สกลนคร (Sakon Nakhon) เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 647กิโลเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 172เมตร มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 9,605.8ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับจังหวัดบึงกาฬและหนองคาย ทิศใต้ติดกับจังหวัดกาฬสินธุ์และมุกดาหาร ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดนครพนมทิศ ตะวันตกติดกับจังหวัดอุดรธานี ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดเป็นที่ราบสูงมีป่าไม้ ส่วนทางตอนใต้เป็นที่ราบสูงเชิงเขา ได้แก่ที่ราบสูงบนเทือกเขาภูพานและที่ราบระหว่างหุบเขา ซึ่งมีลำห้วยที่เกิดจากภูเขาหลายแห่ง มีป่าไม้และทุ่งหญ้า ส่วนตอนกลางของจังหวัดเป็นที่ราบต่ำ โดยเฉพาะบริเวณอำเภอเมืองซึ่งมีบึงหนองหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัด
สกลนคร เดิมมีชื่อว่า “เมืองหนองหานหลวง” ตามชื่อของบึงน้ำที่เมืองตั้งอยู่ มีขุนขอมราชบุตร เจ้าเมืองอินทปัฐนครเดิม เป็นผู้สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16 อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโคตรบูร ต่อมาเมื่ออิทธิพลขอมเสื่อมลง เมืองหนองหานหลวงตกไปอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรล้านช้าง มีชื่อเมืองใหม่ว่า “เมืองเชียงใหม่หนองหาร” ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เมืองเชียงใหม่หนองหารได้ตกมาอยู่ในความปกครองของอาณาจักรสยาม และเปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองสกลทวาปี” ใช้ระบอบการปกครองแบบหัวเมืองโบราณ รัชกาลที่ 3 ทรงเปลี่ยนนามเมืองใหม่เป็น สกลนคร ตั้งแต่บัดนั้นมา จนกระทั่งในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 การปกครองเมืองสกลนครได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคมณฑลเทศาภิบาล โดยส่วนกลางส่งพระยาสุริยเดช (กาจ) มาเป็นข้าหลวงเมืองสกลนครคนแรก
สกลนคร เป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธศาสน์ พระธาตุ 5 แห่ง แหล่งอารยธรรม 3,000 ปี เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องจวบจนปัจจุบัน มีวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมที่ตกทอดกันรุ่นสู่รุ่นมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่สมัยโบราณ มีความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งศาสนาและอารยธรรมอันน่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญ และหลากหลายในด้านต่างๆโดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรม ได้รับการขนานนามว่าเป็น"แอ่งธรรมะแห่งอีสาน" ดังเห็นหลักฐานได้จากวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีอยู่มากมาย แสดงถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดนครพนม และมุกดาหาร ซึ่งเป็นกลุ่ม "สามจังหวัดสนุก" ที่นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปสกลนครอีกด้วย
เช็คมาตรการสนามบินจังหวัดสกลนครได้ที่นี่
ไทยบาท (Thai Baht หรือ THB)
ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดสกลนครขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศไทย ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทยประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคมทำให้มีฝนตกชุกทั่วไปเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดสกลนครส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและมีเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศค่อนข้างหนาวเย็นมากในช่วงฤดูหนาว และในช่วงฤดูร้อนอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 26.2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.0องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.7 องศาเซลเซียส เดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวมากที่สุดในรอบปี อุณหภูมิเฉลี่ย 42.5 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวที่สุดในเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย -1.4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปสกลนคร
แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ได้แก่
สกลนคร ดินแดนแห่งธรรมะ แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ก็เที่ยวได้ครบทุกความต้องการ ทั้งชมธรรมชาติ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชิมอาหารอร่อย เริ่มต้นทริปด้วยการสักการะพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองสกลนคร เยี่ยมชมพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ถ่ายรูปหมู่พระตำหนักและไม้ดอกดอกไม้ประดับนานาพรรณ ชมบัวหลากหลายสายพันธ์ที่อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยชมความงดงามของงานแกะสลักเรื่องราวพุทธประวัติบนหน้าผาหินที่วัดถ้ำผาแด่น สำรวจหมู่บ้านท่าแร่ ชุมชนเก่าแก่ที่ประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ 3 พระเกจิอาจารย์สายพระกรรมฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโรที่วัดป่าอุดมสมพร พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันสาโรในวัดป่าสุทธาวาส แวะถ่ายรูปชิคๆ ที่ฟาร์มฮัก (Farm Hug) แวะหยอกเย้าน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่โซนาต้า คาเฟ่ (Sonata’s Café) เที่ยวชมเขื่อนน้ำอูนที่อำเภอพังโคน แวะถ่ายรูปชิลๆ ที่สามอังคารฟาร์ม ฟาร์มเมล่อนแห่งแรกของสกลนคร ชมรูปปั้นพญาเต่างอยที่อุทยานแห่งชาติห้วยหวด เยือนพระธาตุนารายณ์เจงเวง ปรางทรงขอมที่มีประวัติการสร้างมาพร้อมพระธาตุภูเพ็ก ปั่นจักรยานชมวิวหนองหาร นั่งเรือเที่ยวเกาะดอนสวรรค์ เข้าร่วมกิจกรรรมเวิร์คช้อปการทำแก้วเซรามิก และเลือกซื้อหาสินค้าที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม เลือกซื้อผ้าย้อมครามเป็นของฝากที่ถนนคนเดินผ้าคราม หน้าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
อ่านบทความที่เที่ยวสกลนคร ได้ที่นี่
15 พิกัดเด็ดสกลนคร เมืองนี้มีดีกว่าที่คิด
15 แลนด์มาร์คเมืองสกล น่าฝนยิ่งสวยปัง
สกลนคร (Sakon Nakhon) เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 647กิโลเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 172เมตร มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 9,605.8ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับจังหวัดบึงกาฬและหนองคาย ทิศใต้ติดกับจังหวัดกาฬสินธุ์และมุกดาหาร ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดนครพนมทิศ ตะวันตกติดกับจังหวัดอุดรธานี ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดเป็นที่ราบสูงมีป่าไม้ ส่วนทางตอนใต้เป็นที่ราบสูงเชิงเขา ได้แก่ที่ราบสูงบนเทือกเขาภูพานและที่ราบระหว่างหุบเขา ซึ่งมีลำห้วยที่เกิดจากภูเขาหลายแห่ง มีป่าไม้และทุ่งหญ้า ส่วนตอนกลางของจังหวัดเป็นที่ราบต่ำ โดยเฉพาะบริเวณอำเภอเมืองซึ่งมีบึงหนองหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัด
สกลนคร เดิมมีชื่อว่า “เมืองหนองหานหลวง” ตามชื่อของบึงน้ำที่เมืองตั้งอยู่ มีขุนขอมราชบุตร เจ้าเมืองอินทปัฐนครเดิม เป็นผู้สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16 อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโคตรบูร ต่อมาเมื่ออิทธิพลขอมเสื่อมลง เมืองหนองหานหลวงตกไปอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรล้านช้าง มีชื่อเมืองใหม่ว่า “เมืองเชียงใหม่หนองหาร” ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เมืองเชียงใหม่หนองหารได้ตกมาอยู่ในความปกครองของอาณาจักรสยาม และเปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองสกลทวาปี” ใช้ระบอบการปกครองแบบหัวเมืองโบราณ รัชกาลที่ 3 ทรงเปลี่ยนนามเมืองใหม่เป็น สกลนคร ตั้งแต่บัดนั้นมา จนกระทั่งในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 การปกครองเมืองสกลนครได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคมณฑลเทศาภิบาล โดยส่วนกลางส่งพระยาสุริยเดช (กาจ) มาเป็นข้าหลวงเมืองสกลนครคนแรก
สกลนคร เป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธศาสน์ พระธาตุ 5 แห่ง แหล่งอารยธรรม 3,000 ปี เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องจวบจนปัจจุบัน มีวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมที่ตกทอดกันรุ่นสู่รุ่นมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่สมัยโบราณ มีความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งศาสนาและอารยธรรมอันน่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญ และหลากหลายในด้านต่างๆโดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรม ได้รับการขนานนามว่าเป็น"แอ่งธรรมะแห่งอีสาน" ดังเห็นหลักฐานได้จากวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีอยู่มากมาย แสดงถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดนครพนม และมุกดาหาร ซึ่งเป็นกลุ่ม "สามจังหวัดสนุก" ที่นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปสกลนครอีกด้วย
เช็คมาตรการสนามบินจังหวัดสกลนครได้ที่นี่
ไทยบาท (Thai Baht หรือ THB)
ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดสกลนครขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศไทย ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทยประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคมทำให้มีฝนตกชุกทั่วไปเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดสกลนครส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและมีเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศค่อนข้างหนาวเย็นมากในช่วงฤดูหนาว และในช่วงฤดูร้อนอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 26.2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.0องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.7 องศาเซลเซียส เดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวมากที่สุดในรอบปี อุณหภูมิเฉลี่ย 42.5 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวที่สุดในเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย -1.4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปสกลนคร
แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ได้แก่
สกลนคร ดินแดนแห่งธรรมะ แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ก็เที่ยวได้ครบทุกความต้องการ ทั้งชมธรรมชาติ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชิมอาหารอร่อย เริ่มต้นทริปด้วยการสักการะพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองสกลนคร เยี่ยมชมพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ถ่ายรูปหมู่พระตำหนักและไม้ดอกดอกไม้ประดับนานาพรรณ ชมบัวหลากหลายสายพันธ์ที่อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยชมความงดงามของงานแกะสลักเรื่องราวพุทธประวัติบนหน้าผาหินที่วัดถ้ำผาแด่น สำรวจหมู่บ้านท่าแร่ ชุมชนเก่าแก่ที่ประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ 3 พระเกจิอาจารย์สายพระกรรมฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโรที่วัดป่าอุดมสมพร พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันสาโรในวัดป่าสุทธาวาส แวะถ่ายรูปชิคๆ ที่ฟาร์มฮัก (Farm Hug) แวะหยอกเย้าน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่โซนาต้า คาเฟ่ (Sonata’s Café) เที่ยวชมเขื่อนน้ำอูนที่อำเภอพังโคน แวะถ่ายรูปชิลๆ ที่สามอังคารฟาร์ม ฟาร์มเมล่อนแห่งแรกของสกลนคร ชมรูปปั้นพญาเต่างอยที่อุทยานแห่งชาติห้วยหวด เยือนพระธาตุนารายณ์เจงเวง ปรางทรงขอมที่มีประวัติการสร้างมาพร้อมพระธาตุภูเพ็ก ปั่นจักรยานชมวิวหนองหาร นั่งเรือเที่ยวเกาะดอนสวรรค์ เข้าร่วมกิจกรรรมเวิร์คช้อปการทำแก้วเซรามิก และเลือกซื้อหาสินค้าที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม เลือกซื้อผ้าย้อมครามเป็นของฝากที่ถนนคนเดินผ้าคราม หน้าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
อ่านบทความที่เที่ยวสกลนคร ได้ที่นี่
15 พิกัดเด็ดสกลนคร เมืองนี้มีดีกว่าที่คิด
15 แลนด์มาร์คเมืองสกล น่าฝนยิ่งสวยปัง