เที่ยวเชียงรายซื้อเป็นแพคเก็จถูกกว่า
เชียงราย จังหวัดเหนือสุดประเทศไทย อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ ภูเขาสูง ป่าเขา น้ำตก และอื่นๆ ทั้งนี้ หากคุณต้องการเที่ยวเชียงรายได้อย่างสะดวกสบาย ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินและที่พักแบบเป็นแพคเก็จกับ Traveloka ด้วยการซื้อแบบเป็นแพคเก็จนี้ จะทำให้คุณได้จ่ายเงินที่ถูกกว่า ประหยัดเวลาในเรื่องการจองต่างๆ อีกด้วย
ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ มีทำเลที่ตั้งอยู่ในบริเวณรอยต่อของ 3 ประเทศ คือ ไทย เมียนมาร์ และลาว เป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วโลกในนามดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นที่รู้จักกันในนามแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบันเมื่อปัญหายาเสพติดคลี่คลายไป เชียงรายก็กำลังได้รับความสนใจใหม่ในฐานะที่เป็นประสูสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ ลาว และประเทศจีนตอนใต้ ด้วยการเดินทางผ่านทางหลวงเอเชียสาย 2 และ 3 แทน
เชียงรายเป็นเมืองเก่าแก่ของภาคเหนือซึ่งมีภาษาพูดแบบท้องถิ่น มีศิลปะ และวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับที่ราบสูง มีภูเขาล้อมรอบทั้งเมืองโดยเฉพาะทางทิศตะวันตกจะมีแนวเทือกเขาผีปันน้ำทอดตัวยาวตลอดทั้งจังหวัด และมีประชากรค่อนข้างหลากหลาย ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา และชาวจีนฮ่อที่อยู่บริเวณบนดอยสูง รวมถึงชาวเมียนมาร์และชาวลาวที่อพยพข้ามมาตั้งรกรากในแถบนี้ ซึ่งส่งผลทำให้เชียงรายกลายเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมผสมผสานและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
แม้เชียงรายจะไม่ได้เป็นเมืองหลักของภาคเหนือ แต่ก็นับว่าเป็นเมืองใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในแต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามาเยือนเชียงรายไม่น้อย ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายทำได้ไม่ยาก เพราะมีรถสาธารณะหลายประเภทรอให้บริการ ทั้งรถตู้ รถบัส รถสองแถว รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะใช้บริการเช่ารถขับเองก็ยังได้ ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการใช้บริการรถสาธารณะแต่ละประเภท หากไม่อยากเสียเวลาในการรอ สามารถติดต่อเช่าเหมาเดินทางเฉพาะกลุ่มได้เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความเป็นส่วนตัว
เนื่องจากเชียงรายมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับที่ราบสูง อากาศโดยเฉลี่ยที่เชียงรายจึงเรียกได้ว่าค่อนข้างสบายไปจนถึงหนาวเย็นเมื่อถึงฤดูหนาว ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นนักท่องเที่ยวมากมายมุ่งหน้าไปสัมผัสอากาศดีๆ กันที่เมืองนี้ตั้งแต่ในยามปลายฝนต้นหนาว สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดขายหลักของเมืองเชียงรายจึงมักจะเน้นไปที่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รองลงมาคือสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเน้นทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม นอกจากนั้น ด้วยความที่เป็นเมืองเหนือสุดในสยาม จึงมีพรมแดนบางส่วนที่สามารถข้ามต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อจับจ่ายใช้สอยได้อีกด้วย และหากคุณสนใจที่จะวางแผนท่องเที่ยวในเชียงราย ลองมองหาความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พักจาก Traveloka ดูสิ มีหลายตัวช่วยเลยละที่จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้น ลองมาดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเชียงรายกันก่อนดีกว่าว่าจะมีที่ไหนโดนใจคุณบ้าง?
ดอยตุง
ดอยตุงเป็นยอดเขาสูงซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขานางนอน และด้วยความสูงนี่เองทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บนยอดดอยตุงเป็นที่ตั้งของพระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของจังหวัดเชียงราย ด้วยเพราะความสวยงามของสถานที่ รวมถึงเรื่องราวที่มากว่าจะเป็นดอยตุงอย่างในทุกวันนี้ ที่นี่จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งซึ่งต้องมาเยือนให้ได้ซักครั้งในชีวิตเลยทีเดียว
พระตำหนักดอยตุง เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.30 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 90 บาท / ผู้สูงอายุและนักเรียน 45 บาท
สวนแม่ฟ้าหลวง เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.30 – 18.00 น. อัตราค่าเข้าชม 90 บาท
ภูชี้ฟ้า
อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเชียงรายที่ครองใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติมายาวนานหลายสิบปี ภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผาสูงที่ทอดตัวยาวขนานไปกับรอยตะเข็บชายแดนไทย-ลาว โดยที่บริเวณที่เรียกว่าภูชี้ฟ้าจะเป็นปลายสุดของหน้าผาซึ่งมียอดแหลมสูงคล้ายกับการชี้นิ้วมือไปในอากาศซึ่งเป็นที่มาของชื่อภูนี้นี่เอง นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูชี้ฟ้า เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก แถมในบางวันยังมีทะเลหมอกขาวโพลนให้ได้ดูกันอีกด้วยนะ อากาศเย็นๆ กับวิวสวยๆ แสนอลังการ ไม่ฟินก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว!
ไร่ชาฉุยฟง
ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ที่เต็มไปด้วยต้นชาซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ปลูกเรียงเป็นแถวเป็นแนวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หากมองจากมุมสูงจะให้ความรู้สึกคล้ายกับเรายืนอยู่ท่ามกลางคลื่นยักษ์สีเขียวกันเลยทีเดียวละ นอกจากจะมาสูดอากาศดีๆ ในบรรยากาศเย็นสบายสุดจะผ่อนคลายแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารให้แวะนั่งชิลล์จิบเครื่องดื่มร้อนเย็น กินขนม หรือจะกินอาหารหลักกันอย่างจริงจังก็ยังได้ ไหนๆ แวะมาไร่ชา จะไม่ลองจิบดูซะหน่อยก็คงเหมือนว่ามาไม่ถึงละนะ!
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.
ไร่บุญรอด
หลายคนอาจจะรู้จักที่นี่ในชื่อ สิงห์ปาร์ค นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขนาดใหญ่ กินพื้นที่กว่า 600 ไร่ ภายในแบ่งเป็นหลายโซนท่องเที่ยวให้ได้เข้าชม ทั้งสวนไม้ดอกขนาดใหญ่ที่มีการหมุนเวียนปลูกไม้ดอกเมืองหนาวที่สวยงามนานาชนิด ไร่ชาขนาดใหญ่ สวนสัตว์ขนาดย่อม หรือส่วนที่มีการให้นักท่องเที่ยวได้วี้ดว้ายกับเครื่องเล่นหลายๆ อย่าง ถ้าหากใครไม่ใช่สายกิจกรรมก็สามารถนั่งรถรางชมฟาร์มทัวร์แบบเพลินๆ เหมาะมากสำหรับสายชิลล์ทั้งหลายจริงๆ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
อัตราค่าบริการรถรางชมฟาร์ม 100 บาท
วัดร่องขุ่น
วัดสีขาวที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้วในปัจจุบันนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะรู้จักที่นี่ในนาม White Temple ซึ่งน่าจะเรียกตามลักษณะอันโดดเด่นของที่นี่นั่นเอง และเพราะวัดแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบความคิดของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติที่ทุกคนรู้จักกันดี จึงไม่น่าแปลกใจที่วัดนี้จะเต็มไปด้วยศิลปะนานาชนิด ทั้งจากประติมากรรม และภาพจิตรกรรม ซึ่งทั้งหมดเน้นเรื่องราวเกี่ยวกับนรก สวรรค์ และโลกมนุษย์ ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา โดยนำมาสื่อสารผ่านศิลปะแขนงต่างๆ ได้อย่างสวยงามกลมกลืนและแปลกตา ออกมาเป็นวัดแบบล้านนาที่งดงามน่าประทับใจ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.30 - 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม เฉพาะชาวต่างชาติ คนละ 80 บาท
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
กลุ่มบ้านในรูปแบบศิลปะไทยล้านนารวม 36 หลัง ซึ่งมีจุดเด่นคือการทาด้วยสีดำสนิททุกหลัง อันเป็นที่มาของชื่อสถานที่แห่งนี้ ตัวบ้านแต่ละหลังถูกประดับประดาอย่างสวยงามด้วยงานไม้แกะสลักละเอียดสวยงาม รวมถึงมีการนำเขาสัตว์หลายชนิดมาตกแต่งสร้างความแปลกตา บ้านแต่ละหลังจะมีลักษณะโดยรวมที่แตกต่างกันออกไป โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่เก็บของสะสมต่างๆ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชื่อดังอีกหนึ่งท่านของประเทศไทยซึ่งล่วงลับไปแล้ว
เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย และโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งมักจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหลายต่างล้วนต้องการจะไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นทางภาคเหนือ แต่ในขณะเดียวกันเชียงรายก็ยังมีอีกหลายสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปีโดยไม่ต้องรอฤดูกาล หากคุณสนใจ เรามีทริปเริ่มต้นท่องเที่ยวในเชียงราย โดยใช้เวลา 3 วัน 2 คืน มาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อจะนำไปปรับใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวคุณเองได้แบบง่ายๆ แล้วอย่าลืมจองแพ็คเกจเชียงรายกับ Traveloka นะ เพื่อความสะดวก ครบ จบในขั้นตอนเดียว
วันที่ 1
ประเดิมทริปเชียงรายกันด้วยการไปชิมข้าวซอยไก่ร้านเก่าแก่ที่เปิดมายาวนานกว่า 30 ปี ที่ชื่อว่า ร้านพอใจ กันก่อนเลย ข้าวซอยของร้านนี้จะเสิร์ฟมาแบบแยกแห้งน้ำ ใครชอบแห้งชอบเปียกขนาดไหนเชิญได้ตามสบาย หรือจะกินแบบคีบเฉพาะเส้นเข้าปากแล้วซดน้ำตามก็ยังได้ ชอบแบบไหน จัดไปแบบนั้นเลย
อิ่มท้องแล้วก็เริ่มต้นกับที่เที่ยวใกล้ๆ ตัวเมืองอย่างพิพิธภัณฑ์บ้านดำกันก่อนเลยดีกว่า ไปเดินชมกลุ่มบ้านรูปร่างสะดุดตา เดินดูของสะสมที่ศิลปินแห่งชาติอย่าง อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เก็บสะสมมาตลอดชีวิต และระดับอาจารย์ถวัลย์แล้วรับรองว่าไม่ธรรมดา เพราะส่วนใหญ่เป็นชิ้นงานของช่างฝีมือพื้นบ้านที่บางชิ้นอาจจะหาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน มีงานไม้แกะสลักสวยๆ ให้ได้เดินเสพกันแบบเพลินตา ไม่ว่าคุณจะเป็นสายอาร์ตหรือไม่ก็ควรจะหาโอกาสมาให้ได้สักครั้งนะ
ไปแวะชมอีกหนึ่งวัดที่เป็น Unseen เชียงราย ณ วัดร่องเสือเต้น ซึ่งโดดเด่นสะดุดตาที่สุดคงจะหนีไม่พ้นพระอุโบสถสีน้ำเงินซึ่งมีการผสมผสานศิลปะสองสไตล์จากศิลปินระดับตำนานของประเทศไทยสองท่านเข้าด้วยกัน นั่นคืออาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ผลที่ได้คือพระอุโบสถที่งดงามแปลกตา และเต็มไปด้วยรายละเอียดอ่อนช้อยวิจิตรพิสดารหลายต่อหลายมุม ใครรักการถ่ายรูปรับรองว่าที่นี่มีมุมสวยรออยู่เพียบ!
แดดร่มลมตก ก็ได้ฤกษ์ไปชื่นชมธรรมชาติหลายรูปแบบกันที่ไร่บุญรอดต่อเลยดีกว่า จะเลือกนั่งรถพ่วงแบบสบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยแรง หรือจะยืดเส้นยืดสายกันด้วยการเช่าจักรยานปั่นเที่ยวก็ตามใจ แถมที่นี่ยังมีทั้งโซนชมวิวงามๆ โซนกิจกรรม และร้านอาหารไว้รอให้บริการ จะจัดหนักจัดเบาก็เอาตามเรี่ยวแรงและความสบายใจ ปิดท้ายวันด้วยการชมพระอาทิตย์ตกกลางวิวไร่งามๆ ก็ถือว่าไม่เลวนะ
วันที่ 2
ตื่นเช้าซัก นิด แล้วออกเดินทางไปพิชิตความงามของดอยแม่สลองกันดีกว่า ไปเดินเล่นกลางไร่ชารับแสงแรกของวัน จากนั้นแวะมานั่งจิบชาอุ่นๆ ชิมอาหารยูนนานอร่อยๆ กันเป็นมื้อเช้า อากาศแสนสดชื่น บรรยากาศก็ดี อาหารอร่อยๆ แบบนี้ ไม่ฟินก็ให้มันรู้ไป
จากดอยแม่สลองไปไม่ไกลมาก จะถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเยือนเชียงราย นั่นคือดอยตุง บนดอยตุงมีที่เที่ยวมากมาย แต่ที่นับว่าพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงคงต้องยกให้พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง ซึ่งด้านในยังมี DoiTung Tree Top Walk ทางเดินเหินฟ้ายาวเหยียดที่ให้อารมณ์แอดเวนเจอร์นิดๆ พอเหงื่อซึมๆ นอกจากนั้นยังมีหอพระราชประวัติซึ่งจัดแสดงนิทรรศการในรูปแบบที่ทันสมัยเกี่ยวกับราชสกุลมหิดลเอาไว้ครบครัน มีตลาดชาวเขาให้ได้เดินจับจ่ายใช้สอยกันพอหอมปากหอมคอ ถ้าเดินจนหิว แนะนำเลยว่าต้องลองแวะมาชิมอาหารสุดอร่อยกันที่ร้านครัวตำหนัก เพราะแม่ครัวและเมนูที่นี่คืออาหารแบบเดียวกันกับที่ใช้นำขึ้นไปถวายเจ้านายบนพระตำหนักดอยตุงนั่นเลยเชียว กระซิบให้เลยว่ารสชาติเด็ดมาก!! อ้อ อีกอย่างที่พลาดไม่ได้นั่นคือชาหรือกาแฟของดอยตุงนะ ไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึงเลยละคุณ
ถัดจากดอยตุงมาไม่กี่กิโลเมตร จะมีสวนรุกขชาติดอยช้างมูบ ซึ่งเป็นสวนที่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดโดยเฉพาะไม้ดอกตามฤดูกาล ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือดงกุหลาบพันปีที่น่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถ้ามีเวลาพออย่าลืมแวะไปล่ะ
จากดอยสูง มุ่งหน้าสู่ด่านพรมแดนไทย – เมียนมาร์ ที่อำเภอแม่สาย ข้ามด่านไปเดินเล่นชิลล์ๆ หรือใครอยากจะช้อปของกินของใช้อะไรก็ตามสะดวกเลย ข้าวของส่วนใหญ่จะมีปะปนกันทั้งแบบที่มีในฝั่งไทยและเครื่องใช้ในฝั่งเมียนมาร์ เดินดูให้ทั่วอาจจะเจอของกินของใช้ต้องตาต้องใจให้ช้อปกันได้ไม่มากก็น้อยนะ
จากแม่สาย อยากชวนให้มาเดินดูประวัติศาสตร์ความเลวร้ายของ ‘ฝิ่น’ ยาเสพติดที่เคยมีแพร่หลายอยู่ในบริเวณนี้เมื่อสมัยก่อน และสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวนี้ได้ดีที่สุดก็คือ หอฝิ่น หนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวของยาเสพติดหลักในย่านสามเหลี่ยมทองคำเอาไว้ได้อย่างน่าชม ด้วยรูปแบบทันสมัย เข้าใจง่าย และชวนให้ติดตาม มาเถอะ รับรองว่านี่คือหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ถ้าพลาดไปเสียดายแน่นอน!
ถ้าพอมีเวลา ลองแวะไปเดินเล่นรับลมชมพระอาทิตย์ตกริมฝั่งโขงกันแถวๆ สามเหลี่ยมทองคำก็ชิลล์ดีนะ เดินเล่นเลาะริมแม่น้ำ ชมแผงขายของที่มีให้ดูเป็นระยะ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกว่าเรามาเหยียบจุดสุดท้ายชายขอบของแผ่นดินไทยในภาคเหนือกันแล้วนะ แล้วค่อยมุ่งหน้ากับไปพักที่โรงแรม
วันที่ 3
ตื่นเช้าอีกซักวัน เพื่อไปสแตนด์บายรอนั่งรถรางชมรอบเมืองเชียงรายกันกับ ‘รถรางแอ่วเมือง เล่าขานเก้าตำนานนครเชียงราย’ รถรางท่องเที่ยวที่จะพาคุณนั่งชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 9 จุดในตัวเมืองเชียงราย พร้อมมัคคุเทศก์ที่จะคอยบรรยายเรื่องราวของตำนานและที่มาในแต่ละสถานที่ และทั้งหมดนี้ ‘ฟรี’!!!! รถรางนี้จะมีให้บริการวันละ 2 รอบคือรอบ 9.30 น. และ 13.30 น. ใช้เวลารอบละราวๆ 2 ชั่วโมง ตั้งต้นที่บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช อ้อ ไปถึงก่อนอย่างน้อย 30 นาทีนะ จะได้มั่นใจว่ามีที่นั่งในรถแน่นอน!
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่หากไม่มา จะเหมือนว่ายังไม่ถึงเชียงราย นั่นคือวัดร่องขุ่น วัดสีขาวสะอาดที่เต็มไปด้วยศิลปะสุดวิจิตรตระการตาทุกซอกทุมมุมแม้กระทั่งในห้องน้ำ!! นอกจากเดินชมความงดงามของตัวพระอุโบสถและอาคารต่างๆ แล้ว ภายในบริเวณวัดยังมีแกลเลอรี่จัดแสดงผลงานของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เอาไว้ให้ได้เดินชมกันแบบเพลินๆ อีกด้วยนะ อย่าพลาดเชียว
ใกล้ๆ กับวัดร่องขุ่น มีร้านก๋วยเตี๋ยวโกนงค์ สาขา 3 ที่ว่ากันว่านอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวหมูรสเด็ดให้กินแล้ว ยังมีขนมจีบโฮมเมดรสเลิศ ลูกโต เนื้อแน่น ที่ใครได้กินก็ต้องฟินไปตามๆ กันละ
แต่ถ้ายังมีเวลาหรือท้องยังแน่นไม่สะใจ และยังพอมีงบประมาณเหลือติดกระเป๋าให้ละลายกันอีกหน่อย ลองไปปิดท้ายทริปกันในร้านที่หน้าตาว้าวๆ หน่อยดีมั้ย ที่จริงแล้วในตัวเมืองเชียงรายก็มีร้านอาหารหรือคาเฟ่เก๋ๆ ดังๆ ให้เลือกหลายร้านนะ แต่เราขอหยิบร้านมโนรมย์มาแนะนำ เพราะนอกจากตัวร้านจะสวยคลาสสิกสะอาดตาแล้ว อาหารของที่นี่ก็ยังว่ากันว่ามีรสชาติที่ไม่ทำให้ผิดหวังอีกด้วย ก็ในเมื่อเจ้าของร้านคือทายาทของร้านสลุงคำ หนึ่งร้านดังระดับตำนานในเมืองเชียงราย ก็การันตีได้เลยว่าฝีมือต้องอยู่ในระดับสร้างความประทับใจให้คุณได้อย่างแน่นอน
หวังว่าทริปท่องเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืนในเชียงรายที่เรานำมาฝากกัน คงจะเป็นไอเดียเริ่มต้นให้หลายคนนำไปปรับใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย เชียงรายยังคงอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมทางด้านต่างๆ อีกมากมาย หากสนใจ ลองเริ่มต้นทริปท่องเที่ยวในรูปแบบของคุณเองได้ด้วยการจองแพ็คเกจเชียงรายกับ Traveloka แล้วคุณจะรู้ว่าการวางแผนเดินทางด้วยตัวเองน่ะ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด!