“สิบสองปันนา” (Xishuangbanna) ชื่อเหมือนอยู่ไทย แต่ทำไมอยู่ที่จีน!? เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังคงกลิ่นอายจีนแท้ ๆ ไว้อย่างกลมกล่อม เพราะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานซึ่งติดกับชายแดนลาวและพม่า จึงเป็นแหล่งอาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ซึ่งมีวัฒนธรรมคล้ายไทยจนบางคนถึงกับบอกว่า “เหมือนได้เที่ยวต่างประเทศ แต่ยังรู้สึกเหมือนไม่ได้ออกจากบ้าน”
สิบสองปันนาเต็มไปด้วยที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งวัดไทลื้อโบราณ ป่าเขาแม่น้ำ สวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ไปจนถึงหมู่บ้านชนเผ่าที่ยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง เป็นสถานที่ที่เที่ยวได้ทั้งสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป สายวัฒนธรรม และยังเหมาะกับคนที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่โดยไม่ต้องเดินทางไกลเกินไปจากไทย
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปอัปเดต 15 ที่เที่ยวสิบสองปันนา พร้อมแนะนำร้านอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย ที่พักน่านอนวิวสวย การเดินทางแบบละเอียด และเคล็ดลับการเที่ยวที่จะทำให้ทริปของคุณราบรื่นแบบมือโปร แถมวางแผนเที่ยวสิบสองปันนาเองได้เลย!
มาถึงสิบสองปันนาแล้วไม่เดินถนนคนเดินคือพลาดมาก! ถนนคนเดินในเมืองจิ่งหงถือเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม ความอร่อย และของฝากแบบครบเครื่อง ในยามค่ำคืน บริเวณนี้จะสว่างไสวด้วยโคมไฟหลากสี บรรยากาศคล้ายงานวัด มีทั้งร้านอาหารพื้นเมือง อาหารไทลื้อ คาเฟ่เล็ก ๆ ไปจนถึงร้านขายผ้าทอและของฝากท้องถิ่น กลิ่นอาหารหอม ๆ อย่างไก่ย่างไม้ไผ่ ข้าวจี่ และชาเย็นท้องถิ่นจะลอยมาทักทายคุณตลอดทาง เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินเล่นคลายเหนื่อยหลังเที่ยวทั้งวัน จะซื้อของฝาก หาของกิน หรือแค่เก็บภาพแนวสตรีทเก๋ ๆ ก็ได้หมด เป็นอีกหนึ่งมุมที่แสดงให้เห็นเสน่ห์ร่วมสมัยของสิบสองปันนาได้อย่างลงตัว เที่ยวที่เดียวได้ทั้งพุงกางและของฝากในราคาสบายกระเป๋า ถือเป็นที่ที่เที่ยวได้อย่างประหยัดแถมบรรยากาศดี อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ visityunnanchina
ที่นี่คือสวรรค์ของสายเที่ยวธรรมชาติ! เพราะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ร้อนชื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีพืชพันธุ์กว่า 13,000 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลกให้คุณได้เดินชมอย่างใกล้ชิด ไฮไลต์เด็ดคือสะพานลอยฟ้าที่พาดผ่านยอดไม้ ให้คุณได้มองเห็นวิวป่าแบบพาโนรามา พร้อมศูนย์วิจัยด้านพืชและโซนจัดแสดงที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีโซนป่าฝนจำลองและกิจกรรมเดินป่าเบา ๆ สำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เหมาะทั้งสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือสายเที่ยวคนเดียวที่อยากมาฮีลใจในป่าธรรมชาติ เดินทางจากจิ่งหงได้ง่าย ๆ ด้วยรถบัสหรือเหมารถ ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง รับรองว่าคุ้มค่าและเติมพลังชีวิตได้เต็มที่แน่นอน
อยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นแท้ ๆ ของสิบสองปันนา ต้องไม่พลาด “หมู่บ้านไทลื้อเก่า” ที่นี่คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ของชนชาติไทลื้อ ซึ่งยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างอบอุ่นและน่ารัก บ้านเรือนไม้ยกพื้นหลังคามุงแฝกเรียงรายท่ามกลางธรรมชาติ เป็นภาพที่ชวนให้หลงรักแบบไม่รู้ตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมหมู่บ้าน พูดคุยกับคนท้องถิ่น ลองทำงานฝีมือ หรือชิมอาหารพื้นบ้านอย่างแกงหน่อไม้หรือข้าวจี่ไทลื้อที่หาทานได้ยาก ที่สำคัญ หากมาในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทลื้อ (ประมาณเดือนเมษายน) จะได้ชมการแสดงฟ้อนรำและพิธีกรรมดั้งเดิมด้วยบรรยากาศช้า ๆ และเรียบง่ายของที่นี่ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่อดีตที่งดงาม
หนึ่งในจุดท่องเที่ยวในสิบสองปันนาที่เปี่ยมไปด้วยความสงบและศิลปวัฒนธรรมของสิบสองปันนาก็คือ “วัดจิ่งจง” วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1701 โดยชนเผ่าไทลื้อ โดดเด่นด้วยศาลาไม้ทรงแปดเหลี่ยมที่ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของชาวไท มีการแกะสลักลวดลายไม้ที่วิจิตร งดงามทุกมุมมอง ตัวศาลาตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและป่าไม้ ทำให้มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การนั่งสมาธิหรือถ่ายภาพบรรยากาศวัฒนธรรมแบบจีนผสมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รอบ ๆ ยังมีวัดเล็ก ๆ และบ้านชาวบ้านที่น่ารัก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับคนที่อยากเปิดมุมมองใหม่ของจีน ที่ไม่ใช่แค่เมืองใหญ่และตึกสูง แต่เต็มไปด้วยรากเหง้าทางวัฒนธรรมเก่าแก่
ที่นี่คือจุดหมายในฝันของสายรักสัตว์และธรรมชาติ “อุทยานช้างป่า” เป็นพื้นที่อนุรักษ์ช้างเอเชีย ซึ่งมีประชากรช้างป่าหลงเหลืออยู่ไม่มากนักในจีน สิ่งที่น่าสนใจคือคุณสามารถเดินชมเส้นทางธรรมชาติที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ไม่รบกวนระบบนิเวศ พร้อมกับกระเช้าไฟฟ้าที่จะพาขึ้นไปชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา และถ้าโชคดี คุณอาจเห็นช้างออกมาเดินเล่นตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิดด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องเข้ากรงหรือดูโชว์ บริเวณรอบ ๆ ยังมีจุดชมลิงหายากอย่างลิงจมูกเชิดสีทอง ( Golden snub-nosed monkey)อีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์การเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น และได้ความรู้ แถมเหมาะสำหรับทุกวัย ไม่ว่าจะมาเที่ยวคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมากับครอบครัว
ตลาดน้ำสุดเก๋ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหลานชาง (หรือแม่น้ำโขง) ที่นี่จำลองบรรยากาศตลาดน้ำของ 6 ประเทศลุ่มน้ำโขงไว้ในที่เดียว ทั้งจีน ไทย ลาว พม่า กัมพูชา และเวียดนาม เดินเข้าไปจะได้กลิ่นอาหารหอม ๆ จากหลากหลายชาติ มีทั้งข้าวจี่ น้ำสมุนไพร ขนมไทย ๆ อย่างข้าวเหนียวมะม่วง ไปจนถึงของพื้นเมืองสุดแปลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บรรยากาศคึกคัก มีเรือพายจอดเรียงรายให้ถ่ายรูปสวย ๆ แถมยังมีการแสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นช่วง ๆ ให้ฟีลงานวัดริมแม่น้ำโขงสุด ๆ ใครอยากหาของกิน เดินเล่น ถ่ายรูป ที่นี่รวบตึงมีครบในที่เดียว
สวนสาธารณะกลางเมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ความร่มรื่น แต่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ของสิบสองปันนาอีกด้วย “สวนม่านถิง” เคยเป็นสวนหลวงของกษัตริย์ไทลื้อในอดีต และปัจจุบันกลายเป็นสวนที่ชาวเมืองนิยมมาเดินเล่น พักผ่อน หรือปั่นจักรยาน ที่นี่มีทั้งโซนสวนดอกไม้ บ่อน้ำ ศาลาพักผ่อน และที่พิเศษคือมีการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าต่าง ๆ ให้ชมในตอนเย็นด้วยนะ ทั้งการแสดงรำพื้นบ้าน การละเล่นแบบไทลื้อแท้ ๆ เหมือนยกงานวัดมาจัดในสวน ถ้ามาเที่ยวแบบสบาย ๆ ไม่รีบร้อน แนะนำให้ใช้เวลาช่วงบ่ายจนถึงเย็นที่นี่ รับรองได้รูปเพียบ แถมยังได้เข้าใจวัฒนธรรมของเมืองนี้มากขึ้นอีกด้วย
ที่เที่ยวสุดชิลที่เหมาะกับคนที่อยากรู้จักชนเผ่าต่าง ๆ ในสิบสองปันนาแบบรวบรัดในที่เดียว “Ethnic Culture Park” เป็นเหมือนหมู่บ้านจำลองวัฒนธรรม ที่รวมชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่าง ๆ เช่น ไทลื้อ, ฮานี, อาข่า และอีกหลายเผ่าไว้ในพื้นที่เดียว เดินเข้าไปเหมือนข้ามไปอีกโลก ทั้งบ้านดิน บ้านไม้ โบสถ์ วัด และเครื่องแต่งกายสีสันสดใส ที่นี่มีโชว์วัฒนธรรมให้ดูทั้งวัน ทั้งการแสดงเต้นรำ เล่นดนตรี พิธีกรรมแบบชนเผ่า แถมยังมีกิจกรรมให้ลองใส่ชุดพื้นเมือง ถ่ายรูป และเรียนรู้การทำอาหารพื้นถิ่นด้วย เป็นที่เที่ยวที่เด็กก็ชอบ ผู้ใหญ่ก็อิน เพราะได้ทั้งความรู้ ความสนุก และความเพลินแบบไม่มีเบื่อเลย
พิกัด: https://g.co/kgs/yH4st8c
อยากชมวิวแม่น้ำหลานชางแบบเต็มตา ต้องลองเดินข้ามสะพานแขวนสุดคลาสสิกนี้เลย! แม่น้ำหลานชาง หรือแม่น้ำโขงในชื่อที่เราคุ้นเคย ไหลผ่านสิบสองปันนาอย่างสง่างาม และสะพานแขวนแห่งนี้ก็เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ที่นี่ไม่ใช่แค่ทางเดิน แต่ยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต เพราะมองเห็นทั้งวิวเมือง ภูเขา และแม่น้ำได้แบบไม่มีอะไรมาบัง บางช่วงจะมีพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่นมาตั้งร้านขายของกินเล่น น้ำผลไม้ หรือของฝากเล็ก ๆ ให้บรรยากาศชิลมาก ถ้ามาช่วงเย็น แสงแดดจะสาดลงบนผืนน้ำพอดี เหมาะกับการเดินเล่น ปล่อยใจ หรือจะถ่ายพอร์ตเทรตแบบชิค ๆ ก็ได้เหมือนกันนะ
ชนเผ่าคิโน่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหมู่บ้านคิโน่นี้ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตของพวกเขาแบบใกล้ชิด ภายในหมู่บ้านจะมีการจัดแสดงบ้านเรือนแบบดั้งเดิม วิถีการเกษตร เครื่องแต่งกาย และประเพณีพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น ไฮไลต์อยู่ที่การแสดงวัฒนธรรมกลางหมู่บ้าน ที่เต็มไปด้วยสีสันและจังหวะสนุก ๆ แบบชนเผ่า ใครอยากได้ประสบการณ์ซึมซับวัฒนธรรม ต้องไม่พลาดที่นี่ เพราะนอกจากได้ความรู้แล้ว ยังได้ความประทับใจในความเป็นมิตรของชาวบ้านด้วย เหมาะกับทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และสายถ่ายรูปแนว Ethnographic แบบสุด ๆ
ถ้าอยากเข้าใจเมืองนี้ให้ลึกกว่าแค่ภาพสวย ๆ ต้องแวะมาที่ “พิพิธภัณฑ์สิบสองปันนา” แห่งนี้เลย! พิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพื้นที่สิบสองปันนา โดยเฉพาะไทลื้อ ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน ไฮไลต์อยู่ที่หุ่นจำลองหมู่บ้าน การแสดงชุดประจำเผ่า และโซนเกี่ยวกับพุทธศาสนาแบบไทลื้อที่หาดูได้ยาก ที่นี่เดินเพลิน แอร์เย็น และข้อมูลแน่น เหมาะกับการมาใช้เวลาช่วงบ่ายแบบสบาย ๆ แถมยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ และร้านของฝากเล็ก ๆ ให้ได้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะ
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ทั้งสวยและสงบ “เจดีย์ขาว” ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ มองเห็นวิวเมืองจิ่งหงได้รอบทิศ เจดีย์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบพม่าและล้านนา โดดเด่นด้วยสีขาวสะอาดตา และยอดแหลมเรียงซ้อนกันอย่างงดงาม ด้านล่างมีลานสำหรับเดินเล่น ชมวิว และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเย็นแสงจะสาดกระทบเจดีย์ให้ดูเรืองรองแบบละมุนสุด ๆ เหมาะกับคนที่อยากหามุมสงบ ๆ ถ่ายรูปชิล ๆ หรือเติมพลังใจก่อนกลับไปทำงานอีกครั้ง ใครชอบเที่ยวแนวสงบ มีความเซน ห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาดเลย
ถ้าอยากเข้าถึงธรรมชาติแบบลึกสุดใจ ลองออกเดินป่าไปกับทริป Rainforest Hiking ที่ภูเขาคิโน่ดู! เส้นทางนี้จะพาคุณเดินผ่านป่าฝนเขตร้อนจริง ๆ ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้แปลกตา เถาวัลย์หนาแน่น และเสียงนกที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไฮไลต์คือการได้เห็นต้นยางโบราณ พืชสมุนไพรหายาก และต้นชาเก่าแก่ที่คนคิโน่ใช้ทำชาแบบพื้นเมือง ไกด์ท้องถิ่นจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในป่าและภูมิปัญญาดั้งเดิมให้ฟังตลอดทาง เป็นทริปที่ได้ทั้งออกกำลังเบา ๆ และเปิดหูเปิดตาแบบไม่เหมือนใคร เหมาะกับสายรักธรรมชาติ รักความเรียบง่าย และอยากสัมผัสโลกใบเดิมในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
กิจกรรมไฮไลต์ยามค่ำที่ไม่ควรพลาดในสิบสองปันนา! งานนี้เป็นเหมือนโชว์กลางแจ้งที่รวมการแสดงวัฒนธรรมจากกลุ่มชนเผ่าริมแม่น้ำล้านช้าง–โขงไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็นการรำพื้นบ้าน การละเล่นพื้นเมือง การเต้นรำรอบกองไฟ ไปจนถึงการจุดคบเพลิงสุดอลังการ ไฮไลต์อยู่ที่ช่วงท้ายที่นักแสดงจะเชิญผู้ชมเข้าร่วมวงเต้นรำรอบกองไฟ สร้างความสนุกและอบอุ่นแบบสุด ๆ เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในงานเฉลิมฉลองจริง ๆ บรรยากาศเหมาะกับทั้งครอบครัวและกลุ่มเพื่อน เหมาะสำหรับปิดท้ายวันแบบน่าประทับใจสุด ๆ แนะนำให้มาจับจองที่นั่งก่อนเวลาเริ่มสักนิด เพราะงานนี้คนเยอะมากกก!
ปิดท้ายทริปสิบสองปันนาด้วยกิจกรรมสุดโรแมนติกอย่าง “ล่องเรือแม่น้ำหลานชาง” ที่จะพาคุณล่องไปตามสายแม่น้ำสายสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยบ้านไม้ วิถีชาวบ้าน ป่าเขา และทุ่งนาแบบไทลื้อ ระหว่างทางจะมีไกด์เล่าเรื่องราวของแม่น้ำหลานชางที่เชื่อมโยงผู้คนจากจีน ลาว พม่า จนถึงไทยแบบเพลิน ๆ ยิ่งถ้ามาช่วงเย็น คุณจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกสะท้อนผิวน้ำ สวยงามไม่แพ้การล่องเรือในยุโรปเลยนะ จะเลือกทริปล่องเรือสั้น 1–2 ชั่วโมง หรือแบบพร้อมอาหารเย็นบนเรือก็มีให้เลือกครบ เหมาะจะเป็นกิจกรรมส่งท้ายที่น่าประทับใจสุด ๆ
ถ้าชอบบรรยากาศหรูหราแบบรีสอร์ตระดับโลก “Lan Bar” ที่อยู่ในโรงแรม InterContinental สิบสองปันนา คือที่ที่คุณต้องไม่พลาด บาร์นี้โดดเด่นด้วยการตกแต่งสวยงามหรูหราผสมกลิ่นอายท้องถิ่นของชนเผ่าไทลื้อ มีทั้งโซนในร่มและเอาต์ดอร์ที่สามารถชมวิวสวนสวยแบบพาโนรามา เมนูเครื่องดื่มที่นี่ครีเอทและคัดสรรอย่างดี มีทั้งค็อกเทลสุดพิเศษและชาเขียวพันธุ์ดีจากท้องถิ่น แถมยังมีของว่างเบา ๆ ให้เลือกทานด้วย ถือเป็นสถานที่เหมาะสำหรับพักผ่อนหลังเที่ยวแบบชิล ๆ การบริการที่นี่ก็ปังระดับโรงแรม 5 ดาว บรรยากาศดีเวอร์จนใครมาก็ต้องติดใจ
เวลาเปิด-ปิด: 10.00 - 23.59
ร้านอาหาร “YUE” ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่สายกินต้องแวะให้ได้ เพราะรวมความโมเดิร์นและวัฒนธรรมท้องถิ่นสิบสองปันนาไว้อย่างลงตัว ที่นี่โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบสดใหม่จากภูมิภาค พร้อมปรุงแต่งด้วยเทคนิคทันสมัย ทำให้เมนูทั้งสวยและอร่อยเป็นพิเศษ เมนูแนะนำเช่น ปลาแม่น้ำหลานชางย่างสมุนไพร และสลัดผลไม้ท้องถิ่น รสชาติจัดจ้านแบบลงตัว บรรยากาศร้านทันสมัย โทนสีอบอุ่น มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้แชะกันเพลิน ๆ เหมาะสำหรับมื้อค่ำพิเศษหรือดินเนอร์สุดโรแมนติก ที่สำคัญบริการดีสุด ๆ ทำให้หลายคนประทับใจจนต้องกลับมาอีกครั้ง
เวลาเปิด-ปิด: 11.30 - 14.00 และ 17.30 - 21.00
ถ้าชอบฟีลอาหารท้องถิ่นแบบของจริง มาลองร้าน “Dai·Mana” สาขาสวนม่านถิงสิ ร้านนี้เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น เพราะเสิร์ฟอาหารไทลื้อแท้ ๆ รสชาติถึงเครื่องแบบไม่ปรุงแต่งมากเกินไป เมนูเด็ด ได้แก่ ไก่ย่างใบตอง, ข้าวจี่ไทลื้อ และส้มตำไทลื้อ ที่มีความจัดจ้านแบบบ้าน ๆ บรรยากาศร้านอบอุ่น สไตล์บ้าน ๆ มีทั้งโซนในร่มและเอาต์ดอร์ เหมาะกับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นแบบชิล ๆ พร้อมจิบเบียร์ท้องถิ่นไปด้วย เจ้าของร้านดูแลใส่ใจทุกโต๊ะ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนมาเยี่ยมบ้านเพื่อนจริง ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 11.00 - 19.30
ถ้าใครชอบบรรยากาศสงบ หรูหรา และมีความเป็นธรรมชาติแบบเต็มคาราเบล “Angsana Xishuangbanna” คือตัวเลือกสุดฟินอีกหนึ่งแห่ง ที่นี่เป็นรีสอร์ตในเครือ Banyan Tree ตั้งอยู่ใกล้กับสวนพฤกษศาสตร์สิบสองปันนา รายล้อมด้วยป่าไม้และทิวเขาแบบเงียบสงบ มีห้องพักกว้างขวางสไตล์วิลล่า พร้อมอ่างแช่น้ำวิวธรรมชาติทุกห้อง ไฮไลต์เด็ดคือสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มองเห็นวิวป่า และสปาไทลื้อที่ใช้สมุนไพรท้องถิ่นในการบำบัด เหมาะสำหรับคู่รักหรือใครที่อยากมาพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง ที่พักมีบริการรถรับส่งเข้าเมืองจิ่งหงด้วยนะ ใครอยากหลีกหนีความวุ่นวาย แล้วใช้เวลากับตัวเองหรือคนพิเศษในที่สวยสงบแบบนี้ ต้องจองเลย!
China
อังสนา สิบสองปันนา
Menghai Xian
ดูราคา
ใครมองหาที่พักโลเคชันดี ราคาไม่แรง อยู่ใกล้ของกินและบรรยากาศชิล ๆ ต้องปักหมุดที่ “Lanjiang Garden Inn” สาขาตลาดกลางคืนจิ่งหงเลย! ที่นี่เป็นโรงแรมขนาดกลางแต่บรรยากาศอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านหลังที่สอง อยู่ติดกับแม่น้ำหลานชาง เดินไปตลาดกลางคืนหรือถนนคนเดินแค่ไม่กี่ก้าว ห้องพักสะอาด ตกแต่งเรียบง่ายแต่ครบครัน มีระเบียงชมวิวแม่น้ำบางห้อง ที่สำคัญคือพนักงานพูดอังกฤษได้ดี ใจดีและพร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวแบบสุด ๆ เหมาะกับสายแบ็กแพ็ก สายกิน สายช้อป หรือใครที่อยากเที่ยวสบาย ๆ เดินเท้าได้รอบเมืองแบบไม่ต้องพึ่งรถ นอนที่นี่รับรองตอบโจทย์ทุกด้าน
China
Lanjiang Garden Inn(Jinghong Riverside Night Market Branch,Xishuangbanna)
Jinghong Shi
ดูราคา
อีกหนึ่งที่พักระดับพรีเมียมที่ครองใจนักเดินทางหลายคนคือ “Pullman Resort Xishuangbanna” โรงแรมในเครือ Accor ที่จัดเต็มทั้งดีไซน์และบริการ ด้วยแนวคิดผสมผสานสไตล์โมเดิร์นเข้ากับวัฒนธรรมไทลื้อได้อย่างลงตัว ห้องพักตกแต่งอย่างหรูหรา มีทั้งห้องวิวสวนและพูลวิลล่าให้เลือก สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด แถมยังมีฟิตเนส สปา และห้องอาหารในโรงแรมที่เสิร์ฟอาหารจีนผสมตะวันตกคุณภาพดี เหมาะกับคนที่อยากได้ความสะดวกสบายแบบรีสอร์ตเต็มรูปแบบ แต่ยังได้ฟีลบรรยากาศท้องถิ่น ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง เดินทางง่าย จะพักผ่อนหรือติดต่อธุรกิจก็ครบจบในที่เดียว
China
พูลแมน รีสอร์ท สิบสองปันนา
Jinghong Shi
ดูราคา
ไปสิบสองปันนายังไง?! ก่อนจะออกเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรมไทลื้อ วิวธรรมชาติสวย ๆ และอาหารท้องถิ่นแสนจะมีเอกลักษณ์ของสิบสองปันนา การเตรียมแผนการเดินทางให้พร้อมก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะแม้จะอยู่ทางตอนใต้ของจีน แต่เส้นทางไปยังเมืองจิ่งหง (Jinghong) เมืองเอกของสิบสองปันนา ก็มีหลากหลายวิธีให้เลือก
ไม่ต้องห่วง! เราจะช่วยไกด์ให้ครบทุกวิธี พร้อมเทียบความสะดวกและเวลาที่ใช้ เพื่อให้คุณเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ไม่ว่าจะไปแบบแบ็กแพ็กแบบชิล ๆ หรือหรูแบบฟูลเซอร์วิส ก็ไปถึงสิบสองปันนาได้แบบสบาย ๆ แน่นอน
ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากไทยไปยังสนามบินจิ่งหง (Jinghong Xishuangbanna Airport - JHG) ให้เลือกสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะจากสนามบินดอนเมือง (DMK) และสุวรรณภูมิ (BKK) ซึ่งสายการบินที่นิยม ได้แก่ Thai AirAsia และ China Eastern มีให้เลือกทั้งบินตรงและต่อเครื่อง
Thu, 28 Aug 2025
China Eastern Airlines
กรุงเทพ (BKK) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 3,334.69
Sat, 9 Aug 2025
China Southern Airlines
เชียงใหม่ (CNX) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 4,733.38
Fri, 29 Aug 2025
VietJet Air
บาหลี/เดนปาซาร์ (DPS) ไป เซี่ยงไฮ้ (SHA)
เริ่มจาก THB 7,716.89
แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 1–2 เดือน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงต้นฤดูหนาวที่คนไทยนิยมไปเที่ยว สามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ผ่าน Traveloka
เครื่องบิน: สายการบินในประเทศอย่าง China Southern, China Eastern และ Hainan Airlines มีบินตรงมายังจิ่งหงทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 3–5 ชั่วโมง
ข้อดี: เร็ว ทันใจ เหมาะกับทริปสั้น ๆ ที่มีเวลาไม่เยอะ
ข้อเสีย: ราคาสูงกว่ารถไฟ โดยเฉพาะถ้าจองใกล้วันเดินทาง
รถไฟความเร็วสูง (จากคุนหมิง): ถ้ามาจากเซี่ยงไฮ้/ปักกิ่ง ต้องนั่งเครื่องหรือรถไฟไปคุนหมิงก่อน จากนั้นต่อรถไฟความเร็วสูงไปจิ่งหง
สิบสองปันนาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าจะเลือก “ช่วงที่ดีที่สุด” ก็ต้องพิจารณาทั้งอากาศ เทศกาล และกิจกรรมที่อยากทำ เพราะเมืองนี้มีเสน่ห์ต่างกันไปในแต่ละฤดู
ถือเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดเลยล่ะ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 15–25 องศา เย็นสบาย เดินเที่ยวได้ทั้งวันโดยไม่เหนื่อย แสงแดดอ่อน ๆ ถ่ายรูปขึ้นสุด ๆ ป่าไม้เขียวชอุ่ม บรรยากาศโรแมนติกมาก เหมาะกับทั้งคู่รักและสายถ่ายรูป บวกกับเป็นช่วงปีใหม่จีนและตรุษจีน ทำให้เมืองคึกคัก มีเทศกาลให้ชมเพียบ แต่ก็ควรจองที่พัก-ตั๋วเครื่องบินล่วงหน้านานหน่อยนะ
อากาศจะเริ่มร้อนขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังเที่ยวได้สบาย โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่เป็นช่วง สงกรานต์ไทลื้อ หรือ เทศกาลสาดน้ำ (คล้ายบ้านเราเป๊ะ!) ซึ่งจัดใหญ่จัดเต็มทั้งเมือง มีขบวนแห่ ฟ้อนรำ และกิจกรรมแบบจัดเต็มสุด ๆ ใครอยากสัมผัสวัฒนธรรมแบบ local ต้องมาช่วงนี้เลย
ถือเป็นโลว์ซีซั่น เพราะฝนตกค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงเย็น แต่ข้อดีคือธรรมชาติเขียวขจี น้ำตกสวย สวนชุ่มฉ่ำ ถ่ายรูปแบบมู้ดหม่น ๆ ได้ฟีลไปอีกแบบ แถมราคาที่พักก็มักจะถูกลงด้วย ใครไม่กลัวฝน อยากเที่ยวแบบชิล ๆ คนไม่เยอะ นี่คือช่วงที่น่าไปมากอีกช่วงหนึ่งเลย
จะเที่ยวสิบสองปันนาให้ฟินและไม่พลาดไฮไลต์เด็ด ๆ ลองอ่านเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างนี้ก่อนเก็บกระเป๋า รับรองว่าทริปนี้จะเป็นหนึ่งในความทรงจำดี ๆ แน่นอน!
แม้ในเมืองใหญ่จะมีจุดรับบัตรเครดิตหรือแอปจ่ายเงิน แต่ร้านเล็ก ๆ หรือสตรีทฟู้ดหลายที่ยังใช้เงินสดอยู่ แลกเงินหยวน (RMB) ไว้ล่วงหน้าสักหน่อยจะอุ่นใจกว่า
เพราะคนพื้นที่ส่วนใหญ่มักพูดจีนกลางหรือภาษาท้องถิ่นเป็นหลัก ภาษาอังกฤษยังไม่แพร่หลายมาก โดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ แอปแปลภาษาจะช่วยชีวิตได้เยอะมาก ทั้งตอนสั่งอาหาร ถามทาง หรือขอส่วนลด
ในจีนแผ่นดินใหญ่ยังบล็อกหลายเว็บไซต์ เช่น Facebook, LINE, Instagram, YouTube ถ้าอยากโพสต์รูปทันใจหรือคุยกับเพื่อนผ่านโซเชียล แนะนำให้โหลด VPN ที่ไว้ใจได้ติดมือถือไว้ก่อนเดินทาง
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าอาหารไทลื้อในสิบสองปันนาเด็ดมาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติคล้ายอาหารเหนือของไทย แต่มีลูกเล่นเรื่องเครื่องเทศและการปรุงที่ต่างกันนิดหน่อย รับรองว่าได้เปิดประสบการณ์ใหม่แน่นอน
อาหารบางอย่างอาจมีกลิ่นสมุนไพรหรือหมักดองแรงกว่าที่คุ้นเคย ถ้าเป็นคนท้องไส้อ่อนไหว แนะนำให้พกยาแก้ท้องเสียหรือยาแก้จุกเสียดไว้ด้วยนะ (กันไว้ดีกว่า!)
สิบสองปันนาเป็นเมืองที่เที่ยวได้แบบเรื่อย ๆ ชิล ๆ ไม่ต้องเร่งเก็บจุดเช็คอิน พักชะโงกทัวร์ เพราะเสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่ “ความช้า ความเรียบง่าย และสโลว์ไลฟ์” ลองมาใช้ชีวิตช้า ๆ ที่นี่ดูนะ!
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็กดจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก แล้วเตรียมตัวไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองไทลื้อแห่งนี้กันได้เลย! สิบสองปันนา... เมืองที่เหมือนไม่ได้อยู่จีน แต่ก็ยังไม่ใช่ไทย และนั่นแหละคือความพิเศษของมัน 😉