สัมภาระใต้ท้องเครื่อง |
---|
20 kg |
สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง |
---|
10 kg |
เช็คอินภายใน |
---|
1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง |
ด้วยความเป็นสายการบินระดับโลก สายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ให้บริการผู้โดยสารด้วยเครื่องแอร์คราฟต์และเครื่องโบอิ้งคุณภาพสูงรุ่นล่าสุด สายการบินเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของสกายทีม (SkyTeam) เครือข่ายพันธมิตรสายการบินระดับโลก และได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน (IATA Operational Safety Unit) รวมถึงประกาศนียบัตรสายการบินระดับ 4 ดาวจาก Skytrax สายการบินเวียดนามให้บริการที่นั่งโดยสาร 3 ระดับ พร้อมจะพาทุกท่านไปยังจุดหมายภายใน 21 ประเทศ และจุดหมายในต่างประเทศอีก 28 แห่ง
ที่นั่งชั้นประหยัดของสายการบินเวียดนามเน้นให้ความสะดวกสบายแก่ท่านด้วยระยะห่างระหว่างที่นั่ง 32 นิ้ว ที่นั่งปรับเอนได้ถึง 6 นิ้ว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมอบความสบายให้ผู้โดยสารอย่างครบครัน อาทิ หมอน ผ้าห่ม และเครื่องใช้ในห้องน้ำระดับพรีเมี่ยม ทุกท่านสามารถรับชมความบันเทิงผ่านจอภาพด้านหน้า และขอใช้บริการอุปกรณ์เสริม เช่น หน้ากากปิดตา หรือสติ๊กเกอร์ “ห้ามรบกวน” หรือ “ช่วยปลุกเมื่อถึงมื้ออาหาร” ได้
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินของที่นั่งชั้นประหยัดสามารถสั่งอาหารได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่ซุปร้อนๆ กับขนมปังโรล ไปจนถึงปลาทอดและเนื้อตุ๋น นอกจากนี้ สายการบินยังให้ความสำคัญกับข้อจำกัดเรื่องอาหารของผู้โดยสารด้วย ทางสายการบินจึงมีอาหารมังสวิรัติ อาหารเด็ก และเมนูอาหารเพื่อสุขภาพพร้อมให้บริการ ผู้โดยสารท่านใดที่ต้องการสั่งอาหารมื้อพิเศษขอให้แจ้งความประสงค์ของท่านกับสายการบินล่วงหน้า 24 ชั่วโมง
ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยมของสายการบินเวียดนามให้บริการด้วยที่นั่งที่มีระยะห่างระหว่าง 32-38 นิ้ว และสามารถปรับเอนได้ตั้งแต่ 7-8 นิ้ว ที่นั่งของเรามาพร้อมกับแสงไฟสำหรับอ่านหนังสือ ที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่เหนือศีรษะ และสิ่งสร้างความบันเทิงระหว่างเที่ยวบินครบครัน ผู้โดยสารที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยมยังจะได้รับบริการพิเศษภาคพื้นดิน เช่น บริการช่วยเลือกที่นั่ง บริการขนกระเป๋าก่อน บริการเช็คอินก่อน และบริการขึ้นเครื่องก่อนด้วย
ระหว่างเที่ยวบินของที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยมนั้นมีบริการเมนูอาหารจานหลักทีเพียบพร้อม เช่น เนื้อผัด เสิร์ฟพร้อมผักและข้าว ไปจนถึงของหวานง่ายๆ อย่าง บิสกิต ช็อกโกแลตเค้ก ผลไม้ และขนมปัง ซึ่งนอกเหนือจากมื้ออาหารแล้ว ผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินไปกับตัวเลือกของว่างต่างๆ ได้ เช่น แซนด์วิช บะหมี่ถ้วยสำเร็จรูป ขนมปัง และเครื่องดื่มอีกมากมาย
ที่นั่งชั้นธุรกิจพร้อมให้บริการท่านเป็นพิเศษตั้งแต่บนภาคพื้นดิน ทั้งการให้ผู้โดยสารเช็คอินที่เคาน์เตอร์ชั้นธุรกิจ การขนสัมภาระก่อน และสิทธิ์เข้าโลตัสเลานจ์ (Lotus Lounge) ก่อนเดินทาง ส่วนในระหว่างเที่ยวบิน ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกจากที่นั่งสุดล้ำสมัยที่แปลงเป็นเตียงแสนสบายได้ ทั้งยังมีเพลงหลากหลายประเภทให้ท่านได้เพลิดเพลิน รวมถึงเกมส์มากมาย ภาพยนตร์ยอดฮิต และนิตยสารสารพัดหัว รวมถึงหนังสือพิมพ์รายวันอีกด้วย
ถ้าท่านเลือกบินด้วยเที่ยวบินชั้นธุรกิจของเรา การลิ้มลองมื้ออาหารระหว่างเดินทางเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เมนูยอดนิยมคือเฝอเนื้อ หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่โรยด้วยสมุนไพรสไตล์เวียดนาม ท่านผู้โดยสารที่นั่งชั้นธุรกิจสามารถเลือกไวน์แกล้มกับจานหลักได้จากไวน์ที่ทางสายการบินคัดสรรมาด้วย
นี่คือโปรแกรมสิทธิพิเศษสำหรับผู้เดินทางเป็นประจำด้วยสายการบินเวียดนาม โลตัสสไมล์จะให้ผู้โดยสารได้เก็บสะสมแต้มจากระยะทางและจำนวนเที่ยวบินที่ท่านใช้บริการของสายการบินเวียดนามหรือสายการบินพันธมิตรในสกายทีม โลตัสสไมล์แบ่งเป็นหลายระดับ คือ แพลตตินั่ม โกลด์ ไททาเนี่ยม และซิลเวอร์ ผู้โดยสารที่ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกของโลตัสสไมล์สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์หลักของสายการบินเวียดนาม ผู้โดยสารที่มีอายุ 2 ปี หรือมากกว่าจะได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิกตลอดชีพ
สิทธิพิเศษของการเป็นสมาชิกโลตัสสไมล์ระดับแพลตินั่มหรือโกลด์คือสิทธิ์เข้าใช้บริการโลตัสเลานจ์ เราออกแบบโลตัสเลานจ์เป็นพิเศษสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจและสมาชิกระดับสูงของสกายทีม โลตัสเลานจ์ตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย เมืองฮานอย เลานจ์นี้เป็นที่ที่ท่านจะได้ผ่อนคลายและใช้บริการสุดหรู อาทิเช่น บริการอินเตอร์เน็ต ห้องอาบน้ำ เครื่องขายน้ำดื่มอัตโนมัติ และบาร์บริการอาหารและเครื่องดื่ม บริการเหล่านี้จะทำให้ทุกท่านสบายราวกับอยู่บ้าน ก่อนจะเดินทางต่อไป
มีให้บริการ
ไม่มีให้บริการ
ความบันเทิงบนเครื่อง
มีให้บริการ
มีให้บริการ
มีให้บริการ
มีให้บริการ
มีให้บริการ
ไม่มีให้บริการ
มีให้บริการ
ในเดือนมีนาคม ปี 2015 สายการบินเวียดนามได้เปิดตัวเครื่องแบบชุดใหม่สำหรับพนักงานให้บริการบนเครื่องของทางสายการบิน เครื่องแบบมีสองสีสองแบบ คือ เครื่องแบบสีเหลืองสำหรับพนักงานให้บริการบนเที่ยวบินชั้นธุรกิจ และเครื่องแบบสีฟ้าสำหรับพนักงานให้บริการบนเที่ยวบินชั้นประหยัด เครื่องแบบได้รับการออกแบบโดยประยุกต์จากชุดประจำชาติของเวียดนาม ประกอบด้วยเดรสยาวทรงเสน่ห์สวมคู่กับกางเกงผ้าไหมขายาวสีขาวที่เรียกว่า อ่าวหญ่าย ตรงชุดเดรสผ่าข้างเพื่อให้ผู้สวมใส่สะดวกสบาย และเพื่อให้พนักงานของเราสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกเพื่อบริการผู้โดยสารทุกท่านด้วย
เส้นทางการบิน | ชั้นโดยสาร | สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง | สัมภาระใต้ท้องเครื่อง |
ระหว่างประเทศ | ที่นั่งชั้นประหยัด | ไม่เกิน 7 กก (ขนาด: 56 x 36 x 23 ซม.) | ไม่เกิน 20 กก (ขนาด: สูงสุด 203 ซม) |
ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยม | 2 ชิ้น (สูงสุด 7 กก./ชิ้น) (ขนาด: สูงสุด 56 x 36 x 23 ซม) | ไม่เกิน 30 กก (ขนาด: สูงสุด 203 ซม) | |
ที่นั่งชั้นธุรกิจ | |||
เที่ยวบินไป America ทั้งหมด | ที่นั่งชั้นประหยัด | ไม่เกิน 7 กก (ขนาด: 56 x 36 x 23 ซม.) | 2 ชิ้น (สูงสุด 23 กก./ชิ้น) (ขนาด: 158 ซม./ชิ้น หรือ 273 ซม./2 ชิ้น) |
ที่นั่งชั้นธุรกิจ | 2 ชิ้น (สูงสุด 7 กก./ชิ้น) (ขนาด: สูงสุด 56 x 36 x 23 ซม) | 2 ชิ้น (สูงสุด 23 กก./ชิ้น) (ขนาด: สูงสุด 158 ซม) | |
เที่ยวบินไป Asia ทั้งหมด | ที่นั่งชั้นประหยัด | ไม่เกิน 7 กก (ขนาด: 56 x 36 x 23 ซม.) | ไม่เกิน 30 กก (ขนาด: สูงสุด 203 ซม) |
ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยม | 2 ชิ้น (สูงสุด 7 กก./ชิ้น) (ขนาด: สูงสุด 56 x 36 x 23 ซม) | ไม่เกิน 40 กก (ขนาด: 56 x 36 x 23 ซม.) | |
ที่นั่งชั้นธุรกิจ |
คุณสามารถตรวจสอบเวลาเช็คอินของเที่ยวบินของสายการบินสายการบินเวียดนามได้ที่ตารางด้านล่างนี้ ทั้งนี้เวลาเช็คอินอาจแตกต่างจากรายละเอียดที่แสดงได้ หากเที่ยวบินมีการปฏิบัติการโดยสายการบินพันธมิตรอื่น เพื่อความแน่ใจ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดบนตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ของคุณ
เส้นทางการบิน | เวลาเช็คอินที่แนะนำ | เช็คอินภายใน |
ภายในประเทศ | 1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง | |
ระหว่างประเทศ | 2 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง |
คุณสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ เพียงทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:
โดยทั่วไป สามารถคืนเงินเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว (การยกเลิกด้วยตนเอง การเจ็บป่วย การตั้งครรภ์ หรือการเสียชีวิตของผู้โดยสาร) การยกเลิกเที่ยวบิน/เปลี่ยนตารางบินโดยสารการบิน เหตุสุดวิสัย หรือการจองซ้ำ ทั้งนี้เงื่อนไขในการยอมรับเหตุผลในการขอคืนเงินอาจแตกต่างกันตามแต่ละสายการบิน กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการคืนเงินของสายการบินเวียดนาม
คุณสามารถเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือแก้ไขแผนการเดินทางได้ง่ายๆผ่านฟีเจอร์ Easy Reschedule ทั้งนี้บางสายการบินอาจอนุญาตให้เปลี่ยนแปลง วันเดินทาง เวลา เส้นทางการบิน และสายการบิน ขณะที่บางสายการบินอาจอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงเฉพาะวันและเวลาเดินทางเท่านั้น สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการเปลี่ยนเที่ยวบินของสายการบินเวียดนาม หากเที่ยวบินของคุณไม่สามารถใช้บริการ Easy Reschedule กรุณาติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของสายการบินเวียดนาม เพื่อดำเนินการเปลี่ยนตารางบิน
สายการบินเวียดนาม (รหัส IATA: VA) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เขตลองเบียน (Long Bien) เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม สายการบินเวียดนามมีศูนย์ให้บริการใหญ่สองแห่ง ตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย และท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต และศูนย์บริการย่อยหนึ่งแห่งที่ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง สายการบินเวียดนามเติบโตขึ้นพร้อมกับสโลแกน “Reach Further” ด้วยการไม่หยุดเพียงแค่เที่ยวบินภายในประเทศ แต่ยังพาท่านเดินทางไปต่างประเทศอีกด้วย สายการบินเวียดนามในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศเวียดนาม ได้ให้เกียรติแก่ความหลากหลายของผู้โดยสารด้วยความเอาใจใส่เสมอมา สายการบินมุ่งมั่นจะเป็นผู้ให้บริการที่ทันสมัย เป็นที่เลื่องลือในเรื่องคุณภาพระดับดีเยี่ยมและความเป็นมิตรอันอบอุ่น เฉกเช่นเดียวกับบุคลิกของคนเวียดนาม สายการบินให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ประจำชาติเป็นอันดับหนึ่งเสมอ อย่างที่เราได้แสดงออกผ่านชุดเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องและเมนูอาหารที่สายการบินคัดสรรมานำเสนอแก่ผู้โดยสาร พนักงานต้อนรับของสายการบินเวียดนามจะสวมอ่าวหญ่าย ชุดประจำชาติของเวียดนาม จนถึงปัจจุบัน ทางสายการบินได้ปรับปรุงเครื่องแบบให้ดียิ่งขึ้นมาแล้ว 5 ครั้ง ในวันที่ 20 ตุลาคม 2002 สายการบินเวียดนามได้เปิดตัว Golden Lotus โลโก้ตัวใหม่ที่สื่อถึงพัฒนาการก้าวกระโดดของทางสายการบิน โลโก้สายการบินอันใหม่นี้ได้แทนที่โลโก้ปีกนกกระสาสีน้ำเงินที่บินอยู่เหนือพระจันทร์เต็มดวง ดอกบัวในโลโก้เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมโบราณของเวียดนาม สื่อถึงความแข็งแกร่งที่ต่อต้านภัยพาล ดอกบัวที่เป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นมักอยู่คู่กับความสมบูรณ์แบบและการรู้แจ้ง ส่วนสีทองนั้นให้ความรู้สึกหรูหรา อย่างไรก็ตาม ในปี 2015 ก็มีการปรับเปลี่ยนให้โลโก้มีสีน้ำเงินเสริมและเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษรด้วย สายการบินเวียดนามยังได้มอบสิทธิพิเศษให้ผู้ใช้บริการสายการบินเป็นประจำด้วยโปรแกรมที่ชื่อว่า โลตัสสไมล์ (Lotusmiles) ตั้งแต่สิ้นปี 1999 ผู้โดยสารจะสามารถนำระยะทางที่เดินทางได้มาแลกเป็นของสมนาคุณและบริการพิเศษ โลตัสสไมล์ยังให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิกโปรแกรมให้บริการพิเศษแก่ผู้ที่เดินทางเป็นประจำของสายการบินอื่นทั่วโลก อย่าง ANA Mileage Club ของญี่ปุ่นด้วย ในปี 2016 สายการบินเวียดนามได้รับรางวัลหลายอย่าง ทั้งรางวัลสายการบินชั้นนำของเอเชีย (ในสาขาที่นั่งชั้นประหยัด) และรางวัลสายการบินเชิงวัฒนธรรมชั้นนำของเอเชีย จาก World Travel Awards และในปีเดียวกัน สายการบินเวียดนามก็ได้เป็นสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลำดับที่สองที่ให้บริการผู้โดยสารไปแล้ว 20.6 ล้านคน สายการบินเวียดนามแบ่งการให้บริการเป็น 3 ระดับคือ ที่นั่งชั้นประหยัด ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยม และที่นั่งชั้นธุรกิจ โดยบริการแต่ละระดับมีพร้อมทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกสบายระหว่างเที่ยวบินอย่างครบครัน ทั้งดนตรี ภาพยนตร์ เกมส์ รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ ผู้โดยสารที่นั่งชั้นประหยัดสามารถโหลดสัมภาระได้มากถึง 20 กิโลกรัม และพกสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น ส่วนผู้โดยสารที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยมและที่นั่งชั้นธุรกิจจะสามารถโหลดสัมภาระได้ถึง 30 กิโลกรัม และพกสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น ส่วนสมาชิกของโลตัสสไมล์จะได้น้ำหนักสัมภาระพิเศษเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ ผู้โดยสารของสายการบินเวียดนามจะสามารถเลือกวิธีเช็คอินได้ 3 รูปแบบ วิธีแรก ผู้โดยสารสามารถเช็คอินด้วยตนเองได้ที่เคาน์เตอร์ในสนามบิน ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมงถึง 40 นาทีสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ หรือภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมงถึง 50 นาทีก่อนสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเช็คอินขึ้นเครื่องได้ที่ตู้เช็คอินหรือผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยทั้งสองวิธีจะเปิดให้ท่านเช็คอินได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทางและจะปิดบริการ 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
สายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ก่อตั้งขึ้นโดยองค์กรรัฐวิสาหกิจในเดือนมกราคม 1956 ซึ่งก็คือหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง 2 ปี เมื่อแรกก่อตั้งนั้น สายการบินใช้ชื่อว่า การบินพลเรือนเวียดนาม (Vietnam Civil Aviation) โดยเปิดให้บริการด้วยเครื่องบินเพียง 5 ลำจากท่าอากาศยานยาลัม (Gia Lam) เครื่องบินรุ่นแรกที่สายการบินใช้คือเครื่องรุ่น Lisunov Li-2s จำนวน 2 ลำ ที่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเครื่องรุ่น Ilyushin II-14 จำนวน 2 ลำ และเครื่องรุ่น Aero Ae-45s จำนวน 3 ลำ ในเวลา 8 เดือนต่อมา สายการบินก็เริ่มให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศจากฮานอยถึงไซ่ง่อน (ที่ตอนนี้รู้จักกันในชื่อโฮจิมินห์ซิตี้) ในปี 1990 รองกรรมการบริหารสายการบิน คุณฝั่ม หง็อก มีง (Pham Ngoc Minh) ได้ริเริ่มความคิดในการหันมาใช้เครื่องบินที่ผลิตในประเทศตะวันตกบ้าง ในเดือนมกราคม 1991 ทางสายการบินจึงได้ทำสัญญาเช่าเครื่องบินกับสายการบินดัตช์ทรานส์อาเวีย (Dutch TransAvia Airlines) เพื่อเช่าเครื่องบิน Boeing 737-300 พร้อมกับให้ดัตช์ทรานส์อาเวียจัดหาอะไหล่ ทีมงานบนเครื่อง และประกันให้เสร็จสรรพ โดยสายการบินจะรับภาระเรื่องค่าเชื้อเพลิง สนามบิน และภาษีต่างๆ ไม่นานนัก ต่อมา สายการบินจึงได้ทำข้อตกลงคล้ายเดิมอีกครั้งกับทีอีเอบาเซิล (TEA Basle) ที่เจรจาต่อรองกับรัฐบาลอเมริกาจนใช้เวลาทั้งหมดไปเกือบทั้งปี เมื่อถึงปลายปี ทางรัฐบาลก็ตกลงยอมรับสัญญาเช่าเครื่องบินภายใต้เงื่อนไขว่า เครื่องบินทั้งหมดจะต้องไม่จอดภายในประเทศเวียดนามและจะต้องไม่มีการประดับตัวอักษรเวียดนามบนตัวเครื่องบินลำใดโดยเด็ดขาด เครื่อง B737-300 เริ่มให้บริการวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1992 โดยมีนักบินจาก TEA เป็นผู้ขับและมีพนักงานต้อนรับเป็นชาวเวียดนาม ในเดือนมกราคม 1993 สายการบินได้เช่าเครื่องรุ่น 767-200ER จากบริษัทแอนเซ็ตต์เวิร์ลไวด์ (Ansett Worldwide) และ 767-300ER จากสายการบินรอยัลบรูไน (Royal Brunei) โดยเครื่องบินมาถึงในปีถัดมาผ่าน Region Air เครื่องรุ่น 767-300ER ถูกขับโดยนักบินของสายการบินรอยัลบรูไนทั้งหมด ในขณะที่เครื่องรุ่น 767-200ER ขับโดยกัปตันจากแอนเซ็ตต์ พร้อมกับทีมงานบนเครื่องบางส่วนเป็นชาวเวียดนาม เมื่อเวลาผ่านไป การเช่ายืมเครื่องบินก็สร้างกำไรให้แก่สายการบินเวียดนาม การซื้อเครื่องรุ่น 767s ก็ถือเป็นการริเริ่มสายสัมพันธ์กับบริษัทโบอิ้ง นอกจากนี้ สายการบินยังได้ทำความรู้จักกับบริษัทผลิตเครื่องบินสัญชาติอื่นนอกจากอเมริกาด้วย ถือเป็นหลักชัยสำคัญของสายการบินเวียดนาม เนื่องจากหลายบริษัทเริ่มหันมาสนใจสายการบินแล้ว ในเดือนเมษายน 1993 สายการบินได้ประดับธงชาติเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยอำนาจการบริหารสายการบินเป็นของรัฐเต็มที่ ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน สายการบินเวียดนามได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับสายการบินแอร์ฟรานซ์ (Air France) ความร่วมมือครั้งนี้ครอบคลุมหลายอาณาบริเวณ เช่นการฝึกหัดนักบิน ฝึกหัดพนักงานบนเครื่อง สหพันธ์การตลาด การบำรุงรักษา และความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค การเข้าร่วมฝึกหัดทำให้นักบินได้รับประกาศนียบัตรระดับมาตรฐานสากลด้วย โดยในตัวสัญญานั้น การเช่าเครื่องบินแอร์บัส (Air Bus) ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่สุด เครื่องบินแอร์บัสจำนวน 3 ลำแรกมีสัญญาเช่า 2 ปี ทั้งสามลำได้มาถึงเวียดนามในเดือนตุลาคม 1993 ก่อนอีกสองเครื่องจะตามมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1994 เครื่องบินรุ่นนี้ให้บริการเดินทางไปสิงคโปร์ กรุงเทพฯ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และพนมเปญ สายการบินเวียดนามจึงมีตารางการบินที่หนาแน่น มียอดผู้โดยสารจำนวน 1.6 ล้านคน โดย 418,000 คนในจำนวนนั้นเป็นผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินระหว่างประเทศ ถึงแม้การทำสัญญากับสายการบินแอร์ฟรานซ์จะทำให้สายการบินเวียดนามได้ให้บริการอย่างราบรื่น แต่แอร์ฟรานซ์ก็ได้เสนอโปรแกรมเปลี่ยนเครื่องใหม่ทั้งหมด สายการบินเวียดนามต้องการเปลี่ยนเครื่องบินรุ่นเก่าที่สร้างขึ้นในสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกการห้ามเครื่องบินลงจอดไปในเดือนกุมภาพันธ์ 1994 คุณจอห์น แมคดอนเนล ประธานบริษัทแมคดอนเนล ดักลาส (McDonnell Couglas) ผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ ได้เข้าพบคุณหวอ วัน เกียต รัฐบุรุษชาวเวียดนาม และได้เสนอการสนับสนุนทางการเงินแก่เวียดนามเต็มที่ในเรื่องเครื่องบินรุ่นที่ทางสายการบินต้องการซื้อจากบริษัท จากนั้น สายการบินเวียดนามจึงให้ความสำคัญกับบริการภายในประเทศเป็นหลักในปี 1994 และสร้างเครือข่ายการเดินทางที่มี 14 เมืองภายในประเทศ พร้อมกับเส้นทางการบินจำนวนหนึ่งไปยังกรุงเทพฯ เวียงจันทน์ และพนมเปญ จากปี 1995 ถึง 1997 สายการบินเวียดนามได้เฟ้นหาเครื่องบินรุ่นใหม่เพื่อมาแทนที่เครื่องบินลำที่ทำสัญญาเช่า ทางสายการบินยังได้วางแผนจะปลดระวางเครื่องบินลำเก่าเพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องบินที่ผลิตโดยประเทศตะวันตก เช่น เครื่องโบอิ้ง เอทีอาร์ แอร์บัส และแมคดอนเนล ดักลาส และในการสรรหาเครื่องรุ่นใหม่นี้ สายการบินต้องการจะทำสัญญาเช่าเครื่องเปล่าแทนสัญญาแบบเดิม ปี 2001 ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของบริษัทสายการบินเวียดนาม เมื่อถึงปลายปี ทางบริษัทได้ลงนามในความตกลงทางการค้าแบบทวิภาคีกับบริษัทโบอิ้ง ส่งผลให้สายการบินเวียดนามสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น Boeing 777-200ER จำนวน 4 ลำ และทำสัญญาเช่าอีก 6 ลำ จาก International Lease Finance Group (ILFC) ที่เป็นสมาชิกของ American International Group, Inc. คู่ตกลงต่างเห็นพ้องกันว่านี่เป็นการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกา-เวียดนามครั้งสำคัญด้วย ในปี 2006 สายการบินเวียดนามได้รับรางวัลผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน (IOSA) และใน 4 ปีต่อมา ก็ได้เข้าร่วมกับสกายทีม พันธมิตรการบินระดับโลกอย่างเป็นทางการ จากนั้นในวันที่ 12 มกราคม 2016 สายการบินเวียดนามได้ทำข้อตกลงคู่ค้ากับ ANA Group กลุ่มสายการบินที่ใหญ่ที่สุดจากญี่ปุ่น ด้วยข้อตกลงนี้ ANA Group จึงได้เข้าถือหุ้นของสายการบินเวียดนามที่ 8.8% ประเมินค่าได้ประมาณ 2.431 พันล้านดอง (ประมาณ 108 ล้านดอลลาร์) และทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมมือกันเพื่อให้บริการเที่ยวบินในทวีปเอเชียด้วย ปัจจุบัน สายการบินเวียดนามให้บริการ 66 เที่ยวบินต่อหนึ่งสัปดาห์ใน 10 เส้นทางการบินระหว่างญี่ปุ่นกับเวียดนาม ในขณะที่ ANA ให้บริการ 14 เที่ยวบินใน 2 เส้นทาง
จองตั๋ว สายการบินเวียดนาม ออนไลน์ง่ายๆด้วยขั้นตอนดังนี้:
ชำระเงินสำหรับการจองตั๋ว สิงคโปร์แอร์ไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านทาง การโอนเงิน อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ชำระบิลผ่าน ATM เคาน์เตอร์ชำระเงิน 7-Eleven หรือ บัตรเครดิต/เดบิต อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการชำระเงิน
ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ของ สายการบินเวียดนาม เป็นหลักฐานการจองเที่ยวบินสายการบิน สายการบินเวียดนามคุณสามารถแสดงตั๋วอิเล็กทรอนิกส์เมื่อเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน สายการบินเวียดนามหรือใช้เพื่อเช็คอินด้วยตนเอง (ออนไลน์ หรือ ที่สนามบิน) เพื่อรับบอร์ดดิ้งพาส หากคุณไม่ได้รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์หลังจากทำการจอง 60 นาที กรุณาติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ Traveloka