เที่ยวโอซาก้า ซื้อเป็นแพคเกจที่พักพร้อมตั๋วเครื่องบินราคาถูกกว่า
โอซาก้าถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญมากอีกเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายบรรยากาศ ทั้งในแบบโบราณและสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเดินทางง่ายและมีอาหารอร่อยขึ้นชื่อลือชาอยู่เป็นจำนวนมากและหลากหลาย เพราะโอซาก้าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชาวต่างชาติเข้าไปตั้งรกรากอยู่มากมาย จึงมีอาหารจากนานาชาติให้ได้เลือกชิม หากต้องการสำรวจและเที่ยวโอซาก้าให้ครบอย่างสุดคุ้ม ก็จองกับ Traveloka เลย! เรารวบรวมที่พักและตั๋วเครื่องบินที่เหมาะกับคุณและสามารถช่วยให้ประหยัดได้ขึ้นหลายเท่าตัวเลย!
โอซาก้าตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของภูมิภาค Kinki หรือ Kansai ของประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น แต่โอซาก้ากลับได้ชื่อว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรหนาแน่นอยู่ใน 3 อันดับแรกของประเทศ นับเป็นเมืองที่มีความสำคัญและมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนานมากว่า 1,400 ปี มีชัยภูมิที่ตั้งดีเพราะมีภูเขาโอบล้อมถึง 3 ด้าน และด้านหน้าหันเข้าหาอ่าวโอซาก้า ทำให้เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางสำคัญของการค้าขายและการขนส่งทั้งทางบกและทางทะเลมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นอย่างนาราและเกียวโต โอซาก้าจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากมาตั้งแต่สมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหาร จนได้รับสมญานามว่าเป็น ‘ครัวของชาติ’ ในสมัยเอโดะเลยทีเดียว
ปัจจุบัน โอซาก้าถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญมากอีกเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายบรรยากาศ ทั้งในแบบโบราณและสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเดินทางง่ายและมีอาหารอร่อยขึ้นชื่อลือชาอยู่เป็นจำนวนมากและหลากหลาย เพราะโอซาก้าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชาวต่างชาติเข้าไปตั้งรกรากอยู่มากมาย จึงมีอาหารจากนานาชาติให้ได้เลือกชิม
ปัจจุบันการเดินทางไปยังเมืองโอซาก้าทำได้ไม่ยาก เพราะมีเที่ยวบินมากมายบินตรงจากกรุงเทพฯ และสามารถเดินทางได้ง่ายดายจากโตเกียว เพราะมีทั้งรถไฟความเร็วสูง รถบัส และเที่ยวบินภายในประเทศให้เลือกมากมาย อีกทั้งการเดินทางท่องเที่ยวในโอซาก้าเองก็ทำได้ไม่ยาก เพราะสะดวกสบายและมีให้เลือกหลากหลายวิธี ตั้งแต่การเดินทางยอดนิยมอย่างรถไฟ ที่ให้บริการไปยังสถานที่หลักต่างๆ ในตัวเมืองโอซาก้า ซึ่งมีให้เลือกทั้งรถไฟใต้ดินและรถไฟบนดิน JR นอกจากนั้นยังมีรถไฟที่วิ่งตรงไปยังสนามบินคันไซ รวมถึงรถไฟที่เชื่อมต่อโอซาก้ากับเมืองใหญ่เมืองอื่นในภูมิภาคเดียวกันและใกล้เคียงอีกด้วย หรือจะเลือกใช้รถบัสประจำทาง รถแท็กซี่ หรือเช่ารถยนต์ขับท่องเที่ยวเองก็มีให้บริการเช่นกัน
ด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางที่เทียบได้กับเมืองหลวงอย่างโตเกียว แถมยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานและเก่าแก่ ทำให้โอซาก้าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวมักจะปักหมุดมาเยือนเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งสามารถตอบได้ทุกโจทย์ความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบดูโบราณสถานและประวัติศาสตร์ หรือจะชอบแสงสีและความทันสมัย รวมไปถึงตอบสนองต่อสายช็อปและสายกินได้ชนิดที่เรียกว่าค่อนข้างสมบูรณ์แบบ จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกได้ชนิดที่เรียกว่าหัวกระไดบ้านไม่เคยแห้งเลยทีเดียว และหากคุณสนใจจะวางแผนท่องเที่ยวในโอซาก้า ลองมองหาความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พักจาก Traveloka ดูสิ มีหลายตัวช่วยเลยล่ะที่จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้น ลองมาดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอซาก้ากันก่อนดีกว่าว่าจะมีที่ไหนบ้าง?
ปราสาทแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอันดับต้นๆ ของโอซาก้าที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องมาเยือน ปราสาทโอซาก้าสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1583 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำแพงสูง คูน้ำ และสวนนิชิโนมารุล้อมรอบตัวปราสาทเอาไว้ สวนแห่งนี้จะงดงามชวนตะลึงสุดๆ ในช่วงเดือนเมษายน เพราะต้นซากุระกว่า 600 ต้นที่ถูกปลูกเอาไว้จะผลิดอกเบ่งบานชนิดตระการตาในระยะเวลาพร้อมๆ กัน ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันที่ 28 ธันวาคม – 1 มกราคม ของทุกปี) ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม คนละ 600 เยน
สวนสนุกชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งพลาดไม่ได้หากไปเยือนเมืองโอซาก้า เพราะนอกจากจะมีเครื่องเล่นมากมายหลายคอนเซ็ปท์หลากโซนให้เลือกได้ตามอัธยาศัยแล้ว ยังมี The Wizarding World of Harry Potter ซึ่งเหล่าคนรักโลกแห่งพ่อมดแม่มดจากหนังสือชื่อก้องโลก Harry Potter พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เรียกได้ว่ามาสวนสนุกแห่งนี้แค่ที่เดียว เหมือนได้กระชากวัยย้อนหลังกลับไปอีกหลายสิบปีเลยละ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 21.00 น.
อัตราค่าเข้าชม บัตร 1 วัน ผู้ใหญ่ 7,400 เยน / เด็ก 4,980 เยน / ผู้สูงอายุ 6,650 เยน บัตร 2 วัน ผู้ใหญ่ 12,450 เยน / เด็ก 8,420 เยน
อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญที่แวบเข้ามาในความคิดของทุกคนเป็นอันดับแรกๆ ยามพูดถึงโอซาก้า คงหนีไม่พ้นป้ายชายหนุ่มยืนยกขาหนึ่งข้าง แถมชูสองแขนด้วยความมั่นใจ ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงป้าย Glico สุดอมตะป้ายนั้นนั่นละ แล้วเจ้าป้ายนี้ก็ตั้งอยู่ในย่านกินช้อปแหล่งใหญ่ที่มีชื่อว่าโดทงโบริแห่งนี้นั่นเอง ละแวกนี้คืออีกหนึ่งสถานที่ซึ่งต้องมาให้ได้หากไปโอซาก้า เพราะรวบรวมสินค้ามากมายหลายประเภท รวมถึงมีร้านอาหารรสเด็ดชื่อดังอีกเพียบ บอกได้คำเดียวว่าต้องมา!
เปิดบริการทุกวัน ส่วนใหญ่ร้านค้าจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
นี่คือสถานที่ที่คนรักธรรมชาติใต้ท้องทะเลพลาดไม่ได้! และถึงแม้คุณจะไม่ได้โปรดปรานโลกใต้ทะเลมากมาย ก็ขอบอกว่าพลาดไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะนี่คือหนึ่งในอควาเรียมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นอควาเรียมที่ดีที่สุดในเอเชียและในญี่ปุ่นเลยเชียวนะ ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอ่าวโอซาก้า มีสัตว์ต่างๆ ให้ชมถึงราว 620 สายพันธุ์ รวมๆ ประมาณ 30,000 ตัว ทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และอีกมากมายหลายสายพันธุ์ บอกได้ว่าเดินเพลินกันได้ทั้งวันและทั้งครอบครัวแน่นอน!
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2,300 เยน / ผู้สูงอายุ 2,000 เยน / เด็กอายุ 7 – 15 ปี 1,200 เยน และเด็กอายุ 4 – 6 ปี 600 เยน
นี่คือวัดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นวัดพุทธแห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีอายุราวๆ 1,400 ปี แม้จะผ่านเหตุไฟไหม้มาแล้วหลายครั้ง แต่ด้วยการรักษาและบูรณะที่ดีจึงทำวัดแห่งนี้ยังคงความสวยงามไว้ได้เหมือนในยุคที่เพิ่งสร้างเลยทีเดียว ด้านในมีเจดีย์ 5 ชั้นเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงยังมีสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นแท้แบบดั้งเดิม และพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสมบัติเก่าแก่ล้ำค่าของวัดนี้ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้แวะเยี่ยมชม
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.00 น.
อัตราค่าเข้าชม 300 เยน
ด้วยชื่อย่านที่แปลว่า ‘โลกใหม่’ ก็บ่งบอกได้ถึงความเจริญ คึกคัก และมีชีวิตชีวาของย่านนี้ได้เป็นอย่างดี ย่านนี้ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักการกินดื่ม เพราะอัดแน่นไปด้วยร้านรวงมากมายเรียงรายอยู่สองข้างทาง ตั้งแต่ร้านขนม ร้านอาหาร ไปจนถึงร้านกินดื่ม ซึ่งส่วนใหญ่เน้นหน้าตาและบรรยากาศในรูปแบบของร้านแบบญี่ปุ่นแท้ และมีหลายเมนูสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าให้หาเลือกชิมกันในจากในแถวนี้ด้วยนะ สายกินอย่าพลาดเชียว
แม้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะใช้โอซาก้าเป็นฐานการเดินทางต่อไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่รายรอบ มากกว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปท่องเที่ยวเฉพาะในเมืองนี้อย่างจริงจังตั้งใจ แต่จริงๆ แล้วที่นี่ยังมีสถานที่มากมายซึ่งน่าสนใจ ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แลนด์มาร์กใหม่ๆ รวมถึงแหล่งกินแหล่งช้อปมากมายที่รับรองว่าต้องถูกใจคนรักการใช้ชีวิตในเมืองแน่นอน และหากคุณสนใจ เรามีทริปเริ่มต้นท่องเที่ยวในโอซาก้า โดยใช้เวลา 4 วัน 3 คืน มาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อจะนำไปปรับใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวคุณเองได้แบบง่ายๆ แล้วอย่าลืมจองที่พักและตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka นะ เพื่อความสะดวก ครบ จบในขั้นตอนเดียว
ก่อนจะเริ่มต้นท่องเที่ยวเมืองโอซาก้า ลองไปทำความรู้จักกับที่มาที่ไปและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนานของเมืองนี้กันที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า ดูก่อนดีมั้ย ที่นี่สร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมซึ่งเคยเป็นพระราชวังโบราณ Naniwa Toyogarasaki No Miya โดยทำการรวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ไว้ให้ได้เดินชมกัน ชั้นใต้ดินมีการอนุรักษ์ซากโบราณสถานที่ขุดค้นพบเอาไว้ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ที่ขุดเจอจากบริเวณนี้ ชั้นบนเป็นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน และมีโซนจำลองพระราชวังโบราณในสมัยนาราเอาไว้ได้แบบอลังการ โดยมีการผสมผสานทั้งการใช้เทคนิคกราฟิก ภาพยนตร์ และคอมพิวเตอร์ในการจัดแสดง
ได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์กันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาหาของอร่อยใส่ท้องกันบ้างดีกว่า หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าข้าวห่อไข่ก็มีจุดเริ่มต้นจากในละแวกนี้เช่นกัน แล้วไหนๆ มาถึงแหล่งต้นตำรับทั้งที ก็ควรได้กินรสมือในตำนานกันซักนิดสิจริงมั้ย แนะนำให้ไปลองเมนูข้าวห่อไข่ที่ร้าน Hokkyokusei ว่ากันว่าร้านนี้เป็นผู้ทดลองทำเมนูนี้เสิร์ฟให้กับลูกค้าตั้งแต่ปี ค.ศ. 1925 แนะนำให้มาที่สาขาชินไซบาชิ ซึ่งตัวอาคารเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 มาที่นี่ได้กินข้าวห่อไข่รสดั้งเดิมในบรรยากาศที่หาไม่ได้จากที่อื่นเลยนะ
ไหนๆ วันนี้ก็ยกให้ประวัติศาสตร์กันไปแล้ว จึงไม่ควรพลาดการมาเยือนวัด Shitennoji กันอีกซักหนึ่งที่ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นที่เก็บสมบัติเก่าแก่ล้ำค่าอีกมากมายซึ่งเปิดให้ได้ชมกันในระยะประชิด ปิดท้ายด้วยการเดินเล่นในสวนสวยแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ด้านใน ก็ถือเป็นการปิดท้ายวันแรกที่ชวนให้สงบสุขดีจริงๆ
จบวันแรกด้วยการดินเนอร์แบบไฮเอนด์ กับการกินซูชิและคอร์สอาหารแบบไคเซกิที่ร้าน Ganko Hiranogo-yashiki กับบรรยากาศคฤหาสน์ญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเศรษฐีในยุคเอโดะ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี ถือเป็นอาหารมื้อพิเศษภายใต้บรรยากาศแบบเด็ดๆ ที่อยากให้ได้มาลองกัน อ้อ ด้านในร้านมีพิพิธภัณฑ์ความเป็นอยู่ จัดแสดงกิโมโน เครื่องปั้นดินเผา และงานศิลปะโบราณแบบเก่าแก่ให้ได้ดูกันเพลินๆ ด้วยนะ
เปิดประเดิมวันที่ 2 ในโอซาก้ากันด้วยการเดินทางไปชมโลกใต้ทะเลและความน่ารักของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายกันที่ Osaka Aquarium Kaiyukan อะควาเรียมที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในเอเชีย และยิ่งใหญ่ในอันดับต้นๆ ของโลกเลยละ บอกได้ว่าถ้ามีเด็กๆ ไปด้วยน่าจะบันเทิง เพราะนอกจากเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้านในยังมีสวนสนุกและร้านอาหารมากมายที่รับรองได้ว่าจะทำให้เพลินจนลืมดูเวลากันแน่นอน!
ปราสาท Osaka คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้ในการมาเยือนเมืองนี้ ปราสาทเก่าแก่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติญี่ปุ่นไปแล้วเรียบร้อย ตัวปราสาทแบ่งเป็น 8 ชั้น ซึ่งเป็นความน่าอัศจรรย์ของเทคนิคการก่อสร้างของช่างในสมัยโบราณจริงๆ นอกจากจะได้เดินชมความยิ่งใหญ่อลังการของตัวปราสาททั้งภายในและภายนอกแล้ว ในบริเวณตัวปราสาทยังมีพิพิธภัณฑ์รวบรวมประวัติศาสตร์เก่าแก่ของญี่ปุ่นไว้ให้ได้ชมกันอีกด้วยนะ อย่าพลาดเชียว!
โอโคโนมิยากิ คืออีกหนึ่งเมนูที่ควรหาชิมยามมาเยือนโอซาก้า เพราะโอโคโนมิยากิของที่นี่ได้ชื่อว่ามีสไตล์และรสชาติที่เด็ดขาดไม่แพ้ใคร และหนึ่งร้านที่มีชื่อเข้าไปได้รับการแนะนำอยู่ในตำรามิชลินก็คือร้าน Kiji Okonomiyaki ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโอโคโนมิยากิที่อร่อยที่สุดแห่งโอซาก้า และแน่นอนว่าคิวต้องยาวตามไปด้วยเช่นกัน เป็นธรรมดาละนะ อยากกินของอร่อยก็ต้องต่อคิวกันหน่อยน่า จริงมั้ย?
ถ้าอยากชมวิวทิวทัศน์งามๆ ของโอซาก้าในมุมสูง แนะนำให้ขึ้นไปด้านบนของตึก Umeda Sky Building อาคารที่มีรูปทรงสะดุดตาซึ่งมาพร้อมกับความสูง 173 เมตร และเปิดด้านบนเป็นสวนลอยให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมความสวยของเมืองนี้กันได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว
ถ้ายังไม่สมใจคนรักความสูง แนะนำอีกหนึ่งแห่งคือ Tsutenkaku Tower หอคอยที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวกันได้แบบชิคๆ เพราะชั้น 4 จะเป็นจุดชมวิวซึ่งตัวหอคอยจะหมุนรอบตัวเองไปอย่างช้าๆ ให้เราได้ชมวิว 360 องศาแบบไม่ต้องขยับร่างกาย แถมที่ชั้น 5 ของหอคอยนี้ ยังมีรูปปั้น Billiken ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภของชาวญี่ปุ่นตั้งอยู่ เชื่อว่าใครที่ได้ไปรูปเท้าของรูปปั้นเทพเจ้าที่นี่จะทำให้ความปรารถนาที่มีอยู่กลายเป็นจริง!
ใกล้ๆ กับหอคอย Tsutenkaku เป็นย่านกินดื่มสุดคึกคักที่ชื่อว่า Shinsekai ซึ่งมีร้านรวงเปิดให้บริการกันแน่นเอี้ยด! ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร ตั้งแต่ของกินเล่นเป็นอาหารว่าง ร้านขนมหวาน ร้านอาหารหลายหลายประเภท ไปจนถึงร้านกินดื่มให้ได้นั่งดริ๊งค์เฮฮากันไปยาวๆ ถึงดึกดื่น ชอบใจอย่างไหนเลือกกันได้เลย
แนะนำให้ตื่นกันแต่เช้า แล้วไปต่อคิวรอเข้า Universal Studios Japan กัน ก็มาโอซาก้าทั้งทีจะไม่แวะที่นี่ก็เห็นทีจะไม่ได้ หากคุณเป็นคนชอบเครื่องเล่นสารพัดอย่างที่มีการตกแต่งให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซนบอกได้คำเดียวว่าฟิน! แต่อย่าเพิ่งส่ายหน้าถ้าคุณไม่ใช่คนชอบเครื่องเล่นทั้งหลายในสวนสนุก เพราะบอกได้เลยว่าแค่เดินเล่นเพลินๆ ที่นี่ก็สร้างความบันเทิงได้ไม่แพ้กัน ทุกมุมของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แห่งนี้ ช่างดึงดูดใจให้เราเคลิ้มหลุดเข้าไปในโลกแห่งความบันเทิงของเหล่าตัวการ์ตูนและเรื่องราวแฟนตาซีในภาพยนตร์ที่คุ้นตาทั้งหลาย แน่นอนว่าหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการเข้าไปเยือนดินแดนแห่งพ่ดมดที่หลุดมาจากหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเค้าจำลองไว้แบบได้อารมณ์เหลือเกิน และนอกจากเครื่องเล่นมากมาย ที่นี่ยังมีรอบการแสดงโชว์ พาเหรด และโรงฉายหนัง 4 มิติอีกด้วย รับรองว่าแค่ตีตั๋วเดินเข้ามาก็จะพบกับความเพลินใจจนลืมวัยตัวเองไปเลย!
จากความบันเทิงสุดเหวี่ยงที่พบในตอนกลางวัน ขอชวนกันมาปิดท้ายที่ย่านไฮไลท์อีกหนึ่งแห่งของโอซาก้า แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงย่าน Dotonbori ที่มาเดินตอนกลางวันก็ได้ แต่ถ้ามาในช่วงค่ำเป็นต้นไป ก็จะพบกับป้ายไฟที่ประชันกันด้วยแสงสีสารพัดสว่างไสวไปทั้งถนนเลยทีเดียว ละแวกนี้มีป้ายชายหนุ่ม Glico อันโด่งดัง รวมถึงยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าเรียงรายกันอยู่มากมาย ที่แค่เดินดูป้ายร้านก็มันแล้ว! กินของอร่อยกันเสร็จสรรพ อย่าลืมเดินย่อยด้วยการช้อปปิ้งของใช้ของฝากจากร้านรวงและห้างสรรพสินค้ามากมายในละแวกนี้ด้วยนะ ยังไงก็อย่าให้ถึงกับหมดตัวก็แล้วกัน!
ตื่นสายหน่อยแล้วไปเดินเล่นในย่านเด็กแนวของโอซาก้าที่ America Mura ย่านแฟชั่นสุดคูลของหนุ่มสาวในเมืองนี้ หมู่บ้านอเมริกาใจกลางเมืองโอซาก้าแห่งนี้ มีถนนทั้งสายทอดยาวและเต็มไปด้วยร้านรวงที่สายแฟชั่นและคนรักการแต่งตัวต้องกรี๊ด นอกจากนั้นยังมีคาเฟ่เก๋ๆ ร้านแบรนด์สตรีทแวร์เท่ๆ อีกเพียบ เรียกว่าจะเดินเล่นก็ได้ หรือจะละลายทรัพย์กันต่อก็โอเคนะ
ไหนๆ มาถึงโอซาก้าทั้งที อย่าพลาดการได้ชิมทาโกะยากิ ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้กันเด็ดขาด และด้วยความเป็นของดีของเด็ดจึงมีหลายร้านให้เลือกชิม แต่เราแนะนำร้าน Kougaryu ร้านทาโกะยากิเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 40 ปี โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบที่ดีตั้งแต่แป้ง ซอส ปลาหมึก ซึ่งประกอบกันจนเป็นทาโกะยากิขึ้นชื่อของเมืองนี้ ชนิดที่ได้เข้าไปอยู่ในหนังสือมิชลินเชียวนะ อย่าพลาดด้วยประการทั้งปวง!
เดินเล่นกันต่อแบบสบายๆ ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ Orbi Osaka พิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่นำเสนอเรื่องราวความน่าสนใจของธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตผ่านแสง เสียง และเทคโนโลยีสุดล้ำที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของ SEGA และ BBC Earth เชื่อได้ว่าถ้าคนไม่ชอบพิพิธภัณฑ์ได้มาที่นี่ ความคิดที่ว่าการมาพิพิธภัณฑ์นั้นแสนน่าเบื่อ ... จะเปลี่ยนไป
และถ้าเวลายังเหลืออยู่ อยากชวนมาปิดท้ายกันที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Nifrel หรือ Nifrel Aquazoo อะควาเรียมรูปแบบใหม่ที่จะเปิดโลกทัศน์การเดินดูโลกใต้น้ำของคุณด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบ Interactive เข้ามาผสานการจัดแสดง ให้ได้อารมณ์ใหม่แบบที่เต็มไปด้วยแสงสีสุดตระการตา แปลก ใหม่ จนอาจจะทำให้คุณเผลออ้าปากค้างอย่างไม่รู้ตัว!
หวังว่าทริปท่องเที่ยวแบบ 4 วัน 3 คืน กับแหล่งท่องเที่ยวสุดชิคในโอซาก้าที่เรานำมาฝากกัน คงจะเป็นไอเดียเริ่มต้นให้หลายคนนำไปปรับใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย โอซาก้ายังคงอัดแน่นไปด้วยวัฒนธรรมและที่กินที่เที่ยวอีกมากมาย หากสนใจ ลองเริ่มต้นทริปท่องเที่ยวในรูปแบบของคุณเองได้ด้วยการจองที่พักกับ Traveloka แล้วคุณจะรู้ว่าการวางแผนเดินทางด้วยตัวเองน่ะ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด!