25 ที่เที่ยวญี่ปุ่น ตะลุยเที่ยวแบบเพลิน ๆ ชมช็อปได้ไม่มีเบื่อ

25 ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดเลยหากมีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่น แลนด์มาร์คญี่ปุ่นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมที่สวยงาม ชวนให้นักท่องเที่ยวอยากจองตั๋วบินไปญี่ปุ่น
Traveloka TH
17 Mar 2025 - ใช้เวลาอ่านประมาณ 8 นาที
ที่เที่ยวญี่ปุ่น

โอฮาโย~ สวัสดีเช้าวันใหม่สไตล์ญี่ปุ่นได้ยินแบบนี้.. ก็ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าวันนี้เราจะพาทุกคนบินลัดฟ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นดินแดนอาทิตย์อุทัยหรือดินแดนปลาดิบสุดปัง ที่นี่มีครบทุกแนว ทั้งธรรมชาติอลังการและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดเข้มข้น ใครที่หลงใหลในกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่ และความน่ารักของผู้คนบอกเลยว่าต้องโดน! ไม่ว่าจะเที่ยวภูมิภาคไหนก็ฟิน จนต้องหลงรักญี่ปุ่นแบบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน~ พร้อมแล้วก็กาปฏิทิน แล้วเตรียมตัวออกเดินทางไปอินกับเสน่ห์ญี่ปุ่นกันเล้ยยย!

ญี่ปุ่น ประเทศเดียวเอาอยู่ทุกไลฟ์สไตล์การเที่ยว ไม่ว่าคุณจะเป็นสายธรรมชาติ สายคาเฟ่ หรือสายช้อปปิ้งย่านดังที่นี่มีครบ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบกด จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น กับ Traveloka กันด่วนๆ เว็บไซต์และแอปที่ช่วยให้คุณเลือกได้ทั้ง ตั๋วเครื่องบิน และ ที่พักญี่ปุ่น ในราคาสุดคุ้ม แถมยังจองง่าย จ่ายสะดวก กดวันเดินทางเสร็จ ก็เตรียมตัวไปเช็คอิน ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดปัง ได้เลย ที่สำคัญ! มีส่วนลดจัดเต็ม ลดหนักแบบจุกๆ รู้แบบนี้จะรออะไรอีก?! ไปดูกันเลยว่าที่เที่ยวญี่ปุ่นเด็ดๆ มีที่ไหนบ้าง!

บินไปญี่ปุ่นกับ Japan Airlines!

Mon, 25 Aug 2025

Japan Airlines

กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)

เริ่มจาก THB 21,529.00

Sun, 24 Aug 2025

Japan Airlines

กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)

เริ่มจาก THB 21,711.00

Tue, 26 Aug 2025

Japan Airlines

กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)

เริ่มจาก THB 21,874.00

ที่เที่ยวญี่ปุ่นสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงญี่ปุ่น

Japan

บัตรเข้าสวนสนุก Tokyo Disney Resort

8.9/10

Tokyo Disney Resort

THB 2,168.01

1. ดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่นโตเกียวดิสนีย์ซี

ดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น ดินแดนแห่งความสนุกและความฝัน โดยเฉพาะเด็กๆ มาที่นี่ไม่ได้มีแค่เครื่องเล่นสุดมันส์ แต่ยังเต็มไปด้วย ขบวนพาเหรดสุดอลังการ ที่จะทำให้ทุกคนเหมือนหลุดเข้าไปในโลกการ์ตูนจากดิสนีย์ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกไปด้วยกันได้!

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

เครื่องเล่นสุดหวาดเสียว! รอให้คุณมาท้าทายกันเพียบ
พาเหรดดิสนีย์! ตัวการ์ตูนจากดิสนีย์ขอคาราวะทุกคนแบบใกล้ชิด
ร้านของฝาก! เต็มไปด้วยของที่ระลึกสุดน่ารักให้เลือกซื้อไปฝากน้องๆ หนูๆ ที่บ้าน (หรือจะซื้อให้ตัวเองก็ได้)

วิธีเดินทางไปดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น

🚇 รถไฟ: นั่ง JR Keiyo Line หรือ JR Musashino Line มาลงที่สถานี Maihama Station จากนั้นเดินไปอีกหน่อยก็ถึงสวนสนุกแล้ว!
🚌 รถบัส: สามารถนั่งรถบัสจาก สถานีโตเกียว หรือ สนามบินนาริตะ ไปที่ ดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น ได้เลย
🚗 รถยนต์: ถ้าขับรถไปเอง ก็สามารถไปตามป้ายบอกทางได้เลย แต่แนะนำให้จอดที่ ที่จอดรถของดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น

สวนสนุกแห่งนี้เป็นที่เที่ยวที่ทุกคนต้องลองสักครั้งในชีวิต! ไปสัมผัส ความสนุก ความตื่นเต้น และ ความน่ารัก จากเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่ "ดิสนีย์แลนด์" แล้วจะไม่ผิดหวัง!

Japan

บัตรเข้าสวนสนุก Tokyo Disney Resort

8.9/10

Tokyo Disney Resort

THB 2,168.01

2. ยูนิเวอร์แซล เจแปน

ยูนิเวอร์แซลญี่ปุ่น

อีกหนึ่งที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ยูนิเวอร์แซล เจแปน ที่ต้องบอกเลยว่าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และเป็นสถานที่ยอดนิยมที่คนรักความบันเทิงทุกคนไม่ควรพลาด! ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกไปด้วยกันได้ เพราะมีเครื่องเล่นตื่นเต้นให้เลือกเพียบ

ไฮไลท์เด็ดที่นี่ไม่ควรพลาด!

โซนแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่ทุกคนสามารถสัมผัสความมหัศจรรย์จากโลกของแฮร์รี่ได้แบบสมจริง! ไม่ว่าจะเป็น ฉากในหนัง ที่ยกมาทั้งหมด หรือ ของเล่น และ ของฝากที่ระลึก ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของพ่อมดจริงๆ!
บัตเตอร์เบียร์ เมนูเด็ดที่ห้ามพลาด! ลองลิ้มรสชาติของเครื่องดื่มสุดคลาสสิคจากโลกของแฮร์รี่พอตเตอร์ รับรองว่าอร่อยจนลืมไม่ลง!
โซนถ่ายรูป เต็มไปด้วยฉากที่เหมือนในภาพยนตร์ บอกเลยว่าไม่ต้องบินไปที่อังกฤษ เพราะที่นี่คุณจะได้ ถ่ายรูปกับฉากสุดอลังการ แบบที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน!

วิธีเดินทางไปยูนิเวอร์แซล เจแปน

🚇 รถไฟ: นั่ง JR Yumesaki Line จาก สถานีโอซาก้า มาลงที่ สถานียูนิเวอร์แซลซิตี้ (Universal City Station) เลย
🚌 รถบัส: มีบริการรถบัสจาก สถานีโอซาก้า และ สนามบินคันไซ นั่งสบายๆ มาลงที่ยูนิเวอร์แซล เจแปนเลย
🚗 รถยนต์: ถ้าขับรถเองก็ง่ายมาก! มีที่จอดรถของยูนิเวอร์แซลเจแปนให้บริการ

มาที่ ยูนิเวอร์แซล เจแปน แล้วจะไม่ผิดหวัง! เพลิดเพลินไปกับ เครื่องเล่นสุดตื่นเต้น และ โลกมหัศจรรย์ของแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่ทุกคนจะต้องหลงรัก!

Japan

บัตรเข้าสวนสนุก Tokyo Disney Resort

8.9/10

Tokyo Disney Resort

THB 2,168.01

3. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ

ใครที่ไป เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นแล้วไม่ไป ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โออินาริซัง ถือว่าพลาดมากกกก เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี แต่ยังเต็มไปด้วยเสาโทริอิสีแดง กว่า หมื่นต้นที่เรียงรายเป็นอุโมงค์ยาว 4 กิโลเมตร ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป

จุดเด่นสุดฟิน

อุโมงค์เสาโทริอิสีแดงที่เรียงราย ยาวถึง 4 กิโลเมตร ทำให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี
ศาลเจ้านี้มีความสำคัญทั้งในเรื่อง ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรม ของญี่ปุ่น ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศ ความสงบ และ ศรัทธา ต้องมาที่นี่
ยิ่งมาในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง หรือ ฤดูใบไม้ผลิ จะได้เห็นวิวที่งดงามสุดๆ

วิธีเดินทางไปที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ:

🚉 รถไฟ: จาก สถานีเกียวโต นั่ง รถไฟสาย JR Nara Line ไปลงที่ สถานีฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Station) ใช้เวลาแค่ 5 นาที! สะดวกสุดๆ!
🚌 รถบัส: มีรถบัสจาก สถานีเกียวโต หรือ สถานีอาราชิยาม่า ให้บริการ พอลงแล้วเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง
🚗 ขับรถ: ถ้าคุณขับรถเอง มีที่จอดรถบริเวณใกล้เคียงง่ายๆ เลย

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิมพร้อมกับวิวธรรมชาติที่สวยงามสุดๆ ต้องไปที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะแห่งนี้นะ คอนเฟิร์มเลยว่าไม่ผิดหวัง

4. ปราสาทฮิเมจิ

ปราสาทฮิเมจิ

ปราสาทฮิเมจิ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า ปราสาทนกกระสาขาว นี่แหละคือที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ต้องมาให้ได้ ปราสาทแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่แลนด์มาร์กที่สวยงามสุดๆ แต่มันยังมีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี เลยนะ นอกจากนี้ยังได้รับการจดทะเบียนเป็น มรดกโลก และถือเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี สวยจนใครๆ ก็ต้องหลงรัก ยิ่งถ้าคุณได้ใส่กิโมโนแล้วไปถ่ายรูปกับปราสาทท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่และสวยงามจะได้รูปสวยๆ กลับบ้านไปแน่นอน

วิธีการเดินทาง

จาก สถานีโอซาก้า นั่ง รถไฟ JR มุ่งหน้าไปยัง สถานีฮิเมจิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงแล้ว จากนั้นเดินไปอีกนิดก็ถึงปราสาทฮิเมจิแล้ว

5. Hitachi seaside park

Hitachi seaside park

พูดถึงที่เที่ยวญี่ปุ่นที่วิวดีและมีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ ต้องมา Hitachi Seaside Park กันเลย! ตั้งอยู่ในจังหวัด อิบารากิ ริมทะเล บอกเลยว่าที่นี่มี ดอกไม้นานาชนิด ที่พร้อมเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ทำให้ที่นี่เป็น แลนด์มาร์กยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

ทุ่งดอกเนโมฟีเลีย ที่จะทำให้คุณต้องหยุดหายใจกับสีฟ้าที่สดใสยามมองลงไป (ถ่ายรูปไปฟินไป)
ทุ่งโคเชีย ที่จะเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีแดงสุดอลังการในฤดูใบไม้ร่วง
บรรยากาศธรรมชาติ สุดชิลล์ที่มาพร้อมกับอากาศเย็นสบายริมทะเล

วิธีการเดินทางไป Hitachi Seaside Park

🚉 รถไฟ: จาก สถานีโตเกียว ขึ้น JR Joban Line มาลงที่ สถานี Katsuta แล้วนั่งแท็กซี่ไปแค่ 15 นาที
🚌 รถบัส: มีบริการจากสถานี Hitachi และ Katsuta เลยค่ะ ขึ้นรถบัสแล้วไปเลย!
🚗 ขับรถ: ขับตรงมาจาก โตเกียว ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเอง!

อยากได้ภาพสวยๆ กลับบ้าน พร้อมสัมผัสบรรยากาศแสนสดชื่น ต้องไป Hitachi Seaside Park เลยรับรองว่าถ่ายรูปมาแล้วจะสวยปังจนคนต้องถามว่า "ไปมาจากไหน?

6. ฟาร์มโทมิตะ

ฟาร์มโทมิตะ

ฟาร์มโทมิตะ ทุ่งลาเวนเดอร์สวยๆ ที่ไม่ไปไม่ได้ ใครอยากเห็น ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวยๆ ก็ต้องมาที่ ฟาร์มโทมิตะ กันเลย! ที่นี่เต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงบานสะพรั่งเรียงรายเป็นแถวที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เย็นสบายจนคุณจะหลงรักไปกับความสดชื่นของธรรมชาติ

ไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้

ซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์ รสชาติกลมกล่อม หอมมัน ลองแล้วจะติดใจ!
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์หลากสีสันตลอดช่วง มิถุนายน – กันยายน คือช่วงเวลาที่ดอกจะบานสวยที่สุด

วิธีการเดินทางไปฟาร์มโทมิตะ

🚉 รถไฟ: นั่ง JR Furano Line จาก สถานี Asahikawa แล้วลงที่ สถานี Farm Tomita
🚗 ขับรถ: ถ้าคุณอยากเที่ยวแบบสะดวกสบาย แนะนำขับจาก เมืองฟุราโน่ แค่ 20 นาทีเอง

หากคุณอยากชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์สวยๆ และลิ้มรสซอฟต์ครีมอร่อยๆ อย่าลืมแวะไปฟาร์มโทมิตะแล้วมาชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ พร้อมกับดื่มด่ำกับรสชาติที่หอมหวานกันนะ

7. Shirakawa-Go

Shirakawa-Go

ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศ หมู่บ้านญี่ปุ่นเก่าแก่ ที่เหมือนหลุดมาจากหนังเรื่องนินจา บอกเลยว่าห้ามพลาด Shirakawa-Go หมู่บ้านในเขตกิฟูและโทนามา ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ที่นี่เต็มไปด้วย บ้านเรือนในสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 200-300 ปี และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมที่คนท้องถิ่นยังรักษาไว้ มาทั้งทีได้สัมผัสบรรยากาศคลาสสิคแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แบบนี้ต้องมาเยี่ยมชม

แนะนำช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยว: หน้าหนาว! เพราะหิมะจะตกโปรยปรายทั่วหลังคาบ้านมีแสงไฟประดบประดาตลอดหมู่บ้านทำให้บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ

วิธีเดินทางไปShirakawa-Go

🚄 รถไฟ: จาก สถานี Kanazawa หรือ สถานี Takayama นั่งรถไฟไปยัง สถานี Shirakawago แล้วต่อรถบัสอีกนิดก็ถึง!
🚗 ขับรถ: หากคุณขับรถเอง ก็สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ จาก เมือง Takayama (ประมาณ 1 ชั่วโมง) หรือ Kanazawa (ประมาณ 1.5 ชั่วโมง)

มาที่นี่แล้วได้ทั้งบรรยากาศสวยๆ และสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ อย่าลืมมาเยือน Shirakawa-Go แล้วล่ะ

8. อุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ

อุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มีทั้งวิวสวยและแช่ออนเซ็น แบบเต็มอิ่ม อย่าพลาด อุทยานแห่งชาติโกะ โทยะ ที่ตั้งอยู่ในเมือง ซับโปโร ที่นี่มีทั้ง เรียวกัง ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นสุดคลาสสิคและออนเซ็นชั้นยอดที่เรียกว่า โจซังเคออนเซ็น ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของหุบเขาและทะเลสาบ ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะเลือกมาเที่ยวกันทั้งในกลุ่มครอบครัว หรือ คู่รักเพื่อมาพักผ่อนและผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่สวยงามแบบสุดๆ

ไฮไลท์เด็ด: การแช่ออนเซ็นกลางธรรมชาติที่ โจซังเคออนเซ็น ที่นี่คุณสามารถแช่ตัวในออนเซ็นร้อนๆ ไปพร้อมกับวิวทะเลสาบและหุบเขาที่สวยงามได้เลย!

วิธีเดินทางไปยังอุทยาน

🚄 จากเมืองซัปโปโร: ขับรถไปเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติโกะ โทยะ แสนสบาย ถ้าไม่อยากขับรถก็สามารถนั่ง รถบัส ที่ออกจาก สถานีซัปโปโร ไปยัง อุทยานโกะ โทยะ ได้เช่นกัน

ใครที่ชอบการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและอยากได้บรรยากาศสุดชิล ต้องไม่พลาด อุทยานแห่งชาติโกะ โทยะ เด็ดขาดนะ

9. ป่าไผ่ซากาโนะ

ป่าไผ่ซากาโนะ

หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ป่าไผ่ซากาโนะก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด! ที่นี่จะมีป่าไผ่ เรียงรายทั้งสองข้างทางไปยาวกว่า 500 เมตร ทำให้คุณได้สัมผัสกับ บรรยากาศธรรมชาติ ที่ร่มรื่น และเดินเล่นไปตามทางได้อย่างเพลิดเพลิน

ไฮไลท์เด็ด: ถ้าคุณชอบการถ่ายรูป ที่นี่ก็มีมุมสวยๆ มากมายให้คุณได้ เซลฟี่ กับธรรมชาติและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสุดๆ นอกจากนี้ยังสามารถ เช่าชุดกิโมโน หรือ ชุดยูกาตะ มาถ่ายรูปได้ที่ร้านเช่าฝากไว้ที่ด้านหน้า ปังสุดๆ กับชุดแบบญี่ปุ่น!

วิธีเดินทาง

สถานที่ตั้งอยู่ใน เกียวโต คุณสามารถนั่ง รถไฟ มาลงที่สถานี ซากาโนะ ซึ่งอยู่ใกล้กับป่าไผ่ เพียงไม่กี่นาทีเดินก็ถึงเลย หรือจะนั่ง รถบัส ก็ได้

ที่ป่าไผ่ซากาโนะ คุณจะได้เดินเล่นท่ามกลางความเงียบสงบของป่า พร้อมกับสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ได้เต็มที่

10. Okinawa churaumi aquarium

Okinawa churaumi aquarium

หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทะเลและสัตว์น้ำ อย่าพลาดที่ Okinawa Churaumi Aquarium เลย! พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ไม่ใช่แค่หนึ่งในอควาเรียมขนาดใหญ่ที่สุดของโลก แต่ยังเป็นที่ที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับระบบนิเวศทะเลที่สมบูรณ์แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

จุดเด่น: มาแล้วต้องไปที่โซน KUROSHI SEA ที่มีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ สูงถึง 8.2 เมตร สามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลได้แบบใกล้ชิดเหมือนอยู่ในทะเลจริงๆ! นอกจากนี้ยังมีโซน The Sea of Tropical Fish ที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับสัตว์น้ำของโอกินาว่าญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

วิธีเดินทาง

เดินทางมายัง อควาเรียมโอกินาว่า ด้วย รถเช่า หรือ รถบัส โดยสถานที่ตั้งอยู่ที่ หมู่เกาะโอกินาว่า ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง สะดวกและง่ายต่อการเดินทาง

ไปสัมผัสความมหัศจรรย์ใต้ทะเลของอควาเรียมโอกินาว่ากันเถอะ

11. อิเนะ

อิเนะ

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วย ธรรมชาติสุดงาม และบรรยากาศเงียบสงบให้ชีวิตได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หมู่บ้านอิเนะ เป็นที่เที่ยวที่ต้องไป ตั้งอยู่ในเกาะของเมืองเกียวโต หมู่บ้านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดจากโลกแห่งความวุ่นวายกลับไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ริมทะเลที่มีบ้านเรือนคลาสสิคสวยงาม

ไฮไลต์

เพลิดเพลินไปกับ การรับประทานอาหารทะเลสดๆ ที่จับมาจากทะเลใกล้ๆ
ล่องเรือชมวิวทะเล รอบๆ หมู่บ้าน ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแบบชิลๆ

วิธีเดินทาง

หากคุณอยากมาเที่ยวที่นี่ง่ายๆ ก็แค่ ขับรถ หรือ นั่งรถบัส จากตัวเมืองเกียวโต ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็จะได้มาถึงที่หมู่บ้านอิเนะ สำหรับการพักผ่อนท่ามกลางท้องทะเลสวยๆ

ชวนเพื่อนๆ มาเติมเต็มความสงบสุขที่อิเนะกันนะ

12. นารา

นารา

นารา หรือ สวนกวาง ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิตสำหรับคนรักธรรมชาติและสัตว์น่ารักใครอยากสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบและเพลิดเพลินกับการอยู่ใกล้ชิดกับ น้องกวางน่ารัก ต้องมาที่สวนกวางนาราเลยิที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่อยู่ใกล้เมืองโอซาก้ามากๆ แค่นั่งรถไฟไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ว้าว!

จุดเด่น

น้องกวางจะออกมาต้อนรับคุณทุกที่ พวกมันไม่กลัวคนเลย สามารถถ่ายรูปใกล้ๆ และให้อาหารน้องๆ ได้อย่างสนุกสนาน
บรรยากาศดีสุดๆ เหมาะสำหรับการเดินเล่น หรือมาพักผ่อนชิลๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว

วิธีเดินทาง

นั่ง รถไฟจากโอซาก้า ไปยังนาราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เท่านั้น! ง่ายๆ แบบนี้เลย

มาที่นาราแล้วจะหลงรักความน่ารักของเจ้ากวางแน่นอน

13. ซากะ

ซากะ

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับเมืองซากะจากซีรี่ย์สุดฮิต "STAY ซากะ…ฉันจะคิดถึงเธอ" ที่ถ่ายทอดความงดงามและความเรียบง่ายของเมืองนี้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แต่ไม่ใช่แค่ในซีรี่ย์นะที่เมืองซากะมีเสน่ห์ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของงานบอลลูนนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะมีบอลลูนยักษ์จากกว่า 100 ประเทศ เข้ามาร่วมแข่งขัน ช่วงเวลานี้เมืองซากะจะเต็มไปด้วยความคึกคักและบรรยากาศที่สนุกสนาน เต็มไปด้วยสีสันจากบอลลูนขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าและตกแต่งทิวทัศน์เมืองได้อย่างสวยงามมาก ๆ

วิธีเดินทาง

ขึ้นรถไฟจากฟุกุโอกะ ใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะได้มาเยือนเมืองซากะแล้ว! ง่ายๆ แบบนี้เลย

หากใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดงานบอลลูนที่ซากะนะ! รับรองว่าคุณจะประทับใจและตื่นตาตื่นใจไปกับวิวสวยๆ และบรรยากาศที่ไม่มีที่ไหนเหมือนแน่นอน

14. อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้

อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้

อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด! ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวมากนัก สามารถเที่ยวแบบเช้า - เย็นกลับได้สบายๆ เลย อุทยานนี้เต็มไปด้วยวิวภูเขาสวยๆ บริเวณทิศตะวันตกของเมืองนิกโก้ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตก, ลำธาร, น้ำพุร้อน, และ ทะเลสาบที่สามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด

คำแนะนำ: ถ้าอยากได้วิวที่สวยสุดๆ ต้องมาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะจะได้เห็นใบไม้สีส้ม สีแดงและสีทองสวยๆ ตระการตาแบบที่ต้องร้องว้าวเลย

วิธีเดินทาง

จาก โตเกียว ขึ้น รถไฟชินคันเซ็น (ประมาณ 2 ชั่วโมง) หรือถ้าชอบบรรยากาศทางรถไฟก็สามารถนั่ง รถไฟท้องถิ่น มาต่อได้ง่ายๆ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว

มากันเถอะ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติญี่ปุ่นสุดสวยจนไม่อยากกลับบ้าน

15. ตลาดปลาซึกิจิ

ตลาดปลาซึกิจิ

ตลาดปลาซึกิจิ คือสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่คุณต้องลองไปสักครั้ง ที่นี่เป็นตลาดปลาที่เต็มไปด้วย ของทะเลสดๆ จากทะเลญี่ปุ่นมากมาย และราคาก็ย่อมเยาแถมยังอร่อยสุดๆ ตลาดนี้เป็นแหล่งที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันมาเพื่อลิ้มลอง อาหารทะเลสดๆ อย่างใกล้ชิด โดยเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ทามาโกะ, อูนิ, และ หอยนางรมสด ที่ทั้งอร่อย สด และปลอดภัย พร้อมให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติที่ดีสุดๆ เมื่อได้ลองแล้ว รับรองว่าคุณจะต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งแน่นอน เพราะจะติดใจในความสดและรสชาติของอาหารทะเลที่นี่

วิธีเดินทาง

มาได้ง่ายๆ โดยนั่ง รถไฟใต้ดินสายฮิบิยะ (Hibiya Line) ลงที่ สถานีซึกิจิ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจากสถานี ชินจูกุ หรือ โตเกียว แล้วก็เดินไม่ไกลเลย! เรียกได้ว่าแค่เดินเข้ามาก็พร้อมเจอความสดใหม่ทันที

16. อากิฮาบาระ

อากิฮาบาระ

อากิฮาบาระ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ แหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และ IT ของญี่ปุ่นิหากคุณชอบจับจ่ายซื้อของเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ เทคโนโลยีล้ำๆ ที่นี่คือสวรรค์ของนักช็อปตัวจริง นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ย่านนี้ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมป๊อปที่แฟนๆ เกมส์ และ อนิเมะ ไม่ควรพลาด ถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบอนิเมะหรือคาแร็กเตอร์ต่างๆ จากญี่ปุ่น คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยสเตชันเกมส์, การ์ตูน และ ของสะสมสุดปัง จากจักรวาลอนิเมะ

วิธีการเดินทาง

ไปง่ายๆ แค่ขึ้น รถไฟ JR สายชินจูกุ หรือ สายฮิบิยะ จากสถานี โตเกียว แล้วมาลงที่ สถานีอากิฮาบาระ ใช้เวลาแค่ประมาณ 10-15 นาทีพร้อมแล้วก็ไปสัมผัสโลกของเครื่องใช้ไฟฟ้ากับมังงะได้เลย

17. สวนลิงจิโกคุดานิ

สวนลิงจิโกคุตานิ

พูดถึงออนเซ็นทีไรก็ต้องนึกถึงการแช่ตัวในน้ำร้อนสบายๆ แต่คุณรู้ไหมว่าลิง เองก็ชอบแช่ออนเซ็นที่สวนลิงจิโกคุดานิคุณจะได้ไปชมลิงนับร้อยตัว ที่มารวมตัวกันแช่ออนเซ็นอย่างฟินๆ เหมือนมนุษย์เลย จัดเป็นภาพน่ารักที่ต้องถ่ายไปอวดเพื่อนๆ เรียกได้ว่าบรรยากาศสุดพิเศษที่ต้องลองสักครั้งในชีวิต

วิธีการเดินทาง

ไปง่ายมากขึ้น รถไฟ JR สายอิบารากิ หรือ สายชินคันเซ็น จาก โตเกียว แล้วมาลงที่ สถานีจิโกคุดานิ ใช้เวลาแค่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงสวนลิงแล้วไปดูความน่ารักของเหล่าลิงแช่ออนเซ็นกันเถอะ

18. ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้า หรือปราสาทโบราณที่มีความเก่าแก่และอลังการ ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ถึงแม้ว่าปราสาทดั้งเดิมจะถูกเผาทำลายไปแล้ว แต่ปราสาทที่เราเห็นกันในวันนี้เป็นการจำลองและอนุรักษ์จากเดิมอย่างดีซึ่งภายในจะมีวัตถุและเอกสารโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตระกูลญี่ปุ่นโทโยโทมินั่นเอง เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเดินชมและเก็บภาพสวยๆ กลับไปได้แน่นอน

วิธีการเดินทาง

เดินทางโดย รถไฟใต้ดินโอซาก้า ใช้เวลาแค่ 10-15 นาที จาก สถานีโอซาก้า ก็สามารถเดินไปถึงปราสาทโอซาก้าได้เลย! เตรียมกล้องให้พร้อมแล้วไปตะลุยกัน

19. สวนเค็นโรคุเอ็น

สวนเค็นโรคุเอ็น

สวนเค็นโรคุเอ็น เป็นหนึ่งในสวนที่สวยงามที่สุดในที่เที่ยวญี่ปุ่นเลยนะ ภายในสวนมีการตัดแต่งต้นไม้ตามสไตล์เซนที่ช่วยให้บรรยากาศดูสงบ และแบ่งออกเป็น 6 พื้นที่ ที่มีลักษณะเฉพาะตัว แต่ที่พิเศษสุดๆ คงจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นแดงสดและมาผสมกับความสวยงามของสวนที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว ดูแล้วมันเหมือนภาพวาดเลย!

วิธีการเดินทาง:

นั่งรถไฟสาย JR ไปลงที่ สถานีคานาซาว่า จากนั้นเดินต่ออีกแค่ 10-15 นาที ก็จะถึงสวนเค็นโรคุเอ็นแล้ว

20. คาวาโกเอะ

คาวาโกเอะ

คาวาโอเกะ เมืองสุดน่ารักในจังหวัดไซตามะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ!บ้านเมืองและร้านค้าต่างๆ ที่นี่จัดเต็มด้วยสไตล์ดั้งเดิม เรียกได้ว่ามาที่นี่เหมือนหลุดเข้าไปในยุคสมัยเก่าเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศญี่ปุ่นแบบแท้จริงต้องมา! และถ้าพูดถึงขนมญี่ปุ่นห้ามพลาด เซมเบ้ กรอบๆ ที่รสชาติจะทำให้คุณต้องร้องว้าว

วิธีการเดินทาง

นั่งรถไฟสาย JR จากโตเกียวไปยัง สถานีคาวาโอเกะ ใช้เวลาแค่ ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว เตรียมตัวไปตะลุยช้อป ชิม และสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นโบราณกันได้เลย

21. ห้าแยกชิบูย่า

ห้าแยกชิบูย่า

โตเกียว เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ถ้าอยากสัมผัสกับความเป็นมหานครที่มีชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ ต้องมาแวะชิบูย่าและชินจูกุ องย่านที่ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็มีคนเต็มไปหมด ที่นี่คือแหล่งรวมทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ย่านการค้า ที่ให้เลือกซื้อของเด็ดๆ จนไปถึง รูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขยอดกตัญญูที่กลายเป็นตำนานในภาพยนตร์ Hachi: A Dog's Tale

วิธีการเดินทาง:

นั่งรถไฟ JR หรือ รถไฟใต้ดิน ไปที่ สถานีชินจูกุ หรือ สถานีชิบูย่า ก็ถึงแล้ว! ง่ายสุดๆ ใช้เวลาแค่ ประมาณ 15 นาที จากสถานีโตเกียว

22. Hiroshima Peace Park

Hiroshima Peace Park

สวนฮิโรชิม่า อนุสรณ์สถาน ถือเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถ้าอยากรู้จักเรื่องราวของเหตุการณ์ทิ้งระเบิ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสัมผัสความเข้มข้นของประวัติศาสตร์ใน พิพิธภัณฑ์ สองส่วนหลัก ก็ต้องมาที่นี่เลย ในอนุสรณ์สถานจะมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของฮิโรชิม่า และเหตุการณ์ที่ทำให้เกาะนี้กลายเป็นจุดสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก! เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในเรื่องราวประวัติศาสตร์จริงๆ

วิธีการเดินทาง

นั่งรถไฟ JR ไปที่ สถานีฮิโรชิม่า แล้วต่อ รถราง อีกไม่กี่สถานีก็ถึงแล้ว! ง่ายสุดๆ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เท่านั้น

23. วัดซันจูซันเก็นโด

วัดซันจูซันเก็นโด

วัดซันจูซันเก็นโด วัดเก่าแก่ที่อายุมากกว่าพันปีที่เที่ยวญี่ปุ่นแห่งนี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิม 1,001 องค์ เรียงรายอยู่ภายในวิหารไม้ให้เราได้ชมความงดงาม บรรยากาศที่นี่เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความสงบและศรัทธา ความหมายของชื่อวัด "ซันจูซันเก็นโด" ก็คือ “โถงแห่งเก็งนับพัน” ซึ่งก็เหมาะสมกับจำนวนพระพุทธรูปในวัดที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

วิธีการเดินทาง

จาก สถานีเกียวโต นั่ง รถบัส สาย 206 หรือ 208 มาลงที่ ป้ายซันจูซันเก็นโด ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เท่านั้น

24. ภูเขาฟูจิ

ภูเขาฟูจิ

ภูเขาฟูจิ นับเป็นแหล่งที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฟินที่สายธรรมชาติห้ามพลาดไม่ว่าจะเลือกนั่งรถไฟ ชมวิวภูเขาฟูจิแบบสบายๆ หรือจะเดินเที่ยวบริเวณรอบๆ แบบเต็มที่ก็ได้หมด เพราะไม่ว่ามุมไหน ภูเขาฟูจิก็สวยจนต้องหยิบกล้องมาถ่ายกันไปเพลินๆ บอกเลยว่าวิวภูเขาฟูจิเหมาะแก่การถ่ายรูปในทุกฤดู ยิ่งช่วง ฤดูใบไม้ร่วง หรือ ฤดูหนาว ฟูจิก็ยิ่งสวยเกินคำบรรยาย นอกจากวิวฟูจิที่สวยจนต้องร้อง "ว้าว!" แล้วยังสามารถเดินชม อุทยาน และ ทะเลสาบ รอบๆ ฟูจิได้อีกด้วย บรรยากาศแสนเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติสุดๆ

วิธีการเดินทาง

จาก สถานีโตเกียว นั่ง รถไฟ JR Chuo Line ไปยัง สถานีโอชิโนะฮักไก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือถ้าอยากสะดวกสุดๆ ก็สามารถนั่ง บัสตรง ไปที่ ทะเลสาบฟูจิ ได้นะ

25. ย่านโดทงโบริ

ย่านโดทงโบริ

เมื่อพูดถึง โอซาก้า แล้วห้ามพลาด ย่านโดทงโบริ แหล่งที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เปล่งประกายยามค่ำคืน แถมยังคึกคักสุดๆ สำหรับใครที่ชอบช็อปปิ้ง แวะมาที่นี่แล้วคุณจะได้เต็มอิ่มกับร้านค้ามากมาย ทั้งของกินอร่อยๆและของฝาก แปลกใหม่เพียบ จุดเด่นของที่นี่ก็ต้องยกให้ป้ายปูยักษ์ที่ดังระดับโลกและป้ายนักวิ่งกุลิโกะ ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าเลย บรรยากาศยามค่ำคืนก็ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนตร์ ผสมกับแสงสีและเสียงของเมืองที่ไม่เคยหลับ!

วิธีการเดินทาง

จาก สถานีโอซาก้า ขึ้น รถไฟ JR หรือ รถไฟใต้ดิน Midosuji Line แล้วมาลงที่ สถานีนัมบะ ใช้เวลาแค่ 2 นาที ก็ถึง โดทงโบริ แล้ว! สบายๆ เดินเที่ยวเพลินๆ ทั้งวันทั้งคืนเลย

มาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นควรที่จะตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ ในการเข้าเมืองให้ครบถ้วยเสียก่อน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเช็กว่าตัวเองพร้อมจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้วหรือยัง ซึ่งปัจจุบันทางญี่ปุ่น ก็ได้มีการลดหย่อนมาตรการโควิดลง โดยนักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีน Covid-19 แล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่คุณจำเป็นต้องเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

ประเทศญี่ปุ่นมีการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว โดยสามารถเดินทางและพำนักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้นานถึง 15 วัน สำหรับกรณีที่นักท่องเที่ยวอยากพำนักอยู่ที่ญี่ปุ่นมากกว่า 15 วัน นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องทำเรื่องของวีซ่าเพิ่มเติม
นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปที่เที่ยวญี่ปุ่น ต้องกรอกข้อมูลต่าง ๆ ที่ Visit Japan Web เพื่อเป็นการลงทะเบียนการเดินทางล่วงหน้า ช่วยเพิ่มความสะดวกตอนที่เดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่น

ข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่น

ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อซึมซับบรรยากาศ วัฒนธรรม และ วิถีชีวิตของประชากรชาวญี่ปุ่นแบบเต็มอรรถรส ก็มีหลายเรื่องที่เราควรจะทราบก่อนจะเดินทางไปถึงญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยให้การตระเวนไปเที่ยวตามแหล่งที่เที่ยวญี่ปุ่นด้รับประสบการณ์อย่างเต็มที่ ทำให้ทริปเที่ยวของเราไปอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ข้อมูลประเทศญี่ปุ่นในเบื้องต้น

ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดพื้นที่ราว ๆ 377,975 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ประกอบไปด้วยเกาะหลักจำนวน 5 เกาะได้แก่ ฮนชู, ฮกไกโด, ชิโกกุ, คิวชู และโอกินาวะ เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น คือ เมืองโตเกียว ทางทิศเหนือของประเทศติดกับรัสเซีย ทางทิศตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลีและประเทศจีน ทางทิศใต้ติดกับประเทศไต้หวัน

การเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เราสามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นผ่านการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอป Traveloka โดยสายการบินที่มีเที่ยวบินเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นก็มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ เช่น AirAsia, Thai Airways, Bangkok Airways เป็นต้น ซึ่งเราสามารถขึ้นเครื่องได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือสนามบินดอนเมืองตามตั๋วเครื่องบินที่เราจองไว้ ใช้เวลาในการบินตรงไปลงญี่ปุ่นประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที

การเดินทางภายในประเทศไปยังที่เที่ยวญี่ปุ่น

หากพูดถึงการเดินทางไปยังที่เที่ยวญี่ปุ่นด้วยวิธีต่าง ๆ บอกเลยว่าที่ญี่ปุ่นเนี่ยมีการคมนาคม - การขนส่งที่ค่อนข้างครบถ้วนเลย เริ่มจากรถไฟความเร็วสูงชินคังเซ็น ที่สามารถเดินทางไปตามเมืองหลัก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นด้วยความเร็วสูง หรือ เจแปนเรลเวย์ บริการรถไฟที่ครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศ พร้อมตั๋วเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวช่วยอำนวยความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายของเราได้เป็นอย่างดี แต่นอกจากรถไฟที่ญี่ปุ่นก็ยังมีรถประจำทาง รถแท็กซี่ จักรยาน รถเช่าต่าง ๆ ให้เราเลือกตามความสะดวก

ภาษาที่ใช้ในที่เที่ยวญี่ปุ่น

สำหรับภาษาที่จำเป็นต่อการสื่อสารระหว่างเดินทางไปที่เที่ยวญี่ปุ่นประชากรชาวญี่ปุ่นนิยมสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่น รวมถึงเป็นภาษาราชการของประเทศเลย การใช้ภาษาอังกฤษอาจจะพอถูไถไปได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านตามแถบชนบทก็จะนิยมการสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นเสียมากกว่า

เงินตราสำหรับใช้จ่ายในที่เที่ยวญี่ปุ่น

จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็ควรแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลที่สามารถใช้ได้ประเทศเป้าหมาย โดยทางประเทศญี่ปุ่นจะซื้อขายแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินสกุลเยน (JPY) อัตราการแลกเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแต่ละช่วงเวลา ต้องเช็กตรวจสอบค่าเงินตามเวลาที่เราจะเดินทางไปอีกที

ข้อมูลเวลาสำหรับท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เวลาที่ประเทศญี่ปุ่นจะเดินเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง โดยค่าเวลามาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ GMT+9 เขตเวลา Asia/Tokyo และมีชื่อเขตเวลา คือ Japan Time (JT) เมื่อคำนวณกับระยะเวลาที่เราเดินทางไปญี่ปุ่น คือ 5 ชม. 30 นาที หากเราเดินทางออกจากประเทศไทยช่วงเช้าตรู่ เราก็จะเดินทางถึงญี่ปุ่นประมาณช่วงบ่ายพอดี

Japan

บัตรเข้าสวนสนุก Tokyo Disney Resort

8.9/10

Tokyo Disney Resort

THB 2,168.01

ข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นมีฤดูกาลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปด้วย! มาดูข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นกัน

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)

มีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงที่อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น และเป็นช่วงที่ ดอกซากุระบาน ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ
นอกจากการชมดอกซากุระแล้ว ยังมีเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลฮานามิ (การชมดอกไม้)
อากาศ: อากาศเย็นในตอนเช้าและเย็น แต่กลางวันอุ่นสบาย
เหมาะกับการเที่ยวชมธรรมชาติและเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงเที่ยวชมวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม

ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)

ฤดูร้อนในญี่ปุ่นอากาศจะร้อนและชื้น โดยเฉพาะในเดือน มิถุนายน ที่มี มรสุม ฝนตกต่อเนื่อง
กรกฎาคม - สิงหาคม จะเป็นช่วงที่ร้อนสุด และเป็นช่วงเทศกาลไฟสลุตในหลายเมือง เช่น เทศกาลไฟสลุตที่โอซาก้าและโตเกียว
เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การไปหาดทะเล เทศกาลต่าง ๆ หรือการปีนเขา เช่น การปีน ภูเขาฟูจิ

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน)

ช่วง กันยายน - พฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศเริ่มเย็นลงและธรรมชาติเปลี่ยนสีเป็น ใบไม้แดง ซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุดในการชมวิว
มีเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองต่าง ๆ และอากาศก็เย็นสบาย เหมาะกับการเดินทาง
อากาศ: อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจนเกินไปและไม่หนาวจัด

ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)

ฤดูหนาวในญี่ปุ่นจะหนาวมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคเหนือและในพื้นที่ภูเขา เช่น ฮอกไกโดและนิกโกะ
ฤดูหนาวเหมาะสำหรับการ เล่นสกี และเที่ยวเมืองที่มีหิมะ เช่น ซัปโปโร
มีเทศกาลหิมะ เช่น เทศกาลหิมะซัปโปโร และที่พักส่วนใหญ่จะมีราคาสูงในช่วงปีใหม่

สรุปการท่องเที่ยวญี่ปุ่นตามฤดูกาล

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม): ชมซากุระและเทศกาลต่าง ๆ
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม): เทศกาลไฟสลุตและกิจกรรมกลางแจ้ง
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน): ชมใบไม้เปลี่ยนสีและอากาศเย็นสบาย
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์): เล่นสกีและสัมผัสหิมะ

Discover flight with Traveloka

Mon, 1 Sep 2025

Japan Airlines

กรุงเทพ (BKK) ไป โอซาก้า (ITM)

เริ่มจาก THB 8,399.40

Wed, 17 Sep 2025

Japan Airlines

ซัปโปโร (CTS) ไป โอซาก้า (ITM)

เริ่มจาก THB 4,531.40

Wed, 17 Sep 2025

IBEX Airlines

ฟุกุโอกะ (FUK) ไป โอซาก้า (ITM)

เริ่มจาก THB 2,306.08

ในบทความนี้

• ที่เที่ยวญี่ปุ่นสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงญี่ปุ่น
• 1. ดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่น
• 2. ยูนิเวอร์แซล เจแปน
• 3. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ
• 4. ปราสาทฮิเมจิ
• 5. Hitachi seaside park
• 6. ฟาร์มโทมิตะ
• 7. Shirakawa-Go
• 8. อุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ
• 9. ป่าไผ่ซากาโนะ
• 10. Okinawa churaumi aquarium
• 11. อิเนะ
• 12. นารา
• 13. ซากะ
• 14. อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้
• 15. ตลาดปลาซึกิจิ
• 16. อากิฮาบาระ
• 17. สวนลิงจิโกคุดานิ
• 18. ปราสาทโอซาก้า
• 19. สวนเค็นโรคุเอ็น
• 20. คาวาโกเอะ
• 21. ห้าแยกชิบูย่า
• 22. Hiroshima Peace Park
• 23. วัดซันจูซันเก็นโด
• 24. ภูเขาฟูจิ
• 25. ย่านโดทงโบริ
• มาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น
• ข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่น
• ข้อมูลประเทศญี่ปุ่นในเบื้องต้น
• การเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น
• การเดินทางภายในประเทศไปยังที่เที่ยวญี่ปุ่น
• ภาษาที่ใช้ในที่เที่ยวญี่ปุ่น
• เงินตราสำหรับใช้จ่ายในที่เที่ยวญี่ปุ่น
• ข้อมูลเวลาสำหรับท่องเที่ยวญี่ปุ่น
• ข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
• สรุปการท่องเที่ยวญี่ปุ่นตามฤดูกาล

เที่ยวบินที่แนะนำในบทความนี้

Mon, 25 Aug 2025
Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)
เริ่มจาก THB 21,529.00
จองเลย
Sun, 24 Aug 2025
Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)
เริ่มจาก THB 21,711.00
จองเลย
Tue, 26 Aug 2025
Japan Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป โตเกียว (HND)
เริ่มจาก THB 21,874.00
จองเลย

บทความแนะนำ

สำรวจสิ่งที่ดีที่สุดของ ญี่ปุ่น

โตเกียว

Japan

ญี่ปุ่น

ฮอกไกโด

Japan

โอกินาวะชิ

Japan
จองโรงแรม
จองตั๋วเครื่องบิน
Things to Do
รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร