เที่ยวเกาหลี ซื้อเป็นแพคเกจถูกกว่า
เกาหลีใต้เป็นจุดท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศ ซึ่งเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ครบรส ทั้งเรื่องอาหารการกิน แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แฟชั่น หรือแม้กระทั่งแหล่งช้อปปิ้ง ถ้าอยากเหลือเงินเอาไว้เที่ยว แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบิน และที่พักเกาหลีใต้พร้อมกันไปเลย ก็จะช่วยประหยัดไปได้มาก มีเงินเหลือเที่ยวอีกเยอะ ที่สำคัญคือสะดวกสบายมาก เพราะจะได้ทั้งไฟลท์บิน และที่พัก ไม่ต้องไปนั่งปวดหัวจองให้ยุ่งยากเลย
ตั้งอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี โดยพื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 70% ของประเทศมีลักษณะเป็นภูเขา เกาหลีถูกแบ่งแยกออกเป็นสองประเทศภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง โดยมีสหภาพโซเวียต (ในสมัยนั้น) เข้าไปดูแลเกาหลีเหนือภายใต้การปกครองในระบอบสังคมนิยม และมีสหรัฐอเมริกาดูแลเกาหลีใต้ภายใต้การปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยในระบอบประธานาธิบดี โดยมีการแบ่งเขตการปกครองของเกาหลีใต้ออกเป็น 8 จังหวัด 6 มหานคร 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ 1 นครพิเศษ และ 1 นครปกครองตนเองพิเศษ โดยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และมีประชากรอยู่ราวกว่า 51 ล้านคน
ประเทศเกาหลีใต้เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยจากสื่อบันเทิงหลากหลายแขนง โดยมีความสำเร็จจากความนิยมของละครและวงการเพลงเกาหลีเป็นหลักใหญ่ นักท่องเที่ยวชาวไทยมักได้รับแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ที่เคยเห็นในฉากละครที่ตนเองชื่นชอบหรือตามรอยศิลปินที่ตัวเองชื่นชม ปัจจุบัน ประเทศเกาหลีเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งเสื้อผ้าข้าวของแฟชั่น รวมถึงมีอาหารรสชาติดีให้เลือกชิมหลากหลาย
การเดินทางในประเทศเกาหลีถือว่าค่อนข้างสะดวกสบาย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ที่มีความเจริญค่อนข้างสูง เมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงโซล ถูกจัดว่าเป็นเมืองที่มีระบบการคมนาคมดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการเดินทาง
ภายในตัวเมืองได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่รถไฟใต้ดิน รถบัส แท็กซี่ และรถไฟความเร็วสูงสำหรับเดินทางออกนอกเมือง ซึ่งการเดินทางที่สะดวกและได้รับความนิยมมากที่สุดคือการใช้รถไฟใต้ดินซึ่งค่อนข้างปลอดภัย ประหยัด ตรงเวลา สะดวกสบายเพราะมีเส้นทางค่อนข้างจะครอบคลุม
เกาหลีใต้ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอยู่ค่อนข้างมาก นอกจากนั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีภูมิประเทศสวยงามแปลกตาทั้งภูเขาและทะเล มีพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่จัดแสดงได้อย่างน่าสนใจมากมาย รวมถึงสถานที่ต่างๆ ซึ่งเคยเป็นฉากสำคัญอยู่ในละครเกาหลีที่ได้รับความนิยมก็มักมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอยู่ไม่ขาดสาย และยังมีแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ให้ได้จับจ่ายใช้สอยกันอยู่มากมาย หากคุณสนใจจะวางแผนท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ลองมองหาความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พักจาก Traveloka ดูสิ มีหลายตัวช่วยเลยละที่จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้น แล้วลองมาดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเกาหลีใต้กันก่อนดีกว่าว่าจะมีที่ไหนบ้าง?
นักท่องเที่ยวไทยรู้จักกันในนามพระราชวังเคียงบก เป็นพระราชวังแบบโบราณที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล เดิมทีเคยมีอาคารและพระตำหนักต่างๆ อยู่ด้านในรวมกว่า 200 หลัง แต่ภายหลังจากการยึดครองของประเทศญี่ปุ่น อาคารต่างๆ ในพระราชวังเคียงบกได้ถูกทำลายลงไปจนเหลือแค่ราวๆ 10 หลังเท่านั้น พระราชวังแห่งนี้มีความสวยงามและเดินทางค่อนข้างสะดวก จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของกรุงโซลและประเทศเกาหลีที่ทุกคนต้องไปเยือน
เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 3,000 วอน / เด็ก 1,500 วอน
ตั้งอยู่ในเมือง Chuncheon จังหวัด Gangwon เป็นเกาะเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเพราะการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีลักษณะคล้ายรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เกาะนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานานเพราะสภาพธรรมชาติแวดล้อมอันสวยงาม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ เนื่องจากจะเป็นช่วงที่ต้นไม้บนเกาะจะมีสีสันที่สวยงามตระการตา มีจักรยานหลากหลายรูปแบบให้เช่าปั่นเล่น เกาะนามิเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยจากการเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของซี่รี่ย์เรื่อง Winter Sonata นอกจากธรรมชาติอันสวยงามแล้วบนเกาะนี้ยังมีสวนสนุก สวนน้ำ และที่พักให้เลือกอีกมากมาย
เปิดบริการทุกวัน โดยมีเรือเฟอร์รี่บริการข้ามไปยังเกาะตั้งแต่เวลา 7.30 – 21.40 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 8,000 วอน / เด็ก 4,000 วอน
เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงโซล เป็น 1 ใน 9 จังหวัดของประเทศเกาหลีใต้ นับเป็นหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งจากชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ความสวยงามแปลกตาของเกาะนี้ถึงขั้นได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก บนเกาะนี้มีสภาพภูมิประเทศที่ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งถ้ำหินลาวา ภูเขาฮัลลาซานซึ่งนับว่าสูงที่สุดในเกาหลีใต้ น้ำตกหลายแห่ง หน้าผาหินรูปร่างแปลกตา รวมถึงหมู่บ้านชองอีพ หมู่บ้านเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของผู้คน
ตั้งอยู่ในเมือง Yongin ในจังหวัด Gyeonggi เป็นสวนสนุกที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดิสนีย์แลนด์ของเกาหลี สวนสนุกแห่งนี้เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ และได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลกในปี ค.ศ. 2005 ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ มากมาย มี T Express รถไฟเหาะรางไม้ที่ได้สูงที่สุดในโลกและมีความชันของรางถึง 77 องศา เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นไฮไลท์ที่คนชอบความเสียวทั้งหลายต้องไม่พลาดการไปลอง
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. (วันศุกร์และเสาร์เปิดถึง 22.00 น.)
อัตราค่าเข้าชม One Day Ticket ผู้ใหญ่ 40,000 วอน / เยาวชน อายุ 13 – 18 ปี 37,000 วอน / เด็กและผู้สูงอายุ 31,000 วอน
เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ มีพื้นที่ครอบคลุม 4 เมืองคือ Sokcho, Inje, Goseong และ Yangyang ในอุทยานแห่งนี้มียอดเขาสูงหลายยอดด้วยกัน โดยยอดที่สูงที่สุดมีชื่อว่า Daecheongbong ส่วนยอดเขาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่สุดคือ Gwongeumseong Fortress เพราะมีเคเบิ้ลคาร์ให้ขึ้นไปถึงด้านบน หากอยากพิชิตยอดเขาลูกนี้ต้องเดินเท้าต่ออีกราว 1.5 กิโลเมตร อุทยานแห่งนี้มีความสวยงามแตกต่างกันในทุกฤดูกาล แต่ช่วงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 3,500 วอน / เยาวชน 1,000 วอน / เด็ก 500 วอน
ตั้งอยู่ในเมืองปูซาน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสะพานเพชร เพราะในยามค่ำคืนบริเวณสะพานแห่งนี้จะถูกประดับประดาตกแต่งด้วยดวงไฟหลายพันดวง ทำให้เกิดสีสันสว่างไสวสดใสสะท้อนเป็นประกายบนพื้นน้ำระยิบระยับราวประกายของเพชร จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกสะพานนี้ นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเกาหลีใต้ โดยมีความยาวถึง 7.4 กิโลเมตร และรอบด้านยังประกอบไปด้วยทิวทัศน์ของสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสวยงาม เป็นอีกหนึ่งจุดซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปูซานควรมาเช็คอิน
ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงโซล เรียกได้ว่าย่านนี้เป็นศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้เลยทีเดียว ย่านนี้มีผู้คนแวะเวียนมานับล้านคนในแต่ละวัน ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหาร ทั้งแบบเป็นอาคารและแบบที่เป็นสตรีท ฟู้ด มากมาย เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้มาเดินในย่านนี้ถือว่ามาไม่ถึงเกาหลีใต้เลยทีเดียว
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
ประเทศเกาหลีใต้มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ แหล่งช้อปปิ้งมากมาย รวมถึงการตระเวนสัมผัสวัฒนธรรมทางด้านอาหารซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง แต่โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวยังนิยมเดินทางไปเฉพาะตามจุดท่องเที่ยวใหญ่ๆ ในตัวเมืองอย่างโซล ปูซาน หรือเกาะเชจูเป็นหลัก เพราะความสะดวกในการเดินทาง หากคุณยังไม่เคยเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ เรามีทริปเริ่มต้นท่องเที่ยวในกรุงโซลและสถานที่ใกล้เคียงโดยใช้เวลา 5 วัน 4 คืน มาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อจะนำไปปรับใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวคุณเองได้แบบง่ายๆ แล้วอย่าลืมจองที่พักและตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka นะ เพื่อความสะดวก ครบ จบในขั้นตอนเดียว
วันที่ 1
ลงจากเครื่องบินกันมา หาที่เก็บข้าวเก็บของให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ได้เวลาหาของอร่อยรองท้องกันดีกว่า เพราะกรุงโซลก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งเมืองที่มีของอร่อยให้ได้เลือกชิมกันเพียบเลยนะ แนะนำร้านซี่โครงหมูจิ้มชีสรสเด็ดที่มีสาขากว่าหนึ่งร้อยสาขา นามว่า James Cheese ที่มีจานเด็ดเป็นการเสิร์ฟซี่โครงหมูรสเผ็ดจัดจ้านมาบนกระทะร้อน พร้อมเครื่องเคียงและชีสแบบจัดหนัก ถือเป็นมื้อแรกต้อนรับการมาเยือนโซลได้แบบจี๊ดจ๊าดสะใจ ร้านมีหลายสาขาลองเลือกเสิร์ชหาสาขาตามที่สะดวกได้เลย
อิ่มท้องแล้ว ไปชมหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ในการมาเยือนกรุงโซลอย่างพระราชวัง Gyeongbokgung กันเลย ที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการมาท่องเที่ยวเกาหลีใต้ไปเรียบร้อย ประมาณว่าถ้ามาเกาหลีไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึง ด้วยความที่เป็นพระราชวังขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1394 ภายในยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติอีกด้วย เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวก็ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เกาหลีกันแบบจุใจ
สัมผัสกลิ่นอายความเก่าแก่ของเกาหลีกันต่อ ที่หมู่บ้าน Bukchon Hanok Village ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ละแวกนี้เป็นย่านชุมชนที่มีหมู่บ้านเกาหลีแบบโบราณตั้งเรียงรายให้ได้เดินดูกันกว่า 100 หลังคาเรือน ไล่ระดับกันไปตามความชันของพื้นที่เนินเขา ให้เราได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมอันเก่าแก่ตั้งแต่ยุคโชซอนของเกาหลี แฟนๆ ซีรี่ส์อาจจะเคยผ่านตากับวิวบริเวณแถวๆ นี้มาแล้วในหลายฉากหลายตอนกันเลยละ
ช่วงค่ำ เปิดประเดิมการช้อปกันแบบเบาๆ ก่อน ที่ Itaewon Street ย่านนี้เป็นย่านแรกในเกาหลีที่ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบจริงจัง ร้านรวงเรียงรายไปตลอดทาง ส่วนใหญ่เป็นร้านแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์สตรีทแวร์ชื่อดังที่รู้จักกันดี นอกจากนั้นยังมีคาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากมาย เลือกได้เลยว่าสไตล์ไหนที่โดนใจคุณ
วันที่ 2
มาเกาหลีทั้งที ต้องได้เห็นเกาะนามิสิถึงจะเรียกได้ว่ามาถึง! ด้วยระยะทาง 60 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถไฟราว 1 ชั่วโมงนิดๆ ทำให้สามารถเที่ยวแบบไป-กลับได้อย่างสบาย เกาะนี้ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ จะเดินหรือจะเช่าจักรยานที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบก็ได้เอาตามที่ใจชอบ แม้ว่านักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งจะมาที่นี่เพื่อตามรอยซีรี่ย์ Winter Sonata แต่อย่ากังวลไปถ้าคุณไม่เคยดูซีรี่ย์เรื่องนี้ เพราะวิวธรรมชาติเด็ดๆ ที่มีให้ชมแบบไม่ต้องอ้างอิงละครเรื่องไหนก็คุ้มมากมายแล้วสำหรับการเดินทางมาเยือน
หากจัดการการเดินทางดีๆ คุณอาจมีเวลาช่วงบ่ายเหลือสำหรับการมาเดินเล่นในกรุงโซลกันต่อ แนะนำให้ไปใช้เวลาช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ที่อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของกรุงโซล นั่นคือที่หอคอย N Seoul Tower หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ หนึ่งหอคอยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของเอเชีย ด้วยความสูง 236 เมตร จะทำให้คุณได้เห็นวิวตัวเมืองโซลแบบพาโนรามา โดยเฉพาะในยามค่ำคืนถือว่าเป็นวิวที่สวยจนลืมไม่ลงอีกแห่งเลยทีเดียวละ และถ้าคุณไปกับคนรัก อย่าพลาดการไปคล้องกุญแจคู่บริเวณราวเหล็กส่วนฐานของที่นี่นะ นั่นละ ไฮไลท์เด็ดของคู่รักที่ต้องทำกันเลย!
หากเวลายังเหลือและท้องยังหิว แนะนำอีกหนึ่งเมนูคู่เกาหลีใต้ที่มาแล้วต้องไม่พลาดได้ชิม นั่นคือไก่ตุ๋นโสม ลองนั่งรถไฟไปแถวสถานี gyeongbokgung ตามหาร้าน Hwanghu Myeongga หนึ่งในร้านที่ได้รับการยอมรับว่ามีไก่ตุ๋นโสมรสชาติดีเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงโซล กับเมนูไก่ตุ๋นโสมที่มีให้เลือกหลายสูตร ซดน้ำซุปหอมๆ ไก่ตุ๋นเปื่อยๆ เป็นมื้อค่ำก่อนนอน รับรอง หลับสบาย!
วันที่ 3
ไปย้อนวัยกันที่สวนสนุกที่ได้รับการขนานนามว่าดิสนีย์แลนด์แห่งเกาหลี อย่างสวนสนุก Everland ที่คนรักความตื่นเต้นต้องไม่พลาดการไปลองนั่งกรีดร้องบนรถไฟรางไม้ที่มีความชันถึง 77 องศา แต่ถ้าคุณไม่ใช่สายเครื่องเล่นก็อย่าเพิ่งส่ายหน้า เพราะว่าด้านในมีสวนสัตว์ที่บางช่วงเป็นแบบเปิดให้เราได้เข้าไปสัมผัสสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นยังมีขบวนพาเหรดและงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่จะหมุนเวียนกันจัดแสดงอยู่เป็นระยะๆ ตลอดทั้งปี แนะนำให้อยู่จนถึงตอนค่ำ เพราะมีขบวนพาเหรดที่มาพร้อมกับแสงไฟระยิบระยับสวยชวนฝันจริงๆ
วันที่ 4
ออกไปสัมผัสบรรยากาศยุคโบราณของเกาหลีกันที่ Hwaseong Fortress หรือป้อมฮวาซอง กันบ้างดีกว่า ป้อมแห่งนี้มีอาณาเขตกว้างขวางมาก สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์โชซอนในช่วงปี ค.ศ.1794 – 1796 ความยิ่งใหญ่ตระการตาและความสมบูรณ์ของป้อมนี้ ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมของเกาหลี นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัส อย่างการหัดยิงธนูหรือขึ้นบอลลูนชมเมือง รับรองว่าเพลินจนไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน
ก่อนช่วงเย็นจะมาถึง ถ้ายังพอมีเวลา แวะมาไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันในวัด Jogyesa Temple หรือ วัดพระยิ้ม วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1910 นอกจากสถาปัตยกรรมสวยๆ แบบเกาหลีแท้ที่เราได้เห็นในแทบจะทุกมุมของวัดแห่งนี้แล้ว เรายังจะมีโอกาสได้เห็นความศรัทธาที่ชาวเกาหลีมีต่อองค์พระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์เรียงกัน โดยชาวเกาหลีเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ จึงไม่ควรพลาดที่จะมากราบขอพรก่อนกลับเพื่อเป็นสิริมงคล
จากวัด Jogyesa มาไม่ไกล จะพบกับคลอง Cheonggyecheon คลองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 600 ปี มีความยาวประมาณ 11 กิโลเมตร ไหลผ่านกลางกรุงโซล เดิมทีคลองนี้ค่อนข้างมีมลภาวะ น้ำในคลองสกปรกจากการทิ้งน้ำเสียลงไป ต่อมามีโครงการปรับปรุงทิวทัศน์รอบคลองนี้ใหม่ให้สวยงามจนกลายเป็นหนึ่งสถานที่สำหรับเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ สองข้างทางนอกจากจะมีงานศิลปะให้ดูเป็นระยะแล้ว ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย เป็นหนึ่งจุดเช็คอินที่ใครมากรุงโซลห้ามพลาดจริงๆ
มื้อเย็นก่อนกลับ ไหนๆ ก็มาถึงเมืองต้นตำรับหมูย่างกันแล้ว ถ้าพลาดการได้ลองชิมก็นับว่าน่าเสียดาย กลางกรุงโซลมีร้านหมูย่างให้เลือกมากมายหลากหลาย ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และแบบเสิร์ฟเป็นจาน ลองมองหาทั้งคุณภาพ ราคา และบรรยากาศที่คุณพอใจ แต่บอกเลยว่ายังไงก็ต้องมีซักมื้อละนะ ที่ต้องชิม!
วันที่ 5
มาเมืองสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งทั้งที ก่อนกลับจะไม่มีการเดินละลายทรัพย์ก็คงจะไม่ใช่ เริ่มด้วยการเดินส่องของกันในตลาด Dongdaemun อีกหนึ่งตลาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เราจะได้พบเห็นวัฒนธรรมการช้อปปิ้งของชาวเกาหลีได้อย่างเต็มอิ่ม ที่นี่มีข้าวของเครื่องใช้ราคาไม่แพงวางขายเรียงรายเต็มสองข้างทาง ทั้งขายปลีกและขายส่ง รวมไปถึงร้านอาหารแบบแผงลอยหรือสตรีทฟู้ดแบบเกาหลีจัดๆ ก็มีให้ชิมกันตลอดทาง ถือเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ห้ามพลาดหากมาเยือนโซล
ถ้าที่ตลาดทงแดมุนยังไม่ถูกใจ อีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่ควรโฉบไปคือย่าน Hongdae ย่านที่รวมของเก๋ๆ ชิคๆ คูลๆ สำหรับสายแฟชั่นทั้งหลาย ข้าวของเครื่องใช้ในละแวกย่านนี้จะเน้นที่ดีไซน์เป็นหลัก เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยศิลปะอย่าง Hongik University จึงมีทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ คาเฟ่ แกลเลอรี่ คลับ และร้านอาหารที่น่าสนใจเรียงรายอยู่มากมาย เป็นอีกหนึ่งย่านที่พลาดไม่ได้หากคุณเป็นสายช้อปตัวจริง!
ถ้ายังมีเวลา ขอแนะนำให้แวะชิมอาหารแบบเกาหลีแท้ๆ อีกซักหนึ่งเมนู กับร้าน Ttobogetji Tteokbokki ที่อยู่ในย่านฮงแด ร้านนี้มีจุดเด่นที่ต๊อกบ๊กกีรสเด็ด กับอาหารจานเคียงที่หลากหลาย วิธีการสั่งอาหารง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลา เหมาะแก่การกินปิดท้ายก่อนออกเดินทางโบกมือบ๊ายบายประเทศเกาหลีใต้จริงๆ
หวังว่าทริปท่องเที่ยวแบบ 5 วัน 4 คืน กับตัวอย่างแหล่งเช็คอินสำหรับคนเริ่มเที่ยวกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่เรานำมาฝากกัน คงจะเป็นไอเดียเริ่มต้นให้หลายคนนำไปปรับใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย ประเทศเกาหลียังคงมีที่กินที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย หากสนใจ ลองเริ่มต้นทริปท่องเที่ยวในรูปแบบของคุณเองได้ด้วยการจองที่พักกับ Traveloka แล้วคุณจะรู้ว่าการวางแผนเดินทางด้วยตัวเองน่ะ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด!