https://ik.imagekit.io/tvlk/image/imageResource/2022/11/23/1669183273517-521b34536bbb4f6453d354336655cd1b.jpeg?tr=q-75
จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปอิสราเอลที่ Traveloka

จองตั๋วเครื่องบิน
บริการรับส่งสนามบิน
เที่ยวเดียว / ไป-กลับ
เดินทางหลายเมือง

เปิดแผนที่

จาก
ถึง
จำนวนผู้โดยสาร
ชั้นโดยสาร
ค้นหาเที่ยวบิน
การแจ้งเตือนราคาเที่ยวบิน

จองตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาถูกกับ Traveloka

จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกกับ Traveloka หลากหลายเส้นทาง พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดตั๋วเครื่องบินอีกเพียบ!

จองตั๋วราคาถูกด้วยคูปองส่วนลดจาก Traveloka

ใส่ส่วนลดเพื่อจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกกับ Traveloka รีบจองก่อนดีลจบเลย!
เที่ยวบิน

ส่วนลดเที่ยวบิน

ใช้ได้กับการจองครั้งแรกในแอป Traveloka เท่านั้น
TRAVELOKA
Copy

ข้อมูลเพิ่มเติมอิสราเอล

อิสราเอล (Israel) ประเทศในตะวันออกกลางด้านหนึ่งติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเลบานอน ซีเรีย จอร์เเดน รวมถึงอียิปต์ และที่ตั้งของประเทศยังเป็นจุดเชื่อมของ 3 ทวีป คือ ยุโรป เอเชีย เเละแอฟริกา อิสราเอลยังมีศาสนา ภาษาและวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาหลายพันปี และมีพื้นที่ที่ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของ 3 ศาสนา คือ ยูดาห์ คริสต์ และอิสลาม

อิสราเอล เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใคร นอกจากจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ทรงพลังแล้ว ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งทิวทัศน์ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ป่าไม้เขียวชอุ่ม ทะเลที่ไม่มีวันจม ชายหาดที่สวยงาม และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายสำหรับใครนักเดินทางทุกวัย  และทุกประเภท และนี่คือข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปอิสราเอลได้เร็วขึ้น

 

สกุลเงิน

อิสราเอลใช้เงินสกุล นิวเชเกลอิสราเอล (New Israeli Shekel - NIS ) โดย 1 เซเกล เท่ากับ 100  Agorot แบ่งออกเป็น

ธนบัตรได้แก่   20 , 50, 100 และ 200 เชเกล

เหรียญ ได้แก่ 10 Agorot และ 0.5, 1 , 2 ,5 ,10 เชเกล  

โดย 1 นิวเชเกลอิสราเอล เท่ากับ 10.52 บาท

 

ฤดูกาลของอิสราเอล

อิสราเอลมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค ทั้งเขตภูมิอากาศแบบกึ่งเขตร้อน และแบบร้อนชื้นและแห้งแล้ง ทางเหนือมักจะเย็นกว่าเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลทราย ทางใต้สามารถว่ายน้ำได้ตลอดทั้งปี ทะเลทรายเนเกฟเป็นส่วนที่แห้งแล้งที่สุด อิสราเอลมี 2 ฤดู ได้แก่ 

  • ฤดูร้อน ( เมษายน – ตุลาคม) ฤดูร้อนของอิสราเอลมีความหลากหลายและยาวนาน ทั้งร้อนอบอ้าว แห้งไปจนถึงอุ่น ตามลักษณะพื้นที่ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 28 - 30 องศาเซลเซียส พฤษภาคมเป็นช่วงเปิดชายหาดที่ทะเลเมดิเตอเรเนียน
  • ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม) อากาศอบอุ่นค่อนข้างเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ระหว่าง 10 -  25  องศาเซลเซียส มกราคมเป็นเดือนที่ฝนตกชุกที่สุด น้ำทะเลแดงเย็นลงถึง 21 องศาเซลเซียส และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีอุณหภูมิประมาณ 17 องศาเซลเซียส

 

ภูมิภาคของอิสราเอล

อิสราเอลแบ่งออกเป็น 6 ภูมิภาค ได้แก่ 

  • ภาคเหนือ (Northern) เป็นพื้นที่แถบภูเขาและที่ราบสูง เป็นที่ตั้งของเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลที่ชื่อ “นาซาเรธ” เมืองหลวงของภูมิภาคนี้คือนอฟฮากาลิล ส่วนที่ราบสูงกาลิลและโกลันก็อยู่ในภูมิภาคนี้เช่นกัน
  • หุบเขายิสเรล (Jezreel Valleys) ดินแดนแห่งนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของอิสราเอล ที่ราบอันอุดมสมบูรณ์และถนนที่คดเคี้ยวสวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา มีเมืองหลวงชื่ออาฟูลา
  • หุบเขาจอร์แดน (Jordan Valley) เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างจอร์แดนทางทิศตะวันออกกับอิสราเอล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน ทอดยาวจากทะเลกาลิลีไปจนถึงทะเลเดดซี เป็นที่ตั้งของเมืองเจริโค หนึ่งในเมืองปาเลสไตน์ที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาจอร์แดน
  • ภาคกลาง (Central) ประกอบด้วยภูมิทัศน์จากทางใต้ของไฮฟาทางตอนเหนือถึงเทลอาวีฟทางตอนใต้  รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบชารอน เมืองหลวงคือรามลา 
  • เขตจูเดียและเขตเยรูซาเลม (Judea district and Jerusalem) พื้นที่ภูเขาทางตอนใต้ของอิสราเอล และเป็นส่วนหนึ่งของเวสต์แบงก์ เมืองหลวงของภูมิภาคนี้คือเยรูซาเลม  
  • ภาคใต้ (Southern) เป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมภูมิพื้นที่ตั้งแต่ทางใต้ของที่ราบอัชเคลอน  ไปจนถึงทะเลทรายเนเกฟ และหุบเขาอราวา เมืองหลวง คือเบียร์เชบา ในขณะที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดคืออัชโดด

 

สนามบินสำคัญในอิสราเอล

  1. สนามบินนานาชาติเบนกูเรียน (Ben Gurion International Airportเป็นสนามบินหลักของอิสราเอล และเป็น 1 ใน 5 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดของตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเทลอาวีฟ 19 กิโลเมตร  
  2. สนามบินไฮฟา  (Haifa Airport) สนามบินหลักของเมืองท่าไฮฟา เป็นสนามบินขนาดเล็กที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง ใกล้กับท่าเรือคีชนและอู่ต่อเรือของอิสราเอล
  3. สนามบินนานาชาติรามอน   (Ramon International  Airport) สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิสราเอล ตั้งอยู่ในหุบเขาทิมมา ทางตอนใต้ของอิสราเอล ห่างจากเมืองเอเลียต 18 กิโลเมตร 

 

การเดินทางไปอิสราเอล 

สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินต่อ (พัก 1 - 2 จุด) ได้แก่ การบินไทย (Thai Airways) รอยัลจอร์แดนเนียล (Royal Jordanian) คาเธย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) เตอร์กิซแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines) เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ (Ethiopian Airlines) เอทิฮัดแอร์เวย์ (Etihad Airways) แอล อัลอิสราเอลแอร์ไลน์ (El Al Israel Airlines) 

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 5 นาที 

 

การเดินทางในอิสราเอล 

  • เครื่องบิน (Plane) เป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว และราคาตั๋วค่อนข้างถูก สนามบินนานาชาติหลักคือสนามบินนานาชาติเบนกูเรียน (Ben Gurion International Airport) ตั้งอยู่นอกเมืองเทลอาวีฟ  และมี “แอลอัลอิสราเอลแอร์ไลน์” (El Al Israel Airlines) หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “แอลอัล” เป็นสายการบินเเห่งชาติ 
  • รถโดยสาร (ฺฺฺBus) เป็นวิธีเดินทางระหว่างเมืองที่รวดเร็วที่สุดและถูกที่สุด บริษัทรถโดยสารของอิสราเอล ได้แก่ Egged, Dan, Afikim, Metropoline, Kavim และ Nateev Express 
  • รถมินิบัส (Mini Bus) หรือที่ชาวอิสราเอลเรียกว่า “เฌอรุต” (Sherut) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกในการเดินทางในอิสราเอล สามารถขึ้นลงได้ทุกจุดที่ต้องการ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • รถไฟ (Train) มีเครือข่ายเชื่อมโยงเมืองใหญ่ๆ อย่างเทลอาวีฟ นอกจากนี้ยังมีรถไฟความเร็วสูงไป - กลับ จากกรุงเยรูซาเล็ม ผ่านสนามบินนานาชาติเบนกูเรียน เวลาในการเดินทางน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง และราคาตั๋วเที่ยวเดียวอยู่ที่ประมาณ $ 5-6 ดอลลาร์สหรัฐ
  • รถยนต์ (Car) ไม่เหมาะกับการเดินทางในเมืองใหญ่ อย่างเทลอาวีฟและเยรูซาเล็ม เพราะหาที่จอดรถยาก เหมาะสำหรับการสำรวจพื้นที่ชนบทที่งดงาม
  • แท็กซี่ (Taxi) เป็นวิธีที่สะดวก แต่อย่าลืมยันราคาก่อนเดินทาง ราคาอาจแตกต่างกันไปในระหว่างวันในช่วงวันหยุดถือบวช และวันหยุดของชาวยิว อาจต้องจ่ายเพิ่มอีก 25% สามารถเรียกรถผ่านแอพ GetTaxi ได้

 

เทศกาลสำคัญในอิสราเอล

  1. เทลกาลดอฟ (Doof Festival) เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุด และเก่าแก่ที่สุดของอิสราเอล จัดเป็นประจำทุกปีที่ชายฝั่งโกลัน ทางตะวันออกของทะเลกาลิลี ตลอด 3 วันของเทศกาล นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอิสราเอล จะได้เต็มอิ่มกับวัฒนธรรมและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จากดีเจชั้นนำของอิสราเอลและนานาชาติมากกว่า 50 คน
  2. เทศกาลซอร์บา (Zorba Festival) เทศกาลฮิปปี้ที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงเทศกาลสุคต ที่อาศรมทะเลทรายในเมืองเนเกฟ นี่คือเทศกาลที่ทุกด้านมาบรรจบกัน เป็นการผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณ การเต้นรำ การทำสมาธิ โยคะ ดนตรี ท่ามกลางความเงียบสงบของทะเลทราย
  3. เทศกาลป่าเมนาเช (Menashe Forest Festival) เทศกาลดนตรีฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของอิสราเอล จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 3 วันกับการตั้งแคมป์ ชมการแสดงดนตรีสดมากกว่า 100 รายการ จากวงดนตรีชั้นนำของอิสราเอล ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวอันกว้างใหญ่ของเขตสงวนชีวมณฑลเมกิดโด ระหว่างสองฝั่งของแม่น้ำเคนิ หนึ่งในภูมิประเทศที่สวยงามและเงียบสงบที่สุดในอิสราเอล 

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในอิสราเอล

  1. เมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) “เทลอาวีฟ” เป็นหนึ่งในเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลก เมืองหลวงทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญ เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่กล่าวกันว่าเก่าแก่มากที่สุดในโลก จุดหมายปลายทางยอดนิยมคือชายหาดทรายขาว น้ำทะเลอุ่น ทางเดินเลียบหาด ซึ่งเรียงรายด้วยอาคารสีขาว ร้านอาหาร ร้านค้าและตลาดนัดที่คึกคัก พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะและจัตุรัสราบิน
  2. เยรูซาเร็ม (Jerusalem) เมืองหลวงของอิสราเอล “เยรูซาเล็ม” คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์มากมาย เป็นศูนย์กลางศาสนาทั้งคริสต์ อิสลาม และยูดาห์ของชาวยิว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ ถูกฝังและฟื้นคืนพระชนม์ในกรุงเยรูซาเล็ม มีสถานที่สำคัญหลายแห่งให้เยี่ยมชม เช่น กำแพงร้องไห้, โบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์, กำแพงด้านตะวันตกที่มีอุโมงค์ใต้ดิน, หอคอยเดวิด, สุสานในสวน และสระน้ำเบเทสดา  
  3. ทะเลเดดซี (Dead Sea) “ทะเลเดดซี” หรือทะเลที่ไม่มีวันจมอันโด่งดัง อยู่ระหว่าง 2 ประเทศคือ จอร์แดนและอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลจะเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่า “ยัมฮาเมละฮ์” หมายความว่า “ทะเลเกลือ”  ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะมานอนลอยตัวเล่น และพอกโคลนหรือสปาโคลนเดดซี เพื่อช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น ช่วงที่เหมาะสมมาเที่ยวชมคือช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม  
  4. ทะเลทรายเนเกฟ  (Nagef Desert) ทะเลทรายเนเกฟ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ทางตะวันตกติดคาบสมุทรซีนาย ครอบคลุมกว่าครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของอิสราเอล เป็นที่ตั้งของแหล่งโบราณคดีสำคัญที่เมืองเบียร์เชบา และมีความงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดดเด่นที่สุดคือหลุมอุกกาบาตรามอน ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลิน ทั้งทัวร์ด้วยรถจี๊ป ยิงธนูทะเลทราย และโรยตัวจากหน้าผา 
  5. ทะเลกาลิลี (Sea of Galilee) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล มีทิวทัศน์สวยงามและมีหลายชื่อเรียก โดยชาวยิวเรียกว่า "ทะเลสาบเคนเนอริต" จากรูปร่างของทะเลสาบมีลักษณะคล้ายกับไม้ค้ำยัน ส่วนชาวอาหรับเรียกว่า "ทะเลสาบทิเบเรียส" ตามชื่อเมืองทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ กิจกรรมยอดนิยมคือ ล่องเรือนำเที่ยว และลิ้มรสอาหารพิเศษในท้องถิ่น คือ ปลาย่างที่เป็นเมนูขึ้นชื่อที่นี่ยัมีโรงแรมและบ้านพักให้บริการมากมาย

 

เคล็ดลับการเดินทางไปอิสราเอล

  • ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีดังนั้นคุณจึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เกือบทุกที่ที่คุณไป
  • ตั๋วรถเมล์อิเล็กทรอนิกสฺ์ Rav Kav สามารถซื้อได้ที่สนามบิน และร้านสะดวกซื้อ ส่วนแอพ Moovit จะช่วยให้การเดินทางในอิสราเอลเป็นเรื่องง่าย
  • ก่อน 4 โมงเย็น ในช่วงวันสะบาโต เริ่มระหว่างพระอาทิตย์ตกดินในวันศุกร์ และสิ้นสุดหลังพระอาทิตย์ตกดินในวันเสาร์  บริการสาธารณะทั้งหมดปิดให้บริการ
  • อิสราเอลจะไม่ประทับตราในหนังสือเดินทาง แต่จะออกวีซ่าเป็นแผ่นกระดาษ ซึ่งต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี เพราะต้องใช้สำหรับการเดินทางออก
  • การเที่ยวในเยรูซาเล็ม แนะนำให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงยาวเหนือเข่า

อิสราเอล (Israel) ประเทศในตะวันออกกลางด้านหนึ่งติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเลบานอน ซีเรีย จอร์เเดน รวมถึงอียิปต์ และที่ตั้งของประเทศยังเป็นจุดเชื่อมของ 3 ทวีป คือ ยุโรป เอเชีย เเละแอฟริกา อิสราเอลยังมีศาสนา ภาษาและวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาหลายพันปี และมีพื้นที่ที่ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของ 3 ศาสนา คือ ยูดาห์ คริสต์ และอิสลาม

อิสราเอล เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใคร นอกจากจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ทรงพลังแล้ว ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งทิวทัศน์ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ป่าไม้เขียวชอุ่ม ทะเลที่ไม่มีวันจม ชายหาดที่สวยงาม และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายสำหรับใครนักเดินทางทุกวัย  และทุกประเภท และนี่คือข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปอิสราเอลได้เร็วขึ้น

 

สกุลเงิน

อิสราเอลใช้เงินสกุล นิวเชเกลอิสราเอล (New Israeli Shekel - NIS ) โดย 1 เซเกล เท่ากับ 100  Agorot แบ่งออกเป็น

ธนบัตรได้แก่   20 , 50, 100 และ 200 เชเกล

เหรียญ ได้แก่ 10 Agorot และ 0.5, 1 , 2 ,5 ,10 เชเกล  

โดย 1 นิวเชเกลอิสราเอล เท่ากับ 10.52 บาท

 

ฤดูกาลของอิสราเอล

อิสราเอลมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค ทั้งเขตภูมิอากาศแบบกึ่งเขตร้อน และแบบร้อนชื้นและแห้งแล้ง ทางเหนือมักจะเย็นกว่าเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลทราย ทางใต้สามารถว่ายน้ำได้ตลอดทั้งปี ทะเลทรายเนเกฟเป็นส่วนที่แห้งแล้งที่สุด อิสราเอลมี 2 ฤดู ได้แก่ 

  • ฤดูร้อน ( เมษายน – ตุลาคม) ฤดูร้อนของอิสราเอลมีความหลากหลายและยาวนาน ทั้งร้อนอบอ้าว แห้งไปจนถึงอุ่น ตามลักษณะพื้นที่ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 28 - 30 องศาเซลเซียส พฤษภาคมเป็นช่วงเปิดชายหาดที่ทะเลเมดิเตอเรเนียน
  • ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม) อากาศอบอุ่นค่อนข้างเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ระหว่าง 10 -  25  องศาเซลเซียส มกราคมเป็นเดือนที่ฝนตกชุกที่สุด น้ำทะเลแดงเย็นลงถึง 21 องศาเซลเซียส และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีอุณหภูมิประมาณ 17 องศาเซลเซียส

 

ภูมิภาคของอิสราเอล

อิสราเอลแบ่งออกเป็น 6 ภูมิภาค ได้แก่ 

  • ภาคเหนือ (Northern) เป็นพื้นที่แถบภูเขาและที่ราบสูง เป็นที่ตั้งของเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลที่ชื่อ “นาซาเรธ” เมืองหลวงของภูมิภาคนี้คือนอฟฮากาลิล ส่วนที่ราบสูงกาลิลและโกลันก็อยู่ในภูมิภาคนี้เช่นกัน
  • หุบเขายิสเรล (Jezreel Valleys) ดินแดนแห่งนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของอิสราเอล ที่ราบอันอุดมสมบูรณ์และถนนที่คดเคี้ยวสวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา มีเมืองหลวงชื่ออาฟูลา
  • หุบเขาจอร์แดน (Jordan Valley) เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างจอร์แดนทางทิศตะวันออกกับอิสราเอล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน ทอดยาวจากทะเลกาลิลีไปจนถึงทะเลเดดซี เป็นที่ตั้งของเมืองเจริโค หนึ่งในเมืองปาเลสไตน์ที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาจอร์แดน
  • ภาคกลาง (Central) ประกอบด้วยภูมิทัศน์จากทางใต้ของไฮฟาทางตอนเหนือถึงเทลอาวีฟทางตอนใต้  รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบชารอน เมืองหลวงคือรามลา 
  • เขตจูเดียและเขตเยรูซาเลม (Judea district and Jerusalem) พื้นที่ภูเขาทางตอนใต้ของอิสราเอล และเป็นส่วนหนึ่งของเวสต์แบงก์ เมืองหลวงของภูมิภาคนี้คือเยรูซาเลม  
  • ภาคใต้ (Southern) เป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมภูมิพื้นที่ตั้งแต่ทางใต้ของที่ราบอัชเคลอน  ไปจนถึงทะเลทรายเนเกฟ และหุบเขาอราวา เมืองหลวง คือเบียร์เชบา ในขณะที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดคืออัชโดด

 

สนามบินสำคัญในอิสราเอล

  1. สนามบินนานาชาติเบนกูเรียน (Ben Gurion International Airportเป็นสนามบินหลักของอิสราเอล และเป็น 1 ใน 5 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดของตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเทลอาวีฟ 19 กิโลเมตร  
  2. สนามบินไฮฟา  (Haifa Airport) สนามบินหลักของเมืองท่าไฮฟา เป็นสนามบินขนาดเล็กที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง ใกล้กับท่าเรือคีชนและอู่ต่อเรือของอิสราเอล
  3. สนามบินนานาชาติรามอน   (Ramon International  Airport) สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิสราเอล ตั้งอยู่ในหุบเขาทิมมา ทางตอนใต้ของอิสราเอล ห่างจากเมืองเอเลียต 18 กิโลเมตร 

 

การเดินทางไปอิสราเอล 

สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินต่อ (พัก 1 - 2 จุด) ได้แก่ การบินไทย (Thai Airways) รอยัลจอร์แดนเนียล (Royal Jordanian) คาเธย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) เตอร์กิซแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (Emirates Airlines) เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ (Ethiopian Airlines) เอทิฮัดแอร์เวย์ (Etihad Airways) แอล อัลอิสราเอลแอร์ไลน์ (El Al Israel Airlines) 

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 5 นาที 

 

การเดินทางในอิสราเอล 

  • เครื่องบิน (Plane) เป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว และราคาตั๋วค่อนข้างถูก สนามบินนานาชาติหลักคือสนามบินนานาชาติเบนกูเรียน (Ben Gurion International Airport) ตั้งอยู่นอกเมืองเทลอาวีฟ  และมี “แอลอัลอิสราเอลแอร์ไลน์” (El Al Israel Airlines) หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “แอลอัล” เป็นสายการบินเเห่งชาติ 
  • รถโดยสาร (ฺฺฺBus) เป็นวิธีเดินทางระหว่างเมืองที่รวดเร็วที่สุดและถูกที่สุด บริษัทรถโดยสารของอิสราเอล ได้แก่ Egged, Dan, Afikim, Metropoline, Kavim และ Nateev Express 
  • รถมินิบัส (Mini Bus) หรือที่ชาวอิสราเอลเรียกว่า “เฌอรุต” (Sherut) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกในการเดินทางในอิสราเอล สามารถขึ้นลงได้ทุกจุดที่ต้องการ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • รถไฟ (Train) มีเครือข่ายเชื่อมโยงเมืองใหญ่ๆ อย่างเทลอาวีฟ นอกจากนี้ยังมีรถไฟความเร็วสูงไป - กลับ จากกรุงเยรูซาเล็ม ผ่านสนามบินนานาชาติเบนกูเรียน เวลาในการเดินทางน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง และราคาตั๋วเที่ยวเดียวอยู่ที่ประมาณ $ 5-6 ดอลลาร์สหรัฐ
  • รถยนต์ (Car) ไม่เหมาะกับการเดินทางในเมืองใหญ่ อย่างเทลอาวีฟและเยรูซาเล็ม เพราะหาที่จอดรถยาก เหมาะสำหรับการสำรวจพื้นที่ชนบทที่งดงาม
  • แท็กซี่ (Taxi) เป็นวิธีที่สะดวก แต่อย่าลืมยันราคาก่อนเดินทาง ราคาอาจแตกต่างกันไปในระหว่างวันในช่วงวันหยุดถือบวช และวันหยุดของชาวยิว อาจต้องจ่ายเพิ่มอีก 25% สามารถเรียกรถผ่านแอพ GetTaxi ได้

 

เทศกาลสำคัญในอิสราเอล

  1. เทลกาลดอฟ (Doof Festival) เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุด และเก่าแก่ที่สุดของอิสราเอล จัดเป็นประจำทุกปีที่ชายฝั่งโกลัน ทางตะวันออกของทะเลกาลิลี ตลอด 3 วันของเทศกาล นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปอิสราเอล จะได้เต็มอิ่มกับวัฒนธรรมและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จากดีเจชั้นนำของอิสราเอลและนานาชาติมากกว่า 50 คน
  2. เทศกาลซอร์บา (Zorba Festival) เทศกาลฮิปปี้ที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงเทศกาลสุคต ที่อาศรมทะเลทรายในเมืองเนเกฟ นี่คือเทศกาลที่ทุกด้านมาบรรจบกัน เป็นการผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณ การเต้นรำ การทำสมาธิ โยคะ ดนตรี ท่ามกลางความเงียบสงบของทะเลทราย
  3. เทศกาลป่าเมนาเช (Menashe Forest Festival) เทศกาลดนตรีฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของอิสราเอล จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 3 วันกับการตั้งแคมป์ ชมการแสดงดนตรีสดมากกว่า 100 รายการ จากวงดนตรีชั้นนำของอิสราเอล ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวอันกว้างใหญ่ของเขตสงวนชีวมณฑลเมกิดโด ระหว่างสองฝั่งของแม่น้ำเคนิ หนึ่งในภูมิประเทศที่สวยงามและเงียบสงบที่สุดในอิสราเอล 

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในอิสราเอล

  1. เมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) “เทลอาวีฟ” เป็นหนึ่งในเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลก เมืองหลวงทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญ เป็นที่ตั้งของท่าเรือที่กล่าวกันว่าเก่าแก่มากที่สุดในโลก จุดหมายปลายทางยอดนิยมคือชายหาดทรายขาว น้ำทะเลอุ่น ทางเดินเลียบหาด ซึ่งเรียงรายด้วยอาคารสีขาว ร้านอาหาร ร้านค้าและตลาดนัดที่คึกคัก พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะและจัตุรัสราบิน
  2. เยรูซาเร็ม (Jerusalem) เมืองหลวงของอิสราเอล “เยรูซาเล็ม” คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์มากมาย เป็นศูนย์กลางศาสนาทั้งคริสต์ อิสลาม และยูดาห์ของชาวยิว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ ถูกฝังและฟื้นคืนพระชนม์ในกรุงเยรูซาเล็ม มีสถานที่สำคัญหลายแห่งให้เยี่ยมชม เช่น กำแพงร้องไห้, โบสถ์แห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์, กำแพงด้านตะวันตกที่มีอุโมงค์ใต้ดิน, หอคอยเดวิด, สุสานในสวน และสระน้ำเบเทสดา  
  3. ทะเลเดดซี (Dead Sea) “ทะเลเดดซี” หรือทะเลที่ไม่มีวันจมอันโด่งดัง อยู่ระหว่าง 2 ประเทศคือ จอร์แดนและอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลจะเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่า “ยัมฮาเมละฮ์” หมายความว่า “ทะเลเกลือ”  ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะมานอนลอยตัวเล่น และพอกโคลนหรือสปาโคลนเดดซี เพื่อช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น ช่วงที่เหมาะสมมาเที่ยวชมคือช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม  
  4. ทะเลทรายเนเกฟ  (Nagef Desert) ทะเลทรายเนเกฟ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ทางตะวันตกติดคาบสมุทรซีนาย ครอบคลุมกว่าครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของอิสราเอล เป็นที่ตั้งของแหล่งโบราณคดีสำคัญที่เมืองเบียร์เชบา และมีความงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดดเด่นที่สุดคือหลุมอุกกาบาตรามอน ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลิน ทั้งทัวร์ด้วยรถจี๊ป ยิงธนูทะเลทราย และโรยตัวจากหน้าผา 
  5. ทะเลกาลิลี (Sea of Galilee) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล มีทิวทัศน์สวยงามและมีหลายชื่อเรียก โดยชาวยิวเรียกว่า "ทะเลสาบเคนเนอริต" จากรูปร่างของทะเลสาบมีลักษณะคล้ายกับไม้ค้ำยัน ส่วนชาวอาหรับเรียกว่า "ทะเลสาบทิเบเรียส" ตามชื่อเมืองทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ กิจกรรมยอดนิยมคือ ล่องเรือนำเที่ยว และลิ้มรสอาหารพิเศษในท้องถิ่น คือ ปลาย่างที่เป็นเมนูขึ้นชื่อที่นี่ยัมีโรงแรมและบ้านพักให้บริการมากมาย

 

เคล็ดลับการเดินทางไปอิสราเอล

  • ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีดังนั้นคุณจึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เกือบทุกที่ที่คุณไป
  • ตั๋วรถเมล์อิเล็กทรอนิกสฺ์ Rav Kav สามารถซื้อได้ที่สนามบิน และร้านสะดวกซื้อ ส่วนแอพ Moovit จะช่วยให้การเดินทางในอิสราเอลเป็นเรื่องง่าย
  • ก่อน 4 โมงเย็น ในช่วงวันสะบาโต เริ่มระหว่างพระอาทิตย์ตกดินในวันศุกร์ และสิ้นสุดหลังพระอาทิตย์ตกดินในวันเสาร์  บริการสาธารณะทั้งหมดปิดให้บริการ
  • อิสราเอลจะไม่ประทับตราในหนังสือเดินทาง แต่จะออกวีซ่าเป็นแผ่นกระดาษ ซึ่งต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี เพราะต้องใช้สำหรับการเดินทางออก
  • การเที่ยวในเยรูซาเล็ม แนะนำให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงยาวเหนือเข่า

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ
Garuda Indonesia

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย