เที่ยวกรุงเทพ ซื้อเป็นแพคเกจถูกกว่า
กรุงเทพเมืองแห่งการท่องเที่ยว เมืองที่ไม่เคยหลับใหล และมีสถานที่เที่ยวครบครัน โดยเฉพาะเรื่องของอาหารสตรีทฟู้ดเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ทำให้ค่าใช้จ่ายการมาเที่ยวกรุงเทพแต่ละครั้งหมดไปกับเรื่องของอาหารและด้วยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวทำให้ราคาที่พักในกรุงเทพมีราคาสูง แต่ค่าใช้จ่ายจะลดลง หากคุณได้เลือกจองที่พักและตั๋วเครื่องบินแบบแพคเกจที่เราจัดมาให้แล้วว่า ราคาคุ้มค่า ไม่ว่าจะเดินทางมาเที่ยว หรือมาทำงาน ทริปกรุงเทพของคุณในครั้งนี้จะต้องมีราคาที่ถูกและจ่ายน้อยกว่าอย่างแน่นอน
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นเมืองและเป็นจังหวัดที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก ชาวต่างประเทศทั่วโลกรู้จักกรุงเทพมหานครในนาม Bangkok ซึ่งน่าจะมาจากคำว่าบางกอก ซึ่งเป็นชื่อเรียกเดิมของกรุงเทพ ส่วนที่มาของชื่อสันนิษฐานได้ 2 อย่าง โดยที่มาแรกคาดว่าอาจจะมีที่มาจากการที่ในสมัยก่อน เส้นทางเดินทางด้วยเรือต้องผ่านมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีลักษณะคดเคี้ยว มีเกาะแก่งและโคกเนินเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะมีผู้คนเรียกเมืองในละแวกนี้ว่า บางเกาะ หรือ บางโคก และข้อสันนิษฐานที่สองคาดว่า อาจจะมาจากบริเวณนี้มีต้นมะกอกอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเรียกสถานที่บริเวณนี้ว่า บางมะกอก โดยต่อมาทั้งสองชื่อจึงเพี้ยนมาเป็นบางกอกในภายหลังนั่นเอง
กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการปกครองของไทย ตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยาแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี หากแบ่งพื้นโดยคร่าวๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลักแล้ว ฝั่งพระนคร จะมีสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหรือสังคมสมัยใหม่ เช่น ห้างสรรพสินค้า มากกว่าทางฝั่งธนบุรี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คนแบบดั้งเดิมให้เที่ยวชมมากกว่า แต่ไม่ว่าจะชื่นชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบไหนก็ตาม กรุงเทพฯ ก็ยังถือว่าเป็นเมืองที่ครองใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอันดับต้นๆ เสมอมา โดยได้รับการโหวต และผลสำรวจจากโพลของหลายสำนัก ให้เป็นทั้งเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก และเมืองท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงินมากที่สุดในโลก และอีกหลายตำแหน่งที่ล้วนดึงดูดใจ และทำให้ผู้คนจากทั่วโลกใฝ่ฝันจะมาเยือนให้ได้ซักครั้งในชีวิต เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่อาหารอร่อย ค่าครองชีพไม่แพง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่่น่าสนใจมากมาย และยังเป็นเมืองที่ผู้คนมีอัธยาศัยไมตรีน่ารัก ในขณะที่มีความสะดวกสบายในด้านการเดินทาง ที่พัก และการใช้ชีวิตประจำวันอย่างครบครันด้วยนั่นเอง
ในสมัยก่อน กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีคูคลองเล็กๆ มากมาย และใช้การเดินทางทางน้ำด้วยเรือเป็นการคมนาคมหลัก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น เวนิสแห่งตะวันออก แต่ในปัจจุบันการคมนาคมในกรุงเทพฯ มีความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้ามหานคร รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รถประจำทาง รถตู้สาธารณะ รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และทางเรือ ซึ่งราคาเริ่มต้นของการใช้บริการรถสาธารณะในกรุงเทพฯ นั้น โดยประมาณจะเริ่มต้นตั้งแต่ 10 - 40 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของการคมนาคมที่เลือกใช้ และระยะทางที่ต้องการเดินทางนั่นเอง นอกจากนั้น กรุงเทพฯ ยังถือเป็นเมืองต้นทางหลัก สำหรับการเดินทางต่อไปยังจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยด้วยรถไฟ โดยมีสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งถือเป็นต้นทางของเส้นทางรถไฟที่จะเดินทางไปยังทุกเส้นทางในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย รวมถึงการเดินทางต่อไปยังต่างจังหวัดและต่างประเทศโดยเครื่องบิน ซึ่งกรุงเทพมหานคร มีสนามบินหลักอยู่สองแห่ง คือสนามบินสุวรรณภูมิ (ซึ่งอยู่ในเขตรอยต่อของกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ) และสนามบินดอนเมือง จึงถือได้ว่ากรุงเทพมหานครนั้น ถือเป็นศูนย์กลางใหญ่ของการเดินทางในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว
ด้วยความที่เป็นเมืองแห่งการผสมผสานทั้งวัฒนธรรมแบบโบราณที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และความทันสมัยเทียบเท่าเมืองใหญ่หลายๆ เมืองในโลกนี้เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดในรูปแบบเฉพาะตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และเมื่อเอกลักษณ์เหล่านี้มีการผสมผสานอย่างกลมกลืนกับวัฒนธรรมอีกหลากหลายในแบบตะวันตกและตะวันออก ทั้งวิถีชีวิต สถาปัตยกรรม รวมไปถึงอาหาร จึงหลอมรวมให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองแห่งความหลากหลายและมีชีวิตชีวาชนิดที่แทบจะหาไม่ได้จากเมืองอื่นๆ ในโลกนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังกรุงเทพฯ ทั้งที่มาเป็นครั้งแรก และกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะหลงใหลเมืองหลวงของประเทศไทยเมืองนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นนั่นเอง และหากสนใจจะเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร ลองมองหาความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พักจาก Traveloka ดูสิ เราว่าน่าจะมีหลายตัวช่วยเลยละ ที่จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้นอย่างแน่นอน แล้วลองมาดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ กันก่อนดีกว่า ว่ามีที่ไหนบ้าง?
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว ที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย โดยด้านในมีสถาปัตยกรรมโบราณชวนให้ตื่นตาตื่นใจมากมายรายรอบอยู่แทบจะทุกจุดที่ได้เดินผ่าน ใกล้กันยังมีความงามของพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยในยุครัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 5 และในปัจจุบัน ยังคงมีการใช้สถานที่ทั้งสองแห่งนี้ในการประกอบพระราชพิธีสำคัญๆ ของประเทศไทยอยู่อย่างสม่ำเสมอ วัดพระแก้วถือเป็นเอกลักษณ์และภาพจำอย่างหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยที่แสนสมบูรณ์และน่าตื่นตาตื่นใจในสถานที่แห่งนี้ ยังคงมีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาชมความงามได้ปีละหลายล้านคนเลยทีเดียว
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.30 น.
ค่าเข้าชม: คนไทยสามารถเข้าชมได้ฟรี การแต่งกายสุภาพ
ตลาดนัดจตุจักร
นับเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในสมัยแรกเริ่ม ตลาดนัดแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นที่บริเวณสนามหลวง แต่ต่อมาได้รับการโยกย้ายสถานที่มายังบริเวณปัจจุบันและเปลี่ยนชื่อเป็นตลาดนัดจตุจักรตามทำเลที่ตั้ง ภายในบรรจุแผงค้ากว่า 8,000 แผง โดยแบ่งสินค้าออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ 8 หมวด ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งให้ซื้อหา ตั้งแต่สัตว์เลี้ยง พืชผัก ต้นไม้ อาหาร ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ในทุกประเภท เดิมทีตลาดนัดจตุจักรเปิดเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน มีการเปิดขายข้าวของในวันอื่นของสัปดาห์ โดยวันพุธและพฤหัสเปิดเป็นตลาดนัดต้นไม้ วันศุกร์เปิดเป็นตลาดนัดเซรามิก และมีการเปิดบริการเปิดตลาดนัดกลางคืนในบริเวณใกล้เคียงตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์อีกด้วย
เวลาเปิด – ปิด วันพุธ - วันพฤหัสบดี ตลาดนัดต้นไม้ เวลา 05.00 - 18.00 น.
วันศุกร์ ตลาดนัดเซรามิก เวลา 08.00 - 21.00 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ ตลาดนัดทั่วไป เวลา 08.00 - 21.00 น.
ถนนข้าวสาร
เป็นถนนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และถือเป็นย่านการค้าข้าวสารที่ใหญ่ที่สุดของเขตพระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่มาของชื่อถนนนี้ ในภายหลัง เมื่อวิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถนนข้าวสารจึงเริ่มมีการขยายตัวเป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้น และเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเข้ามาพักอาศัย จนกลายเป็นแหล่งชุมนุมของเกสท์เฮ้าส์มากมาย และได้ชื่อว่าเป็นแหล่งศูนย์รวมของเหล่านักท่องเที่ยวในสไตล์แบ็คแพ็คเกอร์ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบัน ถนนเส้นนี้กลายเป็นย่านการค้าที่คึกคักมีชีวิตชีวาตลอด 24 ชั่วโมง เป็นแหล่งรวมทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ที่พัก และสถานบันเทิงในยามค่ำคืนยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะเห็นภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลกันเข้าไปเล่นน้ำอย่างสนุกสนานในถนนสายเล็กๆ แห่งนี้กันแน่นขนัดเป็นประจำในทุกปี
ถนนเยาวราช
ถือเป็นถนนสายสั้นๆ ที่มีความยาวเพียงแค่ราวๆ 1.5 กิโลเมตร แต่กลับมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากมาอย่างยาวนานนับร้อยปี โดยในถนนเส้นนี้มีชาวจีนซึ่งอพยพเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยตั้งแต่สมัยก่อนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ไชน่าทาวน์เมืองไทย และถือเป็นแหล่งชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว อีกหนึ่งสมญานามคือการได้รับการขนานนามว่าเป็น ถนนสายทองคำ เพราะตลอดเส้นทางของถนนสายนี้ มีร้านขายทองคำตั้งอยู่มากมายตลอดสองข้างทาง และยังเป็นศูนย์รวมของตลาดขายวัตถุดิบในการประกอบอาหารจีนแบบครบวงจร นอกจากนั้น ถนนเยาวราชยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะแหล่งรวมฟู้ดสตรีทเจ้าอร่อยมากมายทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนอีกด้วย
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
เดิมเคยเป็นท่าเรือสินค้านานาชาติ ของบริษัทอีสต์เอเชียติก ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงจนเป็นศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างซอยเจริญกรุง 72 – 76 มีจุดเด่นที่ทำให้เป็นที่รู้จักคือชิงช้าสวรรค์ริมแม่น้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า เอเชียทีค สกาย ซึ่งถือเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นจุดเด่นที่จะสามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล ในบริเวณพื้นที่โดยรอบของเอเชียทีคจะประกอบไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย โดยส่วนหนึ่งเป็นร้านค้าที่โยกย้ายมาจากบริเวณสวนลุมไนท์บาร์ซ่าเดิม รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของโรงละครคาลิปโซ่ และโรงละครโจหลุยส์อีกด้วย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 24.00 น.
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน ใกล้กับวัดราชนัดดาราม เป็นอาคาร 4 ชั้น ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและเรื่องราวต่างๆ ของกรุงรัตนโกสินทร์ ผ่านห้องจัดแสดงที่มีการตั้งชื่อไว้อย่างคล้องจองกัน โดยนำเสนอตั้งแต่ต้นกำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์ ความสวยงามของศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มหรสพการแสดง พระราชพิธี ไปจนถึงวิถีชีวิตต่างๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนดำเนินไปในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนำเสนอผ่านสื่อผสมอันหลากหลาย ทั้งแสง สี เสียง รูปภาพ ไปจนถึงสื่อมัลติมีเดียแบบ 4 มิติ ให้ผู้เข้าชมได้รับความรู้ในรูปแบบใหม่ได้อย่างสนุกสนานและไม่น่าเบื่อ เหมาะสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัย
เปิดบริการทุกวัน (เว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก (ความสูงไม่เกิน 120 ซม.) เข้าชมฟรี
นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวที่นำเสนอมา กรุงเทพมหานครยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย มาลองวางแผนทริปท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ 2 วัน 1 คืนด้วยตัวคุณเองได้แบบง่ายๆ โดยดูตัวอย่างที่เรานำเสนอเป็นต้นแบบด้านล่างดูก่อน แล้วอย่าลืมจองที่พักและตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka เพื่อความสะดวก ครบ จบในขั้นตอนเดียว
วันที่ 1
เริ่มต้นตอนเช้าด้วยความงดงามและเป็นสิริมงคลที่วัดพระแก้ว เนื่องจากในช่วงเช้าอากาศยังไม่ร้อนมาก และนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยพลุกพล่าน ทำให้มีโอกาสได้ชื่นชมกับความงดงามของศิลปะรอบๆ วัดพระแก้วแบบเต็มอิ่ม เต็มตา ในอารมณ์ที่สงบและสบาย
จากวัดพระแก้ว เดินต่อมาอีกนิดจะพบกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นอกจากจะมีศิลปกรรมที่งดงามให้เยี่ยมชม มีพระนอนองค์ใหญ่ให้ได้กราบสักการะ วัดโพธิ์ยังเป็นต้นกำเนิดของการนวดแผนไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย หากมีเวลาแวะลองนวดให้สบายตัวกันซักหน่อยเป็นไร
จากวัดโพธิ์ ลองแวะมาหาของอร่อยมื้อเที่ยงกินในบรรยากาศย้อนยุคสุดคลาสสิกกันหน่อยดีกว่า แนะนำร้าน เมธาวลัย ศรแดง ร้านอาหารไทยต้นตำรับที่อยู่คู่กับถนนราชดำเนินมากว่า 60 ปี เสิร์ฟอาหารไทยรสอร่อยต้นตำรับท่ามกลางความคลาสสิกของการตกแต่งร้านและเพลงในยุคเก่าที่เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต เป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
เดินเที่ยวรอบบ่ายกันต่อที่ นิทรรศรัตนโกสินทร์ เรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของเกาะรัตนโกสินทร์อันเก่าแก่และมีความสำคัญมานับร้อยปี ผ่านการนำเสนออันทันสมัยที่จะทำให้ทั้งครอบครัวสนุก เพลิดเพลิน และได้รับความรู้ไปในเวลาเดียวกัน
เดินต่อมาอีกนิด แล้วนั่งพักแวะกินของว่างยามบ่ายในบรรยากาศและราคาสบายๆ ที่ร้านมนต์นมสด ร้านเก่าแก่กว่า 40 ปีที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน อยู่ใกล้กับเสาชิงช้าและศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อย่าพลาดชิมนมสดรสอร่อยและขนมปังสังขยาอันเป็นของขึ้นชื่อของร้านนี้ด้วยนะ ถือเป็นการเติมพลังกันเบาๆ ก่อนออกเที่ยวกันต่อ
จากร้านมนต์นมสดมาไม่ไกล อย่าลืมแวะชมความงามของวัดราชนัดดารามวรวิหาร อีกหนึ่งโบราณสถานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2389 ชมความงามของโลหะปราสาทแห่งเดียวในประเทศไทยและเป็นแห่งเดียวในโลก จากนั้นเดินต่อมาอีกนิดยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แล้วออกกำลังขากันซักนิดเดินขึ้นไปยังบริเวณส่วนบนของภูเขาทอง รับรองว่าวิวงดงามของย่านเมืองเก่ากรุงเทพมหานครในยามเย็นจะทำให้ประทับใจจนลืมความเหนื่อยไปเลยละ
หลังจากเดินเที่ยวใช้พลังงานมาทั้งวัน มื้อเย็นมาหาอาหารอร่อยๆ ระดับมิชลินกินกันที่ร้านเจ๊ไฝ ร้านอาหารหน้าตาบ้านๆ แต่คุณภาพระดับคว้ามิชลิน 1 ดาวมาครองได้แบบสบายๆ เพราะนอกจากรสชาติอร่อยและสะอาดแล้ว ร้านนี้ยังใช้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมในการปรุงอาหาร ราคาอาจจะแรงไปนิดสำหรับสตรีทฟู้ด แต่เชื่อเหอะว่าคุ้มค่าควรลอง
ปิดท้ายวันกันแบบชิลล์ๆ ที่ถนนข้าวสาร จะเดินเล่นดูข้าวของย่อยอาหาร ซึมซับบรรยากาศสุดคึกคักในยามค่ำคืนของหนึ่งถนนสุดฮ้อตของประเทศไทย หรือจะเดินไปชิมไปแวะหาของอร่อยนิดๆ หน่อยๆ ใส่ท้องกันต่อก็ย่อมได้ และสุดท้ายถ้าเป็นสายกินดื่ม มาจบวันที่นี่ รับรองไม่มีคำว่าผิดหวัง!
วันที่ 2
เอาใจสายช้อปด้วยการเริ่มต้นวันในตอนสายๆ ที่ตลาดนัดจตุจักร กับการเดินเล่นจับจ่ายใช้สอยเสื้อผ้าข้าวของสารพัดสิ่ง ที่มีตั้งแต่ข้าวของมือสองจากต่างประเทศทั้งเสื้อผ้า แอ็คเซสซอรี่ส์ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน หรือถ้าอยากได้ของมือหนึ่งใหม่ถอดด้าม ที่นี่ก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน รวมถึงร้านอาหารรสชาติอร่อยมากมาย เรียกได้ว่าใช้เวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันได้แบบไม่มีเบื่อเลยทีเดียวละ
หรือถ้าอยากช้อปแบบสบายๆ ในสไตล์บูติคขึ้นมาอีกนิด แนะนำให้มาเดินเล่นที่ย่านสยามสแควร์ แหล่งช้อปปิ้งที่รวมแฟชั่นชั้นนำของชาวกรุงเทพไว้ในที่เดียว มีตั้งแต่แบรนด์ไฮเอนด์ราคาหรู ไปจนถึงสตรีทแวร์ราคาหลักร้อยต้นๆ สบายกระเป๋า รับรองว่าตอบทุกโจทย์ ทุกราคา ของสายแฟชั่นที่รักการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจได้แน่นอน
หากเวลายังเหลือ แวะเดินเล่นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครกันหน่อยเป็นไร ใช้เวลาพักผ่อนชิลล์ๆ เดินชมงานศิลปะร่วมสมัยยกระดับจิตใจและสร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี หรือหากใครชื่นชอบศิลปะแบบไทยๆ ใกล้ๆ กันยังมีพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน เรือนไทยหลังงามที่เป็นแหล่งรวมข้าวของสะสมสารพัดสิ่งของอดีตนายทหารอเมริกันผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมผ้าไหมไทย รับรองว่าคนชอบดูความงามของข้าวของเครื่องใช้แบบไทยแท้ๆ ต้องใช้เวลาแบบสุดเพลิดเพลินกันได้ที่นี่แน่นอน
หวังว่าทริปท่องเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน ที่ให้ 2 อารมณ์อันแตกต่างในสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครที่เรานำมาฝากกัน คงจะเป็นไอเดียเริ่มต้นที่หลายคนจะนำไปปรับใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย กรุงเทพมหานครยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ลองเริ่มต้นทริปท่องเที่ยวในรูปแบบของคุณเองดูแล้วคุณนะรักกรุงเทพมากขึ้น