบบครึ่งวันกันได้เลย

ซื้อบัตรทัวร์วัฒนธรรมของเกียวโต ครึ่งวัน กับ Traveloka Xperience

13. วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส (Kiyomizu-dera)

วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) - เที่ยวญี่ปุ่น

สิ่งที่น่าดึงดูดเป็นอันดับแรกๆ ของเกียวโต ก็คือวัด และศาลเจ้าอันเก่าแก่ที่มีเรื่องราวมากมาย และเป็นที่นิยมมากราบไหว้บูชาของทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยว เป็นวัดที่งดงามเป็นอย่างมาก ถึงกับได้รับให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่มาที่ไปของการได้ขึ้นชื่อ “วัดน้ำใส” ก็เพราะว่าตอนที่สร้างวัด ได้มีน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านตัววัด นอกจากนั้นวัดแห่งนี้ ยังมีจุดเด่นตรงที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่ใช้ตะปูทั้งสิ้น ที่สำคัญที่บริเวณวัดยังมีทัศนียภาพที่งดงาม เป็นแลนด์มาร์คสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี

14. ป่าไผ่ Sagano

ป่าไผ่ Sagano - เที่ยวญี่ปุ่น

สำหรับนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูป อีกหนึ่งสถานที่ๆ แนะนำให้ลองมาเที่ยวดูสักครั้งหนึ่งในโตเกียว นั่นคือ “ป่าไผ่ Sagano” เป็นป่าไผ่ที่ถูกจัดให้เรียงรายตามทางเดินเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ตามทางเดินจะร่มรื่นด้วยความเป็นธรรมชาติ นับว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของเมืองเกียวโต ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากให้มาเที่ยวที่ป่าไผ่แห่งนี้ จุดเด่นอีกอย่างคือจะมีบริการรถลากแบบโบราณ ให้คุณได้ชมป่าไผ่แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือใครจะเช่าชุดแบบญี่ปุ่นมาใส่ถ่ายรูป ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

15. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต - เที่ยวญี่ปุ่น

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่เมือง “เกียวโต” นั้นก็มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกับเค้าด้วย ซึ่งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต ได้ตั้งอยู่ที่พื้นที่อุทยานอูเมะโคะจิ (Umekoji Park) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งก็ถือว่าเพิ่งเปิดได้ไม่นาน เมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์แห่งอื่น ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีโซนจัดแสดงสัตว์น้ำมากถึง 9 โซนด้วยกัน จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต คือจะจัดแสดงสัตว์น้ำท้องถิ่นในแถบเกียวโต พระเอกของอควาเรี่ยมแห่งนี้คือ “ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ญี่ปุ่น” ที่หาดูได้ยาก นอกจากนั้นยังมีทั้งเพนกวิน ปลากระเบน แมวน้ำ และโชว์โลมา รับรองว่าถูกอกถูกใจเด็กๆ อย่างแน่นอน

วันและเวลาเปิดปิด: 10.00 - 18.00 น.
Google Maps

ซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต กับ Traveloka Xperience

16. สวนกวางนารา (Nara Park)

สวนกวางนารา (Nara Park) - เที่ยวญี่ปุ่น

ไฮไลท์เด็ดของเมืองนารา (Nara) ก็คือ “สวนกวางนารา (Nara Park)” ซึ่งนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติสวยๆ ยังมีกวางเยอะแยะเต็มไปหมด เพราะเมืองนี้จะถือว่ากวางเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีความเชื่อเกี่ยวกับกวาง จึงทำให้กวางกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองนาราไปแล้ว ใครที่อยากจะให้อาหารกวาง ถ่ายรูปกับกวางอย่างใกล้ชิด แนะนำให้ลองไปเที่ยวที่เมืองนาราดูสักครั้ง นอกจากจะมีกวางเป็นไฮไลท์แล้ว ที่นาราเองก็ยังมีวัดเก่าแก่ที่น่าสนใจ เหมาะกับการไปไหว้พระขอพร

17. เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe)

เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) - เที่ยวญี่ปุ่น

เป็นอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้โตเกียวแบบที่สามารถไปเที่ยววันเดียวกลับได้ ซึ่งเมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ก็ได้ขึ้นชื่อ และรับการขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเอโดะ ที่จะทำให้คุณเหมือนได้ย้อนกลับไปในสมัยเอะโดะ เนื่องจากภายในเมืองคาวาโกเอะยังคงถูกอย่างจากในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองโบราณที่มีตึกรามบ้านช่องที่ยังคงความเก่าแก่ จนทำให้กลายเป็นจุดน่าสนใจของนักท่องเที่ยว ถ้าใครไปเที่ยวโตเกียว แล้วอยากแวะมาเที่ยวที่เมืองคาวาโกเอะ ก็สามารถนั่งรถไฟมาแค่เพียง 30 นาทีเท่านั้น

ซื้อบัตรเดินเที่ยวชมเมืองคาวาโกเอะ "เมืองเก่ายุคเอโดะ" กับ Traveloka Xperience

18. ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)

ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go) - เที่ยวญี่ปุ่น

หนึ่งในหมู่บ้านมรดกโลกที่โด่งดัง และขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามเป็นอย่างมากกับ “ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)” หมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก สามารถมาเที่ยวจากโตเกียวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ แต่เดิมเป็นหมู่บ้านชาวนาอันแสนเก่าแก่ ที่คงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมทรงกัสโชสึคุริเอาไว้ให้คงเห็นจนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว จะมีเทศกาลที่จะเปิดไฟให้หมู่บ้านนี้ดูเหมือนอยู่ในนิทาน หรือถ้าใครอยากจะเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านนี้ ก็สามารถหาโฮมสเตย์นอนได้

19. น้ำตกนะชิ (Nachi Fall)

น้ำตกนะชิ (Nachi Fall) - เที่ยวญี่ปุ่น

ใครอยากได้วิวสวยๆ แบบ Unseen แนะนำให้ปักหมุดไว้ที่ “น้ำตกนะชิ (Nachi Fall)” ถือว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยน้ำตกที่ไหลตกลงมาตรงๆ แบบที่ไม่ผ่านหน้าผา หรือไม่มีชั้นน้ำตก มีความสูงมากถึง 133 เมตร ไหลลงมายังป่าดงดิบ โดยชาวญี่ปุ่นจะมีความเชื่อว่าน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผานี้จะเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถใช้ดื่มได้จริง โดยไฮไลท์ที่นอกเหนือจากตัวน้ำตกก็คือ “วัดเซกันโทจิ (Seiganto-ji Temple)” ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า จะแตกต่างจากวัดอื่น ตรงที่ไม่มีห้องโถง เพราะมีความเชื่อว่าตัวน้ำตกนะชิเอง ทำหน้าที่เป็นแท่นบูชา น้ำตกที่ไหลกระเซ็นลงมาจะช่วยทำให้ชีวิตยืนยาว

20. The Sagano Railway

The Sagano Railway - เที่ยวญี่ปุ่น

“The Sagano Railway” เป็นเส้นทางสายรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดในญี่ปุ่น ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากได้ที่เที่ยวญี่ปุ่นบรรยากาศดีๆ ที่ดีต่อใจ แนะนำให้ลองซื้อตั๋วรถไฟแห่งนี้ เพราะความงดงามนั้นไม่ได้อยู่แค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นเส้นทางระหว่างการเดินทาง เพราะรถไฟซากาโนะจะวิ่งขนานกับแม่น้ำโฮซุกาวา (Hozugawa River) มีระยะทางทั้งสิ้น 7.3 กิโลเมตรด้วยกัน จึงทำให้จะเห็นทั้งวิวแม่น้ำ และภูเขาสวยๆ นอกจากนั้นยังเป็นจุดแลนด์มาร์คที่เอาไว้ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายปีอีกด้วย

21. เกาะโอกินาว่า (Okinawa)

เกาะโอกินาว่า (Okinawa) - เที่ยวญี่ปุ่น

หากใครไม่อยากเที่ยวเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างโตเกียว และโอซาก้า แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่เกาะโอกินาว่าดู เพราะเกาะโอกินาว่าถือเป็นเกาะที่ใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ที่สำคัญคือเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ไทยมากที่สุด เมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางอื่นๆ ภายในญี่ปุ่น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกาะโอกินาว่า จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ไฮไลท์ของเกาะโอกินาว่าคือเป็นเหมือนเมืองตากอากาศ มีวิวทะเลสวยๆ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ และมีอุทยานแห่งชาติ สามารถมาดำน้ำดูปะการังสวยๆ ได้ที่นี่

22. ศาลเจ้าโมะโตะโนะซุมิอินาริ (Motonosumi-inari Shrine)

ศาลเจ้าโมะโตะโนะซุมิอินาริ (Motonosumi-inari Shrine) - เที่ยวญี่ปุ่น

พาเที่ยวศาลเจ้าทั่วไปก็อาจจะดูธรรมดาไป แนะนำ “ศาลเจ้าโมะโตะโนะซุมิอินาริ (Motonosumi-inari Shrine)” หนึ่งในศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวที่สวยมากอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าที่เสาโทริอิจำนวนมากถึง 123 เสาด้วยกัน ซึ่งเสาแต่ละต้นก็ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินเขา ที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของทะเล เพราะศาลเจ้าถูกสร้างให้หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น มีความเชื่อว่าหากใครโยนเหรียญเข้ากล่องใส่เหรียญที่ถูกตั้งอยู่บนเสาโทริอิได้ก็จะมีความโชคดี

23. สวนสาธารณะโออิชิ (Oishi Park)

สวนสาธารณะโออิชิ (Oishi Park) - เที่ยวญี่ปุ่น

“สวนสาธารณะโออิชิ (Oishi Park)” เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ เป็นจุดชมวิวฟูเขาไฟฟูจิชื่อดัง นอกจากนั้นยังโดดเด่นในช่วงฤดูร้อน ที่จะมีดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานสีสันสดใสมากมาย พร้อมกับมีวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ เป็นฉากหลัง แนะนำว่าถ้าหากใครอยากมาในช่วงที่มีดอกไม้สวยๆ ให้มาเที่ยวสวนสาธารณะโออิชิในช่วงปลายเดือนเมษายน จนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป หรือแนะนำให้ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนไป จะได้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิ

24. สวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)

สวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) - เที่ยวญี่ปุ่น

หากอยากถ่ายรูปกับสวนดอกไม้สวยๆ แนะนำให้นั่งรถไฟจากโตเกียว ไปลงที่ฮิตาชินากา(Hitachinaka) ของจังหวัดอิบารากิ เพราะว่าที่นั่นจะมีสวนดอกไม้ริมทะเลขนาดใหญ่ชื่อว่า “สวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)” เป็นทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่มาก ที่มีความกว้างประมาณ 190 เฮกตาร์ ความโดดเด่นของสวนดอกไม้แห่งนี้ คือสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู เพราะว่าจะมีดอกไม้ที่บานแตกต่างกันไปในแต่ฤดู

25. วัดนินจาจิ (Ninnaji Temple)

วัดนินจาจิ (Ninnaji Temple) - เที่ยวญี่ปุ่น

พามาเก็บแต้มบุญกันที่วัดสวยๆ อันเก่าแก่ของเกียวโต “วัดนินจาจิ (Ninnaji Temple)” เป็นวัดที่อยู่ในหนึ่งมรดกโลกที่สำคัญ และถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่มากๆ เพราะถูกค้นพบมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 888 ซึ่งนับว่าเป็นวัดที่มีอายุมากกว่าพันปีมาแล้วด้วยกัน โดดเด่นด้วยการเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการมาชมดอกซากุระบาน นอกจากความงามของซากุระบานแล้ว สถาปัตยกรรมของวัดนินจาจิยังเป็นที่น่าสนใจ เพราะว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความหรูหรา เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นราชวงศ์

26. สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima Sky Walk)

สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima Sky Walk) - เที่ยวญี่ปุ่น

นับว่าเป็นสถานที่สำหรับชมวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ ที่นอกจากวิวภูเขาไฟฟูจิแล้วนั้น วิวทิวทัศน์รอบข้างของ “สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima Sky Walk)” ก็คุ้มค่าแก่การมาเยือน เนื่องจากสะพานแขวนแห่งนี้ถือว่าเป็นสะพานแขวนที่มีความยาวมากที่สุดในญี่ปุ่น เพิ่งเปิดเมื่อปี 2015 ที่สำคัญยังเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างหุบเขา ดังนั้นเวลาที่เดินขึ้นไปบนสะพาน จึงสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา รวมทั้งวิวของภูเขาไฟฟูจิด้วยเช่นกัน

27. ศาลเจ้าฟูจิซันฮงงูเซ็นเก็งไทชะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha)

ศาลเจ้าฟูจิซันฮงงูเซ็นเก็งไทชะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha) - เที่ยวญี่ปุ่น

เป็นศาลเจ้าที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะที่เที่ยวญี่ปุ่นแห่งนี้ “ศาลเจ้าฟูจิซันฮงงูเซ็นเก็งไทชะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha)” ได้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้เคารพบูชาอาซามะโนะโอกามิ ซึ่งมีความเชื่อว่าได้สถิตอยู่ใต้ปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ ที่จะช่วยระงับการระเบิดของภูเขาไฟได้ เป็นศาลเจ้าที่นอกจากความเชื่อแล้ว ยังเป็นสถานที่ๆ นักท่องเที่ยวนิยมมาเพื่อชมดอกซากุระบาน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย

28. สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Yaen Park)

สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Yaen Park) - เที่ยวญี่ปุ่น

จะพาไปเที่ยวออนเซนเฉยๆ ก็ดูจะไม่น่าสนใจ แต่ถ้าหากว่าเป็นออนเซนที่มีลิงหิมะภูเขาลงมาแช่น้ำด้วยแล้วก็ต้องไปเที่ยวที่ “สวนลิงจิโกคุดานิ(Jigokudani Yaen Park)” ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดยามาโนอูจิ(Yamanouchi) ซึ่งภายในสวนลิงนั้น คุณจะได้เห็นภาพลิงแก้มแดงลงมาอาบน้ำ แช่น้ำร้อนที่เกิดจากน้ำพุธรรมชาติจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่จริงๆ แล้วเป็นภาพที่หาดูได้ยาก โดยที่สวนลิงแห่งนี้ จะมีลิงลงมาแช่น้ำร้อนเป็นจำนวนมากกว่า 200 ตัวด้วยกัน

29. ศาลเจ้ากลางทะเล อิสึกุชิมะ แห่งเกาะมิยาจิมะ (Miyajima Itsukushima Shrine)

ศาลเจ้ากลางทะเล อิสึกุชิมะ แห่งเกาะมิยาจิมะ (Miyajima Itsukushima Shrine) - เที่ยวญี่ปุ่น

ใครไปเที่ยวฮิโรชิม่า ขอให้แวะไปเที่ยวแลนด์มาร์คดังของเมืองฮิโรชิม่า “ศาลเจ้ากลางทะเล อิสึกุชิมะ แห่งเกาะมิยาจิมะ (Miyajima Itsukushima Shrine)” เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิมะ โดดเด่นด้วยเสาโทริอิที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่เที่ยวญี่ปุ่นแห่งนี้ไปซะแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าหากในช่วงที่น้ำลง ก็จะสามารถไปเดินเล่นตรงบริเวณเสาโทริอิได้ นอกจากนั้นยังมีศาลเจ้าลอยน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมไปกราบไหว้บูชา และขอพร

30. คลองโอตารุ (Otaru)

คลองโอตารุ (Otaru) - เที่ยวญี่ปุ่น

ไฮไลท์ของการมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว คงหนีไม่พ้นแลนด์มาร์คสำคัญ นั่นก็คือ “คลองโอตารุ (Otaru)” ที่ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางแค่เพียง 30 นาทีเท่านั้น นอกจากจะเป็นเมืองท่าแล้ว เมืองโอตารุยังเป็นที่ถ่ายทำหนังเรื่องแฟนเดย์ จึงทำให้โด่งดัง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ของเมืองโอตารุคือจะมีการจัดงานเทศกาลในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ จะมีการตกแต่งเมือง และจุดไฟอย่างสวยงาม

ถ้าพร้อมแล้วก็อย่ารอช้า พุ่งตัวไปจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้พร้อม จากนั้นก็ปักหมุดตามที่เที่ยวญี่ปุ่นต่างๆ เหล่านี้ได้เลย รับรองว่านอกจากจะฟินไปกับวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ก็ยังอิ่มเอมใจไปกับมนต์เสน่ห์ของญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อได้เลยว่าจะต้องติดใจจนอยากกลับมาเที่ยวซ้ำอย่างแน่นอน หากใครจะไปญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้ แล้วยังไม่มีแพลนเที่ยว ก็สามารถเที่ยวตามลิสต์ที่ว่านี้ได้เลย

เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับ Traveloka

ซื้อบัตรเข้าชมที่เที่ยวญี่ปุ่น กับ Traveloka Xperience

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร