เมืองโกลกาตา (Kolkata) เป็นเมืองที่ชื่อเดิมนั้นคือ กัลกัตตา หลายคนอาจจะออกเสียงว่ากัลกัตตา หรือโกลกาตาก็ได้ ถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งรัฐเบงกอลตะวันตก ของประเทศอินเดีย ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกของประเทศ และอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำฮูคลี แต่ก่อนนี้เมืองโกลกาตา ถือว่าเป็นเมืองสำคัญ เพราะเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดียมาก่อน แต่ประวัติของเมืองนี้ก็ยังไม่เก่าแก่ เท่าอีกหลายเมือง เพราะมีอายุแค่ประมาณ 370 ปีมาแล้วเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าโกลกาตา จะเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ไม่มากนัก แต่ก็มีความสำคัญต่อรัฐเบงกอลอยู่ไม่ใช่น้อย ความโดดเด่นของโกลกาตาคือเคยตกเป็นเมืองที่อยู่ใต้การปกครองของอังกฤษมาก่อนหน้านี้ และเป็นเมืองหลวงของอินเดียในช่วงนั้น เมืองโกลกาตาจึงเป็นศูนย์กลางของหลายสิ่งอย่าง ทั้งการศึกษา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ไปจนถึงวัฒนธรรม และเรื่องราวเกี่ยวกับการเมือง นอกจากนั้นสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในเมืองโกลกาตา ยังเป็นแบบโคโลเนียลอยู่ ด้วยความที่เป็นเมืองเก่า มีความน่าสนใจเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยว ถึงจองตั๋วเครื่องบินไปโกลกาตากัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่จะมาเที่ยวเมืองโกลกาตา อย่าลืมทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอินเดีย
เอกลักษณ์อย่างแรกของเมืองโกลกาตา คือเป็นเมืองที่เปรียบเป็นสีสันของอินเดียตะวันตกเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เคยเป็นเมืองที่ตกอยู่ในอาณานิคม อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวง จึงทำให้หลายสิ่งหลายอย่างของเมืองโกลกาตา นั้นไม่ได้มีแต่ความเป็นอินเดียซะทีเดียว แต่ผสมผสานระหว่างความเป็นอังกฤษเข้าไปด้วย ทำให้โกลกาตาเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเมืองโกลกาตานั้นอยู่ติดริมแม่น้ำฮูคลี ทำให้คุณได้เห็นถึงวิถีชีวิต และประเพณีวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของชาวเมืองโกลกาตา และแม่น้ำสายนี้ได้ดีเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากความน่าสนใจของที่เที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมแล้วนั้น ยังมีที่เที่ยวเชิงศาสนามากมายภายในเมืองนี้ เอาจริงๆ หากใครที่อยากลองมาเที่ยวอินเดียฝั่งตะวันตก เมืองโกลกาตานั้นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ลำบาก มีเที่ยวบินตรงมายังเมืองโกลกาตาจากไทย ทำให้ท่องเที่ยวได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นโกลกาตาเป็นเมืองฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองอื่นๆ ภายในประเทศอินเดียเลยอีกด้วย
สกุลเงิน
มาเที่ยวเมืองโกลกาตา ต้องใช้เงินสกุลเงินรูปีอินเดีย (INR) เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในประเทศอินเดีย โดยจำนวนเงิน 1 ไทยบาท (THB) จะเท่ากับ 0.44 บาท หรือเท่าเรทแลกเปลี่ยนเงินในแต่ละวัน
ฤดูกาลในโกลกาตา
อากาศของเมืองโกลกาตานั้นส่วนใหญ่แล้วจะค่อนข้างชื้น ในช่วงฤดูมรสุม และมีความแห้งในช่วงฤดูหนาว เพราะได้รับอิทธิพลมาจากอ่าวเบงกอล ช่วงที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวโกลกาตา ก็คือช่วงตุลาคม ไปจนถึงกุมภาพันธ์ เพราะว่าอากาศจะดี และไม่ค่อยมีมรสุมเท่าไหร่นัก อากาศร้อนของเมืองโกลกาตาจะร้อนจัด อุณหภูมิอาจขึ้นไปจนถึง 40 องศา และในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิก็จะลดต่ำลงเช่นกัน ภายในหนึ่งปีจะมีทั้งสิ้น 4 ฤดู ได้แก่
- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจนถึงพฤษภาคม จะเป็นช่วงสั้นๆ ที่เมืองโกลกาตาจะมีอากาศร้อนจัด อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของฤดูนี้ก็คือ 30 - 40 องศาเซสเซียสเลยทีเดียว
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงกันยายน ในช่วงนี้เมืองโกลกาตาจะพบกับมรสุม ที่พัดผ่านมาจากอ่าวเบงกอล มีอุณหภูมิลดต่ำลงจากช่วงฤดูร้อนคือ 20 - 28 องศาเซสเซียส เดือนนี้จะมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น
- ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนมีนาคม ช่วงนี้อุณหภูมิจะลดต่ำอย่างต่อเนื่อง อาจจะลดต่ำลงถึงอุณหภูมิเลขตัวเดียว โดยหลักแล้วอุณภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9.6 - 11 องศาเซสเซียส
ภูมิภาคโกลกาตา
เมืองโกลกาตาถือว่าเป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอล ที่มีพื้นที่กว้างขวางมาก ภายในเมืองเดียวนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 เทศบาลการปกครองหลัก มีเมืองมากถึง 72 เมือง และหมู่บ้านมากถึง 527 แห่งด้วยกันภายในภูมิภาคเดียว โดยเมืองโกลกาตา ก็จะอยู่ในการปกครองของรัฐเบงกอลตะวันตกอีกที
สนามบินสำคัญโกลกาตา
อยากไปเที่ยวโกลกาตา ก็แค่จองตั๋วเครื่องบินไปโกลกาตา เพราะมีเส้นทางบินตรงอยู่แล้ว โดยสนามบินหลักภายในเมืองโกลกาตานั้นมีอยู่แห่งเดียวก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเนตาชี สุภาษ จันทระ โพส (CCU) หรือชื่อเดิมก็คือ สนามบินดัมดัม คนส่วนใหญ่จะเรียกว่า สนามบินกัลกัตตา ถือว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ และมีความหนาแหน่นเป็นอันดับ 5 ของประเทศเลยทีเดียว
การเดินทางไปโกลกาตา
อยากเดินทางไปเที่ยวที่เมืองโกลกาตาก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเดี๋ยวนี้มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองโกลกาตา ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง 35 นาทีเท่านั้น มีสายการบินที่ให้บริการคือ แอร์เอเชีย (AirAsia) และ การบินไทย (Thai Airways) พร้อมกันนั้นก็ยังมีสายการบินที่ให้บริการแบบต่อเครื่อง ก็คือ แอร์อินเดีย (Air India) สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) และสายการบินเอทิฮัด (Etihad Airways)
การเดินทางในโกลกาตา
- เครื่องบิน ก็ยังคงเป็นวิธีที่สะดวกสบายมากที่สุด สำหรับการเดินทางข้ามผ่านระหว่างเมืองอื่นๆ มาเที่ยวยังโกลกาตา โดยเครื่องบินนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก และไม่จำเป็นต้องเช่ารถ หรือว่าเดินทางด้วยรถไฟ สำหรับคนที่เดินทางคนเดียว ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- รถไฟ (Train) เอกลักษณ์การเดินทางด้วยขนส่งคมนาคมแบบสาธารณะ ก็ต้องยกให้กับการเดินทางด้วยรถไฟ เพราะการเดินทางด้วยรถไฟนี้ ค่อนข้างครอบคลุมทุกเมือง และเชื่อมต่อพื้นที่ด้วยรางรถไฟ ถือว่าเป็นวิธีที่คนท้องถิ่นนิยมกันมากที่สุด ถึงแม้จะไม่เร็ว แต่ก็มีราคาที่ไม่แพง
- รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro) เชื่อหรือไม่ว่าเมืองโกลกาตานี้ เป็นเมืองแรกในทวีปเอเชียใต้ที่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน ถึงแม้ว่าระบบรถไฟฟ้าใต้ดินนี้ มีมานาน และเก่ามากแล้ว ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1984 ด้วยกัน แต่ก็ยังคงใช้งานได้ดี
- รถบัส (Bus) นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟ ก็มีรถบัสเนี่ยแหละ ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศอินเดีย และในเมืองโกลกาตาด้วยเช่นกัน เพราะว่าประหยัด เดินทางไปได้ไกล มีเส้นทางคลอบคลุมทั่วทั้งเมือง รวมถึเวลาที่อยากจะเดินทางต่างเมืองด้วยเช่นกัน
- รถราง (Tram) เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์เด่นของเมืองโกลกาตา เพราะว่ายังคงมีรถรางเปิดให้บริการ โดยการนั่งรถรางชมเมือง ก็เป็นกิจกรรมที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะคุณจะได้ชมเมือง บรรยากาศของเมืองโดยรอบ ด้วยการนั่งรถรางอันเก่าแก่
- รถแท็กซี่ (Taxi) วิธีการเดินทางที่สะดวก และนิยมมากที่สุดอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองโกลกาตา ก็คือการนั่งรถแท็กซี่นั่นเอง โดยการนั่งรถแท็กซี่ แนะนำให้ตกลงจุดหมายปลายทาง และราคากับคนขับให้เรียบร้อยก่อน ยิ่งเดินทางไปเที่ยวโกลกาตากันหลายคน เวลาหารค่ารถแท็กซี่ ก็จะทำให้จ่ายราคาไม่แพง
- เรือข้ามฟาก หากอยากสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติ หรือได้ประสบการณ์การนั่งเรือในเมืองโกลกาตา แนะนำให้ลองนั่งเรือข้ามฟากด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 10 รูปีเท่านั้น ก็จะมีเรือข้ามฟากให้บริการหลายจุด
สถานที่เที่ยวสำคัญในโกลกาตา
- อนุสาวรีย์สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย (Victoria Memorial) สถานที่เที่ยวแลนด์มาร์คที่ควรมาเช็คอินเมื่อมาเยือนเมืองโกลกาตา เป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ยอดนิยมทั้งกับชาวเมืองโกลกาตา และนักท่องเที่ยว เพราะว่าเป็นที่เที่ยวโกลกาตาที่มีสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษขนานแท้ ที่อาจจะผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นอินเดียเข้าไปแบบนิดหน่อย ตอนเย็นๆ คนส่วนใหญ่มักจะมาเดินเล่น ถ่ายรูปกันที่นี่ ส่วนค่าเข้าก็จะประมาณ 20 รูปีเท่านั้น
- สะพานฮ่าวล่า (Howrah Bridgeฉ ถือว่าเป็นจุดเช็คอินหลักของเมืองโกลกาตากันเลยทีเดียว สำหรับสะพานนี้ เพราะเป็นสะพานที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมอันแปลกตา ด้วยการออกแบบที่ไม่ใช้น็อตเลย แถมยังสลักเกลียวโดยการหดตัวของโครงสร้างเหล็กเอาไว้ด้วยกัน เป็นสะพานที่ยาวมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 6 ซึ่งสะพานแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อเชื่อมระหว่างเมืองโกลกาตา และเมือง ฮ่าวล่า (Howrah) เอาไว้ด้วยกัน ถือว่าเป็นสะพานที่เป็นเอกลักษณ์หลักของเมืองโกลกาตาเลยทีเดียว
- พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของอินเดีย (Indian Museum) มาเยือนเมืองโกลกาตาทั้งที ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินี้ เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์คโกลกาตา และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจระดับชาติของประเทศอินเดียเลยทีเดียว ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีส่วนจัดแสดงของล้ำค่าของประเทศอินเดีย มีทั้งศิลปวัตถุ แร่ธาตุ รวมถึงวัตถุอื่นๆ อีกมากมายที่หาดูได้ยาก นับว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีแต่ของหาดูยาก และสมบัติอันล้ำค่า หากใครที่อยากจะไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินี้ แนะนำให้วางแผนให้ดี เพราะพิพิธภัณฑ์นี้ปิดทุกวันจันทร์
- มาเธอร์ เฮาส์ (Mother House) สถานที่เที่ยวสำคัญของเมืองโกลกาตา ที่หลายคนต้องลิสต์เอาไว้เลย เพราะเป็นสำนักงานใหญ่ขององค์กรการกุศล ที่มีความสำคัญตรงที่เป็นบ้าน และสถานที่ฝังศพของนักบุญเทเรซา ผู้เป็นทั้งนักบุญ และแม่พระของชาวเมืองโกลกาตา ได้อุทิศตัวช่วยเหลือเด็ก และผู้เจ็บป่วยทั้งหลาย โดยแม่ชีเทเรซาได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ หลังจากที่จะจากไปตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1997 ทำให้ที่เที่ยวโกลกาตานี้ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญ
- วัดทักษิเณศวรกาลีมนเทียร (Dakshineswar Kali Temple) ถัดจากในเมืองไปไม่ไกล ภายในเมืองโกลกาตาใกล้กับสนามบิน มีหนึ่งวัดฮินดูที่น่าสนใจมาก เป็นที่เที่ยวโกลกาตาที่ไม่อยากให้พลาด เพราะวัดนี้เป็นวัดที่ดังมาก โดดเด่นด้วยการเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กาลี หรือพระแม่ภวาตาริณี Bhavatarini นอกจากนั้นภายในวัดยังมีหลายอาศรม เป็นวัดที่ชาวอินเดียส่วนมากเดินทางมากราบไหว้ และขอพรจากเจ้าแม่กาลี
เทศกาลสำคัญเมืองโกลกาตา
- เทศกาลทุรคาบูชา (Durga Puja) เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ และมีการเตรียมตัวที่ยาวนานของชาวเมืองโกลกาตา โดยเทศกาลนี้อันที่จริงแล้วจะมีการจัดขึ้นทั่วประเทศอินเดีย แต่จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และพิเศษกว่านั้นในรัฐเบงกอล หรือเมืองโกลกาตา อีกชื่อหนึ่งคือเทศกาลนวราตรี จะมีการบูชานานถึง 9 วัน 9 คืน โดยวันที่ 10 จะมีการแห่ และลอยพระรูปพระเทวีในแม่น้ำ ส่วนใหญ่แล้ววันที่จัดงานเทศกาลนี้ จะอยู่ที่ประมาณเดือนกันยายน หรือตุลาคมของทุกปี
- เทศกาลสัสวตีบูชา (Saraswati Puja) หากใครมาเที่ยวโกลกาตาในช่วงเดือนมกราคม อาจจะมีโอกาสได้เห็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ และสำคัญอีกหนึ่งเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปี หรือว่าเดือนกุมภาพันธ์ แต่ว่าจะไม่เกินช่วงต้นปีของทุกปี เป็นพิธีที่ถูกจัดขึ้นเพื่อบูชาพระเทวีแห่งอักษรศาสตร์ เป็นเทพีแห่งสติปัญญา เก่งในเรื่องการอ่านเขียน สติปัญญา และศิลปศาสตร์ทุกแขนง โดยในช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส เด็กที่มาจากครอบครัวฮินดูจะต้องเข้าพิธีนี้ ตอนที่หัดเขียนตัวอักษร หรือว่าตัวหนังสือตัวแรก
- เทศกาลฟิล์มโกลกาตา (Kolkata International Cinema Festival) นอกเหนือจากเทศกาลสำคัญทางศาสนาแล้วนั้น ที่เมืองโกลกาตาก็ยังมีอีกหนึ่งเทศกาลที่น่าสนใจ ก็คือเทศกาลฟิล์มที่ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ภายในเทศกาลนี้ จะเป็นการรวมฟิล์มหนังเอาไว้หลากเรื่องราว ทั้งหนังในประเทศอินเดียเอง และหนังจากนานาชาติทั่วโลก โดยเทศกาลนี้ก็ได้ถูกจัดมาอย่าบต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 แล้วด้วยกัน
เคล็ดลับการไปเที่ยวโกลกาตา
- - การเดินทางด้วยแท็กซี่ แนะนำให้ต่อรองราคาให้ดี ว่าจะคิดราคาตามมิเตอร์ หรือว่าจะเดินทางโดยราคาเหมา
- - เวลาที่คนอินเดียถามอะไร ไม่ควรส่ายหน้า เพราะการส่ายหน้า หรือว่าส่ายหัว นั้นจะแปลว่าตกลง
- - ใครที่ไม่ชอบอากาศร้อน แนะนำให้ไปเที่ยวโกลกาตาในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอุณหภูมิของฤดูหนาวจะลดต่ำลง อากาศจะเย็นสบายกำลังดี
- - กฎการจราจรที่ทุกคนจะต้องปฎิบัติตามเมื่อมาเที่ยวเมืองโกลกาตา หรือว่าอินเดีย ก็คือการห้ามขับรถชนวัว เพราะวัวถือว่าเป็นพาหนะของเทพเจ้า และเป็นที่นับถือของชาวฮินดูเป็นอย่างมาก
- - ก่อนที่จะไปเที่ยวอินเดีย นั้นอย่าลืมทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอินเดีย เพราะการไปเที่ยวอินเดีย สำหรับคนไทยไม่ฟรีวีซ่า แต่ขอวีซ่าได้ไม่ยาก
- - น้ำก๊อกสาธารณะที่ประเทศอินเดีย ห้ามนำมาดื่ม แต่สามารถใช้ชำระล้างร่างกายได้
- - หากใครไปเที่ยวที่โกลกาตาแล้วอยากรับประทานน้ำแข็ง แนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะที่โกลกาตานี้ ส่วนใหญ่จะนำน้ำแข็งมาเพื่อแช่ของสด
- - ไปเที่ยวโกลกาตา แนะนำอย่าลืมไปดื่ม จัย (Chai) หรือว่าชาอินเดีย เพราะขึ้นชื่อในเรื่องความหอม และรสชาติที่อร่อยมาก