ตั๋วเครื่องบินไป Roi Et (ROI)

ทราเวลโลก้าช่วยให้คุณค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปยัง Roi Et (ROI)

เส้นทาง

สายการบิน

ตารางบิน

ราคาเริ่มต้น

อุดรธานี (UTH) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
เสาร์, 01 มิ.ย. 2024
THB 1,793.32
นครศรีธรรมราช (NST) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
ศุกร์, 24 พ.ค. 2024
THB 1,830.68
เมดาน (KNO) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
อาทิตย์, 12 พ.ค. 2024
THB 3,240.00
เกาะสมุย (USM) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
จันทร์, 27 พ.ค. 2024
THB 4,315.93
ฮ่องกง (HKG) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
จันทร์, 03 มิ.ย. 2024
THB 4,414.37
ไทเป (TPE) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
จันทร์, 03 มิ.ย. 2024
THB 7,032.89
สิงคโปร์ (SIN) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
เสาร์, 08 มิ.ย. 2024
THB 8,718.01
ปีคันบารู (PKU) → ร้อยเอ็ด (ROI)
สายการบิน
พุธ, 29 พ.ค. 2024
THB 11,874.20

ข้อมูลทั่วไปจังหวัดร้อยเอ็ด

จังหวัดร้อยเอ็ด (Roi Et) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย หากอยากไปเที่ยวร้อยเอ็ด ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดได้ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 512กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 8,299  ตารางกิโลเมตร อาณาเขตทิศเหนือติดกับจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดมุกดาหาร  ทิศใต้ติดกับจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดศรีสะเกษ ทิศตะวันออกติดจังหวัดยโสธร ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดมหาสารคาม ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราช พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย มีป่าไม้ และภูเขาเตี้ยๆ อยู่ในบางพื้นที่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 120 - 160 เมตร มีภูเขาทางตอนเหนือซึ่งติดต่อจากเทือกเขาภูพาน บริเวณตอนกลางของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบลูกคลื่น บริเวณตอนล่างมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำมูลและสาขา ได้แก่ ลำน้ำชี ลำน้ำพลับพลา ลำน้ำเตา เป็นต้น บริเวณที่ราบต่ำอันกว้างขวาง เรียกว่า ทุ่งกุลาร้องไห้ มีพื้นที่ประมาณ 80,000 ไร่ มีลักษณะเป็นที่ราบแอ่งกระทะ แหล่งน้ำตามธรรมชาติได้แก่ ลำน้ำสายต่าง ๆ  ได้แก่ลำน้ำชี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัด มีปริมาณน้ำไหลตลอดปี แม่น้ำมูลไหลผ่าทางตอนใต้ของจังหวัด  เป็นแนวแบ่งเขตจังหวัดร้อยเอ็ดกับจังหวัดสุรินทร์ นอกจากนั้นก็มี ลำน้ำเสียวใหญ่ ลำน้ำเสียวน้อย ลำน้ำเตา  ลำน้ำพลับพลา และลำน้ำห้วยแกวใหญ่

 

ร้อยเอ็ด จังหวัดในบริเวณลุ่มแม่น้ำชีในภาคอีสานของไทย ปรากฏชื่อในตำนานอุรังคธาตุว่า สาเกตนคร หรือ เมืองร้อยเอ็ดประตู อันเนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีเมืองขึ้นจำนวนมาก การตั้งชื่อเมืองว่า "ร้อยเอ็ดประตู" เป็นความหมายแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองและอำนาจที่แผ่ขยายกว้างไกลออกไปทุกทิศทาง  ซึ่งคงไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีประตูจริง ๆ ถึง 101 ประตู นอกจากนั้นการตั้งชื่อเมืองให้ดูยิ่งใหญ่เกินจริงเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ถือเป็นธรรมดาของการตั้งชื่อเมืองหรืออาณาจักรในสมัยโบราณ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองร้อยเอ็ดได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นบริเวณร้อยเอ็ด โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือเมืองร้อยเอ็ด เมืองสุวรรณภูมิ เมืองมหาสารคาม เมืองกมลาไสย และเมืองกาฬสินธุ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้ยุบมณฑลร้อยเอ็ด มณฑลอุบล และมณฑลอุดร แล้วให้เปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัด ขึ้นต่อมณฑลนครราชสีมา

 

ร้อยเอ็ด มีความเจริญรุ่งเรืองมากในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีรูปแบบวิถีชีวิตและวัดวาอาราม และมีความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายให้เยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เที่ยวอันเกี่ยวกับอาณาจักรขอมโบราณ อันเนื่องจากดินแดนแห่งนี้เคยตกอยู่ในอิทธิพลของอาณาจักรขอมโบราณ ร้อยเอ็ดขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีเนื้อที่กว้างใหญ่ถึงสองล้านไร่เศษ ข้าวหอมมะลิที่นี่มีชื่อเสียงโด่งได้ชื่อว่าหอมและอร่อยมากที่สุด นอกจากนี้ร้อยเอ็ดยังมีผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่มีชื่อเสียง  เช่น ผ้าไหม ผ้าทอพื้นเมือง หมอนลายขิต เครื่องจักสาน เครื่องใช้พื้นเมือง  ให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด ได้ซื้อเป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย

 

เช็คมาตรการสนามบินจังหวัดร้อยเอ็ดได้ที่นี่

 

สกุลเงินที่ใช้

ไทยบาท (Thai Baht หรือ THB)

 

ฤดูกาลของร้อยเอ็ด

 ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดร้อยเอ็ด ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจ้าฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม  ทำให้มีฝนตกชุกทั่วไป เนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ดมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและบางพื้นที่เป็นภูเขาเตี้ยๆ ทำให้อากาศไม่หนาวเย็นมากนักในช่วงฤดูหนาว แต่อากาศจะค่อนข้างร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูร้อน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 26.9 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.5 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 32.3 องศาเซลเซียส และเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวมากที่สุดในรอบปี อุณหภูมิสูงที่สุดอยู่ที่ 42.3องศาเซลเซียส  )ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวที่สุดในเดือนมกราคม ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด

แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้

  • ฤดูร้อน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นที่มีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป โดยเฉพาะเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดของปี
  • ฤดูฝน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเอาความชื้นจากทะเลและมหาสมุทรมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับในช่วงดังกล่าวร่องความกดอากาศต่ำที่พาดอยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย เลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้อากาศเริ่มชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกตั้งแต่ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกหนาแน่นมากที่สุดในรอบปี  
  • ฤดูหนาว เริ่มต้นประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย อากาศโดยทั่วไปจะหนาวเย็นและแห้ง โดยมีอากาศหนาวจัดในบางวัน  เดือนที่มีอากาศหนาวมากที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยในช่วงดังกล่าวด้วย 

 

สายการบินที่มาลงร้อยเอ็ด

  • เส้นทางบินระหว่างกรุงเทพฯ – ร้อยเอ็ด มีบริการเที่ยวบิน 37 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากสนามบินหลักทั้ง 2 แห่ง คือสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินนานาชาติดอนเมือง เวลาบินโดยเฉลี่ย  1 ชั่วโมง 5 นาที ระยะทาง 421 กิโลเมตร
  • สายการบินที่ให้บริการบินตรงจากจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ไปยังสนามบินร้อยเอ็ด ได้แก่ นกแอร์ (Nok Air) และไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia)

 

 

วิธีการเดินทางในร้อยเอ็ด

  • รถบริการรับส่งสนามบิน เป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วในการเดินทางจากสนามบินร้อยเอ็ด สู่ตัวเมืองร้อยเอ็ดและพื้นที่ใกล้เคียง มีให้เลือกใช้บริการทั้งรถบัสสนามบินหรือรถยนต์สามารถจองรถบริการรับ-ส่งสนามบินได้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่เสียเวลาในการรอคิวที่สนามบิน ที่สำคัญค่าบริการรวมค่าผ่านทางและค่าที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว
  • รถโดยสารประจำทาง เหมาะสำหรับการเดินทางตัวเมืองร้อยเอ็ด ไปยังอำเภอต่างๆ 
  • รถสองแถว บริการรับส่งระหว่างสถานีขนส่งและสถานที่ต่างๆ ทั้งภายในตัวเมืองและอำเภอใกล้เคียง 
  • รถแท็กซี่ บริการรถรับส่งระหว่างสนามบินและตัวเมืองร้อยเอ็ด รวมทั้งสถานที่ต่างๆ มีทั้งคิดราคาตามมิเตอร์และแบบเหมาจ่าย  
  • รถสามล้อรับจ้าง ให้บริการวิ่งภายในตัวเมืองและเขตเทศบาล ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง
  • รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางภายในเมืองร้อยเอ็ดที่สะดวกรวดเร็ว อัตราค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทาง และการต่อรอง
  • รถเช่า ในตัวเมืองร้อยเอ็ดมีรถให้เช่า ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้จากโรงแรมที่พัก

  

ที่เที่ยวสำคัญในร้อยเอ็ด

  1. 1. เจดีย์มหามงคลบัว (Chedi Maha Mongkol Bua) อนุสรณ์ของพระธรรมวิสุมธิมงคลหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแวง อำเภอเมือง เป็นเจดีย์เดียวที่ได้รับอนุญาตจากหลวงตาบัว ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ และหลวงตาบัวได้มาดูการถมที่ วางศิลาฤกษ์ และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยตัวท่านเอง จุดเด่นของเจดีย์มหามงคลบัว คือ เจดีย์สีทองอร่ามขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 40 ไร่ รายล้อมไปด้วยสวนสวย มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า  ภายในองค์เจดีย์แบ่งออกเป็น 4 ชั้น โดยชั้น 1 เป็นห้องอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านไทยอีสาน ชั้น 2 เป็นห้องสมุด ซึ่งรวบรวมหนังสือธรรมะที่แต่งโดยหลวงตามหาบัวทั้งหมดไว้ นอกจากนี้ยังมีห้องฟังธรรมะของหลวงตา ซึ่งรวบรวมเทศน์ของหลวงตาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 จนถึงปัจจุบัน ชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงตาบัว และเป็นที่นั่งภาวนาสำหรับผู้ต้องการความสงบ ชั้น 4 เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน และหุ่นขึ้ผึ้งของพระเถระที่สำคัญ 4 รูป ได้แก่ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว และหลวงปู่หล้า ซึ่งล้วนเป็นพระภิกษุผู้ได้รับความเคารพเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชนชาวอีสาน โดยมีพระอัฐิธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้กราบไหว้ด้วย การเข้าชม สุภาพสตรีต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดไปเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี
  2. 2. วัดบูรพาภิราม (Buraphaphiram Temple) วัดบูรพาภิรามเดิมชื่อว่า “หัวรอ” ตั้งอยู่ที่ถนนผดุงพานิช ตำบลในเมือง ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานที่สูงที่สุดในประเทศไทยและสูงที่สุดในโลก และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือพระเจ้าใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 ความสูงขององค์พระวัดจากพระบาทถึงยอดเกศสูงถึง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมีความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร องค์พระนั้นสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดกระเบื้องโมเสกสีเนื้อด้านหลัง ซึ่งเป็นฐานพิงขององค์พระนั้น มีพระเจดีย์ขนาดความสูง 9 เมตร ซึ่งภายในประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย โดยฐานพระพุทธรูปยืนองค์นี้มีห้องที่ใช้ในศาสนกิจและห้องพิพิธภัณฑ์จำนวนหลายห้อง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งศูนย์งานพระธรรมทูต โรงเรียนปริยัติธรรม และด้านทิศตะวันออกของบริเวณวัดที่อยู่ติดกับคูรอบเมืองสมัยเก่า เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อมเหศักดานุภาพ ด้วยความสูงขององค์พระทำให้เกิดความเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้จะได้อานิสงส์สูงเทียมเมฆเทียมฟ้า ทำการสิ่งใดก็สำเร็จผลด้วยประการทั้งปวง
  3. 3. บึงพลาญชัย (Phlan Chai Lake) ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองร้อยเอ็ด เป็นแลนด์มาร์กสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ด มีลักษณะเป็นเกาะกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 180 ไร่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของชาวเมืองร้อยเอ็ด เต็มไปด้วยความสงบและร่มรื่นด้วยไม้นานาพรรณ และสวนดอกไม้ตามฤดูกาล ในบึงน้ำมีปลาชนิดต่างๆ มากมาย บริเวณนี้นั้นยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลของจังหวัดรวมทั้งจัดมหรสพต่างๆ โดยภายในบึงพลาญชัยยังมีสิ่งก่อสร้างที่น่า สนใจ คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เชื่อกันว่าเจ้าพ่อจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองมีความสุข คิดสิ่งใดสมปรารถนา  พานรัฐธรรมนูญ ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับศาลหลักเมือง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ประดิษฐานไว้กลางสวนพฤกษศาสตร์อยู่ในเกาะกลางบึงพลาญชัย พระพุทธโคดมมงคลศิริพัฒนาบึงพลาญชัย พระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่กลางสวน สระบริสุทธิ์ เป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 สระโบราณของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ลานออกกำลังกายและลานกีฬาเยาวชน สนามเด็กเล่นและสวนสุขภาพ เป็นสวนออกกำลังกาย และมีเรือให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดได้พายเล่นในบึง ในวันสำคัญจะมีการเปิดน้ำพุให้ชมกันด้วย
  4. 4. น้ำตกถ้ำโสดา (Soo Da Cave Waterfall) เป็นน้ำตกอันซีนไทยแลนด์ที่นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ หรือเดิมชื่อผาน้ำย้อย  พื้นที่บ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลภูเขาทอง อำเภอหนองพอก อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดระยะทาง 101 กิโลเมตร  น้ำตกถ้ำโสดาเป็นน้ำตกถ้ำขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 50 เมตร สายน้ำราวกับผ้าม่านสีขาวผืนใหญ่ ไหลลงสู่ชะง่อนผา โดยที่ใต้ชะง่อนผานั้นเป็นสถานที่ประดิษฐานสถานพระพุทธรูปศากยมุนีโคดม ในศาลาที่พักสงฆ์ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มาสักการะ บริเวณน้ำตกถ้ำโสดามีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีเจดีย์หินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีหินทรายวางสลับซับซ้อนกัน รวมทั้งผาหินขนาดใหญ่ บริเวณใกล้เคียงมีอ่างเก็บน้ำห้วยพุงใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกด้วย ระหว่างทางเดินไปยังน้ำตกถ้ำโสดาจะมีน้ำตกเล็กๆ หลายแห่ง มีแอ่งน้ำให้ลงเล่นน้ำเป็นระยะๆ รอบด้านเป็นป่าเขาสีเขียวอุดมสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามให้ได้ถ่ายรูปกันหลายมุม  ที่ภูเขาด้านฝั่งตรงข้ามสามารถมองเห็นพระมหาเจดีย์ชัยมงคลได้ประมาณครึ่งองค์ พื้นที่โดยรอบวัดใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงาม  
  5. 5. ผาหมอกมิวาย (Pha Mok Mi Wai) ผาหมอกมิวาย สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ในบริเวณวนอุทยานเทือกเขาเขียว เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในผืนป่าอนุรักษ์ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายในเขตภาคอีสานตอนบน มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งหลบซ่อนตัว และที่ตั้งฐานกำลังใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2516 – 2523 ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200-600 เมตร ผาหมอกมิวายจึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน และเป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นเทือกเขาต่างๆ ได้ 180 องศา ด้านหน้าจะเป็นหน้าผาสูง มองเห็นหมอกสีขาว ลอยล่องเทียบไหล่เขาเขียวขจี ทั้งยังมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งวัน เนื่องจากพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความชื้นสูง  นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง ระยะทาง 2 กิโลเมตร และ 3 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่ตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดสามารถเดินสำรวจเองได้ เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ  มีบริการบ้านพักและสถานที่สำหรับกางเต็นท์ไว้บริการ ติดต่อล่วงหน้าได้ที่ โทร. 095 511 782

 

บทความที่เที่ยวร้อยเอ็ด 

15 จุดปักหมุด เที่ยวร้อยเอ็ด เมืองเด็ดของสายบุญ กิน เที่ยว ครบ จบในทริปเดียว

 

กิจกรรมที่ต้องทำในร้อยเอ็ด

ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด มาดูกันว่า มีกิจกรรมน่าสนใจอะไรบ้างที่ห้ามพลาด มีตั้งแต่ไหว้พระ ชมแหล่งโบราณสถานเที่ยวชมธรรมชาติ  เริ่มต้นทริปด้วยการสักการะอนุสาวรีย์พระขัติยะวงษา (ทน) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนแรก ณ วงเวียนห้าแยกสายน้ำผึ้ง  สักการะพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย พระพุทธรัตนมงคลมหามุนีหรือหลวงพ่อใหญ่ ที่วัดบูรพาภิราม เยี่ยมชมประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และงานหัตถกรรมการทอผ้าไหมที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด    สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล แห่งวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม เยี่ยมชมโบราณวัตถุที่วัดเหนือ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองร้อยเอ็ดมาช้านาน ชมภาพจิตรกรรมเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติที่งดงาม ที่วัดกลางมิ่งเมือง สถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพิฒน์สัตยาในอดีต สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง  ชมฮูปแต้มหรือจิตรกรรมฝาผนัง ที่วัดจักรวาลภูมิพินิจหรือวัดหนองหมื่นถ่าน เยือนพุทธอุทยานอีสานที่วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม บนผาน้ำย้อย ชมโบราณสถานกลุ่มกู่กาสิงห์ ศิลปะขอมที่หมู่บ้านกู่กาสิงห์ เยี่ยมชมวัดสวยแปลกตาที่สร้างมาจากหม้อดินปั้นมือของชาวบ้านในชุมชนที่วัดป่าโนนสวรรค์    ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ผาหมอกมิวาย ถ่ายรูปที่สตรีตอาร์ตร้อยเอ็ด นับเป็นสตรีตอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน พักผ่อนหย่อนใจ เล่นกีฬาทางน้ำ ชิมอาหารอีสานรสเด็ดบนแพไม้ไผ่ที่บึงเกลือ แวะเที่ยวทุ่งกุลาร้องไห้ พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิชื่อดังของร้อยเอ็ด ชมปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด   พักผ่อน ปั่นจักรยานน้ำในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์  สวนสาธารณะใจกลางเมืองสถานที่ใช้จัดงานประเพณีในตามเทศกาลสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด  และช้อปสินค้าหลากหลายที่ถนนคนเดินสาเกตนคร

 

เทศกาลที่สำคัญในร้อยเอ็ด

  1. ประเพณีบุญบั้งไฟ (Bun Bang Fai Featival) งานบุญบั้งไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่อำเภอพนมไพร ซึ่งจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟมาช้านานนับร้อยปี โดยยึดถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ในการจัดงาน ด้วยความเชื่อของคนพนมไพรที่นอกจากจะจัดงานเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลแล้ว  ยังเป็นการจุดบั้งไฟร่วมถวายองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพนมไพร เพื่อให้นำพาความร่มเย็นเป็นสุขรวมถึงความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ภายในงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้งขบวนแห่บั้งไฟที่ยิ่งใหญ่อลังการ และขบวนฟ้อนที่สวยงาม และในวันจุดบั้งไฟ นับว่ามีจำนวนบั้งไฟมากที่สุดในประเทศ คือมีตั้งแต่ บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน บั้งไฟสิบล้าน ร่วมแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ ประมาณ 200 - 300 บั้ง 5 เวทีจุด ไม่รวมบั้งไฟหมื่นที่จุดถวายองค์พระมหาธาตุ วัดกลางอุดมเวทย์ ที่ชาวพนมไพรเคารพนับถือประมาณ 700 - 1,000 บั้ง ซึ่งทำให้ในแต่ละปี นักท่องเที่ยว นิยมมาเที่ยวที่อำเภอพนมไพรเป็นจำนวนมาก สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานได้ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี 
  2. ประเพณีบุญข้าวจี่ (Bun Khao Chi Festival) งานบุญประจำเทศกาลของอำเภอโพธิ์ชัย เป็นการทำบุญตามฮีต 12 (ฮีต หมายถึง จารีตประเพณี) ซึ่งกำหนดทำบุญในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวันมาฆบูชา หรือเรียกว่า “บุญเดือนสาม” เนื่องจากเป็นเวลาที่ชาวนาได้มีการทานาเสร็จสิ้น ชาวนาได้ข้าวขึ้นยุ้งใหม่จึงอยากร่วมกันทาบุญข้าวจี่ถวายแก่พระสงฆ์  สถานที่จัดงานบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ชัย นับเป็นงานบุญพิเศษเทียบเท่าบุญผะเหวด และบุญกฐิน และมีความเชื่อว่า หากบ้านใดไม่ทำบุญข้าวจี่ อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในหมู่บ้านได้ ข้าวจี่ คือ ข้าวเหนียวนึ่งให้สุกแล้วนามาปั้นเป็นก้อน ทาเกลือเคล้าให้ทั่วและนวดให้เหนียว แล้วเสียบไม้ย่างไฟ ทาไข่ไก่หรือไข่เป็ดแล้วย่างให้สุกดีอีกครั้ง การทำบุญข้าวจี่เชื่อว่าได้กุศลมากเป็นกาละทานอย่างหนึ่ง ภายในงานมีกิจกรรมที่สำคัญคือ การประกวดธิดาปุณณทาสี และข้าวจี่ยักษ์ การสาธิตวิธีการทำข้าวจี่อีสานหลากหลายรูปแบบ ประกวดของดีเมืองโพธิ์ชัย อันได้แก่ ผ้าไหม หมอนขิต ผ้าขาวม้า การแสดงฟ้อน เซิ้งกระติบข้าว จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
  3. ประเพณีกินข้าวปุ้นบุญผะเหวด (Kin Khao Pun Bun Phawet) เป็นบุญประเพณีที่มีการเทศน์มหาชาติเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ด  จัดเป็นประจำทุกปี ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และบึงพลาญชัย “บุญผะเหวด” ในการออกเสียงตามสำเนียงของชาวอีสาน มาจากคำว่า "พระเวส" ซึ่งหมายถึง พระเวสสันดร เป็นงานบุญใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญมหาทานของพระเวสสันดร ที่จะต้องจัดทำพิธีกรรมต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงจะได้อานิสงส์สูง ไม่ว่าจะเป็นการได้ฟังเทศน์ 1,000 พระคาถาเรื่องราวพระเวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ ภายในวันเดียว การอัญเชิญพระอุปคุตมาประดิษฐานในบริเวณมณฑลพิธี การถวายข้าว 1,000 ก้อน หรือการแห่ข้าวพันก้อน เพื่อบูชา 1,000 พระคาถา และการแห่ต้นเงินหรือต้นกัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน เพื่อนำไปถวายทาน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประกวดศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน เช่น พานบายศรีสู่ขวัญ อีกทั้งมีร้านข้าวปุ้นหรือขนมจีนไว้คอยบริการฟรีสำหรับผู้มาร่วมงาน สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

 

จังหวัดร้อยเอ็ด (Roi Et) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย หากอยากไปเที่ยวร้อยเอ็ด ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดได้ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 512กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 8,299  ตารางกิโลเมตร อาณาเขตทิศเหนือติดกับจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดมุกดาหาร  ทิศใต้ติดกับจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดศรีสะเกษ ทิศตะวันออกติดจังหวัดยโสธร ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดมหาสารคาม ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราช พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย มีป่าไม้ และภูเขาเตี้ยๆ อยู่ในบางพื้นที่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 120 - 160 เมตร มีภูเขาทางตอนเหนือซึ่งติดต่อจากเทือกเขาภูพาน บริเวณตอนกลางของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบลูกคลื่น บริเวณตอนล่างมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำมูลและสาขา ได้แก่ ลำน้ำชี ลำน้ำพลับพลา ลำน้ำเตา เป็นต้น บริเวณที่ราบต่ำอันกว้างขวาง เรียกว่า ทุ่งกุลาร้องไห้ มีพื้นที่ประมาณ 80,000 ไร่ มีลักษณะเป็นที่ราบแอ่งกระทะ แหล่งน้ำตามธรรมชาติได้แก่ ลำน้ำสายต่าง ๆ  ได้แก่ลำน้ำชี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัด มีปริมาณน้ำไหลตลอดปี แม่น้ำมูลไหลผ่าทางตอนใต้ของจังหวัด  เป็นแนวแบ่งเขตจังหวัดร้อยเอ็ดกับจังหวัดสุรินทร์ นอกจากนั้นก็มี ลำน้ำเสียวใหญ่ ลำน้ำเสียวน้อย ลำน้ำเตา  ลำน้ำพลับพลา และลำน้ำห้วยแกวใหญ่

 

ร้อยเอ็ด จังหวัดในบริเวณลุ่มแม่น้ำชีในภาคอีสานของไทย ปรากฏชื่อในตำนานอุรังคธาตุว่า สาเกตนคร หรือ เมืองร้อยเอ็ดประตู อันเนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีเมืองขึ้นจำนวนมาก การตั้งชื่อเมืองว่า "ร้อยเอ็ดประตู" เป็นความหมายแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองและอำนาจที่แผ่ขยายกว้างไกลออกไปทุกทิศทาง  ซึ่งคงไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีประตูจริง ๆ ถึง 101 ประตู นอกจากนั้นการตั้งชื่อเมืองให้ดูยิ่งใหญ่เกินจริงเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ถือเป็นธรรมดาของการตั้งชื่อเมืองหรืออาณาจักรในสมัยโบราณ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองร้อยเอ็ดได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นบริเวณร้อยเอ็ด โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือเมืองร้อยเอ็ด เมืองสุวรรณภูมิ เมืองมหาสารคาม เมืองกมลาไสย และเมืองกาฬสินธุ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้ยุบมณฑลร้อยเอ็ด มณฑลอุบล และมณฑลอุดร แล้วให้เปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัด ขึ้นต่อมณฑลนครราชสีมา

 

ร้อยเอ็ด มีความเจริญรุ่งเรืองมากในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีรูปแบบวิถีชีวิตและวัดวาอาราม และมีความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายให้เยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เที่ยวอันเกี่ยวกับอาณาจักรขอมโบราณ อันเนื่องจากดินแดนแห่งนี้เคยตกอยู่ในอิทธิพลของอาณาจักรขอมโบราณ ร้อยเอ็ดขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีเนื้อที่กว้างใหญ่ถึงสองล้านไร่เศษ ข้าวหอมมะลิที่นี่มีชื่อเสียงโด่งได้ชื่อว่าหอมและอร่อยมากที่สุด นอกจากนี้ร้อยเอ็ดยังมีผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่มีชื่อเสียง  เช่น ผ้าไหม ผ้าทอพื้นเมือง หมอนลายขิต เครื่องจักสาน เครื่องใช้พื้นเมือง  ให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด ได้ซื้อเป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย

 

เช็คมาตรการสนามบินจังหวัดร้อยเอ็ดได้ที่นี่

 

สกุลเงินที่ใช้

ไทยบาท (Thai Baht หรือ THB)

 

ฤดูกาลของร้อยเอ็ด

 ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดร้อยเอ็ด ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจ้าฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม  ทำให้มีฝนตกชุกทั่วไป เนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ดมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและบางพื้นที่เป็นภูเขาเตี้ยๆ ทำให้อากาศไม่หนาวเย็นมากนักในช่วงฤดูหนาว แต่อากาศจะค่อนข้างร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูร้อน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 26.9 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.5 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 32.3 องศาเซลเซียส และเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวมากที่สุดในรอบปี อุณหภูมิสูงที่สุดอยู่ที่ 42.3องศาเซลเซียส  )ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวที่สุดในเดือนมกราคม ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด

แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ดังนี้

  • ฤดูร้อน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นที่มีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป โดยเฉพาะเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดของปี
  • ฤดูฝน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเอาความชื้นจากทะเลและมหาสมุทรมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับในช่วงดังกล่าวร่องความกดอากาศต่ำที่พาดอยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย เลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้อากาศเริ่มชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกตั้งแต่ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกหนาแน่นมากที่สุดในรอบปี  
  • ฤดูหนาว เริ่มต้นประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย อากาศโดยทั่วไปจะหนาวเย็นและแห้ง โดยมีอากาศหนาวจัดในบางวัน  เดือนที่มีอากาศหนาวมากที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยในช่วงดังกล่าวด้วย 

 

สายการบินที่มาลงร้อยเอ็ด

  • เส้นทางบินระหว่างกรุงเทพฯ – ร้อยเอ็ด มีบริการเที่ยวบิน 37 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากสนามบินหลักทั้ง 2 แห่ง คือสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและสนามบินนานาชาติดอนเมือง เวลาบินโดยเฉลี่ย  1 ชั่วโมง 5 นาที ระยะทาง 421 กิโลเมตร
  • สายการบินที่ให้บริการบินตรงจากจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ไปยังสนามบินร้อยเอ็ด ได้แก่ นกแอร์ (Nok Air) และไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia)

 

 

วิธีการเดินทางในร้อยเอ็ด

  • รถบริการรับส่งสนามบิน เป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วในการเดินทางจากสนามบินร้อยเอ็ด สู่ตัวเมืองร้อยเอ็ดและพื้นที่ใกล้เคียง มีให้เลือกใช้บริการทั้งรถบัสสนามบินหรือรถยนต์สามารถจองรถบริการรับ-ส่งสนามบินได้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่เสียเวลาในการรอคิวที่สนามบิน ที่สำคัญค่าบริการรวมค่าผ่านทางและค่าที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว
  • รถโดยสารประจำทาง เหมาะสำหรับการเดินทางตัวเมืองร้อยเอ็ด ไปยังอำเภอต่างๆ 
  • รถสองแถว บริการรับส่งระหว่างสถานีขนส่งและสถานที่ต่างๆ ทั้งภายในตัวเมืองและอำเภอใกล้เคียง 
  • รถแท็กซี่ บริการรถรับส่งระหว่างสนามบินและตัวเมืองร้อยเอ็ด รวมทั้งสถานที่ต่างๆ มีทั้งคิดราคาตามมิเตอร์และแบบเหมาจ่าย  
  • รถสามล้อรับจ้าง ให้บริการวิ่งภายในตัวเมืองและเขตเทศบาล ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง
  • รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางภายในเมืองร้อยเอ็ดที่สะดวกรวดเร็ว อัตราค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทาง และการต่อรอง
  • รถเช่า ในตัวเมืองร้อยเอ็ดมีรถให้เช่า ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้จากโรงแรมที่พัก

  

ที่เที่ยวสำคัญในร้อยเอ็ด

  1. 1. เจดีย์มหามงคลบัว (Chedi Maha Mongkol Bua) อนุสรณ์ของพระธรรมวิสุมธิมงคลหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแวง อำเภอเมือง เป็นเจดีย์เดียวที่ได้รับอนุญาตจากหลวงตาบัว ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ และหลวงตาบัวได้มาดูการถมที่ วางศิลาฤกษ์ และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยตัวท่านเอง จุดเด่นของเจดีย์มหามงคลบัว คือ เจดีย์สีทองอร่ามขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 40 ไร่ รายล้อมไปด้วยสวนสวย มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า  ภายในองค์เจดีย์แบ่งออกเป็น 4 ชั้น โดยชั้น 1 เป็นห้องอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านไทยอีสาน ชั้น 2 เป็นห้องสมุด ซึ่งรวบรวมหนังสือธรรมะที่แต่งโดยหลวงตามหาบัวทั้งหมดไว้ นอกจากนี้ยังมีห้องฟังธรรมะของหลวงตา ซึ่งรวบรวมเทศน์ของหลวงตาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 จนถึงปัจจุบัน ชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงตาบัว และเป็นที่นั่งภาวนาสำหรับผู้ต้องการความสงบ ชั้น 4 เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน และหุ่นขึ้ผึ้งของพระเถระที่สำคัญ 4 รูป ได้แก่ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว และหลวงปู่หล้า ซึ่งล้วนเป็นพระภิกษุผู้ได้รับความเคารพเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชนชาวอีสาน โดยมีพระอัฐิธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้กราบไหว้ด้วย การเข้าชม สุภาพสตรีต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดไปเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี
  2. 2. วัดบูรพาภิราม (Buraphaphiram Temple) วัดบูรพาภิรามเดิมชื่อว่า “หัวรอ” ตั้งอยู่ที่ถนนผดุงพานิช ตำบลในเมือง ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานที่สูงที่สุดในประเทศไทยและสูงที่สุดในโลก และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือพระเจ้าใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 ความสูงขององค์พระวัดจากพระบาทถึงยอดเกศสูงถึง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมีความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร องค์พระนั้นสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดกระเบื้องโมเสกสีเนื้อด้านหลัง ซึ่งเป็นฐานพิงขององค์พระนั้น มีพระเจดีย์ขนาดความสูง 9 เมตร ซึ่งภายในประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย โดยฐานพระพุทธรูปยืนองค์นี้มีห้องที่ใช้ในศาสนกิจและห้องพิพิธภัณฑ์จำนวนหลายห้อง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งศูนย์งานพระธรรมทูต โรงเรียนปริยัติธรรม และด้านทิศตะวันออกของบริเวณวัดที่อยู่ติดกับคูรอบเมืองสมัยเก่า เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อมเหศักดานุภาพ ด้วยความสูงขององค์พระทำให้เกิดความเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้จะได้อานิสงส์สูงเทียมเมฆเทียมฟ้า ทำการสิ่งใดก็สำเร็จผลด้วยประการทั้งปวง
  3. 3. บึงพลาญชัย (Phlan Chai Lake) ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองร้อยเอ็ด เป็นแลนด์มาร์กสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ด มีลักษณะเป็นเกาะกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 180 ไร่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของชาวเมืองร้อยเอ็ด เต็มไปด้วยความสงบและร่มรื่นด้วยไม้นานาพรรณ และสวนดอกไม้ตามฤดูกาล ในบึงน้ำมีปลาชนิดต่างๆ มากมาย บริเวณนี้นั้นยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลของจังหวัดรวมทั้งจัดมหรสพต่างๆ โดยภายในบึงพลาญชัยยังมีสิ่งก่อสร้างที่น่า สนใจ คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เชื่อกันว่าเจ้าพ่อจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองมีความสุข คิดสิ่งใดสมปรารถนา  พานรัฐธรรมนูญ ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับศาลหลักเมือง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ประดิษฐานไว้กลางสวนพฤกษศาสตร์อยู่ในเกาะกลางบึงพลาญชัย พระพุทธโคดมมงคลศิริพัฒนาบึงพลาญชัย พระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่กลางสวน สระบริสุทธิ์ เป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 สระโบราณของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ลานออกกำลังกายและลานกีฬาเยาวชน สนามเด็กเล่นและสวนสุขภาพ เป็นสวนออกกำลังกาย และมีเรือให้นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดได้พายเล่นในบึง ในวันสำคัญจะมีการเปิดน้ำพุให้ชมกันด้วย
  4. 4. น้ำตกถ้ำโสดา (Soo Da Cave Waterfall) เป็นน้ำตกอันซีนไทยแลนด์ที่นักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ หรือเดิมชื่อผาน้ำย้อย  พื้นที่บ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลภูเขาทอง อำเภอหนองพอก อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดระยะทาง 101 กิโลเมตร  น้ำตกถ้ำโสดาเป็นน้ำตกถ้ำขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 50 เมตร สายน้ำราวกับผ้าม่านสีขาวผืนใหญ่ ไหลลงสู่ชะง่อนผา โดยที่ใต้ชะง่อนผานั้นเป็นสถานที่ประดิษฐานสถานพระพุทธรูปศากยมุนีโคดม ในศาลาที่พักสงฆ์ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้มาสักการะ บริเวณน้ำตกถ้ำโสดามีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีเจดีย์หินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีหินทรายวางสลับซับซ้อนกัน รวมทั้งผาหินขนาดใหญ่ บริเวณใกล้เคียงมีอ่างเก็บน้ำห้วยพุงใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกด้วย ระหว่างทางเดินไปยังน้ำตกถ้ำโสดาจะมีน้ำตกเล็กๆ หลายแห่ง มีแอ่งน้ำให้ลงเล่นน้ำเป็นระยะๆ รอบด้านเป็นป่าเขาสีเขียวอุดมสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามให้ได้ถ่ายรูปกันหลายมุม  ที่ภูเขาด้านฝั่งตรงข้ามสามารถมองเห็นพระมหาเจดีย์ชัยมงคลได้ประมาณครึ่งองค์ พื้นที่โดยรอบวัดใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงาม  
  5. 5. ผาหมอกมิวาย (Pha Mok Mi Wai) ผาหมอกมิวาย สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ในบริเวณวนอุทยานเทือกเขาเขียว เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในผืนป่าอนุรักษ์ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายในเขตภาคอีสานตอนบน มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งหลบซ่อนตัว และที่ตั้งฐานกำลังใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2516 – 2523 ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200-600 เมตร ผาหมอกมิวายจึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน และเป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นเทือกเขาต่างๆ ได้ 180 องศา ด้านหน้าจะเป็นหน้าผาสูง มองเห็นหมอกสีขาว ลอยล่องเทียบไหล่เขาเขียวขจี ทั้งยังมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งวัน เนื่องจากพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความชื้นสูง  นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง ระยะทาง 2 กิโลเมตร และ 3 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่ตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ดสามารถเดินสำรวจเองได้ เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ  มีบริการบ้านพักและสถานที่สำหรับกางเต็นท์ไว้บริการ ติดต่อล่วงหน้าได้ที่ โทร. 095 511 782

 

บทความที่เที่ยวร้อยเอ็ด 

15 จุดปักหมุด เที่ยวร้อยเอ็ด เมืองเด็ดของสายบุญ กิน เที่ยว ครบ จบในทริปเดียว

 

กิจกรรมที่ต้องทำในร้อยเอ็ด

ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด มาดูกันว่า มีกิจกรรมน่าสนใจอะไรบ้างที่ห้ามพลาด มีตั้งแต่ไหว้พระ ชมแหล่งโบราณสถานเที่ยวชมธรรมชาติ  เริ่มต้นทริปด้วยการสักการะอนุสาวรีย์พระขัติยะวงษา (ทน) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนแรก ณ วงเวียนห้าแยกสายน้ำผึ้ง  สักการะพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย พระพุทธรัตนมงคลมหามุนีหรือหลวงพ่อใหญ่ ที่วัดบูรพาภิราม เยี่ยมชมประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และงานหัตถกรรมการทอผ้าไหมที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด    สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล แห่งวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม เยี่ยมชมโบราณวัตถุที่วัดเหนือ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองร้อยเอ็ดมาช้านาน ชมภาพจิตรกรรมเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติที่งดงาม ที่วัดกลางมิ่งเมือง สถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพิฒน์สัตยาในอดีต สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง  ชมฮูปแต้มหรือจิตรกรรมฝาผนัง ที่วัดจักรวาลภูมิพินิจหรือวัดหนองหมื่นถ่าน เยือนพุทธอุทยานอีสานที่วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม บนผาน้ำย้อย ชมโบราณสถานกลุ่มกู่กาสิงห์ ศิลปะขอมที่หมู่บ้านกู่กาสิงห์ เยี่ยมชมวัดสวยแปลกตาที่สร้างมาจากหม้อดินปั้นมือของชาวบ้านในชุมชนที่วัดป่าโนนสวรรค์    ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ผาหมอกมิวาย ถ่ายรูปที่สตรีตอาร์ตร้อยเอ็ด นับเป็นสตรีตอาร์ตที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน พักผ่อนหย่อนใจ เล่นกีฬาทางน้ำ ชิมอาหารอีสานรสเด็ดบนแพไม้ไผ่ที่บึงเกลือ แวะเที่ยวทุ่งกุลาร้องไห้ พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิชื่อดังของร้อยเอ็ด ชมปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด   พักผ่อน ปั่นจักรยานน้ำในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์  สวนสาธารณะใจกลางเมืองสถานที่ใช้จัดงานประเพณีในตามเทศกาลสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด  และช้อปสินค้าหลากหลายที่ถนนคนเดินสาเกตนคร

 

เทศกาลที่สำคัญในร้อยเอ็ด

  1. ประเพณีบุญบั้งไฟ (Bun Bang Fai Featival) งานบุญบั้งไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่อำเภอพนมไพร ซึ่งจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟมาช้านานนับร้อยปี โดยยึดถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ในการจัดงาน ด้วยความเชื่อของคนพนมไพรที่นอกจากจะจัดงานเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลแล้ว  ยังเป็นการจุดบั้งไฟร่วมถวายองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพนมไพร เพื่อให้นำพาความร่มเย็นเป็นสุขรวมถึงความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ภายในงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้งขบวนแห่บั้งไฟที่ยิ่งใหญ่อลังการ และขบวนฟ้อนที่สวยงาม และในวันจุดบั้งไฟ นับว่ามีจำนวนบั้งไฟมากที่สุดในประเทศ คือมีตั้งแต่ บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน บั้งไฟสิบล้าน ร่วมแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ ประมาณ 200 - 300 บั้ง 5 เวทีจุด ไม่รวมบั้งไฟหมื่นที่จุดถวายองค์พระมหาธาตุ วัดกลางอุดมเวทย์ ที่ชาวพนมไพรเคารพนับถือประมาณ 700 - 1,000 บั้ง ซึ่งทำให้ในแต่ละปี นักท่องเที่ยว นิยมมาเที่ยวที่อำเภอพนมไพรเป็นจำนวนมาก สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานได้ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี 
  2. ประเพณีบุญข้าวจี่ (Bun Khao Chi Festival) งานบุญประจำเทศกาลของอำเภอโพธิ์ชัย เป็นการทำบุญตามฮีต 12 (ฮีต หมายถึง จารีตประเพณี) ซึ่งกำหนดทำบุญในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวันมาฆบูชา หรือเรียกว่า “บุญเดือนสาม” เนื่องจากเป็นเวลาที่ชาวนาได้มีการทานาเสร็จสิ้น ชาวนาได้ข้าวขึ้นยุ้งใหม่จึงอยากร่วมกันทาบุญข้าวจี่ถวายแก่พระสงฆ์  สถานที่จัดงานบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ชัย นับเป็นงานบุญพิเศษเทียบเท่าบุญผะเหวด และบุญกฐิน และมีความเชื่อว่า หากบ้านใดไม่ทำบุญข้าวจี่ อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในหมู่บ้านได้ ข้าวจี่ คือ ข้าวเหนียวนึ่งให้สุกแล้วนามาปั้นเป็นก้อน ทาเกลือเคล้าให้ทั่วและนวดให้เหนียว แล้วเสียบไม้ย่างไฟ ทาไข่ไก่หรือไข่เป็ดแล้วย่างให้สุกดีอีกครั้ง การทำบุญข้าวจี่เชื่อว่าได้กุศลมากเป็นกาละทานอย่างหนึ่ง ภายในงานมีกิจกรรมที่สำคัญคือ การประกวดธิดาปุณณทาสี และข้าวจี่ยักษ์ การสาธิตวิธีการทำข้าวจี่อีสานหลากหลายรูปแบบ ประกวดของดีเมืองโพธิ์ชัย อันได้แก่ ผ้าไหม หมอนขิต ผ้าขาวม้า การแสดงฟ้อน เซิ้งกระติบข้าว จองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
  3. ประเพณีกินข้าวปุ้นบุญผะเหวด (Kin Khao Pun Bun Phawet) เป็นบุญประเพณีที่มีการเทศน์มหาชาติเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ด  จัดเป็นประจำทุกปี ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และบึงพลาญชัย “บุญผะเหวด” ในการออกเสียงตามสำเนียงของชาวอีสาน มาจากคำว่า "พระเวส" ซึ่งหมายถึง พระเวสสันดร เป็นงานบุญใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญมหาทานของพระเวสสันดร ที่จะต้องจัดทำพิธีกรรมต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงจะได้อานิสงส์สูง ไม่ว่าจะเป็นการได้ฟังเทศน์ 1,000 พระคาถาเรื่องราวพระเวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ ภายในวันเดียว การอัญเชิญพระอุปคุตมาประดิษฐานในบริเวณมณฑลพิธี การถวายข้าว 1,000 ก้อน หรือการแห่ข้าวพันก้อน เพื่อบูชา 1,000 พระคาถา และการแห่ต้นเงินหรือต้นกัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน เพื่อนำไปถวายทาน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประกวดศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน เช่น พานบายศรีสู่ขวัญ อีกทั้งมีร้านข้าวปุ้นหรือขนมจีนไว้คอยบริการฟรีสำหรับผู้มาร่วมงาน สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี

 

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย

Xperience อื่นๆ ใน Roi Et

เส้นทางยอดนิยม