ไปเที่ยวขอนแก่นจองเป็นแพคเก็จจ่ายถูกกว่า
ขอนแก่น เป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจมากในภาคอีสาน นอกจากเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับต้นๆ ยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย มีทั้งที่เที่ยวในตัวเมืองขอนแก่นเอง และที่เที่ยวทางธรรมชาติ ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ขอนแก่นนี้ดู การจองที่พัก และตั๋วเครื่องบินไปขอนแก่นก็ง่ายมาก เพียงแค่จองเป็นแพคเก็จ รับรองว่าง่าย และสะดวกกว่ามาก ที่สำคัญที่สุดคือช่วยประหยัดไปได้เยอะ อย่ารอช้า ใครจะไปเที่ยวขอนแก่น ก็จองแบบแพคเก็จไปได้เลย
ตั้งอยู่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มาของชื่อจังหวัดมีตำนานเล่าต่อกันมาว่า ในสมัยก่อน บริเวณตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพองในปัจจุบันนี้ มีตอมะขามขนาดใหญ่ที่ตายไปแล้วหลายปี แต่กลับมีใบไม้งอกงามเกิดขึ้นมาใหม่ภายหลังจากที่มีผู้อัญเชิญพระอังคารธาตุขององค์พระพุทธเจ้าผ่านไปในบริเวณนี้ บางตำนานก็ว่าหากผู้ใดไปกระทำมิดีมิร้ายหรือดูถูกดูหมิ่นตอแก่นมะขามต้นนี้ ก็จะมีอันเป็นไปในทันที เป็นเรื่องอัศจรรย์ใจแก่ผู้คนยิ่งนัก ชาวบ้านจึงร่วมใจกันสร้างเจดีย์ครอบตอมะขามนี้ แล้วนำพระธรรมคำสอนขององค์พระพุทธเจ้ารวม 9 บท ซึ่งเรียกว่าพระเจ้า 9 พระองค์ มาบรรจุไว้ในเจดีย์องค์นี้ด้วย ซึ่งในปัจจุบันเจดีย์แห่งนี้คือองค์พระธาตุขามแก่นนั่นเอง และจากหลักฐานที่ปรากฏ ชาวบ้านเชื่อกันว่าบริเวณนี้น่าจะเป็นเมืองเก่ามาก่อน จึงพร้อมใจกันเรียกพื้นที่แถวนี้ว่าเมืองขามแก่น ก่อนจะเพี้ยนมาเป็นขอนแก่นเช่นในปัจจุบัน
ทุกวันนี้ ขอนแก่นเป็นหนึ่งจังหวัดใหญ่ที่เจริญมากของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค มีความหลากหลายของประชากรทั้งเชื้อสายลาว จีน และเวียดนาม ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ และนั่นทำให้ขอนแก่นเป็นเมืองซึ่งมีวัฒนธรรมที่หลากหลายน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอาหารนั่นเอง
การเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังขอนแก่น ทำได้หลายวิธี ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถบัสประจำทาง รถไฟและเครื่องบิน นอกจากนั้น ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินจากขอนแก่นไปยังต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นหรืออินโดนีเซียได้อีกด้วย รวมถึงที่นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถประจำทางระหว่างประเทศ ขอนแก่น – เวียงจันทน์ และในส่วนของการเดินทางภายในจังหวัดนั้น มีให้เลือกทั้งรถตุ๊กๆ รถสองแถว และรถสามล้อปั่น สำหรับการเดินทางระยะไม่ไกลในตัวเมือง หากต้องการไปยังจุดหมายที่ไกลออกไปนอกตัวเมือง สามารถใช้บริการรถสองแถวและรถโดยสารประจำทางซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและปรับอากาศ นอกจากนั้น ยังมีรถแท็กซี่และรถเช่าต่างๆ ไว้คอยให้บริการเพื่อความสะดวกอีกด้วย
เพราะความที่เป็นแหล่งชุมชนมาตั้งแต่ครั้งโบราณ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองขอนแก่นจึงเน้นไปที่แหล่งประวัติศาสตร์และศาสนสถานเป็นหลัก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถมองข้ามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจของเมืองนี้ไปได้เลย และไม่ใช่มีเพียงแต่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น เพราะขาช้อปก็ยังมีแหล่งละลายทรัพย์ให้กระจายรายได้กันในเมืองนี้ เรียกได้ว่าขอนแก่นเป็นหนึ่งเมืองที่มีครบทุกสีสันสำหรับนักเดินทางจริงๆ และหากคุณสนใจที่จะวางแผนท่องเที่ยวในขอนแก่น ลองมองหาความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พักจาก Traveloka ดูสิ มีหลายตัวช่วยเลยละที่จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้น แล้วลองมาดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในขอนแก่นกันก่อนดีกว่าว่าจะมีที่ไหนโดนใจคุณบ้าง?
วัดพระธาตุหนองแวง
เชื่อแน่ว่าเมื่อเอ่ยชื่อเมืองขอนแก่น หลายคนคงจะนึกถึงภาพพระมหาธาตุแก่นนครสีทองสุกปลั่งขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกลด้วยความสูงถึง 9 ชั้น ซึ่งสร้างขึ้นในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี และโอกาสครบ 200 ปีเมืองขอนแก่นด้วยเช่นกัน ด้านในทั้ง 9 ชั้นจะประกอบด้วยบุษบก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โบราณวัตถุเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาหลายต่อหลายชิ้น ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวอีสานไว้มากมาย จากชั้นบนสุดยังสามารถใช้เป็นที่ชมวิวมุมสูงของตัวเมืองขอนแก่นได้ 360 องศาอีกด้วย
เปิดบริการทุกวัน
จุดชมวิวหินช้างสี
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นประมาณ 60 กิโลเมตร นับเป็นหนึ่งจุดท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดนี้ ด้านในเป็นลานกว้างที่เต็มไปด้วยหินหลายขนาดหลายรูปทรงตั้งเรียงราย ให้เราได้สนุกใช้จินตนาการถกเถียงกันกับเพื่อนร่วมทางว่าแต่ละก้อนมีรูปร่างที่ดูคล้ายกับอะไร บริเวณจุดชมวิวมีสองแห่ง มีทั้งแบบที่เป็นลานสูง 2 ชั้น และแบบที่เป็นลานกว้างมีที่นั่งเป็นอัฒจันทร์ครึ่งวงกลมล้อมรอบหน้าผา เมื่อมองจากจุดชมวิวจะเห็นทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ รวมถึงวิวเทือกเขาภูเวียงและภูเก้าได้แบบเต็มตา แถมยังใช้เป็นจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่นับว่าสวยงามที่สุดของอำเภอน้ำพองด้วยนะ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.30 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท
ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง
เชื่อมั้ยว่าต้นกำเนิดของการเริ่มต้นศึกษาฟอสซิลไดโนเสาร์ของเมืองไทย เริ่มต้นขึ้นที่นี่! เพราะซากโครงกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นแรกที่มีการขุดค้นพบในบริเวณภูเวียงนี่เอง ที่ทำให้เกิดการศึกษาและขุดค้นเรื่องนี้กันอย่างจริงจังในประเทศไทย โดยในพิพิธภัณฑ์นี้แบ่งการจัดแสดงนิทรรศการออกเป็น 2 ชั้น จัดแสดงการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมถึงสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ขุดค้นเจอในแถบภูเวียง มีห้องกระจกให้ชมการทำงานของนักธรณีวิทยา รวมถึงโซนสวนป่ายุคดึกดำบรรพ์ แสดงหุ่นจำลองขนาดเท่าจริงของไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ ที่ขุดค้นเจอ
เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท
ตลาดต้นตาล
ถือเป็นศูนย์รวมความบันเทิงช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ของชาวเมืองขอนแก่นกันเลยทีเดียว เพราะภายในพื้นที่ราว 40 ไร่ ซึ่งรวบรวมร้านค้าขายไว้กว่า 400 ร้านแห่งนี้ มีทุกอย่างที่คุณตามหา ทั้งอาหารเครื่องดื่มสารพัดเมนู, ร้านขายของแนวเปิดท้าย, Art Gallery, ร้านขายเสื้อผ้าและของใช้แนวแฟชั่น, เวทีการแสดง ไปจนกระทั่งถึงเหล่าต้นไม้และสินค้าทำมือหลากหลายรูปแบบ และแน่นอนว่าทั้งหมดที่บอกนี้ อยู่ภายใต้บรรยากาศสุดชิคที่น่าถ่ายรูปเช็คอินไปซะทุกมุม มาขอนแก่น แต่ไม่ได้มาเดินตลาดนี้ ถือว่าเชย!
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.
บึงแก่นนคร
บึงน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 600 ไร่ กลางเมืองขอนแก่นแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ ‘ท้าวเพียเมืองแพน’ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองขอนแก่นคนแรกแล้ว ยังเป็นสถานที่ซึ่งรวมเหล่าคนรักสุขภาพของเมืองนี้เอาไว้มากมาย ทุกเช้า-เย็น รอบบึงนี้จะเป็นสวนสาธารณะที่มีผู้คนคับคั่ง ทั้งมาเดินเล่น นั่งเล่น หรือจะมาเดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพ เพราะนอกจากจะเดินทางสะดวกเพราะอยู่กลางเมืองแล้ว ที่นี่ยังมีทัศนียภาพสวยงามทั้งยามเย็นและยามค่ำ ได้วิ่งเหยาะๆ ออกกำลังกาย บนสะพานยาวเหยียดที่ทอดตัวผ่านกลางบึงใหญ่ ข้างหลังมีเจดีย์ 9 ชั้นของวัดพระธาตุหนองแวงเป็นแบ็คกราวนด์อยู่ไกลๆ ฟินแค่ไหนลองคิดดู!
ถนนคนเดินขอนแก่น
เรียกว่าเป็นของขาดไม่ได้ไปแล้วในแต่ละจังหวัด สำหรับถนนคนเดินที่จะให้เหล่าพ่อค้าแม่ขายมาออกร้านตั้งแผงจำหน่ายสินค้ากันในวันสุดสัปดาห์ และแน่นอนว่าที่ขอนแก่นก็ต้องมี! ถนนคนเดินที่ขอนแก่น นอกจากจะมีข้าวของเครื่องใช้ทั้งที่คุ้นเคยและแปลกตาวางขายกันยาวเหยียดแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องมีคือเรื่องของอาหาร โดยเฉพาะอาหารพื้นถิ่นภาคอีสาน เรียกได้ว่าละแวกนี้มีเพียบ ตั้งแต่เบสิคอย่างข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาย่าง หมูย่าง ไปจนถึงหม่ำและเหล่าแมลงทอดทั้งหลาย เชื่อสิว่าแฮปปี้ทั้งสายเบสิคและเอ็กซตรีม!
เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น.
หมู่บ้านงูจงอาง บ้านโคกสง่า
หลายคนคงได้ยินชื่อเสียงของหมู่บ้านนี้มาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าหมู่บ้านนี้อยู่ที่ขอนแก่นนี่เอง ใครชอบความระทึกใจขอแนะนำให้มา เพราะที่หมู่บ้านนี้เดิมทีก็เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ต่างจังหวัดธรรมดา ผู้คนก็มีอาชีพเร่ขายยาสมุนไพร ต่อมาจึงมีการนำงูเห่ามาฝึกเพื่อทำการโชว์เรียกลูกค้าและพัฒนามาจนเป็นงูจงอางอย่างในปัจจุบัน ซึ่งโชว์งูนี่ละที่ทำให้หมู่บ้านนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีรายการสารคดีจากประเทศต่างๆ มาถ่ายทำกันอยู่เรื่อยๆ เมื่อเข้ามาหมู่บ้านนี้ สังเกตง่ายๆ ที่ใต้ถุนบ้านจะมีการเลี้ยงงูอยู่เกือบทุกหลังคาเรือน เหมือนเอาไว้เป็นเพื่อนคอยเฝ้าบ้านยังไงยังงั้นเลยละ!
เปิดให้เข้าชมศึกษาวิถีชีวิตของชาวบ้านและงูจงอางได้ทุกวัน จุดหลักอยู่ที่บริเวณวัดศรีธรรมา ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น.
ขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่ที่หลายคนมักคิดว่าเป็นแค่เมืองผ่าน แต่ที่จริงแล้วนั้น ขอนแก่นเป็นเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ได้มีที่เที่ยวยิ่งใหญ่หวือหวา แต่ก็นับว่าเป็นเมืองที่มีสถานที่น่าสนใจรวมถึงร้านอาหารมากมายหลายประเภทให้เลือกชิม เหมาะมากหากอยากไปกิน ไปเที่ยว ใช้ชีวิตเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน และหากคุณสนใจ เรามีทริปเริ่มต้นท่องเที่ยวในขอนแก่น โดยใช้เวลา 3 วัน 2 คืน มาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อจะนำไปปรับใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวคุณเองได้แบบง่ายๆ แล้วอย่าลืมจองที่พักและตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka นะ เพื่อความสะดวก ครบ จบในขั้นตอนเดียว
วันที่ 1
เริ่มทริปแบบเป็นมงคลด้วยการแวะไปกราบสักการะองค์พระมหาธาตุแก่นนครที่วัดพระธาตุหนองแวง หนึ่งวัดใจกลางเมืองขอนแก่นที่โดดเด่นสะดุดตามาแต่ไกล ชนิดที่ใครไปใครมาเมืองนี้ก็ต้องเห็น และแม้จะเป็นวัดกลางเมืองก็ดูถูกกันไม่ได้ เพราะการจะพิชิตจากชั้นแรกไปจนถึงชั้น 9 ขององค์พระมหาธาตุนั้นไม่ธรรมดา เนื่องจากต้องใช้กำลังขาล้วนๆ ในการเดินขึ้นบันได แต่ขึ้นไปเถอะ คุ้มมาก เพราะด้านบนลมเย็นและเดินเล่นชมวิวตัวเมืองขอนแก่นได้แบบครบทุกมุม เรียกได้ว่ามาขอนแก่นทั้งที จะพลาดวัดนี้ไปไม่ได้เลยเชียว
ของดีขึ้นชื่ออีกอย่างของเมืองขอนแก่น คงหนีไม่พ้นไก่ย่างเขาสวนกวาง แนะนำให้ไปลองตามหาชิมกันที่ร้านไก่ย่างมิตรภาพเขาสวนกวาง ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ไก่ย่างหอม หนังกรอบ เนื้อนุ่ม กินกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด สั่งลาบ ส้มตำ น้ำตกรสจี๊ดๆ มากินคู่กัน มันแสนจะลงตัว!
ออกจากตัวเมืองไปนิด จะได้เจอกับสวนสัตว์ขอนแก่น ที่รวบรวมสารพัดสัตว์น่ารักน่าดูเอาไว้ไม่น้อย ที่สวนสัตว์แห่งนี้ คุณเลือกได้ว่าจะนั่งรถพ่วงไปเดินชมตามจุดต่างๆ หรือจะเลือกเช่ารถกอล์ฟขับกันแบบเป็นส่วนตัว แต่ถ้ามั่นใจในกำลังขาจะเดินดูไปเรื่อยๆ ก็ได้นะ ไม่มีใครว่าอะไร เลือกได้ตามใจเอาที่สะดวกเลย ความเจ๋งของสวนสัตว์นี้อยู่ตรงที่มี sky walk ให้เดินชมเหล่าสัตว์ป่าซาฟารีกันบนมุมสูง ความพิเศษของเจ้าทางเดินลอยฟ้าแห่งนี้อยู่ตรงที่บางจุดก็เป็นตะแกรงเหล็กโปร่งมองลงมาเห็นด้านล่าง บางช่วงก็เป็นกระจกใส ลุ้นระทึกไปตลอดทางเลยละ นอกจากนั้น ใครจะไปเชื่อว่าในสวนสัตว์จะมีสวนน้ำ!! ใช่ สวนน้ำ แม้จะไม่ใหญ่โตมากมายแต่ก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่รวมถึงสไลเดอร์ให้เล่นด้วยนะ ค่าเข้าเค้ารวมไปแล้วพร้อมค่าชมสวนสัตว์ ดีจะตายไป!
กลับเข้าตัวเมืองมาตอนบ่ายแก่ๆ แนะนำให้มาเดินเล่นแถวบึงแก่นนคร สูดอากาศดีๆ ดูผู้คนมาออกกำลังกาย หรือถ้าเป็นสายสุขภาพจะวิ่งไปพร้อมกันกับเค้าเลยก็ยังได้ ที่นี่มีสะพานข้ามบึงน้ำขนาดใหญ่ให้บรรยากาศเหมือนได้วิ่งอยู่บนผิวน้ำเลยนะ แถมนอกจากวิวต้นไม้ใบหญ้า ยังจะได้เห็นภาพสวยๆ ขององค์พระมหาธาตุแก่นนครที่สะท้อนลงบนผิวน้ำ ยิ่งช่วงค่ำที่มีการเปิดไฟสปอร์ตไลท์ส่องขึ้นไป บอกได้ว่าสวยจับใจจริงๆ
รอบๆ บึงแก่นนครมีร้านอาหารมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านแนวจิ้มจุ่ม ถ้าสนใจลองวนๆ หาร้านที่ชอบดูได้ แต่ถ้ายังไม่โดนใจ แนะนำให้ไปเดินเล่นที่ตลาดต้นตาล ที่นั่นมีทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่มมากมายให้เลือกชิม แถมอิ่มแล้วยังเดินช้อปจับจ่ายกันได้ต่อ เพราะเค้ามีร้านค้าต่างๆ รอให้เลือกซื้อกันอยู่เพียบ อย่าเสียเวลา ลุยเลย!
วันที่ 2
เริ่มต้นเช้าวันใหม่กับการไปกินอาหารเช้ากันที่ร้านเอมโอช ร้านดังประจำจังหวัดที่มีอาหารชุดสุดป๊อปเป็นไข่กระทะ ขนมปังสอดไส้ และกาแฟ ถ้ายังไม่สะใจจะต่อข้าวต้มอีกชามก็ไม่มีใครหวงห้ามแต่ประการใด ร้านนี้ขึ้นชื่อจนกลายเป็นเหมือนอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของสถานที่เช็คอินในเมืองขอนแก่นไปแล้วเรียบร้อย เพราะฉะนั้น มาเถอะ จะได้ไม่เอ๊าท์!
เติมพลังยามเช้ากันไปเรียบร้อย ถ้ายังตื่นไม่เต็มตา ไปกระตุ้นอะดรีนาลีนกันที่บ้านโคกสง่าเห็นทีจะดี ที่นี่เป็นหมู่บ้านงูจงอางหมู่บ้านเดียวในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งโลก จะแวะดูวิถีชาวบ้านที่นิยมเลี้ยงงูเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน หรือจะแวะดูสถานเพาะพันธุ์งูจงอางที่หมู่บ้านนี้ก็ยังได้ ชาวบ้านเค้าใจดี อยู่ที่คุณจะกล้าแค่ไหนเท่านั้นเอง!
จากความระทึกในยามเช้า ไปเสพธรรมชาติเบาๆ พอให้ได้ความผ่อนคลายกันดีกว่า ณ จุดชมวิวหินช้างสี ที่นี่เราจะได้บริหารจินตนาการด้วยการเปรียบเทียบก้อนหินไซส์ยักษ์เข้ากับรูปร่างของสิ่งต่างๆ ทั้งหลาย ด้านบนยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่มองลงมาเห็นเขื่อนอุบลรัตน์ในมุมพาโนรามา สีฟ้าของน้ำตัดกันกับสีเขียวของต้นไม้ เรียกความสดชื่นได้ดีเลยละ
จากมุมสูง มาต่อกันกับการชมวิวผืนน้ำในระยะประชิดกันที่เขื่อนอุบลรัตน์ ที่ใกล้กับทางเข้าเขื่อนเราจะพบกับวัดพระพุทธบาทภูพานคำ ที่วัดนี้มีรอยพระพุทธบาทจำลองและองค์หลวงพ่อใหญ่ซึ่งมีความสูง 14 เมตรอยู่ด้านบน แต่ต้องอาศัยกล้ามเนื้อขากันซักนิดนะ เพราะจากลานด้านล่างต้องเดินขึ้นบันไดยาวเหยียดกันขึ้นไปอีก 1,049 ขั้น!! แต่อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะจริงๆ แล้วสามารถขับรถขึ้นไปถึงด้านบนได้เลย บอกไว้เฉยๆ เผื่อใครรักการออกกำลังกาย ด้านล่างริมเขื่อน จะมีร้านให้เช่าห่วงยางหรืออุปกรณ์ที่ใช้ทำกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ได้ หากหิวก็มีร้านอาหารคอยให้บริการอยู่ ค่อยๆ ทำไปทีละอย่าง ไม่ต้องรีบ อยู่ถึงเย็นรอชมความงามยามพระอาทิตย์คล้อยต่ำลงในเขื่อนด้วยเลย รับรองประทับใจ!
ถ้าคุณไปตรงกับวันเสาร์ อย่าพลาดการไปเดินชิลล์ที่แถวถนนคนเดินกันนะ ที่นี่คุณจะพบกับข้าวของเครื่องใช้มากมาย และที่ขาดไม่ได้คืออาหาร มีทั้งอาหารทั่วไปและอาหารในท้องถิ่น ใครเป็นสายกินอย่าพลาดเลย ตั้งแต่หัวถนนถึงท้ายถนน รับรองพุงกางก่อนกลับแน่นอน
วันที่ 3
ช่วงสายๆ แวะไปนั่งจิบกาแฟชิลล์ๆ กินคู่เบเกอรี่อร่อยๆ เอาแรงกันที่ร้าน Café de Forest อีกหน่อยน่าจะดี ร้านนี้เป็นคาเฟ่เก๋ๆ คูลๆ ที่อยู่ในกรมป่าไม้!! ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจในความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้าโดยรอบ เรียกได้ว่าบรรยากาศดี กาแฟหอม ขนมอร่อย จัดหนักจัดเต็มกันไปเลย ไม่ต้องยั้ง!
จากความคูลของคาเฟ่ในเมือง เราไปส่งท้ายทริปขอนแก่นกันที่ ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ดีกว่า เพราะขอนแก่นก็เป็นหนึ่งเมืองซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่ค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของไทย นอกจากการเดินชมนิทรรศการในอาคารพิพิธภัณฑ์แล้ว นั่งรถต่อไปอีกหน่อยเค้าก็มีการเปิดให้เข้าชมหลุมที่ขุดค้นพบซากฟอสซิลของจริงกันด้วยนะ ถ้ามีเวลาก็ลองแวะไปดู ได้ความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์เพิ่มขึ้นอีกเพียบแน่นอน!
ถ้าเดินทางกลับด้วยเครื่องบิน อยากให้ลองเผื่อเวลาไว้หาของอร่อยกินก่อนบินกลับบ้านกันหน่อย เพราะมีร้านอร่อยสองอารมณ์มาแนะนำ ร้านแรกออกแนวเก๋ไก๋สบายตาชื่อว่าร้าน Green Leaf ที่มาพร้อมอาหารแนวฟิวชั่นฟู้ด จุดเด่นของร้านนี้คือการใช้ผักที่สดใหม่ไร้สารพิษมาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร ใครรักสุขภาพควรแวะมา แล้วยิ่งถ้าเหลือเวลาก่อนขึ้นเครื่องเยอะละก็ ที่นี่ถือเป็นที่นั่งชิลล์ระหว่างรอกลับบ้านได้แบบสบาย ส่วนอีกร้านที่จะแนะนำเป็นโทนอีสาน อาหารรสแซ่บ จี๊ด ถึงใจ ก็นับว่าเป็นมื้อบ๊ายบายทริปขอนแก่นแดนอีสานได้เป็นอย่างดี ร้านนี้ชื่อร้านประไพรสนามบิน อาหารขึ้นชื่อต้องยกให้กับอาหารอีสานสารพัดเมนู ไม่ว่าจะเป็นปลาส้มทอด ส้มตำปลาร้า หรือแกงเห็ด รับรองว่าเด็ดทุกจาน!
หวังว่าทริปท่องเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืนในขอนแก่นที่เรานำมาฝากกัน คงจะเป็นไอเดียเริ่มต้นให้หลายคนนำไปปรับใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย ขอนแก่นยังคงอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมทางด้านต่างๆ อีกมากมาย หากสนใจ ลองเริ่มต้นทริปท่องเที่ยวในรูปแบบของคุณเองได้ด้วยการจองที่พักกับ Traveloka แล้วคุณจะรู้ว่าการวางแผนเดินทางด้วยตัวเองน่ะ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด!