ฮานอย ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศเวียดนาม ซึ่งมีความเก่าแก่ยาวนานเป็นหลายพันปี ทำให้ฮานอยจึงอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมทางด้านต่างๆ อีกมากมาย หากสนใจอยากลองเริ่มต้นทริปท่องเที่ยวฮานอยเองในรูปแบบของคุณ สามารถจองตั๋วเครื่องบินและที่พักแบบเป็นแพคเก็จกับ Traveloka ได้เลย เพราะการซื้อแบบเป็นแพคเก็จมันจะทำให้คุณได้จ่ายเงินที่ถูกกว่า ประหยัดเวลาในเรื่องการจองต่างๆ เก็บเวลาที่เหลือไว้ไปเที่ยวฮานอยได้อีกเยอะ
เป็นเมืองหลวงเก่าแก่นับพันปีของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ค่อนไปทางเหนือของประเทศ เคยมีการเปลี่ยนผ่านการปกครองมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่เคยตกอยู่ในการปกครองของจีน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลทำให้ฮานอยกลายเป็นเมืองที่มีความผสมผสานของวัฒนธรรมหลากหลายและยังคงเห็นได้แบบเป็นรูปธรรมมาจนถึงในยุคปัจจุบัน ในอดีต ฮานอยเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดของเอเชีย จนได้รับการขนานนามว่า ‘Little Paris’ เพราะเป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองเป็นอย่างดี รวมถึงยังมีทะเลสาบมากมายกระจัดกระจายล้อมรอบอยู่กว่าสิบแห่ง ทำให้บางคนนิยามฮานอยไว้ว่าเป็นเมืองแห่งทะเลสาบ หรือ City of Lakes
ความงดงามของวัฒนธรรมที่ตกทอดมาให้เห็นในปัจจุบันอย่างเป็นรูปธรรม อยู่ที่สถาปัตยกรรมอันงดงามของอาคารบ้านเรือน ซึ่งมีทั้งสไตล์ยุโรปแบบโคโลเนียลและจีนดั้งเดิมเป็นหลัก รวมถึงความเรียบง่ายในความวุ่นวายของวิถีชีวิตผู้คนทั่วไป ซึ่งผสมผสานกันทั้งความทันสมัยและเก่าแก่ได้อย่างงดงามลงตัว ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ฮานอยมีเอกลักษณ์และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนนับล้านให้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยือนได้ในแต่ละปี
จากสนามบิน เราสามารถเลือกเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองฮานอยได้ 3 วิธี นั่นคือการใช้รถแท็กซี่ รถตู้ หรือรถบัส ซึ่งจะมีราคาต่างกัน รวมถึงการใช้เวลาในการเดินทางและความสะดวกสบายที่ต่างกันด้วย ส่วนการเดินทางในเมืองฮานอยนั้น ในโซนท่องเที่ยวส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้วิธีการเดิน เพราะบางจุดก็ไม่ไกลกันมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ควรลองคือการนั่งรถสามล้อซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เพราะรถสามล้อของที่นี่จะมีที่นั่งผู้โดยสารอยู่ด้านหน้าและคนขับจะอยู่ด้านหลัง เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าลองหากได้มาเยือนเลยนะ นอกจากนั้น ยังมีวิธีการเดินทางอีกหลากหลาย เช่น รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และการเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือรถจักรยานขี่เอง ทั้งหมดนี้แม้จะเรียกไม่ได้ว่าสะดวกสบายเหมือนเมืองใหญ่ทันสมัยต่างๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และเอกลักษณ์ของเมืองฮานอยได้เป็นอย่างดี
ด้วยความฮานอยเป็นทั้งเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม และยังเป็นเมืองเก่าที่มีอายุนับพันปี สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงมักจะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เป็นหลัก แต่ด้วยความที่ยังเป็นเมืองซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาเยือนปีละนับล้านคน แหล่งท่องเที่ยวอีกประเภทซึ่งขาดไม่ได้ก็คือแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารต่างๆ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีความงดงามตามธรรมชาติอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางออกมานอกเมืองซักนิด แต่ก็ยังถือว่าสามารถเดินทางได้ไม่ยากจากฮานอย และหากคุณสนใจจะวางแผนท่องเที่ยวในฮานอย ลองมองหาความสะดวกสบายในการเดินทางและที่พักจาก Traveloka ดูสิ มีหลายตัวช่วยเลยละที่จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้น ลองมาดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในฮานอยและเมืองใกล้เคียงกันก่อนดีกว่าว่าจะมีที่ไหนโดนใจคุณบ้าง?
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่กลางเมืองฮานอย มีตำนานเกี่ยวกับตะพาบวิเศษ ดาบศักดิ์สิทธิ์ และพระราชาในสมัยโบราณ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนี้ ปัจจุบันที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีผู้คนนิยมมาเดินเล่นพักผ่อน เพราะนอกจากจะมีทัศนียภาพที่งดงามแล้ว ใกล้ๆ กันยังมีวัดหง็อกเซิน สะพานไม้เทฮุก และหอคอยตะพาบ ซึ่งทั้งหมดนั้นถือเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามและน่าสนใจตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วยๆ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
เป็นพระราชวังซึ่งสร้างด้วยหินทั้งหมด และเป็นพระราชวังหินเพียงแห่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1379 ในปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของเวียดนาม ด้วยเพราะความน่าพิศวงในฝีมือการก่อสร้างและรูปแบบทางสถาปัตยกรรมในยุคโบราณ ซึ่งยังไม่มีเครื่องมือเครื่องใช้ทุ่นแรงในการก่อสร้างอย่างในทุกวันนี้นั่นเอง นับเป็นหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ที่ใครมาเยือนฮานอยต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10,000 VND / เด็ก 5,000 VND
สุสานโฮจิมินห์แห่งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญระดับชาติของเวียดนามอีกเช่นกัน เพราะมีการบรรจุร่างของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ วีรบุรุษของชาวเวียดนามทุกคนไว้ภายใน ทุกวันนี้นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรายังอาจเห็นชาวเวียดนามต่อแถวเข้าไปทำความเคารพร่างของท่านที่ด้านในอยู่เป็นประจำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ห้ามใส่เสื้อแขนกุด กระโปรงสั้นเหนือเข่า และกางเกงขาสั้น เพื่อเป็นการให้เกียรติและเคารพสถานที่
เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์และวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 11.00 น.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเวียดนามแห่งนี้ ตั้งอยู่ในอาคาร 2 ชั้นสีสวยทรงโคโลเนียลสุดคลาสสิก ที่ไม่ได้มีดีแค่ภายนอกเท่านั้น แต่ด้านในยังมีการรวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์และความเป็นมาไม่ใช่เฉพาะแค่เมืองฮานอยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวของเวียดนามทั้งประเทศกันเลยทีเดียว รวบรวมข้าวของมากมายตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน งานศิลปะเก่าแก่ เสื้อผ้า อาวุธ และอื่นๆ เรียกว่าออกจากที่นี่ไป คุณอาจจะได้รับความรู้ใหม่ๆ ชวนอเมซิ่งเกี่ยวกับเวียดนามเพิ่มขึ้นอีกเพียบเลยละ
เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 12.00 น. และ 13.30 – 16.00 น.
อัตราค่าเข้าชม 20,000 VND
เพราะหุ่นกระบอกน้ำ ถือเป็นไฮไลท์การแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนามซึ่งไม่ควรพลาดชมด้วยประการทั้งปวง แม้จะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในศิลปะเก่าแก่ประจำชาติแต่ก็น่าเสียดายที่ในปัจจุบันนี้มีเหลือให้ได้ชมกันน้อยลงทุกวัน และหนึ่งในขณะที่ยังคงสืบสานวัฒนธรรมนี้มาจนถึงในปัจจุบันก็มีให้ดูที่เมืองฮานอยแห่งนี้นี่เอง โดยคณะหุ่นกระบอกน้ำของที่นี่ มีการก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 จนถึงปัจจุบัน และเปิดแสดงที่โรงละครแห่งนี้เป็นประจำ
เปิดการแสดงทุกวัน วันละ 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. 18.30 น. 20.00 น. และ 21.15 น. รอบละ 1 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม 60,000 – 100,000 VND
หนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองฮานอย เป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในเวียดนาม สร้างขึ้นในรูปแบบของมหาวิหารแบบโกธิค โดยชาวฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาปกครองเวียดนามในช่วงสมัยหนึ่ง ซึ่งเดิมทีที่ตั้งของโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นเจดีย์ที่ชื่อว่า Bao Thien ซึ่งถูกชาวฝรั่งเศสทำลายลงไปเพื่อสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาแทนที่
ด้านในโบสถ์เปิดให้เข้าชมเป็นเวลา ควรเช็ครายละเอียดก่อนเดินทางไป
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในฮานอยมักจะเป็นโบราณสถานอันเก่าแก่ รวมถึงแหล่งซื้อหาของฝากต่างๆ ถ้าเป็นคนชอบศึกษาวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นอยู่แล้ว เชื่อได้ว่าน่าจะมีความสุขในการเที่ยวฮานอยแน่นอน แต่ถ้าหากคุณเป็นคนชอบท่องเที่ยวชมความงดงามของสถานที่ทางธรรมชาติ ก็สามารถใช้ฮานอยเป็นจุดตั้งต้นเพื่อเดินทางไปยังสถานที่สวยงามที่อยู่รอบๆ ได้อย่างสบาย หากคุณสนใจ เรามีทริปเริ่มต้นท่องเที่ยวในฮานอยและเมืองใกล้เคียง โดยใช้เวลา 4 วัน 3 คืน มาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อจะนำไปปรับใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวคุณเองได้แบบง่ายๆ แล้วอย่าลืมจองที่พักและตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka นะ เพื่อความสะดวก ครบ จบในขั้นตอนเดียว
ประเดิมวันแรกในฮานอยด้วยการไปชม Ho Chi Minh’s Mausoleum หรือสุสานโฮจิมินห์กันก่อนเลยดีกว่า ที่นี่คือหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องแวะมาเช็คอิน สุสานแห่งนี้มีการเก็บรักษาร่างของลุงโฮ หรือประธานาธิบดีโฮจิมินห์ผู้โด่งดังและเป็นที่รักเคารพตลอดกาลของชาวเวียดนามไว้ภายใน ในหนึ่งปีจะมีช่วงปิดหนึ่งครั้งเพื่อทำกรรมวิธีรักษาร่างของลุงโฮเอาไว้ จึงควรเช็คช่วงเวลาก่อนไปนะจะได้ไม่แจ๊คพ็อตไปเสียเที่ยวไง แถมใกล้กันยังมีพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ให้เข้าไปเดินดูประวัติของลุงโฮได้ด้วยนะ อย่าพลาดเชียว
กลับจากทักทายทำความเคารพลุงโฮกันเรียบร้อย แวะหาของอร่อยเติมใส่ท้องกันบ้างดีกว่า ลองมองหาร้าน Bun Cha Nem Cua Be Dac Kim มองหาป้ายสีเหลืองโดดเด่นของร้านเจอแล้วก็เลี้ยวเข้าไปได้เลย เมนูเด็ดที่อยากแนะนำคือปอเปี๊ยะไส้ปูและ Bun Cha หรือก๋วยเตี๋ยวหมูย่าง ถือเป็นการเติมพลังให้มื้อแรกในฮานอยได้เป็นอย่างดี
เติมพลังเรียบร้อยก็ได้เวลาหาที่เช็คอินกันต่อ แนะนำอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเมืองฮานอยที่ไม่ว่าใครจะมาจะไป ยังไงก็พลาดที่นี่ไม่ได้จริงๆ นั่นคือทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม ซึ่งถือได้ว่าอยู่ในเขตเมืองเก่าใจกลางเมืองฮานอย ถ้ามาถึงตอนยังไม่เย็นย่ำซักเท่าไหร่แนะนำให้เดินข้ามสะพานเทฮุก หรือสะพานแสงอาทิตย์ สะพานสวยสีแดงสดสะดุดตาแต่ไกลๆ ซึ่งใครต่อใครก็ต้องแวะมาชักภาพเป็นที่ระลึกกันทั้งนั้น จากสะพานข้ามไปจะเจอกับวัดหง็อกเซิน หรือวัดเนินหยก วัดเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ในรูปแบบจีนโบราณ ภายในมีวิหารและแท่นบูชาเทพเจ้า รวมถึงข้าวของโบราณหลายชิ้น ไฮไลท์ของวัดส่วนหนึ่งจะอยู่ที่ตะพาบแยงซีเกียงยักษ์สตัฟฟ์ ซึ่งเป็นตะพาบที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์และเคยอาศัยอยู่ในทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมมาก่อน
จบวันแรกในฮานอยกันที่มื้อดินเนอร์แบบสตรีทฟู้ดที่แท้จริง ณ ร้าน Bun Thang Ba Duc แม้ว่าสภาพร้านจะดูไม่เชิญชวนซักเท่าไหร่ แต่บอกได้ว่าร้านนี้ถือว่าฮ้อตในหมู่คนท้องถิ่น โดยมีเมนูขึ้นชื่ออย่าง Bun thang เป็นตัวชูโรงเด็ด พิสูจน์ได้จากลูกค้าล้นหลามที่นั่งเข้าคิวรอชิมความอร่อยกันชนิดล้นร้านเลยทีเดียว
ซื้อตั๋ว One Day Trip ออกไปสัมผัสดินแดนมรดกโลกทางธรรมชาตินอกเมืองฮานอยกันดีกว่า กับการเดินทางไปชม Ha Long Bay หนึ่งดินแดนที่คงความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติไว้ได้แบบน่าตื่นตาตื่นใจ กับเกาะหินปูนซึ่งตั้งเป็นแท่งสูงขึ้นไปจากท้องทะเลกว่า 1,900 เกาะ ซึ่งระหว่างทางล่องเรือเที่ยวชมบริเวณต่างๆ ของอ่าวฮาลองแห่งนี้ เราจะได้นั่งชิลล์รับลมชมทัศนียภาพสวยงามแปลกตา ซึ่งบางมุมอาจจะเคยเห็นมาหลายครั้งแล้วผ่านทางจอภาพยนตร์
นอกจากนั่งเรือชมความงามในส่วนของท้องทะเลแล้ว ในบริเวณนี้ยังมีถ้ำ Thien Cung ให้ได้แวะเดินชมยืดเส้นยืดสายกัน ในด้านความสวยก็ไม่ต้องเคลือบแคลงใจ ถ้าไม่เริ่ดจริงถ้ำนี้คงไม่ได้มีชื่อว่าถ้ำสวรรค์มาแน่ๆ ภายในเป็นถ้ำขนาดใหญ่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยชวนตื่นตา แถมยังมีการประดับประดาด้วยไฟสีต่างๆ เพิ่มสีสันและบรรยากาศให้ชวนว้าวเข้าไปอีก ยิ่งเดินยิ่งเพลินเลยละ
ออกไปชมมรดกโลกอีกหนึ่งแห่งของฮานอย นั่นคือ The Imperial Citadel of Thang Long ซึ่งเป็นพระราชวังซึ่งสร้างด้วยหินเพียงแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนับว่ายังคงสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์แข็งแรงมากสำหรับสิ่งก่อสร้างที่มีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมเพียงแห่งเดียวของเวียดนาม แล้วเรื่องอะไรเราจะยอมพลาดการตามมาดูด้วยตาตัวเองล่ะ จริงมั้ย?
พิพิธภัณฑสถานประวัติศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม คืออีกที่หนึ่งซึ่งควรหาโอกาสมาเดินชม ในนี้จะจัดแสดงวิวัฒนาการช่วงต่างๆ ของประเทศเวียดนามตั้งแต่ในยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน แสดงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยจนได้มาเป็นประเทศเวียดนามเหมือนในปัจจุบัน และยังรวบรวมข้อมูลและข้าวของโบราณที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้เราได้ดูได้ศึกษา ถือเป็นการทำความรู้จักประเทศเวียดนามได้อย่างลึกซึ้งขึ้นมาอีกขั้นเลยเชียว
ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ อย่าลืมแวะชมแวะแชะภาพงามๆ ของ The Hanoi Opera House หรือโรงละครฮานอยกันด้วยล่ะ ตึกเก่าสีสวยในสไตล์ฝรั่งเศสหลังนี้โดดเด่นสะดุดตาอยู่ริมถนน เรียกว่าไหนๆ ผ่านมาแล้วก็แวะทัศนศึกษาความสวยกันซักนิดจะเป็นไร
ไหนๆ ก็เริ่มต้นวันกันด้วยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเวียดนามมาแล้วนี่ อย่าลืมมาแวะต่อกันที่พิพิธภัณฑ์เรือนจำกลาง Hanoi Hilton หรือเรือนจำฮว๋าโลกันด้วยล่ะ ที่นี่เคยเป็นคุกซึ่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของเวียดนาม ซึ่งชาวฝรั่งเศสมาสร้างไว้เพื่อใช้คุมขังนักโทษชาวเวียดนามที่ต่อต้านการปกครองของตน และแน่นอนว่ามีนักโทษการเมืองมากมายที่ถูกทรมานจนเสียชีวิตที่นี่
ต่อกันที่ St. Joseph's Cathedral ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ถือเป็นการแวะพักใจแบบชิลล์ๆ จากประวัติศาสตร์อันหฤโหดทั้งหลายที่ได้ผ่านหูผ่านตากันมาเกือบทั้งวัน ในวิหารสไตล์โกธิคสุดสวยหลังนี้ ถ้ามาในจังหวะที่เค้าเปิดให้เข้าชมด้านในก็อย่าพลาดการเข้าไปล่ะ เพราะสวยงามตระการตาไม่แพ้ด้านนอกเลยเชียวคุณ
ปิดท้ายด้วยการชมศิลปะการแสดงประจำชาติของเวียดนามอย่างหุ่นกระบอกน้ำกันหน่อยดีกว่าที่ Thang Long Water Puppet Theater หนึ่งสถานที่การแสดงของคณะหุ่นกระบอกน้ำซึ่งเหลือจำนวนน้อยลงทุกทีอย่างน่าเสียดายแล้วในปัจจุบัน ไหนๆ มาถึงถิ่นกันแล้วทั้งที ถ้ามีโอกาสได้ชมก็ถือเป็นทริปมาเยือนเวียดนามที่ไม่น่าเสียดายแล้วละ
วันสุดท้ายกับภารกิจสำคัญของการเดินทางทุกครั้ง นั่นคือการช้อปปิ้ง เริ่มต้นกันที่ Dong Xuan Market ตลาดที่ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย ตั้งอยู่ภายในอาคารสไตล์โซเวียตสวยแปลกตา ภายในเต็มไปด้วยร้านรวยซื้อขายสินค้ากันเนืองแน่นกว่า 4 ชั้น กับข้าวของหลากหลายที่ส่วนใหญ่วางจำหน่ายในราคาส่งด้วยนะ
หรือถ้าใครยังไม่ถูกใจ จะไปตระเวนย่าน Old Quarter กันอีกทีก็ยังไหว ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านรวงมากมายในถนนที่ตัดกันไปมาวุ่นวายคึกคัก หลายคนรู้จักที่นี่ในนาม 36 Streets แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่ไม่น่าพลาดการมาเดินช้อปเดินชิลล์ที่มีจุดเด่นคือในถนนหนึ่งเส้น ก็จะขายของประเภทเดียวกันไปเลยตลอดสาย เรียกได้ว่าอยากได้อะไรก็เดินดูกันให้ตาลายไปเลยทีเดียว!
ถ้าเวลายังเหลือ อยากชวนมานั่งพักขากันที่ Cafe Dinh อยู่ใกล้ๆ ย่านรอบทะเลสาบฮว่าเกี๋ยน ก็กาแฟน่ะถือเป็นของขึ้นชื่อลือชาของเวียดนามเค้าอีกอย่างเลยนี่นา แนะนำว่าให้ลองหาเมนู Egg Coffee มาชิมกัน จริงๆ แล้วมีขายหลายร้านเลยนะ สะดวกแถวไหนก็ลองแวะลองสั่งมาชิมกันให้ได้ล่ะ นี่นับเป็นเมนูซิกเนเจอร์ในย่านนี้เลยนะคุณ