ปักกิ่ง (Beijing) หรือที่หลายคนเรียกว่า เป่ย์จิง เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือว่าประเทศจีนนั่นเอง หากใครอยากไปเที่ยวปักกิ่งก็ไม่ยาก เพียงแค่จองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่งเท่านั้น โดยเมืองปักกิ่งนี้มีชื่อย่อว่า จิง หากใครที่อยากไปเที่ยวปักกิ่ง ก็จำเป็นจะต้องทำวีซ่าก่อนที่จะไป หลังจากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่งกันได้เลย ซึ่งเมืองปักกิ่ง หรือว่ามณฑลปักกิ่งนี้จะติดอยู่กับเมืองเทียนจิน และเมืองอื่นๆ ความสำคัญของปักกิ่งคือเป็น 1 ใน 4 เมือง ที่เป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศจีน และในตอนนี้ปักกิ่งก็ยังเป็นเมืองหลวงที่สำคัญของจีนอยู่อีกนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับเลือก ให้เป็นเมืองจัดโอลิมปิกในเมื่อเมือง 2008 ที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงความสำคัญของปักกิ่ง ที่เป็นศูนย์กลางของหลายสิ่ง ทั้งเศรษฐกิจ ศาสนา การศึกษา การขนส่ง รวมไปถึงวัฒนธรรมต่างๆ ปักกิ่งเองก็นับว่าเป็นเมืองที่สำคัญเป็นอย่างมาก และมีอิทธิพลกับเมืองอื่นๆ เป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของภูมิประเทศนั้น ปักกิ่งมีทั้งส่วนที่เป็นที่ราบ และภูเขาสูง แต่ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้ปักกิ่งเป็นที่ราบลาดลงสู่ทะเลป๋อไห่ แม่น้ำที่สำคัญของปักกิ่งมีหลายแห่งด้วยกัน อาทิ แม่น้ำเฉาไป๋ แม่น้ำเป่ยอวิ๋น ซึ่งอยู่ด้านตะวันออก และแม่น้ำหย่งติ้ง แม่น้ำจวี้หม่า เป็นต้น ที่สำคัญคือความเป็นมาอันอย่างยาวนานของเมืองปักกิ่ง ที่มีอารยธรรมมานานมากกว่า 1000 ปีแล้วด้วยกัน แต่ด้วยความที่ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก หากใครที่อยากเดินทางท่องเที่ยวระหว่างเมือง หรือจากเมืองปักกิ่งไปยังเมืองอื่นๆ แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่งโดยตรงได้เลย ช่วยประหยัดเวลาได้แน่นอน ที่สำคัญนักท่องเที่ยวชาวไทย หากอยากเดินทางไปเที่ยวปักกิ่ง แนะนำว่าจำเป็นต้องทำวีซ่าก่อน เพราะขั้นตอนการทำวีซ่าอาจจะใช้เวลานาน เพราะปักกิ่งนั้นไม่ใช่เมืองที่ฟรีวีซ่า แต่ความน่าสนใจของเมืองปักกิ่ง นั้นไม่ได้มีแค่ความโดดเด่นในเรื่องของศิลปะ และวัฒนธรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีที่เที่ยวปักกิ่งมากมายที่น่าสนใจให้คุณได้ไปเยือน หากใครที่อยากลองเที่ยวประเทศจีน ยังไม่รู้จะไปเริ่มต้นที่เมืองไหน แนะนำให้มาเริ่มต้นที่ปักกิ่ง เป็นอีกเมืองที่เที่ยวเยอะ เที่ยวง่าย และมีสิ่งน่าสนใจหลากหลาย อยากให้เป็นอีกหนึ่งเมืองของประเทศจีนที่อยู่ในลิสต์ของนักเดินทางเป็นลำดับแรกๆ 

ความโดดเด่ดของที่เที่ยวปักกิ่งก็คือมีแต่ที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ หากใครที่เป็นสายนักเดินทางที่คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์จีน บอกเลยว่าการเดินทางมาเที่ยวปักกิ่งนั้นจะต้องฟินอย่างแน่นอน เพราะว่าที่เที่ยวปักกิ่งล้วนแต่เป็นที่เที่ยวเน้นแลนด์มาร์คสำคัญ ไม่ได้เป็นที่เที่ยวเชิงสวนสนุก หรือว่าโชว์ละคร แต่เป็นที่เที่ยวปักกิ่งที่ยังคงเป็นร่องรอยที่หลงเหลือมาจากในประวัติศาสตร์ แถมในแต่ละที่เที่ยวปักกิ่งก็ยังเป็นที่เที่ยวที่เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญของโลก อย่างเช่น กำแพงเมืองจีน จตุรัสเทียนอันเหมิน และพระราชวังต้องห้ามนั่นเอง ไม่ใช่เพียงแค่ที่เที่ยวปักกิ่งอันน่าสนใจเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ศิลปะ ร้านอาหาร หรือว่าคาเฟ่ก็มีให้เลือกมากมาย นอกจากนั้นยังเองปักกิ่งยังเป็นศูนย์กลางของความเจริญต่างๆ จึงมีแหล่งช้อปปิ้งที่เหมาะกับขาช้อปทั้งหลาย ยังมีร้านอาหารจีนมากมาย รวมถึงร้านชาบูหม่าล่าให้ได้ลองกันอีกด้วย เรียกได้ว่าการมาเที่ยวปักกิ่ง เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะครบรส หากใครชอบเที่ยวจีน แล้วอยากเริ่มต้นเที่ยวจากเมืองหลวงที่ศิวิไลซ์ แนะนำว่าการจองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่ง จึงเป็นอะไรที่ควรค่าเป็นอย่างยิ่ง อย่ารอช้าจองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่ง แล้วตามมาเที่ยวกันเลยดีกว่า 

สกุลเงิน 

ปักกิ่งนั้นใช้สกุลเงินหยวน (CNY) ซึ่งจะมีเงินย่อยจากหยวนลงไปอีก เรียกว่า เจียว หรือเหมา โดย 1 หยวนจีน จะมีมูลค่าเท่ากับ 4-5 บาทไทย (THB) แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน แนะนำให้เช็คอัตราแลกเปลี่ยนวันต่อวัน 

ฤดูกาลปักกิ่ง 

ก่อนจะเดินทางไปปักกิ่งอยากให้เช็คสภาพอากาศกันก่อน แต่อันที่จริงแล้วสภาพภูมิอากาศที่ปักกิ่งจะมีความชัดเจน เพราะแบ่งแยกออกเป็น 4 ฤดูที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก โดยรวมแล้วปักกิ่งจะมีทั้งหมด 4 ฤดูด้วยกัน ได้แก่ 

• - ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งที่เดือนเมษายน ไปจนถึงพฤษภาคม ซึ่งอุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 13 - 26 องศาด้วยกัน อากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปวิว หรือว่าอยากมาชมดอกไม้ที่กำลังผลิบาน แนะนำให้เช็คสภาพอากาศให้ดี เพราะฤดูนี้ก็อาจจะมีโอกาสพบเจอกับพายุทรายก็ได้ 

• - ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงสิงหาคม เป็นช่วงฤดูร้อนที่อากาศจะค่อนข้างร้อนจัด หากใครที่ไปเที่ยวในช่วงนี้ก็แนะนำว่าเตรียมเสื้อผ้าที่ช่วยระบายอากาศร้อนได้ดีไปด้วย แต่การเที่ยวปักกิ่งในช่วงฤดูร้อนก็ถือว่าดี เพราะจะได้ชมวิวดอกไม้สวยๆ ด้วยเช่นกัน 

• - ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ไปจนถึงตุลาคม อุณหภูมิเฉลี่ยคือประมาณ 14 - 26 องศาเซสเซียส แต่ในช่วงเดือนตุลาคม อุณหภูมิจะลดต่ำลงไปเหลือประมาณ 7 - 19 องศาเซสเซียสด้วยกัน เป็นอีกหนึ่งฤดูที่อยากจะแนะนำ เพราะว่าเป็นฤดูที่เที่ยวง่าย และอากาศดี 

• - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนมีนาคม ช่วงฤดูนี้ก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไม่แพ้ฤดูอื่นๆ เลย เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่จะมีหิมะ อากาศจะหนาวเย็นกว่าปกติ 

ภูมิภาค 

กรุงปักกิ่งนั้นได้แบ่งการปกครองออกเป็นทั้งหมด 16 เขตด้วยกัน จะเป็นเขตเมืองชั้นในทั้งหมด 2 เขต และเป็นเขตพื้นที่ในเมืองทั้งหมด 4 เขต มีพื้นที่นอกเมืองสำหรับการพัฒนา 5 เขต รวมถึงเขตพื้นที่นอกเมืองสำหรับการอนุกรักษ์ระบบนิเวศด้วยเช่นเดียวกันอีก 5 เขต ประกอบไปด้วย 

• Yanqing 
• Huairou 
• Miyun 
• Pinggu 
• Shunyi 
• Choayang 
• Tongzhou
• Daxing 
• Fangshan
• Mentougou
• Haidian
• Changping 
• Fengtai 
• Shijingshan District 
• Xicheng District 
• Dongcheng District 

สนามบินสำคัญปักกิ่ง 

สนามบินหลักของกรุงปักกิ่งนั้นตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 แห่ง เพราะว่าเพิ่งมีการเปิดสนามบินแห่งใหม่ของปักกิ่งเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง โดยสนามบินปักกิ่งจะประกอบไปด้วย 

• - ท่าอากาศนานาชาติกรุงปักกิ่ง (Beijing Capital International Airport) หรือตัวย่อคือ PEK เป็นท่าอากาศนานาชาติของปักกิ่งที่มีมาอย่างยาวนาน และยังคงเป็นสนามบินหลักของปักกิ่งจนถึงทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่เรียกสั้นย่อว่า สนามบินปักกิ่ง โดยหลักแล้วจะมีการให้บริการทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ เป็นสนามบินที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของจีน และเป็นหนึ่งในสนามบินที่ใหญ่ และสะดวกสบายติดอันดับโลกเลยทีเดียว ใหญ่ขนาดที่รับผู้โดยสารได้มากกว่า 72 ล้านคนต่อปี และมีรันเวย์มากถึง 3 รันเวย์ด้วยกัน 

• - ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งต้าซิง (Beijing Daxing International Airport) ตัวย่อคือ PKX เป็นสนามบินแห่งใหม่ล่าสุดของปักกิ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขยายความต้องการเดินทางของผู้คนที่เดินทางเข้ามายังปักกิ่ง ซึ่งสามารถรองรับคนได้มากถึง 100 ล้านคนต่อปี เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา และได้มีการให้บริการบินเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน นับว่าเป็นการเปิดตัวสนามบินที่อลังการ และทำให้หลายประเทศหันมาจับตามองประเทศจีนมากยิ่งขึ้น 

การเดินทางไปปักกิ่ง 

การเดินทางไปปักกิ่งก็ง่ายดายไม่ยุ่งยาก เพราะมีเที่ยวบินตรงไปปักกิ่ง เพียงแค่คุณจองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่งเท่านั้น โดยเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังปักกิ่งแบบเที่ยวบินตรง ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น ซึ่งหลักๆ แล้วจะมีสายการบินเหล่านี้ที่ให้บริการ คือ การบินไทย (Thai Airways) บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) แอร์ไชนา (Air China) นอกจากตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่งแบบบินตรงแล้วนั้น ก็ยังมีสายการบินที่ให้บริการอีกหลายเจ้า แต่ทว่าจะเป็นการบินไปปักกิ่งแบบต่อเครื่อง ซึ่งอาจจะใช้เวลามากน้อยลดหลั่นกันไป แล้วแต่สายการบิน และจุดหมายที่ต้องไปต่อเครื่องระหว่างทาง อาทิ เวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines) อีวีเอแอร์ (EVA Air) แอร์มาเก๊า (Air Macau) ออล นิปปอน แอร์เวย์ (All Nippon Airways) การูดาอินโดนีเซีย (Garuda Indonesia) เซี่ยงไฮ้ แอร์ไลน์ (Shanghai Airlines) เป็นต้น 

การเดินทางในปักกิ่ง

• - เครื่องบิน เป็นการเดินทางที่ง่าย และสะดวกสบาย พร้อมทั้งประหยัดเวลามากที่สุดในจีนเลยก็ว่าได้ เพราะในแต่ละเมืองของจีนนั้นอยู่ค่อนข้างห่างกัน แถมแต่ละเมืองก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ แนะนำหากใครที่เที่ยวปักกิ่งแล้วอยากจะเดินทางต่อไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ในจีน หรืออยากจะบินตรงไปเที่ยวปักกิ่งเลยก็ได้เช่นกัน แนะนำจองตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่งเลย 

• - บริการรถรับส่งสนามบิน แนะนำว่าหากใครกำลังมองหาวิธีการเดินทางจากสนามบินปักกิ่งเข้าไปยังตัวเมืองปักกิ่ง อยากให้ลองใช้บริการรถรับส่งสนามบินปักกิ่งกับ Traveloka เพราะสะดวกสบายมากกว่า ด้วยการนัดรถรับส่งแบบล่วงหน้า ไม่ว่าจะบินมาถึงปักกิ่งตอนกี่โมง ก็มีคนมารับแน่นอน แถมค่าบริการยังไม่มีบวกเพิ่ม เพราะรวมค่าน้ำมัน และค่าทางด่วนไปเรียบร้อยแล้ว 

• - รถไฟความเร็วสูง (high-speed rail) รถไฟนี่ถือว่าเป็นการขนส่งหลักอย่างหนึ่งของประเทศจีนเลยก็ว่าได้ สำหรับรถไฟความเร็วสูงนั้น จะไม่ได้มีให้บริการในทุกเมือง แต่จะเน้นเฉพาะหัวเมืองสำคัญเท่านั้น โดยรถไฟความเร็วสูงสายที่ให้บริการจะมีทั้งหมด 5 สายด้วยกันได้แก่ ปักกิ่ง-เทียนจิน ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง-กวางโจว ปักกิ่ง-สงอัน และปักกิ่ง-จางเจียโข่ว 

• - รถไฟ (Rails) รถไฟปกติของประเทศจีน หรือว่าในเมืองปักกิ่งก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เพราะว่าการเดินทางด้วยรถไฟในจีน นั้นค่อนข้างจะครอบคลุมในทุกเมือง และเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ไม่แพง เป็นที่นิยมสำหรับชาวจีนยิ่งนัก ที่สำคัญคือในเมืองปักกิ่งนั้น ยังเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางด้วยรถไฟหลักอีกด้วย หรือใครที่อยากเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองอื่นๆ มุ่งตรงมายังปักกิ่งก็ได้อีกเช่นเดียวกัน แต่อาจจะใช้ระยะเวลาสักหน่อย

• - รถแท็กซี่ ภายในเมืองปักกิ่งก็จะมีรถแท็กซี่ให้บริการ หากใครที่ต้องการรถสาธารณะที่รวดเร็ว สามารถบอกจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน แนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่ได้เลย โดยรถแท็กซี่จะเริ่มต้นที่ประมาณ 13 หยวน แล้วบวกเพิ่มตามระยะทาง หากใครที่ไปเที่ยวปักกิ่งหลายคน หรือไปกับเพื่อน นั่งรถแท็กซี่แล้วหารกันก็ถือว่ายังคุ้ม 

• - รถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับที่ปักกิ่งจะเรียกกันว่า Subway เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวก และอยากจะแนะนำ เพราะมีเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด 23 เส้นทางด้วยกัน มีทั้งหมด 404 สถานีด้วยกัน เป็นรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีเส้นทางที่ยาวมากที่สุดของโลก เป็นหนึ่งในขนส่งสาธารณะที่มีคนใช้บริการมากที่สุดแห่งหนึ่งในปักกิ่งเลยทีเดียว หากใครอยากเที่ยวแต่ในปักกิ่งก็แนะนำการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน เพราะราคาไม่แพง ค่าบัตรเริ่มต้นที่ 2 หยวนเท่านั้น 

• - รถจักรยาน เห็นปักกิ่งที่เป็นเมืองใหญ่ขนาดนี้ แต่ก็ว่าไม่ได้ที่จักรยานเป็นหนึ่งในการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของชาวเมืองเลยทีเดียว เพราะว่าที่ปักกิ่งจะมีการทำถนนสำหรับจักรยานขึ้นมาอย่างจริงจัง และชาวเมืองปักกิ่งเองก็นิยมใช้จักรยานมากกว่ารถยนต์ สำหรับใครที่เป็นนักปั่นจักรยานตัวยง แนะนำให้ลองไปเที่ยวปักกิ่งดู สามารถโหลดแอพสำหรับใช้เช่าจักรยานได้ และที่สำคัญคือราคาไม่แพง 

ที่เที่ยวแนะนำปักกิ่ง 

1. 1. กำแพงเมืองจีน (Great wall of China) หรือที่หลายคนเรียกว่า กำแพงหมื่นลี้หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองปักกิ่ง ต้องยกให้กับกำแพงเมืองจีนเลย เชื่อว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวปักกิ่ง เพราะอยากลองมาเดินบนกำแพงเมืองจีนดูสักครั้ง ซึ่งกำแพงเมืองจีนนี้ เป็นกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงราชวงศ์ฉิน สร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองปักกิ่งจากการรุกรานของศัตรู ที่เป็นชาวฮั่น หรือว่าพวกเติร์กจากทางตอนเหนือของประเทศ มีอายุอานามจากแต่ก่อนมาถึงตอนนี้ ก็เป็นระยะเวลากว่าพันปีมาแล้วด้วยกัน นอกเหนือจากการได้เดินสำรวจกำแพงเมืองจีนแล้วนั้น วิวด้านล่างกำแพงเมืองจีนยังมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง 
2. 2. จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) เป็นสถานที่เที่ยวปักกิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับจัตุรัสเทียนอันเหมิน หากใครที่มาเที่ยวปักกิ่ง ก็อยากจะแนะนำให้ลองมาเยี่ยมชมจัตุรัสแห่งนี้ด้วยตาตัวเองกันดูสักครั้ง แถมยังเป็นสถานที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์จีนต่างๆ ก็ล้วนแต่เกิดขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมินนี้ทั้งนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเหตุการณ์ประท้วง และเหตุการณ์นองเลือดต่างๆ นอกจากนั้นจัตุรัสเทียนอันเหมินยังเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ใหญ่จนถึงขนาดที่ว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 1 ล้านคนด้วยกัน หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวปักกิ่ง ก็อยากจะให้ลองแวะมาเที่ยวที่จัตุรัสเทียนอันเหมินนี้ดู 
3. 3. พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) หรือว่าพระราชวังกู้กง เป็นสถานที่เที่ยวปักกิ่งสุดไฮไลท์ ที่ไม่อยากให้คุณพลาดเลยจริงๆ เพราะว่าเป็นพระราชวังที่เป็นพระราชวังจริงๆ เป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์หมิง และราชวงชิงมายาวนานหลายร้อยปี ภายในพระราชวังแห่งนี้จะมีความใหญ่โตเป็นอย่างมาก ใช้เวลาก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามนานถึง 14 ปีด้วยกัน ด้านในจะมีห้องทั้งหมดมากถึง 9,999 ห้องด้วยกัน หากใครที่อยากไปเที่ยวชมพระราชวังต้องห้าม แนะนำให้เตรียมเวลาให้ดี เพราะด้านในใหญ่มาก อยากให้ไปแต่เช้าเพื่อความคุ้มค่า ซึ่งตอนนี้พระราชวังต้องห้าม ก็ได้เปลี่ยนจากพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ ให้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ไปซะแล้ว ค่าเข้าชมของพระราชวังต้องห้ามคือ 40 หยวน 
4. 4. พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ถัดจากพระราชวังต้องห้ามมา ก็เป็นพระราชวังฤดูร้อน หนึ่งในที่เที่ยวปักกิ่งยอดนิยม และเป็นไฮไลท์ เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งพระราชวังที่มีความสวยงาม ทั้งด้านวิวทิวทัศน์ข้างนอก และด้านใน พระราชวังฤดูร้อน มีอีกหนึ่งชื่อก็คือ อี๋เหอ-ยเวียน เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ใกล้กับพระราชวังหยวนหมิงหยวน ห่างจากพระราชวังต้องห้ามไปอีกเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรเท่านั้น ไฮไลท์ของพระราชวังฤดูร้อน ก็คือตั้งอยู่บนเนิน และด้านหน้ามีทะเลสาบคุณหมิง ทำให้เป็นพระราชวังที่มีทัศนียภาพที่งดงามยิ่งนัก เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เที่ยวปักกิ่งแนะนำ ที่อยากให้มา 
5. 5. หอสักการะฟ้าเทียนถัน (Temple of Heaven) หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือหอสักการะฟ้าดิน ถือว่าเป็นที่เที่ยวปักกิ่งยอดฮิต ติดอยู่ในโปรแกรมที่คนส่วนใหญ่จะแวะเวียนมาเที่ยวกัน ความสำคัญของหอสักการะฟ้าเทียนถันนี้ เป็นที่สำหรับบวงสรวง หรือว่าทำพิธีเกี่ยวกับฟ้าดิน ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ จะมีลักษณะเป็นตำหนักสูงใหญ่ที่มีความสูงถึง 3 ชั้น รายล้อมด้วยตำหนักเล็กใหญ่มากมาย นอกจากนั้นยังสำคัญ ถึงกับได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโกอีกด้วย เพราะว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เก่าแก่ยาวนานถึง 2,000 ปีด้วยกัน โดยบัตรราคาค่าเข้า จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ฤดูกาล

เทศกาลสำคัญปักกิ่ง 

1. 1. เทศกาลตรุษจีน (Chinese New Year) หากกล่าวถึงเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ในปักกิ่ง หรือว่าในจีนเองนั้น ก็ต้องยกให้กับเทศกาลตรุษจีนที่คนไทยรู้จักกันดี หรือว่าเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวจีนนั่นเอง เทศกาลนี้ทุกคนจะออกมาประดับประดาบ้านเรือน ตึกอาคารด้วยสีแดง โคมไฟ และสิ่งของที่สื่อถึงความเป็นมงคล ภายในวันงานตรุษจีนจะมีการแสดง การเชิดสิงโตตามสถานที่ต่างๆ และมีการจัดงานกันอย่างคึกคัก ภายในสัปดาห์เดียวกันนั้น ชาวจีนทั้งหลายจะเดินทางกลับบ้าน เพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัว บ้างก็ไปเที่ยวต่างประเทศ โดยวันตรุษจีนนี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามปฎิทินจันทรคติของจีน 
2. 2. เทศกาลวิ่งนานาชาติ (Beijing International Running Festival) อีกหนึ่งงานที่จัดว่ายิ่งใหญ่ และได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งที่ปักกิ่ง เพราะว่าเป็นงานวิ่งระดับนานาชาติ ที่มีผู้มาร่วมงานจากหลากหลายประเทศ ไม่ได้มีแค่นักวิ่งที่เป็นชาวปักกิ่งเพียงเท่านั้น โดยงานวิ่งนี้จะถูกจัดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 1956 เป็นต้นมา ภายในเดือนเมษายน นับว่าเป็นงานวิ่งที่มีคนมาร่วมงานมากที่สุดงานหนึ่ง และเป็นงานวิ่งระดับโลกเลยก็ว่าได้ หากใครที่อยากมาร่วมงานนี้ แนะนำให้ลองเช็คปฎิทินงานเทศกาลกันดูอีกที และอาจจะต้องเตรียมตัวจองตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเป็นงานวิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมาก 
3. 3. เทศกาลโกลเด้นวีค (Golden Week) เป็นอันที่รู้กันว่าเทศกาลโกเด้นวีคนั้นไม่ได้เพียงแค่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ที่ปักกิ่งเองก็มีเทศกาลนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งสัปดาห์ทองคำนี้จะยาวนานทั้งอาทิตย์ หรือว่าทุกอย่างในปักกิ่งจะมีการหยุดนานถึง 7 วันด้วยกัน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ชาวปักกิ่งก็จะเดินทางออกนอกประเทศไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยเทศกาลนี้จะนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยเทศกาลนี้ได้ถูกจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาแล้ว หากใครที่จะไปเที่ยวปักกิ่งในช่วงนี้ แนะนำให้เว้นไปช่วงอื่น เพราะร้านค้า ร้านอาหาร หรือว่าสถานที่เที่ยวบางแห่งก็อาจจะปิดได้ 

เคล็ดลับการเดินทางไปปักกิ่ง 

• - เวลาที่ปักกิ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 
• - นักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวปักกิ่ง ก็จะต้องทำวีซ่าก่อนที่จะเดินทางไป เพราะปักกิ่งไม่ฟรีวีซ่า 
• - แนะนำหากใครไม่ได้เตรียมเวลามาเผื่อทำวีซ่า ก็จะมีการทำวีซ่าแบบด่วน ที่จะได้เล่มวีซ่าภายใน 2-3 วันเท่านั้น 
• - หากใครที่เน้นการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเป็นหลัก แนะนำให้โหลดแอพฯ ที่ชื่อว่า Beijing Subway เพื่อจะได้ทำความเข้าใจเรื่องเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินได้ง่ายขึ้น 
• - นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวปักกิ่งในช่วงฤดูหนาว ให้เตรียมตัวให้ดี พร้อมกับเสื้อผ้าไปให้พร้อม เพราะว่าอุณหภูมิของปักกิ่งในช่วงฤดูหนาว นั้นบางทีก็อาจจะต่ำลงไปจนถึงติดลบได้ 
• - เพื่อความสะดวก ให้ซื้อบัตร IC Card หรือว่า อี้ข่าทง (Yikatong) เพราะว่าเป็นบัตรที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการโดยสารได้ดี เพราะจะใช้บัตรนี้กับทุกการคมนาคม ทั้งรถไฟ รถเมล์คือได้หมด 
• - ไปเที่ยวปักกิ่งนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องการเตรียมเงินสด เพราะว่าเป็นสังคมที่ค่อนข้างจะ Cashless ส่วนใหญ่จะใช้การแสกนผ่าน QR Code กัน