เฮลซิงกิ (Helsinki) เป็นเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ เดิมทีเมืองเฮสซิงกิ ชื่อว่าเฮลซิงฟอร์ส เป็นชื่อเมืองดังนั้น อีกทั้งยังเป็นชื่อภาษาสวีเดน โดยเมืองหลวงของฟินแลนด์ หรือเฮลซิงกิ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1550 จากกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ซึ่งตอนแรกเมืองหลวงของฟินแลนด์นั้นคือ เมืองตรูกู แต่ก่อนมาเมืองเฮลซิงกิก็ได้ขึ้นมาเป็นเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1812 เป็นต้นมา แต่ก่อนนั้นเมืองเฮลซิงกิได้ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำวันตา ก่อนจะย้ายมายังที่ตั้งเมืองในปัจจุบันนี้ เมืองเฮลซิงกิได้รับอิทธิพลมาจากเมืองเซนปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซียค่อนข้างมาก จึงทำให้สถาปัตยกรรม และตัวอาคารหลายแห่งของเมืองเฮลซิงกิ นั้นผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกัน จึงทำให้เฮลซิงกิกลายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ผสมผสานเป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเยือนเมืองเล็กกะทัดรัดแห่งทะเลบอลติกนี้ โดยเมืองเฮลซิงกินอกจากจะเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แล้วนั้น ยังถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของฟินแลนด์อีกด้วย ตั้งอยู่ทางบริเวณตอนใต้ของอ่าวฟินแลนด์ เป็นเมืองที่เมื่อเทียบกับความหนาแหน่นของประชากร แล้วถือว่าไม่ได้ใหญ่ และมีคนเยอะไปมากนัก หากใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวยุโรป การเริ่มต้นมาเที่ยวที่เมืองเฮลซิงกิก็ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย สำหรับนักท่องเที่ยวไทย หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินไปเฮลซิงกิแล้ว อย่าลืมทำวีซ่านักท่องเที่ยวสำหรับเข้าฟินแลนด์ด้วย 

คนที่ชอบงานศิลปะ รับรองว่ามาฟินแลนด์ก็คงจะฟิน เพราะไม่ใช่แค่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมภายในเมืองฟินแลนด์เท่านั้น แต่รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้เก็บรวบรวมงานศิลปะทั้งหลายเอาไว้ โดดเด่นด้วยยุคสมัยของนีโอคลาสสิก และตึกต่างๆ ก็ได้รับอิทธิพลผสมผสานความเป็นรัสเซีย ผสมผสานกับความเป็นยุโรปเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนั้นเองเฮลซิงกิยังถือว่าเป็นเมืองแห่งการดีไซน์ สำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่มีความมินิมอล (Minimal) เรียบง่าย ผสมกลิ่นอายของความเป็นนอร์ดิกเบาๆ เดาว่าใครที่ชื่นชอบงานศิลปะ หรือว่างานดีไซน์ทั้งหลายจะต้องหลงรักเมืองเฮลซิงกินี้อย่างแน่นอน แนะนำว่าใครชอบถ่ายรูปสวยๆ หรืออยากชมความงดงามของหิมะขาวโพลน การมาเที่ยวเฮลซิงกิในช่วงหน้าหนาวก็ถือว่าฟินอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะทั้งเมืองจะถูกปกคุลมไปด้วยหิมะแสนสวย ใครไม่ชอบความหนาวเย็น แล้วจะมาเที่ยวช่วงฤดูร้อน ก็ได้เสน่ห์ไปอีกแบบ 

สกุลเงิน 

จะไปเที่ยวเมืองเฮลซิงกิ หรือว่าประเทศฟินแลนด์ ต้องแลกเป็นเงินสกุลยูโร (EUR) โดย 1 ยูโร เท่ากับ 34 - 35 บาทไทย (THB) โดยเรทเงินจะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน 

ฤดูกาลเฮลซิงกิ 

สภาพอากาศของเมืองเฮลซิงกินั้นจะเป็นเขตอากาศแบบอบอุ่น ที่จะกึ่งชื้นนิดๆ แต่ไม่ได้ชื้นมากนัก ส่วนใหญ่แล้วก็จะเจอลมมรสุมตามภูมิประเทศที่เป็นแบบเกาะ คล้ายๆ กับภูมิอากาศของฮอกไกโด ซึ่งลมมรสุม และฝนนั้นจะถูกพัดมาจากแถบทะเลบอลติก และแอตแลนติกเหนือ ในช่วงฤดูหนาวนั้น ที่เมืองเฮลซิงกิจะมีอุณหภูมิ อบอุ่นมากกว่าฟินแลนด์ตอนเหนือ เพราะอยู่ในช่วงตอนใต้ มีหิมะตกเหมือนกัน แต่ระยะเวลาการตกของหิมะก็จะสั้นมากกว่า โดยรวมแล้วภายใน 1 ปี จะมีทั้งหมด 4 ฤดูด้วยกันคือ 

• ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมด้วยกัน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10-18 องศาเซสเซียส ยังคงมีอากาศความหนาวหลงเหลือมาจากช่วงฤดูหนาวอยู่ แต่อากาศจะค่อยๆ อุ่นขึ้นเรื่อยๆ เหมาะกับการมาเที่ยวในช่วงนี้ ถ้าใครที่ไม่ชอบอากาศร้อนจนเกินไป 

• ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนสิงหาคม อากาศช่วงนี้จะเหมาะกับการเที่ยวเชิงธรรมชาติ คนที่อยากแล่นเรือ หรือว่าทำกิจกรรมต่างๆ เพราะว่าอากาศจะดี แดดจะออก และพระอาทิตย์ที่เมืองเฮลซิงกิ หรือประเทศฟินแลนด์จะตกช้าลงกว่าปกติมาก 

• ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ไปจนถึงพฤศจิกายน ช่วงนี้อุณหภูมิของเมืองเฮลซิงกิก็จะเริ่มลดต่ำลง แต่ยังไม่ถึงกับหนาวมากขนาดนั้น จะมีหมอกในตอนเช้า และอากาศจะค่อนข้างเย็น ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง หิมะก็จะเริ่มตก 

• ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังถือว่าอบอุ่นกว่าเมืองอื่นๆ ในประเทศฟินแลนด์ที่อยู่ทางตอนบน หิมะจะเริ่มตก อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ติดลบ หากใครที่ไปเที่ยวเฮลซิงกิให้ช่วงนี้ ก็ให้เตรียมตัวไปเผชิญกับความหนาวเย็นให้ดี 

ภูมิภาคเฮลซิงกิ 

เฮลซิงกิ เป็นหนึ่งในเมืองหลักของภูมิภาคฟินแลนด์ใต้ ที่อยู่ภายในเขตอูซิมา (Uusimaa) ถือเป็นหนึ่งเมืองสำคัญของภูมิภาค 

สนามบินสำคัญในเฮลซิงกิ 

ภายในเมืองเฮลซิงกิมีท่าอากาศยาน หรือว่าสนามบินสำคัญแห่งเดียว ก็คือ ท่าอากาศยานเฮลซิงกิ-แวนต้า (Helsinki-Vantaa Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของกรุงเฮลซิงกิ ความสำคัญคือเป็นท่าอากาศยานที่มีความหนาแหน่นเป็นอันดับ 4 ของกลุ่มประเทศนอร์ดิก เปิดใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 แล้วด้วยกัน

การเดินทางไปเฮลซิงกิ 

อยากเดินทางไปเที่ยวเฮลซิงกิ มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ โดยใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง 20 นาที โดยสายการบิน ฟินน์แอร์ (Finnair) นอกจากนั้นก็มีสายการบินที่ให้บริการ แต่จำเป็นจะต้องแวะเปลี่ยนเครื่อง ได้แก่ โอมานแอร์ (Oman Air) บริติชแอร์เวย์ (British Airways) กาตาร์แอร์เวย์ (Qatar Airways) สายการบินเอทิฮัด (Etihad Airways) เอมิเรตส์ (Emirates) และลุฟทันซ่า (Lufthansa) 

การเดินทางในเฮลซิงกิ 

• เครื่องบิน อยากเดินทางระหว่างเมืองเฮลซิงกิกับเมืองอื่นๆ ในประเทศฟินแลนด์ หรืออยากเดินทางข้ามประเทศ การจองตั๋วเครื่องบินก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะว่าช่วยประหยัดเวลาการเดินทางไปได้เยอะมาก เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางมากนัก 

• รถบัส (Bus) ตัวเลือกสำหรับคนที่อยากจะประหยัดเป็นหลัก เพราะว่าการเดินทางด้วยรถบัส หรือรถเมลล์ เป็นตัวเลือกที่นิยมของทั้งชาวเมืองเฮลซิงกิ หรือว่านักท่องเที่ยว เพราะราคาไม่แพง สามารถใช้ตั๋ววันที่สามารถซื้อราคาเหมาได้ แถมยังมีเส้นทางการเดินรถที่ครอบคลุม 

• รถราง (Raitiovaunu) ความมีเสน่ห์ของเมืองเฮลซิงกิก็คือภายในบริเวณเมืองยังมีรถรางให้บริการ โดยนักท่องเที่ยวก็สามารถโดยสารด้วยรถรางเพื่อไปยังที่เที่ยวเฮลซิงกิต่างๆ ได้ ด้วยราคาที่ไม่แพง 

• รถไฟใต้ดิน (Metro) การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะภายในเมืองเฮลซิงกินั้นค่อนข้างจะสะดวกสบาย และมีตัวเลือกให้เลือกเยอะ อย่างเช่นการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง เพราะเดินทางง่าย ใครก็เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินภายในเฮลซิงกิได้ แถมราคาไม่แพง 

• เรือ (Ferry) นอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถไฟ และรถบัส ที่เมืองเฮลซิงกิ ก็ยังมีการโดยสารด้วยท่าเรือเฟอร์รี่ ข้ามไปยังที่เที่ยวเฮลซิงกิ และที่เที่ยวฟินแลนด์ต่างๆ 

• จักรยาน (Bike) ถ้าใครไม่อยากใช้บริการขนส่งสาธารณะที่เมืองฟินแลนด์ แนะนำให้ลองเช่าจักรยานขี่ให้ทั่วเมืองดู เพราะว่าระบบจักรยานของเฮลซิงกินั้นค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนการรีบเร่งชมเมืองภายในหนึ่งถึงสองวัน มาเป็นการสโลว์ไลฟ์ค่อยๆ ปั่นจักรยานไปรอบเมืองเฮลซิงกิดู 

สถานที่เที่ยวสำคัญเฮลซิงกิ 

1. มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเฮลซิงกิ แนะนำให้ปักหมุดเอาไว้ สำหรับใครที่มีแพลนจะมาเที่ยวเฮลซิงกิในเร็วๆ นี้ โดยมหาวิหารแห่งนี้งดงาม และอลังการด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก คุมโทนด้วยสีขาวตัดเขียวของยอดโดม โดยมหาวิหารนี้เป็นของศาสนาคริสต์นิกายลูเธอร์ราน ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดดเด่นด้วยรูปปั้นของเหล่าสาวก 12 ของอยู่ตามหลังคาโบสถ์ 
2. ซัวเมนลินน่า (Suomenlinna) รับรองเลยว่าคุณจะต้องตื่นตะลึงไปกับวิวอันแสนจะงดงามแทบจะลืมหายใจ ของเมืองเฮลซิงกิที่ซัวเมนลินน่าอย่างแน่นอน ซึ่งการเดินทางไปยังซัวเมนลินน่า นั้นจะต้องข้ามเรือไป โดยเป็นป้อมปราการที่อยู่บนเกาะ บริเวณนี้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก บนเกาะนี้จะมีทั้งโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ โรงแรม คนส่วนใหญ่นิยมข้ามมาเที่ยวที่ซัวเมนลินน่าแบบวันเดย์ทริป เพราะเต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม 
3. โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ (Temppeliaukio Church) หรือที่หลายคนเรียกชื่อโบสถ์นี้ว่า โบสถ์หิน เป็นโบสถ์ที่ได้กลายมาเป็นที่เที่ยวเฮลซิงกิที่ไม่ควรพลาด เพราะว่ามีสถาปัตยกรรมอันงดงามแปลกตาเป็นอย่างมาก โดยการก่อสร้างโบสถ์นี้ขึ้นมาได้ด้วยการระเบิดหินจากชั้นหินธรรมชาติ ด้านในจะเหมือนถูกสร้างด้วยหินธรรมชาติล้อมรอบ คล้ายกับอยู่ภายในถ้ำ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าโบสถ์นี้จะเป็นโบสถ์แห่งความรัก หากใครที่มาแต่งงาน หรือว่าขอพรก็จะสมหวังเรื่องความรักไปทุกประการ 
4. ตลาดนัดริมทะเล (Market Square) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเฮลซิงกิ และเป็นที่เที่ยวในฟินแลนด์ที่โด่งดัง และได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับตลาดนัดริมทะเล นักท่องเที่ยวชอบมาเดินเล่น ซื้อของ เพราะว่าเป็นตลาดนัดที่คุณจะได้สัมผัสถึงความเป็นฟินแลนด์ ได้ชมวิถีชีวิตของคนฟินแลนด์ ได้เลือกซื้อของสด อาหาร และผลิตภัณฑ์มากมาย นับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีคนเดินเยอะทั้งกลางวันกลางวัน เพราะไม่มีเวลาเปิดปิด มีการค้าขายกันตลอด 24 ชั่วโมง 
5. อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument) อนุสาวรีย์รูปร่างแปลกตานี้ ได้กลายมาเป็นที่เที่ยวแห่งสำคัญของเมืองเฮลซิงกิไปซะแล้ว โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ได้ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะแห่งเมืองเฮลซิงกิ จุดประสงค์ที่ก่อตั้งขึ้นมาก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชาวฟินแลนด์ นามว่า Jean Sibelius โดยหลังจากที่นักแต่งเพลงคนนี้ได้เสียชีวิตลง ชาวฟินแลนด์เลยได้สร้างอนุสรณ์แห่งนี้ไว้ให้กับเขา และได้กลายมาเป็นที่เที่ยวเฮลซิงกิแห่งสำคัญ 

เทศกาลสำคัญในเฮลซิงกิ 

1. วันเฮลซิงกิ (Helsinki Day) เทศกาลนี้ไม่เชิงเป็นวันชาติของชาวเฮลซิงกิ แต่เป็นวันครบรอบเมืองเฮลซิงกินั่นเอง โดยจะมีการเฉลิมฉลองกันทุกปี วันที่ 12 มิถุนายนของทุกปี เป็นเทศกาลที่สำคัญ และยิ่งใหญ่มากในเมืองเฮลซิงกิ ภายในเมืองเฮลซิงกิจะเต็มไปด้วยการประดับประดาเมือง ผู้คนจะออกมาเฉลิมฉลอง และมีแต่ความรื่นเริง หากใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวเมืองเฮลซิงกิในช่วงเดือนนี้ ก็ลองแพลนไปช่วงเทศกาลดู
2. เทศกาลศิลปะ และดนตรี (Flow Festival) คนที่ชอบศิลปะ และดนตรีจะต้องถูกใจงานนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่จะมีการแสดงทั้งศิลปะ และดนตรีทั้งในฝั่งแสกนดิเนเวียนเอง และยุโรปประเทศอื่นๆ โดยเทศกาลนี้จะมีศิลปินมากมายกว่า 170 ชีวิตมาร่วมงาน งานนี้จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา 3 วันด้วยกัน 
3. เทศกาลเฮลซิงกิ (Helsinki Festival) ใครที่ชอบความมินิมอล หรือว่าสไตล์ของงานศิลปะแบบนอร์ดิก แนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะมาร่วมงานนี้เลย เพราะเป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในด้านของศิลปะ และงานดีไซน์ โดยจะเน้นสไตล์แบบนอร์ดิกโดยเฉพาะ ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนสิงหาคม หรือว่าต้นกันยายน 

เคล็ดลับการไปเที่ยวเฮลซิงกิ 

• - อยากประหยัดค่ารถสาธารณะ แนะนำให้ซื้อตั๋วขึ้นรถสาธารณะประเภทวันแบบเหมาไปเลย เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ มีให้เลือกทั้งตั๋วเที่ยวเดียว ตั๋ววัน และตั๋วสำหรับเดินทางระยะไกล 
• - แนะนำคนที่อยากอยู่เที่ยวเฮลซิงกิหลายวันให้ซื้อตั๋ว Helsinki Card ไปเลย เพราะว่าคุ้มค่ามากกว่า สามารถใช้แทนค่าเข้าชมในการเข้าสถานที่ต่างๆ รวมถึงเป็นส่วนลดร้านอาหารได้ด้วย 
• - ใครที่อยากเดินทางมาเที่ยวเฮลซิงกิจากกรุงสต็อกโฮม ก็สามารถเดินทางข้ามมาได้โดยเรือสำราญ แต่จะมีเวลาแวะเที่ยวเฮลซิงกิได้แค่แปปเดียว
• - ด้วยความที่เมืองเฮลซิงกินั้นเป็นศูนย์กลางในเรื่องของศิลปะ แนะนำว่าหากใครที่มีแพลนไปเที่ยวเฮลซิงกิก็อย่าลืมเช็คตารางการแสดงผลงาน หรืองานเทศกาลต่างๆ ดู