ค้นหาตั๋วราคาถูก และโปรโมชั่นของ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ที่นี่!

สายการบินฟินแอร์ (Finnair) (รหัส IATA: AY) เป็นสายการบินเครือข่ายที่เชี่ยวชาญด้านการบินและผู้โดยสารระหว่างเอเชียและยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการประจำชาติและสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์นับตั้งแต่ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) และ บริษัทในเครือครองการเดินทางทางอากาศภายในประเทศและระหว่างประเทศทั้งในฟินแลนด์ สายการบินฟินแอร์ (Finnair)ดำเนินการให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทาง 17 แห่ง ในเอเชีย 4 แห่งในสหรัฐอเมริกาและจุดหมายปลายทางกว่า 70 แห่งในยุโรปโดยใช้กองบินจำนวน 60 ลำซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินแอร์บัส สายการบินฟินแอร์ (Finnair)เป็นสายการบินเดียวในยุโรปตอนเหนือที่มีคะแนน Skytrax ระดับ 4 ดาว และเป็นสมาชิกของพันธมิตรสายการบินทั่วโลก oneworld® การเป็นสมาชิกของ oneworld® ได้อนุญาตให้สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ให้บริการและอำนวยความสะดวกสูงสุดในการเดินทางระหว่างประเทศเป็นประจำ สายการบินซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสายการบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอันดับ 5 สายการบินมีห้องโดยสาร 2 แบบซึ่งประกอบด้วยชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดทุกประเภทของ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ประกอบด้วยกาแฟชาและเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของสายการบิน ซึ่งคือน้ำบลูเบอร์รี่ เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น ผู้โดยสารสามารถจองที่นั่งพร้อมพื้นที่วางขาขนาด 7.5 ซม. ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ทางออก ที่นั่งพร้อมที่วางขาพิเศษ รวมถึงการขึ้นเครื่องบินเป็นกลุ่มแรกๆ ในขณะเดียวกันบริการชั้นธุรกิจจะมีเบาะนั่ง Retrofitted Zodiac Vantage ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงแนวนอนยาวได้ 200 ซม. ที่นั่งแต่ละหลังมีเต้าเสียบไฟและทีวีจอทัชสกรีนขนาด 12.1 นิ้วส่วนบุคคลพร้อมด้วยเสียงและวิดีโอแบบออนดีมานด์ บัตรโดยสารชั้นธุรกิจ จะรวมถึงการได้เช็คอินก่อน กการขึ้นเครื่องก่อน การเข้าใช้ห้องรับรองธุรกิจและชุดเครื่องอุปโภคบริโภคด้วยผลิตภัณฑ์แบรนด์คุณภาพสูง สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดผู้โดยสารจะได้รับสัมภาระหนึ่งชิ้นที่มีน้ำหนักสูงสุด 23 กก. และขนาด 158 ซม. ในทางกลับกันผู้โดยสารชั้นธุรกิจ จะได้รับสัมภาระสองถึงสามชิ้น นอกจากนี้ผู้โดยสารทุกคนของสายการบินฟินแอร์ (Finnair) จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องโดยสารอย่างน้อยหนึ่งชิ้นบนกระเป๋าสัมภาระ สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจและสมาชิก Plus Platinum, Gold และ Silver สมาชิกสายการบินฟินแอร์ (Finnair) Plus สามารถนำสัมภาระติดตัวได้ 2 ชิ้นขนาดสูงสุด 56 x 45 x 25 ซม. และน้ำหนักรวมสูงสุด 10 กก. ในขณะที่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ สามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้หนึ่งชิ้นที่มีขนาดสูงสุดเท่ากันและมีน้ำหนักรวมกันได้สูงสุด 8 กิโลกรัม สัมภาระที่ได้รับการตรวจ ต้องวางทิ้งไว้ที่โต๊ะวางกระเป๋าระหว่างช่วงเช็คอินที่สนามบินเคาน์เตอร์เช็คอินและโต๊ะวางกระเป๋า เปิดให้บริการจนถึงสองชั่วโมงก่อนออกเดินทาง อย่างไรก็ตามฟินแอร์แนะนำให้ผู้โดยสารเช็คอินออนไลน์ก่อนเดินทางมาถึงสนามบินซึ่งสามารถทำได้ 36 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง หรือผู้โดยสารสามารถเช็คอินได้โดยใช้ตู้บริการตนเองที่สนามบิน ผู้โดยสารต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยที่จำเป็นได้ที่สนามบินและไปที่ประตูตรงเวลา ประตูปิด 15 นาทีก่อนออกเดินทาง สำหรับสมาชิกของสายการบินฟินแอร์ (Finnair) Plus อย่าลืมแสดงบัตรสมาชิกเมื่อเช็คอิน สายการบินฟินแอร์ (Finnair) Plus เป็นโปรแกรมสะสมไมล์ที่สายการบินฟินแอร์ (Finnair)นำเสนอ มีสี่ระดับระดับสมาชิกในโปรแกรมนี้ซึ่งประกอบด้วย Basic, Silver, Gold และ Platinum สมาชิกสายการบินฟินแอร์ (Finnair) Plus สามารถรับคะแนนสะสมได้จากทุกเที่ยวบินของ สายการบินฟินแอร์ (Finnair), oneworld®และบริการอื่น ๆ ที่จัดหาโดย สายการบินฟินแอร์ (Finnair) Plus คู่ค้า คะแนนรางวัลสามารถใช้สำหรับรางวัลและสิทธิประโยชน์ประเภทต่างๆ เช่น ตั๋วเครื่องบินสายการบินฟินแอร์ (Finnair)ฟรี นอกจากนี้ สมาชิกของ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) Plus ยังสามารถใช้ประโยชน์จากบริการส่วนบุคคลและความยืดหยุ่นตลอดจนข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมาย

ฟินน์แอร์กลายเป็นสายการบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอันดับที่ห้า ในเวลานั้นสายการบินได้ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในนาม Aero เที่ยวบินแรกเกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีต่อมา โดยบินจากเมืองเฮลซิงกิสู่ทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย หลังจาก Aero ได้รับเครื่องบินลำแรกซื่งคือ Junkers F 13 ซึ่งเป็นเครื่องบินเยอรมัน ได้มีการใช้เครื่องบินในเที่ยวบินระหว่างเฮลซิงกิสตอกโฮล์มร่วมกับสายการบินสวีเดน ABA ในช่วงปีแรก Aero มีผู้โดยสารทั้งหมด 269 คน เที่ยวบินทั้งหมดถูกใช้งานจากสนามบินภาคพื้น หลังจากเที่ยวบินสุดท้ายเมื่อวันที่ธันวาคม 1936 ในปี 1949 Aero ได้กลายเป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) อย่างเป็นทางการและได้รับรหัสสายการบิน AY เช่นเดียวกับที่ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ที่ยังคงใช้อยู่ในวันนี้ จนกระทั่งถึงปี 1953 Aero ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแบรนด์และเริ่มใช้ชื่อ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ในด้านการตลาด อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการไม่ได้เกิดขึ้นจนกระทั่งปี 1968 ในปี 1960 ฟินแอร์ได้กลายเป็นสายการบินรายเล็กรายแรกที่เข้าสู่ยุคไอพ่นกับเครื่องบินโดยสารแบบใหม่ของคาราเวลล์ เครื่องบินไอพ่นครั้งแรกที่บินจากเฮลซิงกิ - โคเปนเฮเกน - โคโลญจน์แฟรงค์เฟิร์ต ระหว่างปี 1964 ถึง 1967 ฟินแอร์ตัดสินใจซื้อเครื่องบิน Super Caravelle หลายรุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายเครือข่ายเส้นทาง ภายในปี 1967 95% ของเที่ยวบินที่กำหนดไว้ของสายการบินได้ดำเนินการกับเครื่องบินไอพ่น ในปีเดียวกับการเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ ฟินแอร์มีผู้โดยสาร 1 ล้านคนเป็นครั้งแรก ยุค 80 ถือเป็นปีแห่งการขยายตัว ในปี 1983 ฟินแอร์ได้กลายเป็นสายการบินแรกที่บินแบบไม่หยุดพักจากยุโรปตะวันตกไปยังญี่ปุ่นโดยปฏิบัติการเฮลซิงกิ - โตเกียวโดยเครื่องบิน McDonnell Douglas DC-10-30ER หนึ่งเครื่อง ห้าปีต่อมา สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ได้เปิดตัวเส้นทาง Helsinki - Beijing ทำให้ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) กลายเป็นสายการบินยุโรปตะวันตกแห่งแรกที่บินโดยไม่หยุดระหว่างยุโรปและจีน สายการบินก็กลายเป็นลูกค้าคนแรกที่ใช้ McDonnell Douglas MD-11 และมีรายได้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปี 1990 ซึ่งมีเที่ยวบินจากเฮลซิงกิไปยัง Tenerife ในหมู่เกาะคานารี่ ในปี 1999 ฟินแอร์ได้เข้าร่วมพันธมิตรของสายการบิน oneworld® อย่างเป็นทางการ ในปีเดียวกันนั้น บริษัทยังได้รับเครื่องบินแอร์บัส A320 ชุดแรก แต่ความต้องการที่ลดลงสำหรับการเดินทางทางอากาศหลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ได้บังคับให้ฟินแอร์ใช้มาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายและปรับกำลังการผลิต สายการบินได้ตัดสินใจย้ายจุดสนใจไปเส้นทางเฮลซิงกิ - กรุงเทพฯเพิ่มเติมเพื่อรองรับสภาพการตลาดที่ดีขึ้นในเอเชีย นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) เนื่องจากหนึ่งปีต่อมาสายการบินได้เปิดเที่ยวบินไปยังฮ่องกงรวมทั้งเพิ่มเที่ยวบินไปยังกรุงเทพฯ เพื่อให้บริการทุกวัน ในปี 2003 เส้นทางเซี่ยงไฮ้ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินตรงไปยังเซี่ยงไฮ้โดยทำให้สายการบินนอร์เทิร์นยุโรปและสายการบิน โดยในปี 2011 ฟินแอร์ได้เริ่มโครงการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนทางการเงินและสร้างรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต ในปีเดียวกันนั้นฟินแอร์ยังได้เปิดเส้นทางใหม่ไปยังสิงคโปร์ซึ่งเป็นปลายทางที่สิบของสายการบินในเอเชีย ในปี 2014 สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ฉลองครบรอบ 90 ปีของเที่ยวบินรวมถึงการปรับโครงสร้างและการออมเงินมูลค่า 200 ล้านยูโร ปีต่อไปกลายเป็นยุคของสายการบินฟินแอร์ (Finnair)อย่างแท้จริง เนื่องจากสายการบินกลับมามีผลกำไร ได้รับ Airbus A350 เครื่องแรก และเริ่มโครงการสรรหาบุคลากรขนาดใหญ่สำหรับการเติบโต ในเดือนตุลาคม 2015 สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ฉลองการมาถึงเครื่องบิน A350 XWB ลำแรกและกลายเป็นสายการบินแรกในยุโรปที่จะใช้เครื่องบินใหม่ การบินระยะยาวครั้งแรกที่บินไปเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ในปี 2016 ฟินแอร์ได้เปิดเส้นทางบินตรงไปยังกว่างโจวและฟุกุโอกะ การให้บริการของ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) กับฟุกุโอกะทำให้สายการบินเป็ยสายการบินยุโรปแห่งเดียที่ดำเนินกิจการไปยังสี่เมืองที่แตกต่างกันในญี่ปุ่น