เที่ยวจอร์เจียอาจจะยังไม่ได้เป็นทริปที่ฮิตมากนักในหมู่ชาวไทย แต่เชื่อมั้ยว่าจอร์เจียเป็นอีกจุดหมายที่น่าไปมากกกก เพราะชาวไทยไม่ต้องขอวีซ่า แต่สามารถเที่ยวแบบยาวๆ ได้ถึง 1 ปีไปเลยจ้า!! แถมจอร์เจียยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายยุโรปแบบสุดๆ ทั้งที่ทำเลที่ตั้งน่ะอยู่ในทวีปเอเชีย ติดกับตุรกีและรัสเซียที่หลายคนอาจจะเคยปักหมุดไปมาแล้วอีกด้วยนะ ที่สำคัญคือค่าเงินไม่แพงจ้า เริ่ดเว่อร์!!
นับข้อดีได้ขนาดนี้ ก็ไปส่องกันเลยดีกว่าว่าสถานที่ เที่ยวจอร์เจีย น่ะ จะถูกจริตคุณแค่ไหน ถ้าดูแล้วรู้สึกว่านี่ละใช่! ก็ส่องตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจียจาก Traveloka กันก่อนได้เลย มองหาดีลสายการบินเด็ดๆ ที่ถูกใจ แล้วจองไปโลด สะดวก จองง่าย ไม่ต้องกลัวตั๋วผี แถมมี Call Center ให้สอบถามได้ตลอดเวลา ข้อดีแน่นขนาดนี้จองเลยจ้า อย่าลังเล
จองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย
ชื่อป้อมแห่งนี้เป็นภาษาเปอร์เซียที่แปลว่าป้อมซึ่งไม่สามารถตีแตกได้ โดยตลอดเวลา ที่นี่ก็ไม่เคยมีข้าศึกทำลายลงได้จริงๆ แหละ แต่สิ่งที่ทำให้ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 4 แห่งนี้เกิดความเสียหายบ้างดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน กลับเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อราวๆ 200 ปีก่อนนี่เอง ตัวป้อมตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการใช้ชมวิวตัวเมือง Tbilisi ในมุมสูงที่นับได้ว่าถ้ามาเที่ยวจอร์เจียแล้วไม่ได้เห็นป้อมนี้ ก็เหมือนยังไม่ได้มาเหยียบเมืองหลวงของจอร์เจียอย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียวละ
เป็นประติมากรรมรูปเทพธิดาขนาดยักษ์บนยอดเขา Solo Laki Hill ซึ่งเชื่อกันว่านี่คือตัวแทนของเทพธิดาที่ทำหน้าที่พิทักษ์เมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1958 เนื่องในโอกาสที่เมืองนี้ครบรอบ 1,500 ปี โดยมีความสูงมากกว่า 20 เมตร และตั้งอยู่ใกล้กับป้อมปราการ Narikala โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าขึ้นมาชมไฮไลท์ทั้งสองแห่งได้อย่างสะดวกสบาย มาลุยเที่ยวจอร์เจียเมื่อไหร่ อย่าลืมแวะมา
สวนสาธารณะแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองหลวงของจอร์เจีย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เป็นจุดชมทิวทัศน์โดยรอบของเมืองนี้ได้อย่างสวยงาม นอกจากต้นไม้ที่ได้รับการดูแลและตกแต่งเป็นอย่างดีแล้ว ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรมหน้าตาล้ำสมัยให้ชมกันอีกหลายจุดเลยเชียว หากคุณมองหาแพลนเที่ยวจอร์เจียเมื่อไหร่ ลองแวะมาเดินเล่นกันได้ เดินทางง่าย และบอกเลยว่าชิลล์มากกกก
สะพานหน้าตาสุดล้ำแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2010 ตัวสะพานสร้างขึ้นจากโครงเหล็กประดับกระจกใส ให้บรรยากาศแบบทันสมัยเหมือนในหนังไซไฟล้ำยุคของฮอลลีวู้ด ที่น่าแปลกใจคือแม้สะพานแห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองซึ่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนในสไตล์ยุโรปแบบสุดคลาสสิก แต่กลับให้ความรู้สึกที่กลมกลืนไม่ขัดแย้งสายตาแต่อย่างใด กลางวันว่าสวยแล้ว กลางคืนเมื่อมีการเปิดไฟจะให้บรรยากาศที่สวยต่างไปอีกหนึ่งรูปแบบ เป็นจุดเที่ยวจอร์เจียที่ต้องไปเช็คอินให้ได้เลยนะคุณ
มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวิหาร Sameba เป็นโบสถ์นิกายออโทดอกซ์ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในประเทศจอร์เจีย และยังได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย โบสถ์นี้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 50 เมตร และสามารถจุผู้คนได้ราวๆ 15,000 คน เปิดให้เข้าชมด้านในได้โดยคุณผู้หญิงทั้งหลายต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะตามกฎข้อบังคับทางศาสนาของเค้าด้วยน้า แต่ถ้าอยากชมแค่ด้านนอกก็ขอบอกว่านั่นก็สวยแล้วละ โดยเฉพาะในตอนค่ำที่มีการเปิดไฟส่องไปบริเวณตัวโบสถ์ด้วยนะ ยิ่งทำให้โดดเด่นสะดุดตา ปักหมุดไว้ แล้วลองมาเที่ยวจอร์เจียตรงนี้ด้วยตัวเองซักครั้งก็แล้วกัน
ตั้งอยู่ในเมือง Kutaisi ซึ่งเคยเป็นอดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรจอร์เจียนโบราณ โดยที่นี่เคยเป็นอารามหลวงของเมืองเก่าแห่งนี้ ภายในบริเวณแบ่งออกเป็นโบสถ์อีกสองโบสถ์คือ โบสถ์เซนต์นิโคลัส และ โบสถ์เซนต์จอร์จ ซึ่งด้านในได้รับการประดับประดาด้วยชิ้นงานศิลปะและงานกระเบื้องโมเสกสุดอลังการ ด้วยความสวยงามเก่าแก่ทั้งภายนอกและภายใน ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วเรียบร้อยจ้า มองหาสถานที่ เที่ยวจอร์เจีย เมื่อไหร่ อย่าลืมใส่ที่นี่ไว้ในแพลนด้วยเน้อ
นี่คือโบสถ์กลางขุนเขาซึ่งแวดล้อมด้วยทิวทัศน์สุดอลังการของเทือกเขาคอเคซัสที่เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Tsminda Sameba โดยโบสถ์นี้ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงประมาณกว่า 2,000 เมตร สร้างขึ้นโดยใช้หินแกรนิตเป็นวัสดุหลัก ตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ตัวโบสถ์และหอระฆังเองก็สวยคลาสสิกในรูปแบบยุโรปโบราณ แล้วยิ่งมีฉากหลังสุดตระการตาอย่างเทือกเขาที่มีความสูงมากกว่า 5,000 เมตร มาเป็นแบ็คกราวนด์ขนาดใหญ่แบบนี้ ใครมาเห็นก็ต้องร้องว้าวดังๆ อย่างแน่นอน ถ้าอยากได้ฟีลเที่ยวจอร์เจียสุดอัศจรรย์ แนะนำให้ปักหมุดที่นี่กันไว้เลย
นับเป็นอีกหนึ่งป้อมปราการเก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย ซึ่งมีทีท่าว่ากำลังจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้อีกเป็นแห่งต่อไป นอกจากความสวยงามคลาสสิกของรูปแบบการก่อสร้างแบบโบราณแล้ว ป้อมนี้ยังมีทำเลที่ตั้งซึ่งเรียกได้ว่าสวยงามมาก เพราะอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำ Zhinvali ซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงใหญ่สลับซับซ้อน เดินชมป้อมก็เพลิน เดินชมวิวก็เริ่ดเชียว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ เที่ยวจอร์เจีย ที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดเลยละ
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองหลวงของจอร์เจียซึ่งคุณจะได้สัมผัสถึงความใหญ่โตโอฬารกันแบบสะใจ เพราะนี่คืออนุสรณ์สถานที่มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียเอาไว้บนเสาขนาดใหญ่จำนวนถึง 16 ต้น ซึ่งเสาแต่ละต้นนั้นมาในไซส์ใหญ่ยักษ์ที่มีขนาดราวสิบคนโอบ และสูงถึง 35 เมตร และด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บนภูเขา จากบริเวณนี้คุณจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง Tbilisi ได้แบบเต็มๆ ตา นี่จึงเป็นพิกัดเที่ยวจอร์เจียแนะนำ
เป็นเมืองโบราณของจอร์เจียที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปีเลยทีเดียว โดยที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่ของผู้คนในสมัยประมาณศตวรรษที่ 4 ซึ่งสร้างขึ้นด้วยการสกัดหินเข้าไปให้เป็นโพรงห้องขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยกินเนื้อที่รวมถึงประมาณ 50 ไร่เลยทีเดียว ว่ากันว่าอาจจะมีผู้คนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มากถึงประมาณ 20,000 คนเลยนะ เชื่อเลยว่านี่คืออีกหนึ่งสถานที่ เที่ยวจอร์เจีย ซึ่งจะเรียกความตะลึง ทึ่ง และอึ้ง ให้กับหลายคนเลยเชียว
นับเป็นโรงละครที่มีหน้าตาไม่เหมือนใคร และบอกได้เลยว่ามีเสน่ห์จนพลาดไปไม่ได้จริงๆ เมื่อคุณได้มาเที่ยวเมืองหลวงของจอร์เจีย โรงละครแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย Rezo Gabriadze ซึ่งเป็นศิลปินชื่อดังของจอร์เจีย ด้านในเปิดทำการแสดงหุ่นกระบอกซึ่งนำเสนอให้ชมผ่านการแสดงหลากหลายเรื่องราว จุดเด่นที่สุดของโรงละครแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้นหอนาฬิกาหน้าตาน่ารักที่จะมีโชว์ให้ชมกันเล็กๆ ในช่วงเที่ยงของทุกวัน ไปเที่ยวจอร์เจียเมื่อไหร่อย่าลืมแวะไปเช็คอินกันด้วยละ
ด้วยความที่เมือง Tbilisi ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจอร์เจียนั้น เป็นพื้นที่ที่มีบ่อน้ำพุร้อนเป็นจำนวนมาก ที่นี่จึงมีวัฒนธรรมโรงอาบน้ำโบราณซึ่งได้รับความนิยมมาเนิ่นนานอยู่เช่นกัน และที่สำคัญคือยังคงเปิดให้บริการกันอยู่จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ว่ากันว่าน้ำแร่ที่นี่ก็มีแร่ธาตุที่ดีต่อผิวพรรณไม่แพ้ที่ไหน มาเที่ยวจอร์เจียเมื่อไหร่ ถ้าอยากลองใช้บริการก็แวะกันมาได้เลย ย่านนี้มีให้เลือกหลายแห่งเชียวละ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจ อย่ามัวแต่อายจนไม่กล้าลองนะ ไม่งั้นจะเสียดาย ปักหมุดเป็นหนึ่งจุดหมายเที่ยวจอร์เจียซึ่งต้องมาเอาไว้ได้เลย
จตุรัสกลางเมืองหลวงแห่งนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ เที่ยวจอร์เจีย ที่มาแล้วคงต้องได้เห็นกันทุกคน เพราะนี่คือวงเวียนใจกลางเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางของเส้นทางการคมนาคมและแวดล้อมไปด้วยที่พักมากมาย วงเวียนแห่งนี้เคยผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง และเปลี่ยนมาเป็น Freedom Square เมื่อจอร์เจียได้รับอิสรภาพจากการเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตนี่เอง แวะมาแชะมาช้อปกันได้ ละแวกนี้มีที่เดินเล่นต่อไปอีกหลายซอยเลยจ้า เพลินชัวร์
สำหรับใครที่เป็นสายธรรมชาติ บอกเลยว่ามาที่นี่ต้องมีการตกหลุมรักกันชนิดที่ถอนตัวได้ยากแน่นอน เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของเทือกเขาคอเคซัส โดยวิวเขาจะแวดล้อมกันชนิด 360 องศา เรียกว่าเป็นกำแพงสุดอลังการของหมู่บ้านนี้กันเลยก็ว่าได้ ในช่วงอากาศสบายๆ ที่นี่เป็นสถานที่ขวัญใจนักท่องเที่ยวที่ชอบการเทรกกิ้งเป็นอย่างยิ่งทีเดียว เพราะมีทั้งวิวสวยๆ ของเทือกเขาขนาดใหญ่ ลำธารสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้ ถ้าคุณชอบเที่ยวสไตล์นี้ ปักหมุดเลยจ้ะ มาเที่ยวจอร์เจียแล้วทั้งที ห้ามพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวง
สำหรับคนที่ชื่นชอบความศิวิไลซ์ นี่คืออีกหนึ่งเมืองน่าสนใจในการเที่ยวจอร์เจียที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศ แต่ให้อีกหนึ่งบรรยากาศซึ่งแตกต่างกันไปจากสไตล์คลาสสิกของเมืองหลวงในจอร์เจีย เพราะที่นี่เป็นเมืองซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศสุดไฮเทคของตึกสูงและสถาปัตยกรรมสุดทันสมัย แถมยังมีชายหาดงามๆ ให้ได้เที่ยวกันอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองในจอร์เจียที่ให้บรรยากาศซึ่งแตกต่างออกไป และน่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่นในประเทศนี้เลยจริงๆ
จอร์เจียนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจมากสำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งเดินทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะที่นี่มีตั้งแต่สถาปัตยกรรมเก่าแก่ บรรยากาศแบบยุโรป และมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามแปลกตา รวมถึงยังมีธรรมชาติที่สวยงามอลังการและน่าประทับใจ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงมากมายเหมือนประเทศยอดนิยมทั้งหลายในโซนยุโรปที่เราคุ้นเคยกันดี ทริปหน้าลองวางแผนเที่ยวจอร์เจียดูสิ เชื่อเถอะว่าคุณน่าจะไม่ผิดหวังเลยละ ทั้งประหยัด ทั้งสวยน่าประทับใจ แพ็คกระเป๋าไปเที่ยวจอร์เจียกันได้เลย เที่ยวง่าย ไม่ผิดหวังชัวร์ๆ