สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของบรรดาเหล่านักเดินทาง ต้องมีให้เลือกเยอะมากๆ แถมมีครบทุกสายอีกต่างหาก แต่คราวนี้เรามาเอาใจสายธรรมชาติกันหน่อย เหนื่อยเครียดกับเรื่องรอบตัวกันมาเยอะละ บอกได้เลยว่าอเมริกามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ได้ตื่นตะลึง กระจัดกระจายไปทั่วประเทศ ทั้งจากเหนือจรดใต้ เรามีตัวเลือกมาแนะนำกับ 20 ที่เที่ยวธรรมชาติสุดสวยของสหรัฐอเมริกา ทริปหน้าต้องไป
ที่สำคัญการเดินทางไปเที่ยวสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้ยากลำบากสักเท่าไหร่ เพราะแค่ทำวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน หรือว่าจองที่พักให้เรียบร้อย ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ใน Traveloka Travel & Lifestyle Super App ให้คุณได้แพลนทริปเที่ยว และเป็นตัวช่วยที่สำคัญให้คุณได้สะดวกมากขึ้นกว่าที่เคย
ที่เที่ยวธรรมชาติแห่งแรกของอเมริกาที่จะพาไปสำรวจ เป็นอุทยานแห่งแรกของโลกและของสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐไวโอมิง ไฮไลท์ของที่นี่คือบ่อน้ำพุร้อนที่มีมากกว่าหมื่นจุด โด่งดังสุดๆ คือ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้งที่ชื่อ “แกรนด์พรีสเมติก” (Grand Prismatic Spring) และด้วยความที่กว้างใหญ่กินพื้นที่หลายรัฐ ภายในอุทยานฯ จึงมีถนนหนทางยาวรวมแล้วกว่า 500 กิโลเมตร ให้ขับรถเที่ยวได้สบายๆ
อีกหนึ่งอุทยานฯ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคืออุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ที่เที่ยวธรรมชาติสุดสวยแห่งแคลิฟอร์เนีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา เป็นที่ตั้งของน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งอเมริกาเหนือ ทิวทัศน์เทือกเขาหินที่งดงาม หน้าผาหินแกรนิต ทะเลน้ำใสราวกระจก และต้นสนยักษ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใดในโลก แถมยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผจญภัยเพียบ ทั้งปีนผา เดินป่า หรือพายเรือคายัค
“น้ำตกหางม้า” มีอีกชื่อว่า “น้ำตกเพลิง” แห่งอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ตัวน้ำตกมีความสูง 470 เมตร ความพิเศษอยู่ตรงช่วงเวลาพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้ายามเย็น ในช่วงฤดูหนาวก่อนถึงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะเห็นน้ำตกเป็นแสงสีส้มแดงคล้ายลาวาไหลลงจากหน้าสู่เบื้องล่าง เกิดจากน้ำตกเกิดการสะท้อนแสงกับแสงอาทิตย์ ซึ่งมีระยะเวลาให้ชมได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
“ทะเลสาบทาโฮ” เป็นทะเลสาบอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ มีพื้นที่คร่อมระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเนวาดา ขึ้นชื่อในเรื่องวิวธรรมชาติแบบพาโนรามา รายล้อมด้วยเทือกเขาและป่าไม้เขียวชะอุ่ม น้ำใสสะอาดเห็นแล้วสดชื่นสบายตา ในฤดูร้อนยังมีกิจกรรมหลากหลายแนวผจญภัยทั้งในน้ำและบนบกให้สนุกกัน และที่พิเศษก็คือเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่โด่งดังแห่งหนึ่ง
บนชายฝั่งแคลิฟอร์เนียตอนเหนือยังเป็นที่ตั้งของ “อุทยานแห่งชาติเรดวูด” ผืนป่าโบราณที่มีต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลกเติบโตอยู่บริเวณนี้ ตามสถิติแล้วต้นสนเรดวูดสามารถเติบโตได้สูงถึง 379 ฟุต ซึ่งสูงกว่าเทพีเสรีภาพที่นิวยอร์กเสียอีก และยังมีอายุยืนถึง 4,000 ปี นับเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว อุทยานฯ แห่งนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ขึ้นชื่อของนักไต่เขาอีกด้วย
ทะเลสาบโมโน คือทะเลสาบน้ำเค็มโบราณอายุยาวกว่า 1 ล้านปี ของแคลลิฟอร์เนีย นอกจากความเค็มที่เป็นสัญลักษณ์ ที่นี่ยังมีเสาหินปูนรูปร่างแปลกตาที่มีชื่อเรีนกว่า “หอคอยทูฟา” เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีกุ้งอยู่มหาศาล ทำให้มีฝูงนกนับพันตัวมาหาจับกุ้งกินเป็นอาหาร กลายเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก แนะนำให้ลิสต์ที่เที่ยวนี้ไว้ เพราะสวยงามจับใจ เหมาะกับการมาเที่ยวเป็นยิ่งนัก
ที่เที่ยวธรรมชาติสุดฮิตแห่งรัฐแอริโซนา ตั้งอยู่ในเขตนาวาโฮเนชัน (Navajo Nation) เสน่ห์เกินบรรยายของหุบเขาแห่งนี้คือลวดลายเกลียวคลื่นที่พริ้วไหวบนชั้นหินทราย เป็นงานศิลปะที่อลังการโดยธรรมชาติ และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักถ่ายภาพทั่วโลก แต่หุบเขานี้ไม่ได้เปิดให้เที่ยวชมได้ตามสบาย เพราะที่นี่ค่อนข้างอันตรายจึงต้องมีไกด์เผ่านาวาโฮที่ชำนาญพื้นที่นำเที่ยวเท่านั้น
“หุบเขาโมนูเมนต์” สุดยอดสถาปัตยกรรมที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างรัฐแอริโซนาและรัฐยูทาห์ ชื่อหุบเขามีที่มาจากแท่งหินค้ำขนาดมหึมาที่สูงเกือบร้อยเมตรอยู่บนเนินเขา พื้นด้านล่างมีพุ่มไม้เตี้ยๆกระจายอยู่ทั่ว เป็นภาพทิวทัศน์สุดแปลกตา และกลายเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายๆ เรื่องในหนังฮอลลีวูด การเที่ยวชมหุบเขานี้ต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทาง เพื่อได้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ และเพื่อความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่ห่างไกลชุมชน
“หุบเขามรณะ” เป็นชื่อของทะเลทรายในอุทยานแห่งชาติเดดวัลเลย์ (Death Valley National Park) อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เป็นอุทยานฯ ที่ได้ชื่อว่าร้อนและแห้งแล้งที่สุดในอเมริกา จนมีคำพูดว่าสามารถทอดไข่ให้สุกได้ ไฮไลท์คือการชมทะเลสาบเกลือ (Badwater Basin) ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 282 ฟุต ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของอเมริกาเหนือ ภายในหุบเขามรณะยังมีจุดปักหมุดอีกหลากหลายให้แวะชมด้วย
อีกหนึ่งความสวยงามที่ธรรมชาติสรรสร้าง “อุทยานแห่งชาติไซออน” อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐยูทาห์ จุดเด่นคือแคนยอนสีส้มแดงที่มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ใดๆ เป็นแหล่งนิยมของผู้รักการท่องเที่ยวแบบลุยๆ ไม่ว่าจะเป็น วิ่งเทรล ขี่ม้าหรือปั่นจักรยาน โดยเฉพาะนักปีนเขา เพราะเส้นทางนั้นมีความยากและค่อนข้างอันตราย สายถ่ายรูปภูเขาป่าไม้ก็มีให้เลือกหลายจุด มีต้นไม้ที่น่าสนใจกว่า 900 สายพันธุ์
“แกรนด์แคนยอน” ดินแดนหินผาและหุบเหวที่มีชื่อเสียงโด่งไปทั่วโลกอย่างยาวนาน เป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน (Grand Canyon National Park) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา จุดชมแกรนด์แคนยอนที่ดีที่สุด คือ “สะพานแก้วเกือกม้า” (Skywalk Glass Bridge) ที่สร้างยื่นออกมาจากหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาได้ชมแม่น้ำโคโลราโดลัดเลาะผ่านเหล่าภูผาผ่านพื้นกระจกใส
“พาวเวลล์” เป็นทะเลสาบเทียมใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 มีความยาวหลายร้อยกิโลเมตร ตั้งอยู่บนแม่น้ำโคโลราโด คร่อมชายแดนระหว่างรัฐยูทาห์และรัฐแอริโซนา ทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นอ่างเก็บน้ำ สำหรับเขื่อนเกลนแคนยอน (Glen Canyon Dam) พื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลสาบล้อมรอบด้วยทะเลทราย และกำแพงหินทรายสูงชัน ที่มีรูปร่างลวดลายสวยงามแปลกตา สามารถเที่ยวชมทะเลสาบได้ทางเรือเท่านั้น
“ถ้ำแมมมอธ” เป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 500 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำแมมมอธ (Mammoth Cave National Park) ในรัฐเคนทักกี มีชื่อเสียงด้านภาพเขียนสีโบราณ ซึ่งเป็นรูปช้างแมมม็อธกับมนุษย์ ภายในถ้ำยังมีหินงอกและหินย้อยที่สวยงาม มีแม่น้ำเอคโคอยู่ภายในถ้ำลึกลงไปถึง 110 เมตร เป็นที่อยู่ของปลาหลายชนิด ซึ่งตาบอดและไม่มีสี เนื่องจากอยู่ภายในถ้ำอันมืดมิดมาเป็นเวลายาวนาน
ภาพของเสาหินสีแดงที่ตั้งเรียงรายกลางหุบเขากว้างใหญ่ คือสัญลักษณ์โดดเด่นของ “ไบรซ์แคนยอน” ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไบรซ์แคนยอน ทางตอนใต้ของรัฐยูทาห์ เสาหินยอดแหลมเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า “ฮูดู” (Hoodoos) ซึ่งมีมากที่สุดในโลกคือที่นี่ ซึ่งเปรียบได้ดังลานจัดแสดงปะติมากรรมธรรมชาติ ด้วยรูปลักษณ์และสีของหินที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของวัน สวยงามตั้งแต่ตะวันขึ้นจนกระทั่งลาลับขอบฟ้าเลยทีเดียว
อุทยานแห่งธารน้ำแข็งและทุ่งหญ้าอัลไพน์ “อุทยานแห่งชาติเกลเชอร์” แห่งรัฐมอนแทนา ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ภูเขาขรุขระ และทะเลสาบมากกว่า 130 แห่ง และจะมีความงดงามที่สุดในช่วงฤดูร้อน ที่น้ำในทะเลสาบใสสะอาด ทั่วทุกพื้นที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่านานาพันธุ์ที่พร้อมใจกันเบ่งบานอวดความงามและยังมีเส้นทางเดินป่าซีดาร์ น้ำตก และธารน้ำแข็ง นับเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง
พรมแดนระหว่างรัฐโอเรกอนและวอชิงตัน มีแม่น้ำโคลัมเบียอันยิ่งใหญ่ไหลผ่านช่องเขาขนาดใหญ่ ที่มีความลึกถึง 1,219 เมตร และยาวกว่า 128 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางที่แม่น้ำไหลผ่านเต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งหุบเขา ป่าไม้ และมีน้ำตกมากกว่า 90 แห่ง ในหุบเขาแห่งนี้จึงเป็นปลายทางยอดนิยมของผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งเดินป่า ปืนเขา ขี่จักรยาน ร่มร่อน และพายเรือคายัค
อุทยานแห่งรัฐชายฝั่งนาปาลีของฮาวาย หนึ่งในที่เที่ยวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยขนาดผืนป่าที่กว้างใหญ่ และอุดมสมบรูณ์ เต็มไปด้วยถ้ำที่น่าค้นหามากมาย หุบเขาหลายลูกมีขนาดสูงใหญ่สุดอลังที่ได้เห็นแล้วรุู้สึกเหมือนได้เห็นแดนสวรรค์บนดินเลยทีเดียว ที่นี่ยังเป็นเกาะในเรื่อง Jurassic Park ด้วย นอกจากการตั้งแคมป์ ที่นี่ยังมีเรือทัวร์ชายฝั่งนาปาลี และล่องเรือชมวาฬที่อาจได้เห็นกันแบบใกล้ชิด
“บันไดไฮกุ” ที่เที่ยวธรรมชาติสุดโด่งของเกาะโอฮาอู ในหมู่เกาะฮาวาย รู้จักกันดีในชื่อของ “บันไดสู่สวรรค์” ใครอยากขึ้นไปสัมผัสต้องฟิตร่างกายให้พร้อม เพื่อไต่ขั้นบันไดทั้งหมด 3,922 ขั้น พิชิตยอดสูงสุดที่ 2,800 เมตร ด้วยเส้นทางที่สูงชันและอันตราย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัยใจถึงเท่านั้น แต่ก็คุ้มค่า เพราะภาพทิวทัศน์ที่เห็นตรงหน้าสุดงดงามเกินคำบรรยายจริงๆ
ทะเลสาบแฮงกิงแห่งรัฐโคโลราโด เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้รักการทัวร์สำรวจป่า เพราะกว่าจะไปถึงทะเลสาบได้ต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ที่นี่เป็นทะเลสาบขนาดเล็กในหุบเขาเกลนวูด (Glenwood) ที่มีน้ำสีเทอร์ควอยซ์จากแร่ธาตุคาร์บอเนตที่ปะปนอยู่ในน้ำ ในช่วงฤดูหนาวทะเลสาบแห่งนี้จะกลายเป็นลานน้ำแข็ง สวยแปลกตาไปอีกแบบ
“หาดริอัลโต” เป็นส่วนหนึ่งอุทยานแห่งชาติโอลิมปิก (Olympic National Park) ในรัฐวอชิงตัน ทางชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก จุดเด่นของหาดนี้คือ โขดหินใหญ่น้อยที่กระจายตัวอยู่เบื้องหน้า ยามถูกคลื่นกระแทก เกิดภาพที่งดงามแปลกตา หาดแห่งนี้ยังความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดิน เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน กางเต็นท์ค้างแรม และนอนดูหมู่ดาวระยิบระยับ ถูกใจสายแคมปปิ้งสุดๆ
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของอเมริกาล้วนแล้วแค่เป็นที่สุดของที่สุด คุ้มค่าแก่การเดินทางไปเที่ยวชม เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรไปเยือนสักครั้ง ถ่างั้นอย่ารอช้า เตรียมเข้าแอพ Traveloka Travel & Lifestyle Super App มองหาโปรโดนๆ แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวกัน เพราะว่ามีที่เที่ยวอเมริกาสวยๆ รอคุณอยู่อีกเพียบ จองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาแล้วไปเที่ยวกันดีกว่า