หากคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวโฮจิมินห์ เมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เชิญทางนี้! เที่ยวโฮจิมินห์บินไปเวียดนาม กับตั๋วเครื่องบินไปเวียดนาม ราคาสบายกระเป๋าที่ Traveloka จองตั๋วเครื่องบิน ง่าย สะดวกสบาย ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่ปลายนิ้ว
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ แนะนำให้ไปเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม จะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายที่สุด ทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซัน ให้คุณสามารถปั่นจักรยานชมเมืองและชื่นชมสถาปัตยกรรมภายในเมืองได้ โดยราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ในแต่ละเดือน จะมีดังนี้
หากอยากให้การไปเที่ยวโฮจิมินห์ในครั้งนี้ ได้ราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ที่คุ้มค่าและประหยัด ต้องจองกับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักชั้นนำ เรามีตั๋วเครื่องบินราคาถูก จ่ายเท่าที่เห็น ทั้งยังสามารถเปรียบเทียบราคาเที่ยวบินต่าง ๆ บนผลลัพธ์การค้นหาได้เลย จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ให้ครบ จบทั้งขาไปขากลับในครั้งเดียว ต้องจองกับ Traveloka
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ จุดหมายปลายทางสำคัญของการเดินทางก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (SGN) ซึ่งถือว่าเป็นสนามบินหลักและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รองรับเที่ยวบินต่างประเทศถึง 2 ใน 3 ของเที่ยวบินทั้งหมดในเวียดนาม
ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ตอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1.3 กิโลเมตร โดยแต่ก่อนนั้นสนามบินแห่งนี้ มีความสำคัญตรงที่เป็นฐานทัพอากาศของทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส สนามบินนี้ได้ตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ จึงใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองไม่นาน
เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) หรือที่คนเวียดนามหลายคนยังเรียกติดปากกันว่าเมืองไซ่ง่อน (Saigon) มีความสำคัญที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในขณะนี้ อยากจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะมีเที่ยวบินตรงทุกวัน อยากมาเที่ยวโฮจิมินห์เมื่อไหร่ก็ได้
โดยเมืองโฮจิมินห์นั้นได้ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศเวียดนาม อยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง แรกเริ่มเดิมทีเมืองนี้เคยตกอยู่ในการปกครองของเขมรมาก่อน มีชื่อเรียกว่าไพรนคร จากนั้นหลังจากที่เวียดนามได้เข้ามายึดดินแดนได้มีการเรียกว่า ยาดิ่ง ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีก กลายมาเป็น ไซ่ง่อน หลายคนก็จะจดจำเมืองโฮจิมินห์ และเรียกว่าไซ่ง่อนจนถึงปัจจุบันนี้
ช่วงที่เกิดสงครามเวียดนาม และประเทศเวียดนามได้ถูกแยกออกมาเป็นสองส่วนนั้น ไซ่ง่อน หรือโฮจิมินห์ซิตี้ ได้กลายมาเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ และอยู่ใต้อาณานิคมของฝรั่งเศส หลังจากนั้นพอเวียดนามเหนือเข้ามายึดเมืองนี้ได้ จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองกลายมาเป็นเมืองโฮจิมินห์แบบในทุกวันนี้ ตามชื่อผู้นำของเวียดนาม นั่นก็คือท่านผู้นำโฮจิมินห์นั่นเอง
ในตอนนี้โฮจิมินห์ซิตี้ ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง ทั้งในเรื่องการค้าขาย เศรษฐกิจ และเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ทันสมัย หากใครที่อยากเที่ยวเมืองต่าง ๆ ในเวียดนามตอนล่าง แนะนำให้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ เที่ยวเป็นที่แรกก่อน แล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ เพราะเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ถือว่าเป็นเมืองที่มีสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเขตเวียดนามตอนล่าง
ความน่าสนใจของเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ คือเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก ถึงแม้ขนาดของพื้นที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้จะมีขนาดใหญ่กว่ากรุงเทพฯ มาก แต่หากวัดความหนาแน่นของประชากรนั้นก็ถือว่ายังมีความหนาแน่นอยู่ดี เพราะมีประชากรอาศัยอยู่มากถึงประมาณกว่า 8 ล้านคน คนส่วนมากเมื่อเรียนจบ และต้องการหางานทำก็มักจะเดินทางมาอาศัย และหางานทำที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้แห่งนี้
ในส่วนของที่เที่ยวภายในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ก็จะมีทั้งวัด ห้างสรรพสินค้า ผับ บาร์ และคาเฟ่มากมาย ตามสไตล์เมืองหลวงทั่วไป หากอยากใกล้ชิดธรรมชาติ หรือออกไปเที่ยวโซนนอกเมืองหน่อย แนะนำให้ไปเที่ยวที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง คุณจะได้ล่องเรือไปชมบรรยากาศของสองฝั่งคลอง และได้เห็นวิถีชีวิตของแม่ค้าที่ขายของบนเรือ หรือว่าใครจะอยู่เที่ยวโฮจิมินห์ซิตี้สักสองสามคืน แล้วค่อยเดินทางต่อไปเที่ยวเมืองอื่นก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับใครที่อยากมาเที่ยว ชมงดงามอันมีเสน่ห์ของเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์กันได้เลย
อยากไปเที่ยวโฮจิมินห์ก็ไม่ยาก เพียงแค่จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ ก็สามารถบินตรงจากไทยไปได้ทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้ว จากประเทศไทยมีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินไปโฮจิมินห์ ได้แก่ นกแอร์ (Nok Air), แอร์เอเชีย (AirAsia), เวียดเจ็ทแอร์ (Vietjet Air), เจ็ตสตาร์แอร์เวย์ (JetStar), สกู๊ต (Scoot), การบินไทย (Thai Airways), เวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines), และ มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines)
สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ หากตั้งใจที่จะไปเที่ยวก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ ใช้แค่หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตก็สามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า แนะนำให้เตรียมพาสปอร์ต, ใบรับรองการฉีดวัคซีน, ประกันวงเงินคุ้มครอง 50,000 USD (ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งใบนี้ควรพิมพ์เป็นเอกสารติดตัวไว้, ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ, และเอกสารการจองที่พักใช้สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์แล้ว เครื่องบินจะบินไปลงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (SGN) การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่เมืองโฮจิมินห์และการเดินทางภายในโฮจิมินห์ ก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย สะดวกสบายสำหรับนักเดินทาง
รถรับส่งสนามบิน
อยากได้ตัวช่วยเดินทางจากสนามบินไปยังที่พัก หรือเข้าเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ แนะนำรถรับส่งสนามบิน เพราะสะดวก ราคาไม่แพง แถมยังมีบริการรับจากในสนามบิน ไม่ต้องเรียกแท็กซี่ให้เสียเงิน ส่งให้ถึงที่ และตรงเวลารถบัส
ใครอยากจะประหยัดเงินหน่อย แนะนำบริการรถบัสก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะเส้นทางการเดินรถบัสนั้นค่อนข้างครอบคลุมทั่วนครโฮจิมินห์ซิตี้ แต่อาจจะต้องศึกษาเส้นทางให้ดีกันหลงทางรถบัสนอน (Sleeping Bus)
ไปเที่ยวโฮจิมินห์ซิตี้ แล้วอยากแวะไปเที่ยวเมืองอื่นรอบข้าง สามารถทำได้แน่นอน หากใครที่อยากประหยัดงบ และไม่ค่อยรีบเท่าไหร่ แนะนำให้ลองจองตั๋วรถนอนไปล่วงหน้า บนรถบัสจะมีสภาพคล้ายกับเตียง นอนไปได้เลยชิลล์ ๆ แต่อาจจะใช้เวลานานหน่อยมอเตอร์ไซค์ (Bike)
ถือว่าเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้เลย ใคร ๆ ต่างก็นั่งมอเตอร์ไซค์ เพราะรวดเร็วมาก ๆ แนะนำหากใครมีเวลาเที่ยวน้อยและอยากประหยัดเงิน ตัวเลือกมอเตอร์ไซค์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีแท็กซี่ (Taxi)
อยากได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบขึ้นรถสาธารณะ หรือว่าจุดหมายปลายทางที่อยากไปนั้นไปค่อนข้างยาก รถสาธารณะไปไม่ถึง แนะนำให้โบกแท็กซี่ แต่อาจจะต้องต่อรองราคาให้ดีก่อนใช้บริการ เพราะอาจถูกเก็บค่าบริการเพิ่มในภายหลังได้รถไฟ (Train)
หากอยากเดินทางข้ามเมือง รถไฟก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อน เพราะอาจจะใช้เวลาเยอะสักหน่อย แต่ข้อดีคือจะได้ชมวิวตลอดทาง เนื่องจากเวียดนามนั้นขึ้นชื่อเรื่องวิวธรรมชาติอันสวยงามนั่นเองเมื่อจะไปเที่ยวนอกประเทศ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือที่ควรเช็กทุกครั้งคือความต่างของเวลา เพราะบางประเทศอาจใช้มาตรฐานเวลาไม่เหมือนประเทศไทย ทำให้เวลาคลาดเคลื่อน กะเวลาสำหรับท่องเที่ยวหรือเดินทางผิดได้แต่สำหรับใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ สบายใจได้เลย เพราะประเทศเวียดนามมีเวลาตรงกันกับเวลาในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ในเขตเวลามาตรฐาน UTC/GMT +7 ชั่วโมงเหมือนกัน หมดปัญหาเรื่องของการจำผิดเวลา ท่องเที่ยวไปอย่างสบายใจ
การเที่ยวในโฮจิมินห์นอกจากจะมีราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ที่ไม่แพงแล้ว ที่เที่ยวโฮจิมินห์ยังมีมากมายหลายแห่ง ที่ทำให้การไปเที่ยวโฮจิมินห์นั้นคุ้มค่าสุด ๆ ได้แก่
ตลาดเบ๊นถั่ญ (Ben Thanh Market)
เป็นตลาดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเขต 1 ใจกลางนครโฮจิมินห์ เดินทางสะดวก ใครอยากซื้อของฝาก มาเดินเล่นหาซื้อของต่าง ๆ หรือเป็นขาช้อป แนะนำให้มาที่ตลาดเบ๊นถั่ญ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะว่าตลาดแห่งนี้มีของขายมากมาย ทั้งของฝาก ของที่ระลึก แถมรอบข้างยังเต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารมากมาย หากใครอยากมาเดินเล่นทั้งกลางวัน กลางคืน ก็สามารถปักหมุดเอาไว้ได้ เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์กดังแห่งหนึ่งของนครโฮจิมินห์เลยทีเดียวโบสถ์ไซง่อนนอร์เทรอดาม (Notre Dame Cathedral)
แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโฮจิมินห์ซิตี้อีกหนึ่งอย่าง เพราะถือว่าเป็นโบสถ์ชื่อดังเก่าแก่ อายุมากกว่า 100 ปี เป็นอาสนวิหารที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ถูกสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสอันสวยงาม ด้านในยังคงความสวยงาม แต่ไม่เหลือกระจกสีอยู่แล้ว เนื่องจากถูกทำลายเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้านหน้ามีสวนเล็ก ๆ และรูปปั้นพระแม่มารีย์ ในอิริยาบถกำลังสวดมนต์ตั้งอยู่กลางสวน เป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่ทำให้เห็นความงดงามของโบสถ์ได้อย่างชัดเจน โบสถ์แห่งนี้ยังเปิดให้เข้าชมและมีการทำพิธีกรรมทุกวันอาทิตย์โรงละครโอเปร่า (Saigon Opera House)
หนึ่งในแลนด์มาร์กโฮจิมินห์ซิตี้ที่อยากจะให้ไปเยือน เพราะอยู่ใกล้กับอาคารไปรษณีย์กลาง โดดเด่นด้วยความสวยงาม ในสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับของฝรั่งเศส หลายเรียกว่าโอเปร่าเฮ้าส์ และหลายคนเรียกที่เที่ยวโฮจิมินห์แห่งนี้ว่าเป็นโรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ ในปัจจุบันนี้ด้านในยังคงใช้เป็นที่แสดงละครต่าง ๆ โดยจะมีการแสดงดนตรีออร์เคสตรา, โอเปร่า, บัลเลต์, และการแสดงศิลปะอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมแบบ French-Colonial ที่สวยงาม ถ้าไม่มีเวลาเข้าไปชมการแสดงด้านใน ก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ กับสถาปัตยกรรมด้านนอกได้ เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ นี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ช่วงไหนก็เที่ยวได้ แต่หากจะให้พิเศษก็แนะนำว่าให้ไปเที่ยวช่วงเทศกาล เริ่มจาก
เทศกาลเต็ตหงืนดัน (Tet)
หรือบางครั้งเรียกว่าวันเต๊ด เป็นเทศกาลตรุษจีนเหมือนบ้านเรา โดยเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญมากในเวียดนาม เทศกาลเต๊ดจะเริ่มขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ โดยเริ่มต้นในวันที่ 23 เดือน 12 ชาวเวียดนามจะหยุดงานกันเป็นอาทิตย์เพื่อกลับบ้าน และเฉลิมฉลองงานตรุษจีน ที่สำคัญยังตรงกับเทศกาลวันปีใหม่ของชาวเวียดนามอีกด้วย หากใครไปเที่ยวเวียดนามในช่วงนี้ อาจจะต้องทำใจว่าบางร้านก็อาจจะปิดทำการช่วงนี้เช่นกัน เพราะว่าผู้คนในเวียดนามต่างก็หยุดไปเที่ยวในช่วงเทศกาลเทศกาลไหว้พระจันทร์ (Mid-Autumn Festival)
เป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีความสำคัญต่อชาวเวียดนามเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ ตลอดทั้งเมืองจะมีการประดับประดาโคมไฟสวยงาม ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีวัน 15 ค่ำ เดือน 8 ทั่วทั้งเวียดนาม ไม่ใช่แค่ในโฮจิมินห์ซิตี้เท่านั้น แต่จะมีการเฉลิมฉลองทั่วประเทศ ผู้คนจะออกมาไหว้พระจันทร์ มีขบวนแห่ มีการเชิดสิงโต และงานรื่นเริงมากมาย ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์อีกช่วงหนึ่งเทศกาลวันชาติเวียดนาม (National Independence Day)
นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ประเทศเวียดนามมีวันนี้ได้ ก็คือวันชาติเวียดนาม ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 2 กันยายน 1945 ถือว่าเป็นวันสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยของประเทศเวียดนาม และถือว่าเป็นวันหยุดราชการที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ พร้อมกับระลึกถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์แล้วไม่อยากเจอฝน แนะนำให้เช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนจะออกเดินทาง เพราะว่าที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้นั้นมีอากาศร้อนชื้น คล้ายกับประเทศไทยบ้านเรา โดยจะมีอยู่แค่ 2 ฤดูเท่านั้น ก็คือฤดูแล้ง และฤดูฝน เฉลี่ยอุณหภูมิตลอดทั้งปีคือ 25 - 35 องศาเซลเซียส
ฤดูแล้ง เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเมษายน คนนิยมมาเที่ยวในช่วงนี้ เพราะว่าอากาศค่อนข้างดี ฝนจะตกน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีฝนตกเลย ข้อดีคือฝนตกน้อยกว่าช่วงฤดูฝน ทำให้แผนการเที่ยวมีโอกาสคลาดเคลื่อนเพราะสภาพอากาศได้น้อยกว่า
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยร้อนมากเท่าไหร่ แต่จะมีฝนตกชุก หากใครที่ไปเที่ยวเวียดนามใต้หรือว่าโฮจิมินห์ในช่วงนี้ ก็ให้พกเสื้อกันฝน หรือร่มไปด้วย
จริงอยู่ถึงแม้จะจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์และเดินทางไปเที่ยวโฮจิมินห์ในช่วงฤดูร้อน แต่สภาพอากาศนั้นเอาแน่นอนไม่ได้ ค่อนข้างมีความแปรปรวน แนะนำให้พกเสื้อกันฝน และร่มไปด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อควรรู้อื่น ๆ ที่ควรทราบก่อนไปโฮจิมินห์ด้วย ได้แก่
เวลาที่โฮจิมินห์ซิตี้นั้นเท่ากับไทย
การเดินทางไปเที่ยวที่โฮจิมินห์ซิตี้ไม่จำเป็นต้องทำวีซ่า
หากไปเที่ยวในช่วงฤดูฝน โอกาสที่ร้านรวงต่าง ๆ จะเปิดนั้นน้อยกว่าการไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อน
ควรเก็บของมีค่า อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือให้ดี เพราะอาจจะถูกขโมย
ไม่ควรขึ้นรถแท็กซี่ก่อนที่จะมีการต่อรองราคา หรือควรที่จะสังเกตมิเตอร์ให้ดี
การซื้อของในโฮจิมินห์ซิตี้ หากซื้อของในห้างใหญ่ แนะนำให้ถามถึงเรื่อง Tax Refund เพราะสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้ที่สนามบิน
สินค้าที่คนนิยมซื้อกลับมาเป็นของฝาก ได้แก่ กาแฟ เพราะว่าที่เวียดนามขึ้นชื่อเรื่องเมล็ดกาแฟที่คุณภาพดี ในราคาที่ไม่แพง
หากคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวโฮจิมินห์ เมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เชิญทางนี้! เที่ยวโฮจิมินห์บินไปเวียดนาม กับตั๋วเครื่องบินไปเวียดนาม ราคาสบายกระเป๋าที่ Traveloka จองตั๋วเครื่องบิน ง่าย สะดวกสบาย ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่ปลายนิ้ว
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ แนะนำให้ไปเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม จะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายที่สุด ทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซัน ให้คุณสามารถปั่นจักรยานชมเมืองและชื่นชมสถาปัตยกรรมภายในเมืองได้ โดยราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ในแต่ละเดือน จะมีดังนี้
หากอยากให้การไปเที่ยวโฮจิมินห์ในครั้งนี้ ได้ราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ที่คุ้มค่าและประหยัด ต้องจองกับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักชั้นนำ เรามีตั๋วเครื่องบินราคาถูก จ่ายเท่าที่เห็น ทั้งยังสามารถเปรียบเทียบราคาเที่ยวบินต่าง ๆ บนผลลัพธ์การค้นหาได้เลย จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ให้ครบ จบทั้งขาไปขากลับในครั้งเดียว ต้องจองกับ Traveloka
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ จุดหมายปลายทางสำคัญของการเดินทางก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (SGN) ซึ่งถือว่าเป็นสนามบินหลักและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รองรับเที่ยวบินต่างประเทศถึง 2 ใน 3 ของเที่ยวบินทั้งหมดในเวียดนาม
ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ตอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1.3 กิโลเมตร โดยแต่ก่อนนั้นสนามบินแห่งนี้ มีความสำคัญตรงที่เป็นฐานทัพอากาศของทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส สนามบินนี้ได้ตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ จึงใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองไม่นาน
เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) หรือที่คนเวียดนามหลายคนยังเรียกติดปากกันว่าเมืองไซ่ง่อน (Saigon) มีความสำคัญที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในขณะนี้ อยากจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะมีเที่ยวบินตรงทุกวัน อยากมาเที่ยวโฮจิมินห์เมื่อไหร่ก็ได้
โดยเมืองโฮจิมินห์นั้นได้ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศเวียดนาม อยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง แรกเริ่มเดิมทีเมืองนี้เคยตกอยู่ในการปกครองของเขมรมาก่อน มีชื่อเรียกว่าไพรนคร จากนั้นหลังจากที่เวียดนามได้เข้ามายึดดินแดนได้มีการเรียกว่า ยาดิ่ง ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีก กลายมาเป็น ไซ่ง่อน หลายคนก็จะจดจำเมืองโฮจิมินห์ และเรียกว่าไซ่ง่อนจนถึงปัจจุบันนี้
ช่วงที่เกิดสงครามเวียดนาม และประเทศเวียดนามได้ถูกแยกออกมาเป็นสองส่วนนั้น ไซ่ง่อน หรือโฮจิมินห์ซิตี้ ได้กลายมาเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ และอยู่ใต้อาณานิคมของฝรั่งเศส หลังจากนั้นพอเวียดนามเหนือเข้ามายึดเมืองนี้ได้ จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองกลายมาเป็นเมืองโฮจิมินห์แบบในทุกวันนี้ ตามชื่อผู้นำของเวียดนาม นั่นก็คือท่านผู้นำโฮจิมินห์นั่นเอง
ในตอนนี้โฮจิมินห์ซิตี้ ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง ทั้งในเรื่องการค้าขาย เศรษฐกิจ และเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ทันสมัย หากใครที่อยากเที่ยวเมืองต่าง ๆ ในเวียดนามตอนล่าง แนะนำให้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ เที่ยวเป็นที่แรกก่อน แล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ เพราะเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ถือว่าเป็นเมืองที่มีสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเขตเวียดนามตอนล่าง
ความน่าสนใจของเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ คือเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก ถึงแม้ขนาดของพื้นที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้จะมีขนาดใหญ่กว่ากรุงเทพฯ มาก แต่หากวัดความหนาแน่นของประชากรนั้นก็ถือว่ายังมีความหนาแน่นอยู่ดี เพราะมีประชากรอาศัยอยู่มากถึงประมาณกว่า 8 ล้านคน คนส่วนมากเมื่อเรียนจบ และต้องการหางานทำก็มักจะเดินทางมาอาศัย และหางานทำที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้แห่งนี้
ในส่วนของที่เที่ยวภายในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ก็จะมีทั้งวัด ห้างสรรพสินค้า ผับ บาร์ และคาเฟ่มากมาย ตามสไตล์เมืองหลวงทั่วไป หากอยากใกล้ชิดธรรมชาติ หรือออกไปเที่ยวโซนนอกเมืองหน่อย แนะนำให้ไปเที่ยวที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง คุณจะได้ล่องเรือไปชมบรรยากาศของสองฝั่งคลอง และได้เห็นวิถีชีวิตของแม่ค้าที่ขายของบนเรือ หรือว่าใครจะอยู่เที่ยวโฮจิมินห์ซิตี้สักสองสามคืน แล้วค่อยเดินทางต่อไปเที่ยวเมืองอื่นก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับใครที่อยากมาเที่ยว ชมงดงามอันมีเสน่ห์ของเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์กันได้เลย
อยากไปเที่ยวโฮจิมินห์ก็ไม่ยาก เพียงแค่จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ ก็สามารถบินตรงจากไทยไปได้ทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้ว จากประเทศไทยมีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินไปโฮจิมินห์ ได้แก่ นกแอร์ (Nok Air), แอร์เอเชีย (AirAsia), เวียดเจ็ทแอร์ (Vietjet Air), เจ็ตสตาร์แอร์เวย์ (JetStar), สกู๊ต (Scoot), การบินไทย (Thai Airways), เวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines), และ มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines)
สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ หากตั้งใจที่จะไปเที่ยวก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ ใช้แค่หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตก็สามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า แนะนำให้เตรียมพาสปอร์ต, ใบรับรองการฉีดวัคซีน, ประกันวงเงินคุ้มครอง 50,000 USD (ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งใบนี้ควรพิมพ์เป็นเอกสารติดตัวไว้, ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ, และเอกสารการจองที่พักใช้สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์แล้ว เครื่องบินจะบินไปลงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (SGN) การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่เมืองโฮจิมินห์และการเดินทางภายในโฮจิมินห์ ก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย สะดวกสบายสำหรับนักเดินทาง
รถรับส่งสนามบิน
อยากได้ตัวช่วยเดินทางจากสนามบินไปยังที่พัก หรือเข้าเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ แนะนำรถรับส่งสนามบิน เพราะสะดวก ราคาไม่แพง แถมยังมีบริการรับจากในสนามบิน ไม่ต้องเรียกแท็กซี่ให้เสียเงิน ส่งให้ถึงที่ และตรงเวลารถบัส
ใครอยากจะประหยัดเงินหน่อย แนะนำบริการรถบัสก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะเส้นทางการเดินรถบัสนั้นค่อนข้างครอบคลุมทั่วนครโฮจิมินห์ซิตี้ แต่อาจจะต้องศึกษาเส้นทางให้ดีกันหลงทางรถบัสนอน (Sleeping Bus)
ไปเที่ยวโฮจิมินห์ซิตี้ แล้วอยากแวะไปเที่ยวเมืองอื่นรอบข้าง สามารถทำได้แน่นอน หากใครที่อยากประหยัดงบ และไม่ค่อยรีบเท่าไหร่ แนะนำให้ลองจองตั๋วรถนอนไปล่วงหน้า บนรถบัสจะมีสภาพคล้ายกับเตียง นอนไปได้เลยชิลล์ ๆ แต่อาจจะใช้เวลานานหน่อยมอเตอร์ไซค์ (Bike)
ถือว่าเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้เลย ใคร ๆ ต่างก็นั่งมอเตอร์ไซค์ เพราะรวดเร็วมาก ๆ แนะนำหากใครมีเวลาเที่ยวน้อยและอยากประหยัดเงิน ตัวเลือกมอเตอร์ไซค์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีแท็กซี่ (Taxi)
อยากได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบขึ้นรถสาธารณะ หรือว่าจุดหมายปลายทางที่อยากไปนั้นไปค่อนข้างยาก รถสาธารณะไปไม่ถึง แนะนำให้โบกแท็กซี่ แต่อาจจะต้องต่อรองราคาให้ดีก่อนใช้บริการ เพราะอาจถูกเก็บค่าบริการเพิ่มในภายหลังได้รถไฟ (Train)
หากอยากเดินทางข้ามเมือง รถไฟก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อน เพราะอาจจะใช้เวลาเยอะสักหน่อย แต่ข้อดีคือจะได้ชมวิวตลอดทาง เนื่องจากเวียดนามนั้นขึ้นชื่อเรื่องวิวธรรมชาติอันสวยงามนั่นเองเมื่อจะไปเที่ยวนอกประเทศ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือที่ควรเช็กทุกครั้งคือความต่างของเวลา เพราะบางประเทศอาจใช้มาตรฐานเวลาไม่เหมือนประเทศไทย ทำให้เวลาคลาดเคลื่อน กะเวลาสำหรับท่องเที่ยวหรือเดินทางผิดได้แต่สำหรับใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ สบายใจได้เลย เพราะประเทศเวียดนามมีเวลาตรงกันกับเวลาในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ในเขตเวลามาตรฐาน UTC/GMT +7 ชั่วโมงเหมือนกัน หมดปัญหาเรื่องของการจำผิดเวลา ท่องเที่ยวไปอย่างสบายใจ
การเที่ยวในโฮจิมินห์นอกจากจะมีราคาตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ที่ไม่แพงแล้ว ที่เที่ยวโฮจิมินห์ยังมีมากมายหลายแห่ง ที่ทำให้การไปเที่ยวโฮจิมินห์นั้นคุ้มค่าสุด ๆ ได้แก่
ตลาดเบ๊นถั่ญ (Ben Thanh Market)
เป็นตลาดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเขต 1 ใจกลางนครโฮจิมินห์ เดินทางสะดวก ใครอยากซื้อของฝาก มาเดินเล่นหาซื้อของต่าง ๆ หรือเป็นขาช้อป แนะนำให้มาที่ตลาดเบ๊นถั่ญ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะว่าตลาดแห่งนี้มีของขายมากมาย ทั้งของฝาก ของที่ระลึก แถมรอบข้างยังเต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารมากมาย หากใครอยากมาเดินเล่นทั้งกลางวัน กลางคืน ก็สามารถปักหมุดเอาไว้ได้ เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์กดังแห่งหนึ่งของนครโฮจิมินห์เลยทีเดียวโบสถ์ไซง่อนนอร์เทรอดาม (Notre Dame Cathedral)
แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโฮจิมินห์ซิตี้อีกหนึ่งอย่าง เพราะถือว่าเป็นโบสถ์ชื่อดังเก่าแก่ อายุมากกว่า 100 ปี เป็นอาสนวิหารที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ถูกสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสอันสวยงาม ด้านในยังคงความสวยงาม แต่ไม่เหลือกระจกสีอยู่แล้ว เนื่องจากถูกทำลายเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้านหน้ามีสวนเล็ก ๆ และรูปปั้นพระแม่มารีย์ ในอิริยาบถกำลังสวดมนต์ตั้งอยู่กลางสวน เป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่ทำให้เห็นความงดงามของโบสถ์ได้อย่างชัดเจน โบสถ์แห่งนี้ยังเปิดให้เข้าชมและมีการทำพิธีกรรมทุกวันอาทิตย์โรงละครโอเปร่า (Saigon Opera House)
หนึ่งในแลนด์มาร์กโฮจิมินห์ซิตี้ที่อยากจะให้ไปเยือน เพราะอยู่ใกล้กับอาคารไปรษณีย์กลาง โดดเด่นด้วยความสวยงาม ในสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับของฝรั่งเศส หลายเรียกว่าโอเปร่าเฮ้าส์ และหลายคนเรียกที่เที่ยวโฮจิมินห์แห่งนี้ว่าเป็นโรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ ในปัจจุบันนี้ด้านในยังคงใช้เป็นที่แสดงละครต่าง ๆ โดยจะมีการแสดงดนตรีออร์เคสตรา, โอเปร่า, บัลเลต์, และการแสดงศิลปะอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมแบบ French-Colonial ที่สวยงาม ถ้าไม่มีเวลาเข้าไปชมการแสดงด้านใน ก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ กับสถาปัตยกรรมด้านนอกได้ เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ นี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์ช่วงไหนก็เที่ยวได้ แต่หากจะให้พิเศษก็แนะนำว่าให้ไปเที่ยวช่วงเทศกาล เริ่มจาก
เทศกาลเต็ตหงืนดัน (Tet)
หรือบางครั้งเรียกว่าวันเต๊ด เป็นเทศกาลตรุษจีนเหมือนบ้านเรา โดยเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญมากในเวียดนาม เทศกาลเต๊ดจะเริ่มขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ โดยเริ่มต้นในวันที่ 23 เดือน 12 ชาวเวียดนามจะหยุดงานกันเป็นอาทิตย์เพื่อกลับบ้าน และเฉลิมฉลองงานตรุษจีน ที่สำคัญยังตรงกับเทศกาลวันปีใหม่ของชาวเวียดนามอีกด้วย หากใครไปเที่ยวเวียดนามในช่วงนี้ อาจจะต้องทำใจว่าบางร้านก็อาจจะปิดทำการช่วงนี้เช่นกัน เพราะว่าผู้คนในเวียดนามต่างก็หยุดไปเที่ยวในช่วงเทศกาลเทศกาลไหว้พระจันทร์ (Mid-Autumn Festival)
เป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีความสำคัญต่อชาวเวียดนามเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ ตลอดทั้งเมืองจะมีการประดับประดาโคมไฟสวยงาม ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีวัน 15 ค่ำ เดือน 8 ทั่วทั้งเวียดนาม ไม่ใช่แค่ในโฮจิมินห์ซิตี้เท่านั้น แต่จะมีการเฉลิมฉลองทั่วประเทศ ผู้คนจะออกมาไหว้พระจันทร์ มีขบวนแห่ มีการเชิดสิงโต และงานรื่นเริงมากมาย ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์อีกช่วงหนึ่งเทศกาลวันชาติเวียดนาม (National Independence Day)
นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ประเทศเวียดนามมีวันนี้ได้ ก็คือวันชาติเวียดนาม ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 2 กันยายน 1945 ถือว่าเป็นวันสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยของประเทศเวียดนาม และถือว่าเป็นวันหยุดราชการที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ พร้อมกับระลึกถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์แล้วไม่อยากเจอฝน แนะนำให้เช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนจะออกเดินทาง เพราะว่าที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้นั้นมีอากาศร้อนชื้น คล้ายกับประเทศไทยบ้านเรา โดยจะมีอยู่แค่ 2 ฤดูเท่านั้น ก็คือฤดูแล้ง และฤดูฝน เฉลี่ยอุณหภูมิตลอดทั้งปีคือ 25 - 35 องศาเซลเซียส
ฤดูแล้ง เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเมษายน คนนิยมมาเที่ยวในช่วงนี้ เพราะว่าอากาศค่อนข้างดี ฝนจะตกน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีฝนตกเลย ข้อดีคือฝนตกน้อยกว่าช่วงฤดูฝน ทำให้แผนการเที่ยวมีโอกาสคลาดเคลื่อนเพราะสภาพอากาศได้น้อยกว่า
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยร้อนมากเท่าไหร่ แต่จะมีฝนตกชุก หากใครที่ไปเที่ยวเวียดนามใต้หรือว่าโฮจิมินห์ในช่วงนี้ ก็ให้พกเสื้อกันฝน หรือร่มไปด้วย
จริงอยู่ถึงแม้จะจองตั๋วเครื่องบินไปโฮจิมินห์และเดินทางไปเที่ยวโฮจิมินห์ในช่วงฤดูร้อน แต่สภาพอากาศนั้นเอาแน่นอนไม่ได้ ค่อนข้างมีความแปรปรวน แนะนำให้พกเสื้อกันฝน และร่มไปด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อควรรู้อื่น ๆ ที่ควรทราบก่อนไปโฮจิมินห์ด้วย ได้แก่
เวลาที่โฮจิมินห์ซิตี้นั้นเท่ากับไทย
การเดินทางไปเที่ยวที่โฮจิมินห์ซิตี้ไม่จำเป็นต้องทำวีซ่า
หากไปเที่ยวในช่วงฤดูฝน โอกาสที่ร้านรวงต่าง ๆ จะเปิดนั้นน้อยกว่าการไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อน
ควรเก็บของมีค่า อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือให้ดี เพราะอาจจะถูกขโมย
ไม่ควรขึ้นรถแท็กซี่ก่อนที่จะมีการต่อรองราคา หรือควรที่จะสังเกตมิเตอร์ให้ดี
การซื้อของในโฮจิมินห์ซิตี้ หากซื้อของในห้างใหญ่ แนะนำให้ถามถึงเรื่อง Tax Refund เพราะสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้ที่สนามบิน
สินค้าที่คนนิยมซื้อกลับมาเป็นของฝาก ได้แก่ กาแฟ เพราะว่าที่เวียดนามขึ้นชื่อเรื่องเมล็ดกาแฟที่คุณภาพดี ในราคาที่ไม่แพง