0

Traveloka TH

27 Jul 2021 - 6 min read

แนะนำ 20 เมืองสหรัฐอเมริกา เดินทางไปเที่ยวได้แล้ว

เบื่อไหมกับการกักตัวอยู่บ้าน? หากคุณรู้สึกคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ และอยากออกไปสัมผัสโลกภายนอก วันนี้คุณสามารถเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาได้แล้ว เพราะทางรัฐบาลได้ออกมาประกาศต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ พร้อมทั้งเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามา บอกเลยว่าทริปนี้นอกจากจะได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศแล้ว คุณยังได้รับผลพลอยได้จากการฉีดวัคซีนคุณภาพอีกด้วย โดยเราได้รวบรวม 20 เมืองสหรัฐอเมริกาที่คุณสามารถเดินทางไปได้แบบไม่ต้องกังวลเลย หากใครสนใจก็สามารถลองเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka ผ่านหน้าเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ บอกเลยว่าคุณจะได้รับตั๋วในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอน แถมตอนนี้ยังมี Promo Filter ฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้การหาตั๋วโปรกลายเป็นเรื่องกล้วย ๆ หมดกังวลเรื่องจองตั๋วได้เลย

เช็คราคา ตั๋วเครื่องบินไปอเมริกา ราคาพิเศษ

ส่วนใครที่จองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะไปตะลุยลิสต์เมืองน่าเที่ยวในสหรัฐอเมริกา อย่าลืมตรวจสอบมาตรการสนามบิน ที่นี่ ก่อนจะบินนะ

1. นิวยอร์ก (New York)

นิวยอร์ก นับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตและเมืองในฝันของใครหลายคน เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งรวมเศรษฐกิจ ธุรกิจ แฟชั่น และการศึกษาแล้ว นิวยอร์กยังเป็นสวรรค์ของนักช้อปและเต็มไปด้วยที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เทพีเสรีภาพ, ไทม์สแควร์, สวนสาธารณะ, เซ็นทรัลพาร์ค, The Vessel Hudson Yards, สะพานบรูคลิน, ตึกเอ็มไพร์สเตท, น้ำตกไนแองการาและจุดเช็กอินอื่น ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดในการมาโพสท่าถ่ายรูปชิค ๆ และสัมผัสด้วยตาของคุณเองสักครั้ง บอกเลยว่าใครที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้แล้วจะรู้เลยว่ามหานครที่ไม่เคยหลับใหลเป็นอย่างไร

2. อลาบามา (Alabama)

อลาบามา เป็นหนึ่งในรัฐที่ใครหลายคนอาจยังไม่คุ้นหูมากนัก แต่คุณสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ โดยรัฐนี้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว เหมาะแก่การไปพักผ่อน และเป็นแหล่งรวมเรื่องราวความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้อย่างมากมาย ซึ่งที่เที่ยวยอดนิยมที่ต้องไปเช็กอินมีทั้ง เรือรบ USS Alabama Battleship Memorial Park ที่ตั้งอยู่ริมน้ำเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ทำหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่สอง หรือการไปเยี่ยมชมสถาบันสิทธิพลเมืองของกรุงเบอร์มิงแฮม (Birmingham Civil Rights Institute) เพื่อให้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปในด้านที่เกี่ยวข้องกับสิทธิพลเมืองในยุค 60 นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกหลายแห่งที่คุณสามารถไปเดินชมได้อย่างเต็มเปี่ยม

3. แอริโซนา (Arizona)

สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสและเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติก็ต้องไม่พลาดที่จะปักหมุดเดินทางไปที่แอริโซนาแห่งนี้ โดยจุดเด่นของเมืองนี้คือลักษณะภูมิประเทศที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาแทบทุกด้าน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น แกรนด์แคนยอน แอนเทโลปแคนยอน ที่เลื่องลือในความงดงามของธรรมชาติและเป็นที่น่าสะดุดตาของใครหลายคน อีกทั้งยังสามารถชมฟอสซิลไดโนเสาร์และไม้ที่กลายเป็นหินอายุเก่าแก่กว่า 200 ล้านปีได้อย่างเต็มตา บอกเลยว่าใครที่เป็นสายเที่ยวแนวลุยแบบผจญภัยก็ต้องไปเยือนรัฐนี้ให้ได้สักครั้ง

4. แคลิฟอร์เนีย (California)

หากพูดถึงแคลิฟอร์เนีย ก็ต้องบอกเลยว่าที่แห่งนี้ได้ถูกจัดให้เป็นที่พักผ่อนตากอากาศที่ดีที่สุด เพราะถือเป็นรัฐที่มีครบทุกอย่างของการท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ สิ่งก่อสร้าง หรือแหล่งช้อปปิ้งแล้ว แคลิฟอร์เนียยังรวบรวมแลนด์มาร์กชื่อดังไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park), สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge), ทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe), ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) รวมถึงฮอลลีวูดไซน์ (Hollywood Sign) ที่ถือเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญของแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้คุณยังสามารถดื่มด่ำไปกับบ้านเมืองที่ดูเป็นระเบียง สะอาด และทันสมัย

5. โคโลราโด (Colorado)

โคโลราโด ถือเป็นเมืองที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวหลายคนด้วยภาพทัศนียภาพของธรรมชาติอันสวยงาม และเป็นจุดหมายของเหล่าบรรดานักสกี นักปีนเขา และนักปั่นจักรยานเป็นจำนวนมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายและชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้งแต่ต้องการความเงียบสงบไปในตัว โดยที่เที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมีทั้งอุทยานแห่งชาติเทือกเขาร็อกกีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ หรือช่องแคบซานฮวนสกายเวย์และทางหลวงล้านดอลลาร์ที่คุณสามารถขับรถชมทิวทัศน์ได้ตลอดแนวถนน รวมถึงอนุสาวรีย์แห่งชาติไดโนเสาร์ที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมได้

6. ชิคาโก (Chicago)

ชิคาโก ถือเป็นเมืองที่มีความน่าสนใจทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม และการออกแบบผังเมือง เช่น การทำทางเดินเลียบริมทะเลสาบ เพื่อเป็นพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย หรือปั่นจักรยานได้ รวมถึงยังมีที่เที่ยวแลนด์มาร์กอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าลองไปสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง อาทิ Millenium Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งถือเป็นจุดที่ใครได้แลนดิ้งปุ๊บ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปทันที หรือการไปชมวิวบนตึกที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของอเมริกากันที่ Skydeck, Willis Tower ตลอดไปจนถึงการเดินช้อปปิ้งบนย่าน Michigan Avenue และ Magnificent Mile กันอย่างเพลิดเพลิน

7. หลุยเซียนา (Louisiana)

เดินทางไปเช็กอินกันต่อที่หลุยเซียนา รัฐที่คุณสามารถไปท่องเที่ยวและฉีดวัคซีนได้อย่างฟรี ๆ โดยที่เที่ยวยอดนิยมส่วนใหญ่ของรัฐนี้จะตั้งอยู่บริเวณรอบเมืองนิวออร์ลีน ที่ถือเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมครีโอล ทำให้ผู้คนต้องหลงใหลในมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหา ชาวเมืองใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่ายสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ แถมบรรยากาศเมืองโดยรอบยังมีสถาปัตยกรรมล้ำค่า สไตล์ฝรั่งเศสและสเปนให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วย ที่สำคัญใครที่อยากศึกษาเรื่องราวสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็สามารถเช็กอินตามพิพิธภัณฑ์ทั่วไปต่าง ๆ ได้อีกเช่นกัน

8. แมรีแลนด์ (Maryland)

แมรีแลนด์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจมากมาย โดยมีแอนแนโพลิส เป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งรัฐนี้ก็เป็นรัฐที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ถึงความหลากหลายของการใช้ชีวิต และภาษา รวมถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยที่เที่ยวแนะนำในรัฐนี้มีทั้งอุทยานแห่งรัฐคันนิงแฮมฟอลส์, บัล Inner Harbor หรือการไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่ทะเลสาบห้วยลึก สถานที่ที่คุณสามารถทำกิจกรรม และพักผ่อนหย่อนใจกันได้อย่างเต็มเปี่ยม

9. มิชิแกน (Michigan)

เดินทางไปกันต่อที่รัฐมิชิแกน จุดหมายปลายทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศ มีทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบ ภูเขา เนินทราย ตลอดไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไว้อย่างมากมาย บรรยากาศส่วนใหญ่ภายในเมืองออกแนวยุโรป ผู้คนน่ารัก เป็นกันเอง และมีอัธยาศัยที่ดี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการไปพักผ่อน และตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

10. มินนิโซตา (Minnesota)

เมืองสหรัฐอเมริกาน่าเที่ยวอันดับถัดมาที่เราอยากแนะนำเลยก็คือ มินนิโซตา รัฐที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสและซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ให้ทั่วปอดได้อย่างชื่นใจ พร้อมทั้งไปเยือนที่เที่ยวสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิหารเซนต์ปอล, ศูนย์หมาป่านานาชาติ, อาคารรัฐสภารัฐมินนิโซตา, สวนสาธารณะประภาคารสปลิตร็อค และจุดเช็กอินไม่ควรพลาดอื่น ๆ อีกมากมาย

11. มอนทานา (Montana)

รัฐมอนทานา เป็นหนึ่งในรัฐของประเทศอเมริกาตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศโดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ เฮเลนา ที่คลุมพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ที่ 60% ของรัฐ ซึ่งความโดดเด่นของรัฐแห่งนี้จะเป็นความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเป็นแหล่งผลิตเกษตรกรรมชั้นนำที่ปลูกข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และข้าวสาลีไว้รวมกันจนกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเดินขึ้นเขา พายเรือ และขี่จักรยานกันที่บริเวณ Sky Country ที่คุณจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเทือกเขาร๊อกกีได้อย่างงดงาม

12. เนวาดา (Nevada)

เนวาดา เป็นรัฐที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เมื่อจากเป็นเมืองที่รู้จักกันดีในนามของ ลาสเวกัส เมืองแห่งบาป หรือ สวรรค์ของเหล่านักเสี่ยงโชคที่ต่างพากันเดินทางมาเพื่อหาความสนุกสนานในย่านของคาสิโนชื่อดัง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาหาความสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีโซนต่าง ๆ อีกมากที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างหน้าผาดินแดงเรดร็อค หรือ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์ก็มีให้คุณได้เดินทางมาเพลิดเพลินไปกับแสงสีที่รัฐเนวาดาแห่งนี้เลย

13. นิวเจอร์ซี่ (New Jersey)

เดินทางไปแนะนำกันต่อกับสถานที่เมืองท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกากันต่ออย่าง นิวเจอร์ซี่ หรือ รัฐที่มีสมญานามว่า การ์เด้นสเตท เนื่องจากรัฐแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางด้านตะวันออกของสหรัฐจึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจและสนุกสนานไปกับแสงสีของคลาสิโน ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารมากมายบริเวณริมชายฝั่งที่เปิดให้เหล่านักเดินทางและชาวเมืองได้เข้ามาอิ่มหนำไปกับวิวมหาสมุทรแอตแลนติกอันสวยงามแบบใกล้ชิด เรียกได้ว่าหากใครที่อยากเดินทางมาเที่ยวชมโอเชียนซิตี้แล้วละก็ห้ามพลาดเดินทางมาที่รัฐแห่งนี้เลย

14. นิวเม็กซิโก (New Mexico)

หากพูดถึง นิวเม็กซิโก คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมายของทิวทัศน์อันงดงาม และความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่ดึงดูดให้ทั้งชาวเมืองและชาวต่างชาติได้เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองแห่งความลุ่มหลง ที่คุณจะหลงรักไปกับบรรยากาศโดยรอบ อาหาร และศิลปะของธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาของคุณเอง โดยสถานที่สุดขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้ก็จะมีมากมายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Taos Ski Valley, Bandelier, และเมืองแห่งเทศกาลบอลลูนที่คุณห้ามพลาดอย่าง Albuquerque international Ballon Fiesta นั่นเอง

15. เทกซัส (Texas)

เทกซัส ถือเป็นอีกหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวของประเทศอเมริกาที่มีการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากรัฐแห่งนี้มีเมืองท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็น ซาน อันโตนิโอ ฮุสตัน ดัลลัส และเมืองอีกมากมายที่รอคอยให้คุณได้เข้ามาสัมผัสกับเสน่ห์ของการเดินทางของเมืองแต่ละที่ เพราะรัฐแห่งนี้มีพื้นที่ไม่กว้างมากนักและมีจุดท่องเที่ยวให้เที่ยวชมหลายจุด จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางแบบเรียบง่ายแต่สนุกสนานได้อย่างเต็มอิ่มในรัฐ ๆ เดียว ก็สามารถเดินทางมาได้ที่รัฐแห่งนี้เลย

16. เวอร์จิเนีย (Virginia)

ไปต่อกันที่ เมืองของคู่รักหลากหลายคู่กันบ้างดีกว่าอย่าง เวอร์จิเนีย เมืองท่องเที่ยวของประเทศอเมริกาที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามของชายหาด และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมายที่รอคอยให้เราได้เข้ามาสัมผัสกันได้อย่างใกล้ชิด โดยเมืองที่ขึ้นชื่อของรัฐเวอร์จิเนียแห่งนี้จะมี ริชมอนด์, นอร์ฟอล์ก, วิลเลียมสเบิร์ก และแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในเมือง Charlottesville นั่นเอง แนะนำเลยว่าสำหรับคู่รักที่อยากมาฮันนีมูนท่องเที่ยวแบบชิล ๆ มีครบทั้งธรรมชาติ แหล่งบันเทิง และช้อปปิ้งแล้วละก็ต้องไม่พลาดเลย

17. ฟลอริดา (Florida)

เมื่อพูดถึงรัฐฟลอริดา แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทำให้เรานึกถึงกันก่อนเลยก็คือ ออร์แลนโด เมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐที่เต็มไปด้วยประชากรมากมาย และแหล่งบันเทิงที่ครบครันจึงทำให้เมืองรัฐแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวเพื่อมาเที่ยวเล่นสวนน้ำ และสวนสนุกดังระดับโลกอย่างสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ สวนสัตว์น้ำซีเวิลด์ และสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ที่เรียกว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนเรียกได้ว่ารัฐแห่งนี้กลายเป็นรัฐท่องเที่ยวที่เนืองแน่นไปด้วยนักเดินทางตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

18. วอชิงตัน ดีซี (Washington DC)

เดินทางมาถึงประเทศอเมริกาแน่นอนว่าไม่ต้องพลาดกับการเดินทางมาเมืองแห่งมหานครอย่าง วอชิงตัน ดีซี ที่นับได้ว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศอเมริกาที่ไม่ว่าใครได้เดินทางมาก็ต้องแวะมาท่องเที่ยวตามแหล่งแลนด์มาร์กเด็ดอย่างทำเนียบขาว ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงานของท่านประธานาธิบดี อีกทั้งเมื่อเดินถัดไปยังสถานที่ใกล้เคียงกันก็จะสามารถมาเที่ยวชมอนุสาวรีย์วอชิงตัน ที่เปรียบเสมือนเสาหลักของประเทศที่รวบรวมเรื่องราวให้คุณได้เดินทางมาชื่นชมและถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คเด็ดที่บริเวณสถานที่แห่งนี้นั่นเอง

19. ฮาวาย (Hawaii)

ฮาวาย นับได้ว่าเป็นรัฐที่อัดแน่นไปด้วยประชากรจำนวนมากอย่างล้มลาม และอยู่กันเป็นจำนวนมากในบริเวณของเมืองหลวงอย่าง โฮโนลูลู เมืองของแหล่งท่องเที่ยวสุดขึ้นชื่ออย่าง เกาะโอวาฮู ที่แปลเป็นภาษาฮาวายว่าอ่าวแห่งความสงบเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศสุดชิลริมชายหาดพร้อมกับการนั่งจิบค็อกเทลอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังเป็นจุดเช็กอินสุดขึ้นชื่อสำหรับสายกิจกรรมทางน้ำอย่างการโต้คลื่นที่รับรองได้เลยว่าชายหาดแห่งนี้จะทำให้คุณได้วาดลวดลายอย่างเต็มที่แน่นอน

20. ออริกอน (Oregon)

มาถึงเมืองสุดท้ายที่เราจะมาพูดถึงกันนั่นก็คือ เมืองออริกอน ดินแดนแห่งความสวยงามของธรรมชาติราวเทพนิยายที่เปิดแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งมากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้มาชมความงดงามของพอร์ตแลนด์ที่เรียกได้ว่าเป็นอัญมณีอันล้ำค่าของโลก โดยความงดงามของสถานที่แห่งนี้คือสวนกุหลาบขนาดใหญ่ที่ไล่ยาวไปถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะและร้านหนังสืออันใหญ่โตที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จนทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักเดินทางอีกมากที่ใฝ่ฝันอยากมาชมความงดงามของทุ่งกุหลาบและทะเลสาบท่ามกลางหุบเขากันที่รัฐแห่งนี้นั่นเอง

จบไปแล้วกับการพาทุกคนไปแนะนำ 20 เมืองสหรัฐอเมริกา ที่เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้แล้วในช่วงนี้แต่ต้องอย่าลืมรักษามาตรการเว้นระยะห่างและฉีดวัคซีนให้เรียบร้อย เพื่อทำให้การเดินทางของเราสนุกสนานและปลอดภัยได้อย่างเต็มที่เลย

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร