ปีนเขาในวันหยุด กับวิวสวยสุดๆ ที่ฉุดเราไม่อยู่ @เขาล้อมหมวก จ.ประจวบคีรีขันธ์

เคยไปส่วนอื่นของ ประจวบฯ นอกจากหัวหินรึยังเอ่ย??
ถ้ายัง!!! วันนี้หมีหมูจะพาคุณไปพบกับ อีกบรรยากาศของการท่องเที่ยวริมทะเล
ที่คุณสามารถยืนเหยียบทะเลโดยที่ไม่เปียก ที่ “เขาล้อมหมวก”

**เขาล้อมหมวกนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยว ขึ้นชมแค่เฉพาะในวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น!!**

เช็ควันที่ เวลาสำหรับการขึ้นเขา และ ข้อปฏิบัติต่างๆได้ที่ด้านล่างนี้เลย

Credit: http://www.enjoygoing.com

ก่อนอื่นมาเรามาดูเส้นทางการเดินทางกันดีกว่า

วิธีการจะไปขึ้นเขาล้อมหมวกนั้น ไม่ยากจริงๆก็สามารถทำเป็น One-Day Trip ได้หากไม่กลัวเหนื่อยล้าจนเกินไป เพราะระยะทางการขับรถด้วยตัวเองจาก กรุงเทพมหานคร ไปถึงจุดเดินขึ้น ใช้เวลาโดยประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากสบายๆหน่อย ไหนๆก็ต้องไปช่วงวันหยุดอยู่แล้ว อาจจะไปหาที่พักในตัวเมืองหัวหิน หรือบริเวณใกล้เคียง จะได้มีเวลาไปเที่ยวที่อื่นต่ออีกด้วย

สำหรับเรื่องที่พักก็ไม่ต้องห่วง เราแนะนำให้ลองเข้าไปดูใน Traveloka รับรองว่ามีให้เลือกเพียบ แถมราคาโดนใจมากๆ ส่วนลดก็มีให้ใช้ ลดแลกแจกแถมกันเข้าไปอีก ไม่ว่าจะเป็นที่พักหัวหินเอง หรือว่าที่พักในตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ก็มีให้เลือกมากมาย

จองที่พักหัวหิน กับ Traveloka

จองที่พักตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ กับ Traveloka

การเตรียมตัว และสิ่งที่ต้องเตรียม

มาเริ่ม!!! สำหรับทริปเขาล้อมหมวกครั้งนี้ เราแวะไปนอนพักกันที่หัวหินมาด้วย เพราะถือโอกาสเที่ยวกันไปในตัว ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ที่เราไม่ต้องเหนื่อยเท่าไร สำหรับการขับรถทางไกลเช้ามืด เพื่อไปเดินขึ้นเขา ทำให้เราได้นอนเก็บแรงกันอย่างเต็มที่

7 โมงเช้าเราสองคน ออกจากที่พักในหัวหิน เพื่อเดินทางไปที่เขาล้อมหมวกให้ทัน ขึ้นตอน 8 โมง เพราะเราได้ยินมาว่าการเดินขึ้นเขาล้อมหมวกนั้น ทางไม่ไกลมาก แต่ค่อนจ้างที่จะชัน โดยส่วนมากจะใช้เวลา ขึ้น-ลง กันอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง เราสองคนเลยกะว่าถ้าได้ขึ้นสัก 8 โมงน่าจะลงมาสักไม่เกิน 11 โมง แล้วค่อยไปหาอะไรหม่ำตอนเที่ยงกัน

**ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเขาล้อมหมวก การเดินแบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ในช่วงแรกนั้นเป็นทางเดินทางราบ พื้นปูน ระยะทางประมาณ 400 เมตร ซึ่งไม่ชันมากนัก แต่สำหรับช่วงที่ 2 จะเป็นทางสุดหรรษา ที่ต้องเดินขึ้นเขาที่มีแต่หิน ไต่เชือกแบบปีนป่าย และการขึ้นลงทางเดียว

ช่วงแรก
เป็นทางเดินทางลาด ยังไม่มีอะไรเร้าใจเท่าไหร่ 5555555+ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนมากกก ทำให้เราสองคนรู้สึกเหนื่อยไม่ใช่น้อย เพราะแม้จะระยะทางแค่เพียง 400 เมตร แต่ ด้วยเขาล้อมหมวก ไม่เหมือนป่า เหมือนเขาที่เราสองคนเคยฟันฝ่ามาด้วยกัน เนื่องจากเป็นภูเขาหิน ทำให้ต้นไม้ในบริเวณนั้นมีน้อยมากๆ ทำให้เราสองคนไม่สามารถหาที่บังไอแดดได้เหมือนเขา เหมือนดอยที่เคยไปมา

เมื่อผ่านพ้นช่วงแรกมาได้ ก็จะมีจุดพักเป็นระยะๆ

แม้จะเป็นทางราบ แต่ก็มีทั้งแบบพื้นธรรมดา และแบบบันได ทำให้เราขึ้นมาถึงจุดที่สามารถมองลอดผ่านแมกไม้ไปเห็นทั้งภูเขาและทะเลได้

พอพักกันได้สักระยะหนึ่งเราก็พร้อมที่จะลุยกับช่วงที่สอง มาดูกันว่ามีความโหดเหี้ยมอะไรรอเราอยู่

ช่วงที่สอง
ช่วงนี้เป็นเหมือนช่วงวัดใจของคนที่ไปด้วยกัน ยิ่งใครไปกับแฟนเหมือนผม บอกเลยนะ ยิ่งต้องช่วยเหลือกัน เพราะไม่น่าเชื่อ ว่าเขาล้อมหมวกที่ดูไม่ได้สูงมากจากระยะไกล แต่เรื่องทางเนี่ย อื้อหือออออ สุดๆ มีทั้งเดินชัดแบบ 60 องศา มีทั้งปีนป่าย ไต่เชือก และระยะทางอีกครึ่งทางที่เหลือ “ไม่มีทางราบเลยจ้า” เรามาดูกัน ว่าทางเป็นยังไงบ้าง

ตลอดทางจะเป็นทางที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ขอให้เพื่อนๆเตรียมตัวเตรียมใจกันให้ดีๆ

ด้วยความเหนื่อยล้าเราก็ต้องมีช่วงพักกันบ้าง
ดูจากหน้าเจ้าหมูจะรู้เลยว่า ทางมันโหดจริงๆนะ ยิ่งเจออากาศร้อนๆเข้าไปอีก ตอนแรกหมีกลัวหมูจะเป็นลมมากครับ อัดเกลือแร่ให้ดื่มอย่างเดียวเลย แต่เพื่อนๆไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เพราะเขาล้อมหมวก มีการดูแลรักษาความปลอดภัยจากพี่ๆทหาร อยู่ตลอดเส้นทาง แต่ไม่ได้ต้องจ้างคนนำทางนะครับ พี่ๆทหารจะมาให้บริการดูแลพวกเราฟรีๆ ไม่เสียตังเลย

ป่ะไปต่อกัน

จุดที่มีเชือก อยากให้เพื่อนๆเตรียมถุงมือไปนะครับ
(ไม่อยากให้พลาดแบบหมีหมู ฮือออ T^T เจ็บมือ)

เนื่องจากทางเป็นการสวนขึ้นลงทางเดียว
บางช่วงก็ต้องมีช่วงบังคับให้เราหยุด เพื่อรอให้คนที่กำลังลง ได้ลงมาก่อน

เมื่อเราไต่เขาขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของเขาล้อมหมวก
หมีอยากจะบอกสั้นๆเลยว่า

มันคุ้มมากกกกกกกกกกกกกกกก

แม้พื้นที่ข้างบนจะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็เพียงพอให้นักท่องเที่ยวแบ่งมุมกันถ่ายรูป และวนๆกันถ่ายให้รอบบริเวณนะครับ แต่ด้วยอากาศที่ร้อนอย่างที่บอกไป ก็พยายามอย่าอยู่น่านจนเกินไปนะครับ เผื่อเป็นลมเป็นแล้งไป

มาเดี๋ยวเรามาดูกันเนอะ ว่าบรรยากาศมันสวยคุ้มกับที่เจ้าหมูเหนื่อยจนหน้าเปียกหรือไม่

ถึงแล้วจุดยอดของเขาล้อมหมวก

วิวมันสุดยอดจริงๆ

วิวมันสวยมากกกกก

บริเวณอีกด้านของเขา จะมีธงชาติไทย ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปกัน ไม่ต้องพกขึ้นไปกันเองน้า

ส่วนมุมอื่นๆ แม้จะดูว่าคล้ายกัน แต่ก็ถือเป็นบรรยากาศที่ทำให้เราชื่นใจในความเหนื่อย

สำหรับการเดินทางมาที่เขาล้อมหมวกในครั้งนี้ แม้จะเป็นทริปสั้นๆ แต่ด้วยการที่เขาเปิดแค่วันหยุด ทำให้มีโอกาสจะไปน้อยมากในหนึ่งปี หมีหมูบอกเลยว่า อยากให้เพื่อนๆที่เป็นนักเดินทางทุกท่าน ได้ไปลองสัมผัสความอิ่มเอมแบบเราสักครั้ง

หากเพื่อนๆยังหาที่ลงสำหรับวันหยุดในครั้งต่อไปไม่ได้ ลองเอาเขาล้อมหมวกเป็นหนึ่งในลิสต์การเดินทางดูนะครับ

อย่างที่เคยบอกไป ว่าการเดินทางเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนโลกของเราได้เสมอ

เราสองคนขอสนับสนุนให้ทุกๆคน ออก ไป เที่ยว
โดยเฉพาะกับแฟน =)

ฝากติดตามเราสองคนได้ที่ Facebook Fanpage

The Planners เที่ยวกับแฟนhttps://www.facebook.com/theplannersbytsst/