ตั๋วเครื่องบินไป Vancouver (YVR)

ทราเวลโลก้าช่วยให้คุณค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปยัง Vancouver (YVR)

เส้นทาง

สายการบิน

ตารางบิน

ราคาเริ่มต้น

มะนิลา (MNL) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
อาทิตย์, 12 พ.ค. 2024
THB 21,403.10
กรุงเทพ (BKK) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
พฤหัสบดี, 16 พ.ค. 2024
THB 22,034.69
ภูเก็ต (HKT) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
จันทร์, 20 พ.ค. 2024
THB 22,054.86
เซี่ยงไฮ้ (PVG) → แวนคูเวอร์ (YVR)
Sichuan Airlines
จันทร์, 13 พ.ค. 2024
THB 26,673.15
ภูเก็ต (HKT) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
อังคาร, 07 พ.ค. 2024
THB 44,423.88
ภูเก็ต (HKT) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
พฤหัสบดี, 16 พ.ค. 2024
THB 51,361.75
บาหลี/เดนปาซาร์ (DPS) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
อังคาร, 21 พ.ค. 2024
THB 53,523.72
ภูเก็ต (HKT) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
อังคาร, 07 พ.ค. 2024
THB 72,409.03
ภูเก็ต (HKT) → แวนคูเวอร์ (YVR)
สายการบิน
อังคาร, 07 พ.ค. 2024
THB 101,918.45

กิจกรรมที่น่าสนใจใน Vancouver

Vancouver International Airport Plaza Premium Lounge
Vancouver International Airport Plaza Premium Lounge
THB 2,037.31
eSIM for Canada by Frewie
eSIM for Canada by Frewie
THB 323.72
แสดงกิจกรรมทั้งหมด

ข้อมูลทั่วไปแวนคูเวอร์

แวนคูเวอร์ (Vancouver) เป็นเมืองท่าชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของบริติชโคลัมเบีย ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคนาดา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของแคนาดาอีกด้วย ชื่อเมืองแวนคูเวอร์นี้ถูกตั้งขึ้นหลังศตวรรษที่ 18 โดยนักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ "จอร์จ แวนคูเวอร์" ที่ใช้เวลาในสำรวจพื้นที่เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ซึ่งแต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวอินเดียนแดง เมืองแวนคูเวอร์นี้ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลแปซิฟิกของทวีปอเมริกาเหนือ จึงเป็นช่องทางที่จะผ่านเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อีกช่องทางหนึ่ง ทิศเหนือจรดอ่าวเบอร์ราร์ด ทิศตะวันตกจรดช่องแคบจอร์เจีย และทิศใต้จรดแม่น้ำเพรเซอร์ ส่วนทิศตะวันออกเป็นภูเขาสูง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล ทำให้แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในแคนาดา อยากมาเที่ยวแวนคูเวอร์ ก็จองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์กันได้เลย 

 

เมืองแวนคูเวอร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญทางธุรกิจของฝั่งตะวันตกของประเทศ เปรียบเสมือนเมืองที่เป็นประตูระหว่างประเทศฝั่งเอเชียและฝั่งแปซิฟิก   (Asia-Pacific Region)  ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก  เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองที่มีความเป็นสากลเพราะผู้คนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาในเมืองนี้  เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะภูมิประเทศอาณาบริเวณ 3 ใน 4 ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา แวนคูเวอร์จึงเป็นเมืองที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งเทือกเขา น้ำทะเล ทรัพยากรป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความงดงามตามธรรมชาติ พร้อมด้วยระบบขนส่งขนมวลชนที่ดีเยี่ยม ทั้งยังเป็นเมืองที่สะอาดและปลอดภัย ทำให้ "แวนคูเวอร์" เป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่อยากจะเดินทางมาสัมผัสกับทัศนียภาพความงดงามเหล่านี้ ส่งผลให้แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทุกปี 

 

สกุลเงินที่ใช้

แวนคูเวอร์ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์แคนาดา (CAD) สำหรับธนบัตรมีชนิด 5, 10, 20, 50 และ 100 ดอลลาร์ โดย 1 ดอลลาร์เท่ากับ 100 เซ็นต์ ส่วนเหรียญมี 5, 10 และ25 เซ็นต์ อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 26.82 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์แคนาดา 

 

ฤดูกาลของเมืองแวนคูเวอร์ 

แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตก และเทือกเขาร๊อกกี้ทางตะวันออก ส่งผลให้อากาศอบอุ่นโดยอิทธิพลของมหาสมุทรแปซิฟิก และมีเทือกเขาเป็นแนวกั้น ภูมิอากาศของแวนคูเวอร์จึงมีความแตกต่างจากเมืองอื่นของแคนาดา โดยมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เนื่องจากมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล จึงมีสภาพอากาศไม่รุนแรงเหมือนกับในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ช่วงฤดูหนาวอากาศจะชื้นแต่ไม่หนาว หิมะตกน้อยมาก เรียกได้ว่ามีวันที่หิมะตกน้อยกว่า 15 วันใน 1 ปี ท้องฟ้าโปร่งสดใส และจะได้เห็นแสงอาทิตย์มากกว่าเมืองอื่นๆ ทุกเมืองในแคนาดา ข้อเสียคือมีฝนตกค่อนข้างบ่อยโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ด้วยลักษณะภูมิประเทศแบบสูงต่ำเหมือนคลื่น ทำให้แต่ละพื้นที่มีสภาพอากาศที่แตกต่างค่อนข้างคาดเดายาก พื้นที่บางแห่งอาจมีฝนตกหนักในขณะที่บางพื้นที่อาจมีสภาพแห้งแล้งและแดดจ้า ทั้งนี้ควรตรวจเช็กสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์

แวนคูเวอร์มี 4 ฤดู คือ

  • - ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน ต้นฤดูใบไม้ผลิอากาศจะเย็นถึงหนาว อุณหภูมิประมาณ 0-10 องศาเซลเซียส และอากาศจะอบอุ่นขึ้นสลับกับฝนตก อุณหภูมิช่วงปลายใบไม้ผลิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อเที่ยวชมธรรมชาติ ต้นไม้และดอกไม้ผลิดอกออกใบอวดโฉมงดงาม 
  • - ฤดูร้อน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน มีอุณหภูมิสูงและมีปริมาณน้ำฝนน้อย ในช่วงต้นของฤดูร้อนมีอากาศเย็นเล็กน้อยและมีเมฆมากในตอนกลางวัน เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้มหาสมุทรแปซิฟิก แต่โดยทั่วไปท้องฟ้าแจ่มใสในช่วงเที่ยงวัน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22 องศาเซลเซียส และบางครั้งอาจสูงถึง 27 องศาเซลเซียส เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนมากที่สุด อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34-37 องศาเซลเซียส นับเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศดีที่สุดเหมาะแก่การจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ 
  • - ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม อากาศจะเย็นลงอย่างรวดเร็วอยู่ที่ประมาณ 7-12 องศาเซลเซียส และจะหนาวเย็นสลับกับหิมะ ในช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคม เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี และเพลิดเพลินกิจกรรมกลางแจ้งสารพัดรูปแบบ  
  • - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม อากาศหนาวจัด อุณหภูมิอาจติดลบ 20-30 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น โดยเฉพาะปลายมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และนานๆ ครั้งจึงจะมีหิมะตกในเมือง มีฝนตกบ่อยและตกติดต่อกันมากกว่าครึ่งวัน ฤดูนี้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อสนุกสนานกับการเล่นสกีและกีฬาอื่นๆ อีกมากมาย

 

ภูมิภาคของแวนคูเวอร์

เมืองแวนคูเวอร์มีฐานะพิเศษเป็นนครแวนคูเวอร์ (City of Vancouver) ประกอบไปด้วย 21 เขตเทศบาล ครอบคลุมพื้นที่ 2,930 ตารางกิโลเมตร ล้อมรอบที่ราบลุ่มแม่น้ำเฟรเซอร์ ได้แก่ หมู่บ้านแอนมอร์ หมู่บ้านเบลคารา เกาะโบวเวน เมืองเบอร์นาบี เมืองโคควิทแลม เขตเดลต้า เมืองแลงเลย์ เขตแลงเลย์ หมู่บ้านไลออนส์เบย์ เขตเมเปิลริดจ์ เมืองนิวเวสต์มินสเตอร์ เมืองแวนคูเวอร์เหนือ เขตแวนคูเวอร์เหนือ เมืองพิตเมโดว์ส เมืองพอร์ตโคควิทแลม เมืองพอร์ตมูดี้ เมืองริชมอนด์ เมืองเซอร์เรย์ นครแวนคูเวอร์ เขตแวนคูเวอร์ตะวันตก และเมืองไวท์ร๊อค

 

 

สนามบินสำคัญแวนคูเวอร์

สนามบินแวนคูเวอร์ (Vancouver Airport) สนามบินแวนคูเวอร์ หรือชื่อเป็นทางการว่า ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์ (Vancouver International Airport) เป็นสนามบินหลักของเมืองแวนคูเวอร์ และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของแคนาดา และยังเป็น 1 ใน 8 สนามบินของประเทศที่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาประจำอยู่ด้วย ตั้งอยู่บนเกาะซี เมืองริชมอนด์ ห่างจากตัวเมืองแวนคูเวอร์ไปทางทิศใต้ประมาณ 12 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองริชมอนด์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถเดินทางสู่ตัวเมืองแวนคูเวอร์ได้หลายวิธี เช่น รถไฟ รถบัสโรงแรม รถลิมูซีน รถแท็กซี่ และรถเช่า ในการเดินทางไปยังเมืองริชมอนด์ การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วที่สุดคือ รถไฟ  ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองแวนคูเวอร์ประมาณ 25-30 นาที และ 15-20 นาที

สนามบินที่เชื่อมต่อไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่  สนามบินแวนคูเวอร์เบาน์แดรี่เบย์  สนามบินแวนคูเวอร์โคลฮาเบอร์ สนามบินพิตต์เมโดว์ส  สนามบินแกนเจสฮาร์เบอร์  สนามบินเมเปิ้ลเบย์  

 

 

การเดินทางไปแวนคูเวอร์

  • ปัจจุบันไม่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังแวนคูเวอร์ สายการบินหลักที่ให้บริการเที่ยวบินต่อเครื่อง 1 จุด ใช้เวลาอย่างน้อย 16 ชั่วโมง ได้แก่ เซียะเหมินแอร์ไลน์ (Xiamen Airlines) ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ (China Eastern Airlines) อีวีเอแอร์ (EVA Air) คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) ไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (China Southern Airlines) และ แอร์แคนาดา (Air Canada)
  • เที่ยวบินต่อเครื่อง พัก 2 จุด ใช้เวลาอย่างน้อย 23 ชั่วโมง สายการบินที่ให้บริการ ได้แก่ เซียะเหมินแอร์ไลน์(Xiamen Airline) และไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (China Southern Airlines)

การเดินทางในแวนคูเวอร์

  • - เครื่องบิน  สายการบินแอร์แคนาดา (Air Canada) ให้บริการบินภายในประเทศ เชื่อมต่อเมืองแวนคูเวอร์ไปยังเมืองอื่นๆ 
  • - รถบัสโรงแรม บริการรับ-ส่งผู้โดยสารไปยังโรงแรมในเมือง โดยจะแวะจอดรับ-ส่งตามโรงแรมที่กำหนดรายชื่อไว้เท่านั้น 
  • - รถลีมูซีน บริการรับ-ส่งผู้โดยสารโดยรถของ Aerocar ประเภทต่างๆ ตามความต้องการของผู้โดยสาร โดยคิดค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายตามระยะทางและระดับรถ
  • - รถโดยสารระยะไกล มีบริการรับ-ส่งผู้โดยสารจากสนามบินไปยังเมืองวิสต์เลอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินขึ้นไปทางตอนเหนือประมาณ 130 กิโลเมตร และใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง
  • - รถไฟฟ้า (Sky Train) สกายเทรนเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในเมืองแวนคูเวอร์ มี 3 เส้นทาง ได้แก่ สายเอ็กซ์โป (Expo Line)  มิลเลนเนียม (Millennium Line) และแคนาดาไลน์(Canada Line) วิ่งมาจบที่สถานีปลายทางเดียวกันคือสถานีวอเตอร์ฟรอนท์ในดาวทาวน์ ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00 ถึง 01.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยมีให้บริการทั้งตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวและเหมาจ่าย 
  • - รถโดยสารประจำทาง (Bus) ให้บริการทั้งภายในเมืองแวนคูเวอร์และเมืองใกล้เคียง อัตราค่าโดยสารแบ่งเป็น 3 โซน เริ่มจากโซนที่ 1 ภายในเขตแวนคูเวอร์ ค่าโดยสารจะถูกที่สุดคือ 2.5 ดอลลาร์แคนาดา โซนที่ 2 คือเมืองที่อยู่รอบๆ ใกล้เมืองแวนคูเวอร์ ค่าโดยสารจะเพิ่มเป็น 3.75 ดอลลาร์แคนาดา ส่วนโซนที่ 3 คือเมืองที่อยู่รอบนอกสุด ค่าโดยสารแพงที่สุด คือ 5 ดอลลาร์แคนาดา ในวันหยุด หรือหลัง 17.30 น. ของทุกวัน ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แค่บัตร 1zone ใช้ได้ทุกโซน
  • - รถไฟชมวิว เส้นทาง The Rocky Mountaineer ซึ่งวิ่งจากเมืองแวนคูเวอร์ตัดผ่านเทือกเขาร้อคกี้ไปยังเมืองแจสเพอร์ เดินทางในเวลาตอนกลางวันเท่านั้น เพื่อให้ผู้โดยสารชื่นชมกับความงดงามของภูมิประเทศรอบข้าง โดยพักค้างคืนที่เมืองแคมลูปซ์   ก่อนเดินทางต่อไปในวันรุ่งขึ้น
  • - รถแท็กซี่ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการเดินทางที่สะดวก หากมีสัมภาระเยอะ และมาถึงสนามบินในช่วงดึกที่รถไฟฟ้าหยุดให้บริการ คิดค่าโดยสารตามมิเตอร์ ค่าโดยสารจากสนามบินถึงใจกลางเมืองแวนคูเวอร์ประมาณ 30 – 40 ดอลลาร์แคนาดา ขึ้นอยู่กับการจราจร
  • - เรือโดยสาร (Seabus) สำหรับเดินทางสู่เกาะแวนคูเวอร์ เกาะวิคตอเรีย และเกาะโบเวน โดยเรือเฟอร์รี่
  • - รถเช่า มีบริการจากหลายบริษัทรถเช่าชั้นนำ

  

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในแวนคูเวอร์

  1. 1. สวนสาธารณะสแตนลีย์พาร์ค (Stanley Park) สวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอเมริกาเหนือ โดยมีพื้นที่มากกว่าเซ็นทรัลพาร์ค (Central Park) ของนิวยอร์ก ตั้งอยู่ใกล้ดาวน์ทาวน์เมืองแวนคูเวอร์ ในอดีตเป็นฐานที่ตั้งของกองทัพเรือ ปัจจุบันเปรียบดังปอดของแวนคูเวอร์ เป็นป่าไม้กลางเมืองมีอาณาเขตกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายแบบทั้งป่าเขาและชายหาด มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับ 100 ปี มีเส้นทางเลียบชายหาดระยะทาง 22 กิโลเมตร ให้ปั่นจักรยานชมวิว หรือเดินเล่นออกกำลังกาย ส่วนพื้นที่ด้านในเป็นป่าลึก เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์ป่าหลายชนิด จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ คือ กลุ่มเสาโทเทม (Totem) ของชนชาวพื้นเมืองอินเดียน ที่ตั้งเรียงรายอยู่ที่จุดชมวิว Brockton Point  ทางตะวันออกของสแตนลีย์พาร์ค กิจกรรมห้ามพลาดคือ นั่งรถม้าชมวิว ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม หรือนั่งรถไฟจำลองขนาดเล็ก เพื่อชมธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งจะปิดให้บริการทุกๆ เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ อย่าลืมเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคูเวอร์ (Vancouver Aquarium) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา อีกจุดห้ามพลาดคือ สะพานแขวนคาพิลาโน (Capilano Suspension Bridge) กล่าวกันเป็นสะพานหนึ่งที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก สะพานที่มีความยาวกว่า100 เมตร พาดข้ามแม่น้ำคาพิลาโน ด้วยความสูงถึง 70 เมตร และในจุดที่สูงที่สุดของสะพานมีพื้นกระจกใส ที่จะมองเห็นภาพแม่น้ำข้างล่างลิบๆ น่าตื่นเต้นหวาดเสียวสุดๆ 
  2. 2. อุทยานลินน์แคนยอน (Lynn Canyon Park) อุทยานลินน์แคนยอน  ตั้งอยู่ชานเมืองตอนเหนือของแวนคูเวอร์ เป็นเขตพื้นที่ป่าฝนหนาแน่นสมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแนวผจญภัย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์เพื่อท่องเที่ยวได้ตลอดปี ผจญภัยไปในป่าฝนอันหนาแน่น ด้วยเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติ (Baden Powell) ที่ทอดยาวเป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางที่สลับซับซ้อนหลายระดับความยากง่าย และยังเคยเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนต์ต่างๆ มากมาย ลัดเลาะผืนป่าไปตามเทือกเขานอร์ธชอร์ (North Shore) ผ่านสะพานแขวนไม้ ลินน์แคนยอน ในระดับความสูง 50 เมตร  นอกจากนี้ภายในอุทยานฯ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์นิเวศวิทยาลินน์แคนยอน (Lynn Canyon Ecology Centre) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงงานนิทรรศการเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพรรณและสัตว์ของอุทยานฯ และมีกิจกรรมพิเศษสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ พื้นที่การเกษตรและเมืองอีกด้วย เดินเขาเลียบแม่น้ำที่เต็มไปด้วยหินของสวนสาธารณะลินน์เฮดวอเตอร์ส (Lynn Headwaters Regional Park) ลัดเลาะไปยังทะเลสาบไรซ์เลค (Rice Lake) เดินตามเส้นทางรอบทะเลสาบเยี่ยมชมชาวประมงที่กำลังจับปลาเทราต์ พักเหนื่อยจิบกาแฟชิมของว่างที่คาเฟ่ ลินน์แคนยอน (Lynn Canyon) สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อเข้าชมอุทยานได้ในช่วงกลางวันตลอดปี ยกเว้นช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 
  3. 3. เกาะแกรนด์วิลล์ (Grandville Island)  เกาะแห่งนี้เมื่อหลายสิบปีก่อนยังไม่มีท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากนัก แต่ทุกวันนี้แกรนด์วิลล์ไอส์แลนด์กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องไปแวนคูเวอร์ เกาะแกรนด์วิลล์ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนใต้ของ False Creek ซึ่งเป็นเกาะที่เชื่อมระหว่างเกาะแกรนวิลล์และเมืองแวนคูเวอร์ เกาะพื้นที่ 37 เอเคอร์แห่งนี้ เดิมเกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะแห่งอุตสาหกรรม ต่อมาในช่วงยุค 70 ได้เปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทุกเพศทุกวัย และมีกิจกรรมน่าสนใจหลากหลายเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร และโรงละคร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ตลาดแกรนด์วิลล์ไอส์แลนด์พับลิคมาร์เก็ต (Grandville Island Public Market) ตลาดอันเก่าแก่และโด่งดังที่สุดของแวนคูเวอร์ ตลาดพื้นที่กว่า 3,900 ตารางเมตร แห่งนี้ เป็นแหล่งรวบรวมงานฝีมือและศิลปะจากทั่วโลก มีร้านอาหารทะเลหลากหลายตามแนวแม่น้ำ ร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดัง และร้านสไตล์ครอบครัว และมีมุมอาหารจานด่วนด้วย ช่วงที่คึกคักที่สุดคือช่วงกลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงตุลาคม จะมีการเปิดตลาดเกษตร (Farmers' Market) โดยชาวไร่จะนำผลผลิตทางเกษตรมาขายด้วยตัวเอง ทั้งสดใหม่และราคาถูก ที่นี่ยังมีร้านค้าบูทิคที่ขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับสไตล์ดั้งเดิม รวมถึงงานฝีมือและเครื่องประดับแฮนด์เมด ภายนอกยังมีการแสดงริมถนนให้ชมตลอดทั้งปี ทั้งเปิดหมวกร้องเพลง การแสดงมายากล หรือการประดิษฐ์ลูกโป่งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ สำหรับเด็กๆ มีทางเดินให้เดินเล่นชมวิวริมทะเล และมองเห็นสะพานเบอร์ราร์ด (Burrard Bridge) อีกด้วย
  4.  4. ภูเขาเกราส์ (Grouse Mountain) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้รักกีฬาหิมะ หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสความหนาวยะเยือก พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของเมืองในมุมสูง อยู่ห่างจากใจกลางเมืองแวนคูเวอร์เพียงไม่กี่นาที การเดินทางสู่ยอดเขามีทั้งแบบขึ้นกระเช้าลอยฟ้า (Skyride ) ไปถึงยอด และแบบ Hijacking หรือการเดินขึ้นไป ซึ่งคนพื้นที่จะนิยมการเดินขึ้นมากกว่า โดยช่วงที่เหมาะที่สุดคือฤดูร้อนหรือก่อนเข้าฤดูหนาวเต็มตัวเท่านั้น เพราะเส้นทางยังสะดวก ทางเดินบางช่วงจะเป็นหินอยู่มากและจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ลื่นตกเหวระหว่างทาง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบที่ระทึกใจ อาทิ ในฤดูร้อนชมการแสดงจากช่างตัดไม้ชื่อก้องโลก การแสดงโชว์ฝึกนก ชมวิวทิวทัศน์ ณ หอชมวิวทรงกังหันลมอายออฟเดอะวินด์ (Eyes of The Wind)  เยี่ยมชมถิ่นอาศัยของหมีกริซลี ส่วนฤดูหนาวตื่นตาไปกับแสงไฟระยิบระยับที่ประดับไว้ตามทางเดิน ตามแนวลาดชันของโซนสไลเดอร์ ตามลานสเก็ตกลางแจ้ง ตามเส้นทางเดินลุยหิมะ และตามสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย  ในช่วงก่อนฤดูหนาวยังมีหิมะอยู่บ้าง นักเล่นสกีบางตา แต่จะได้เห็นภาพทิวทัศน์ต่างๆ ได้ชัดเจน และอากาศก็ไม่หนาวเย็นมากเดินเล่นกลางแจ้งสบายๆ แต่ถ้าเข้าฤดูหนาวเต็มตัวจะเห็นแต่สีขาวโพลนของหิมะทุกพื้นที่ ภาพนักเล่นสกีพร้อมชุดและอุปกรณ์สีสันจัดจ้านเต็มไปหมด บนยอดเขานอกจากจะมีลานกว้างสำหรับเล่นสกี ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟไว้ต้อนรับผู้มาเยือน ห้ามพลาดถ่ายรูปกับรูปปั้นคนตัดไม้ 3 คน ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ และอาจได้เจอกวางเรนเดียร์และหมีสีน้ำตาลตัวโตๆ แวะมาทักทายด้วย
  5. 5. อ่าวอิงลิชเบย์ (English Bay) อ่าวอิงลิชเบย์ เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ชายหาดแห่งนี้มีประวัติมายาวนานหลายร้อยปี ย้อนไปในปี 1893 เป็นชายหาดที่ผู้คนนิยมมาว่ายน้ำ มีกระท่อมเล็กๆ ไม่กี่หลังตั้งอยู่ริมฝั่ง เพื่อให้ร่มเงาและใช้เป็นที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา กัปตันจอร์จ แวนคูเวอร์ แห่งกองทัพเรืออังกฤษ และกัปตันดิโอนิซิโอ กาเลียโน แห่งกองทัพเรือสเปน ได้ร่วมกันกำหนดแผนที่ขอบเขตของประเทศของตน โดยเรียกอ่าวอิงลิชเบย์รวมถึงชายหาดอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงว่า ชายหาดสแปนิชแบงค์ส(Spanish Banks Beach)  ก็ล้วนแต่เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เกียรติกับเหตุการณ์ความร่วมมือระดับนานาชาตินี้ เป็นชายหาดที่กว้าง วิวสวยเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ปิกนิกกับครอบครัว สวีทหวานกับคู่รัก เหมาะสำหรับผู้ที่รักการว่ายน้ำ และกิจกรรมการกลางแจ้ง ทั้ง พายเรือแคนูหรือเรือคายัค ปั่นจักรยานหรือจะเดินย่ำเท้าไปในหาดทรายนุ่ม วิวทิวทัศน์ที่มองจากอิงลิช เบย์ สวยงามเป็นอย่างมาก โอบล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวขจีของอุทยานสแตนเลย์ปาร์ค และชายฝั่งทะเล เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม อาหารการกินก็มีให้เลือกหลายร้าน รวมถึงร้าน Milestones ชื่อดัง บาร์นั่งดื่มชิลๆ และทุกปีในช่วงปลายกรกฎาคมถึงสิงหาคม มีการจัดงานประจำปีแข่งขันดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่อลังการในยามค่ำคืนตลอด 3 วัน ส่วนในฤดูหนาวช่วงเทศกาลปีใหม่ มีงาน Polar Bear Swim ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาว่ายน้ำท้าทายความหนาวเย็นมาด้วยระยะทาง 100 หลา อีกด้วย ถือเป็นงานที่สนุกสนานที่มีผู้คนมาจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์เพื่อร่วมงานมากมายทุกปี

  

เทศกาลสำคัญแวนคูเวอร์

  1. เทศกาลเช็คสเปียร์แวนคูเวอร์ (Bard on the Beach Shakespeare Festival) เทศกาลเช็คสเปียร์ประจำปีที่เรียกว่า Bard on the Beach เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้มาร่วมงานกว่า 100,000 คน จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกๆ ปี เป็นเวลาต่อเนื่องถึง 3 เดือน ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนกันยายน โดยรูปแบบของการจัดงานจะมีการแสดงละครเวทีจากวรรณกรรมที่ประพันธ์โดย วิลเลียม เชคสเปียร์ นักประพันธ์ระดับโลก ให้ผู้ที่สนใจด้านศิลปวัฒนธรรมได้รับชมอย่างเต็มอิ่ม โดยจะมีการแสดงทุกคืน ยกเว้นวันจันทร์ และต้องทำการจองตั๋วล่วงหน้าด้วย ไฮไลท์อยู่ที่การแสดงแบบจัดเต็มสุดอลังการบนเวทีหลักที่จุผู้ชมได้ถึง 730 ที่นั่ง ณ เต็นท์โรงละครริมน้ำ ในสวนสาธารณะเวเนียร์ปาร์ค อ่าวอิงลิชเบย์ จองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ล่วงหน้าเพื่อร่วมเทศกาลที่น่าประทับใจนี้
  2.  2. เทศกาลฉลองพลุไฟ (Celebration of Light Internationial Fireworks Competition) เทศกาลฉลองดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแวนคูเวอร์ เป็นงานระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม จัดในรูปแบบคาร์นิวัลตลอด 3 วัน 3 คืน ที่อ่าวอิงลิชเบย์ ของเมืองแวนคูเวอร์ ภายในงานมีการแข่งขันจากทีมระดับโลก การแสดงเทคนิคพิเศษพลุและดอกไม้ไฟที่จะเปลี่ยนท้องฟ้าในยามค่ำคืนให้สว่างไสวไปด้วยสีสัน ท่ามกลางผู้ชมกว่าล้านคนเฝ้ารอชมการแข่งขันพลุไฟตามแนวชายฝั่งที่ยาวที่สุดในโลก จุดชมดอกไม้ไฟที่ดีที่สุด คือ อ่าวอิงลิชเบย์ ย่านคิตซิลาโน ย่านซันเซตบีช และสวนสาธารณะสแตนเลย์ปาร์ค จองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์เพื่อชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม 
  3. 3. เทศกาลอาหารแวนคูเวอร์ (Dine Out Vancouver Festival) งานเทศกาลอาหารประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในแวนคูเวอร์ นับเป็นเทศกาลที่นักชิมตั้งตารอคอย เป็นการรวบรวมร้านหรูเมนูเด็ด และราคาแพง มาจัดโปรหรือจัดเช็ตอาหารพิเศษ ตั้งแต่อาหารแบบธรรมดาทั่วไป ไปจนถึงแบบ Fine Dinning เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ดื่มด่ำกับอาหารหรู ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก ในแต่ละร้านชื่อดังของแวนคูเวอร์ โดยจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 17 วัน ใน ช่วงปลายเดือนมกราคม เช็คเมนูอาหารและร้านที่ร่วมแคมเปญ ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ได้ที่ https://www.dineoutvancouver.com/

 

เคล็ดลับการเดินทางไปแวนคูเวอร์  

  • - เวลาที่แวนคูเวอร์ช้ากว่าประเทศไทย 14 ชั่วโมง และช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม 
  • - ธนาคารในแวนคูเวอร์เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 9.30-16.00 น. และมีบางแห่งที่เปิดให้บริการในวันเสาร์
  • - ไม่อนุญาตให้ขายบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี และไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในอาคารสาธารณะ ระบบขนส่งมวลชน ร้านค้า และภัตตาคาร
  • - ระบบขนส่งสาธารณะทุกคันของแวนคูเวอร์มีชั้นวางจักรยาน การเช่ารถจักรยานตะเวนเที่ยวจึงไม่ใช่เรื่องยาก
  • - ในวันอังคาร หลังเวลา 17.00 น สามารถเข้าหอศิลป์แวนคูเวอร์ได้ฟรี หรือแล้วแต่บริจาคเป็นการกุศล 
  • - วันคริสต์มาสในแวนคูเวอร์ จัดยาวตั้งแต่ช่วงวันขอบคุณพระเจ้าไปจนถึงสิ้นปีเลยทีเดียว มีกิจกรรมฟรีมากมาย   ตลาดคริสต์มาสคึกคักไปด้วยผู้คน รวมถึงมีม้าหมุนคริสต์มาสเพียงแห่งเดียวในแวนคูเวอร์ 
  • - Boxing Day ในวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ร้านค้าแบรนด์ใหญ่ๆ ในแวนคูเวอร์พร้อมใจกันลดราคา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ในบ้าน นักช็อปต้องห้ามพลาดกับกิจกรรมนี้
  • - ตลาดนัดกลางคืนริชมอนด์ (Richmond Night Market) จะเริ่มเปิดช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ศูนย์รวมอาหารอร่อย นักชิมห้ามพลาดเช่นกัน  

แวนคูเวอร์ (Vancouver) เป็นเมืองท่าชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของบริติชโคลัมเบีย ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคนาดา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของแคนาดาอีกด้วย ชื่อเมืองแวนคูเวอร์นี้ถูกตั้งขึ้นหลังศตวรรษที่ 18 โดยนักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ "จอร์จ แวนคูเวอร์" ที่ใช้เวลาในสำรวจพื้นที่เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ซึ่งแต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวอินเดียนแดง เมืองแวนคูเวอร์นี้ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลแปซิฟิกของทวีปอเมริกาเหนือ จึงเป็นช่องทางที่จะผ่านเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อีกช่องทางหนึ่ง ทิศเหนือจรดอ่าวเบอร์ราร์ด ทิศตะวันตกจรดช่องแคบจอร์เจีย และทิศใต้จรดแม่น้ำเพรเซอร์ ส่วนทิศตะวันออกเป็นภูเขาสูง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล ทำให้แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในแคนาดา อยากมาเที่ยวแวนคูเวอร์ ก็จองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์กันได้เลย 

 

เมืองแวนคูเวอร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญทางธุรกิจของฝั่งตะวันตกของประเทศ เปรียบเสมือนเมืองที่เป็นประตูระหว่างประเทศฝั่งเอเชียและฝั่งแปซิฟิก   (Asia-Pacific Region)  ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก  เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองที่มีความเป็นสากลเพราะผู้คนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาในเมืองนี้  เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะภูมิประเทศอาณาบริเวณ 3 ใน 4 ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา แวนคูเวอร์จึงเป็นเมืองที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งเทือกเขา น้ำทะเล ทรัพยากรป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความงดงามตามธรรมชาติ พร้อมด้วยระบบขนส่งขนมวลชนที่ดีเยี่ยม ทั้งยังเป็นเมืองที่สะอาดและปลอดภัย ทำให้ "แวนคูเวอร์" เป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่อยากจะเดินทางมาสัมผัสกับทัศนียภาพความงดงามเหล่านี้ ส่งผลให้แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทุกปี 

 

สกุลเงินที่ใช้

แวนคูเวอร์ใช้สกุลเงิน ดอลลาร์แคนาดา (CAD) สำหรับธนบัตรมีชนิด 5, 10, 20, 50 และ 100 ดอลลาร์ โดย 1 ดอลลาร์เท่ากับ 100 เซ็นต์ ส่วนเหรียญมี 5, 10 และ25 เซ็นต์ อัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 26.82 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์แคนาดา 

 

ฤดูกาลของเมืองแวนคูเวอร์ 

แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตก และเทือกเขาร๊อกกี้ทางตะวันออก ส่งผลให้อากาศอบอุ่นโดยอิทธิพลของมหาสมุทรแปซิฟิก และมีเทือกเขาเป็นแนวกั้น ภูมิอากาศของแวนคูเวอร์จึงมีความแตกต่างจากเมืองอื่นของแคนาดา โดยมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เนื่องจากมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล จึงมีสภาพอากาศไม่รุนแรงเหมือนกับในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ช่วงฤดูหนาวอากาศจะชื้นแต่ไม่หนาว หิมะตกน้อยมาก เรียกได้ว่ามีวันที่หิมะตกน้อยกว่า 15 วันใน 1 ปี ท้องฟ้าโปร่งสดใส และจะได้เห็นแสงอาทิตย์มากกว่าเมืองอื่นๆ ทุกเมืองในแคนาดา ข้อเสียคือมีฝนตกค่อนข้างบ่อยโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ด้วยลักษณะภูมิประเทศแบบสูงต่ำเหมือนคลื่น ทำให้แต่ละพื้นที่มีสภาพอากาศที่แตกต่างค่อนข้างคาดเดายาก พื้นที่บางแห่งอาจมีฝนตกหนักในขณะที่บางพื้นที่อาจมีสภาพแห้งแล้งและแดดจ้า ทั้งนี้ควรตรวจเช็กสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์

แวนคูเวอร์มี 4 ฤดู คือ

  • - ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน ต้นฤดูใบไม้ผลิอากาศจะเย็นถึงหนาว อุณหภูมิประมาณ 0-10 องศาเซลเซียส และอากาศจะอบอุ่นขึ้นสลับกับฝนตก อุณหภูมิช่วงปลายใบไม้ผลิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อเที่ยวชมธรรมชาติ ต้นไม้และดอกไม้ผลิดอกออกใบอวดโฉมงดงาม 
  • - ฤดูร้อน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน มีอุณหภูมิสูงและมีปริมาณน้ำฝนน้อย ในช่วงต้นของฤดูร้อนมีอากาศเย็นเล็กน้อยและมีเมฆมากในตอนกลางวัน เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้มหาสมุทรแปซิฟิก แต่โดยทั่วไปท้องฟ้าแจ่มใสในช่วงเที่ยงวัน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22 องศาเซลเซียส และบางครั้งอาจสูงถึง 27 องศาเซลเซียส เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนมากที่สุด อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34-37 องศาเซลเซียส นับเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศดีที่สุดเหมาะแก่การจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ 
  • - ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม อากาศจะเย็นลงอย่างรวดเร็วอยู่ที่ประมาณ 7-12 องศาเซลเซียส และจะหนาวเย็นสลับกับหิมะ ในช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคม เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี และเพลิดเพลินกิจกรรมกลางแจ้งสารพัดรูปแบบ  
  • - ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม อากาศหนาวจัด อุณหภูมิอาจติดลบ 20-30 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น โดยเฉพาะปลายมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และนานๆ ครั้งจึงจะมีหิมะตกในเมือง มีฝนตกบ่อยและตกติดต่อกันมากกว่าครึ่งวัน ฤดูนี้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อสนุกสนานกับการเล่นสกีและกีฬาอื่นๆ อีกมากมาย

 

ภูมิภาคของแวนคูเวอร์

เมืองแวนคูเวอร์มีฐานะพิเศษเป็นนครแวนคูเวอร์ (City of Vancouver) ประกอบไปด้วย 21 เขตเทศบาล ครอบคลุมพื้นที่ 2,930 ตารางกิโลเมตร ล้อมรอบที่ราบลุ่มแม่น้ำเฟรเซอร์ ได้แก่ หมู่บ้านแอนมอร์ หมู่บ้านเบลคารา เกาะโบวเวน เมืองเบอร์นาบี เมืองโคควิทแลม เขตเดลต้า เมืองแลงเลย์ เขตแลงเลย์ หมู่บ้านไลออนส์เบย์ เขตเมเปิลริดจ์ เมืองนิวเวสต์มินสเตอร์ เมืองแวนคูเวอร์เหนือ เขตแวนคูเวอร์เหนือ เมืองพิตเมโดว์ส เมืองพอร์ตโคควิทแลม เมืองพอร์ตมูดี้ เมืองริชมอนด์ เมืองเซอร์เรย์ นครแวนคูเวอร์ เขตแวนคูเวอร์ตะวันตก และเมืองไวท์ร๊อค

 

 

สนามบินสำคัญแวนคูเวอร์

สนามบินแวนคูเวอร์ (Vancouver Airport) สนามบินแวนคูเวอร์ หรือชื่อเป็นทางการว่า ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์ (Vancouver International Airport) เป็นสนามบินหลักของเมืองแวนคูเวอร์ และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของแคนาดา และยังเป็น 1 ใน 8 สนามบินของประเทศที่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาประจำอยู่ด้วย ตั้งอยู่บนเกาะซี เมืองริชมอนด์ ห่างจากตัวเมืองแวนคูเวอร์ไปทางทิศใต้ประมาณ 12 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองริชมอนด์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถเดินทางสู่ตัวเมืองแวนคูเวอร์ได้หลายวิธี เช่น รถไฟ รถบัสโรงแรม รถลิมูซีน รถแท็กซี่ และรถเช่า ในการเดินทางไปยังเมืองริชมอนด์ การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วที่สุดคือ รถไฟ  ใช้เวลาเดินทางไปยังตัวเมืองแวนคูเวอร์ประมาณ 25-30 นาที และ 15-20 นาที

สนามบินที่เชื่อมต่อไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่  สนามบินแวนคูเวอร์เบาน์แดรี่เบย์  สนามบินแวนคูเวอร์โคลฮาเบอร์ สนามบินพิตต์เมโดว์ส  สนามบินแกนเจสฮาร์เบอร์  สนามบินเมเปิ้ลเบย์  

 

 

การเดินทางไปแวนคูเวอร์

  • ปัจจุบันไม่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังแวนคูเวอร์ สายการบินหลักที่ให้บริการเที่ยวบินต่อเครื่อง 1 จุด ใช้เวลาอย่างน้อย 16 ชั่วโมง ได้แก่ เซียะเหมินแอร์ไลน์ (Xiamen Airlines) ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ (China Eastern Airlines) อีวีเอแอร์ (EVA Air) คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) ไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (China Southern Airlines) และ แอร์แคนาดา (Air Canada)
  • เที่ยวบินต่อเครื่อง พัก 2 จุด ใช้เวลาอย่างน้อย 23 ชั่วโมง สายการบินที่ให้บริการ ได้แก่ เซียะเหมินแอร์ไลน์(Xiamen Airline) และไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (China Southern Airlines)

การเดินทางในแวนคูเวอร์

  • - เครื่องบิน  สายการบินแอร์แคนาดา (Air Canada) ให้บริการบินภายในประเทศ เชื่อมต่อเมืองแวนคูเวอร์ไปยังเมืองอื่นๆ 
  • - รถบัสโรงแรม บริการรับ-ส่งผู้โดยสารไปยังโรงแรมในเมือง โดยจะแวะจอดรับ-ส่งตามโรงแรมที่กำหนดรายชื่อไว้เท่านั้น 
  • - รถลีมูซีน บริการรับ-ส่งผู้โดยสารโดยรถของ Aerocar ประเภทต่างๆ ตามความต้องการของผู้โดยสาร โดยคิดค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายตามระยะทางและระดับรถ
  • - รถโดยสารระยะไกล มีบริการรับ-ส่งผู้โดยสารจากสนามบินไปยังเมืองวิสต์เลอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินขึ้นไปทางตอนเหนือประมาณ 130 กิโลเมตร และใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง
  • - รถไฟฟ้า (Sky Train) สกายเทรนเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในเมืองแวนคูเวอร์ มี 3 เส้นทาง ได้แก่ สายเอ็กซ์โป (Expo Line)  มิลเลนเนียม (Millennium Line) และแคนาดาไลน์(Canada Line) วิ่งมาจบที่สถานีปลายทางเดียวกันคือสถานีวอเตอร์ฟรอนท์ในดาวทาวน์ ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00 ถึง 01.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยมีให้บริการทั้งตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวและเหมาจ่าย 
  • - รถโดยสารประจำทาง (Bus) ให้บริการทั้งภายในเมืองแวนคูเวอร์และเมืองใกล้เคียง อัตราค่าโดยสารแบ่งเป็น 3 โซน เริ่มจากโซนที่ 1 ภายในเขตแวนคูเวอร์ ค่าโดยสารจะถูกที่สุดคือ 2.5 ดอลลาร์แคนาดา โซนที่ 2 คือเมืองที่อยู่รอบๆ ใกล้เมืองแวนคูเวอร์ ค่าโดยสารจะเพิ่มเป็น 3.75 ดอลลาร์แคนาดา ส่วนโซนที่ 3 คือเมืองที่อยู่รอบนอกสุด ค่าโดยสารแพงที่สุด คือ 5 ดอลลาร์แคนาดา ในวันหยุด หรือหลัง 17.30 น. ของทุกวัน ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แค่บัตร 1zone ใช้ได้ทุกโซน
  • - รถไฟชมวิว เส้นทาง The Rocky Mountaineer ซึ่งวิ่งจากเมืองแวนคูเวอร์ตัดผ่านเทือกเขาร้อคกี้ไปยังเมืองแจสเพอร์ เดินทางในเวลาตอนกลางวันเท่านั้น เพื่อให้ผู้โดยสารชื่นชมกับความงดงามของภูมิประเทศรอบข้าง โดยพักค้างคืนที่เมืองแคมลูปซ์   ก่อนเดินทางต่อไปในวันรุ่งขึ้น
  • - รถแท็กซี่ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการเดินทางที่สะดวก หากมีสัมภาระเยอะ และมาถึงสนามบินในช่วงดึกที่รถไฟฟ้าหยุดให้บริการ คิดค่าโดยสารตามมิเตอร์ ค่าโดยสารจากสนามบินถึงใจกลางเมืองแวนคูเวอร์ประมาณ 30 – 40 ดอลลาร์แคนาดา ขึ้นอยู่กับการจราจร
  • - เรือโดยสาร (Seabus) สำหรับเดินทางสู่เกาะแวนคูเวอร์ เกาะวิคตอเรีย และเกาะโบเวน โดยเรือเฟอร์รี่
  • - รถเช่า มีบริการจากหลายบริษัทรถเช่าชั้นนำ

  

 

สถานที่เที่ยวสำคัญในแวนคูเวอร์

  1. 1. สวนสาธารณะสแตนลีย์พาร์ค (Stanley Park) สวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอเมริกาเหนือ โดยมีพื้นที่มากกว่าเซ็นทรัลพาร์ค (Central Park) ของนิวยอร์ก ตั้งอยู่ใกล้ดาวน์ทาวน์เมืองแวนคูเวอร์ ในอดีตเป็นฐานที่ตั้งของกองทัพเรือ ปัจจุบันเปรียบดังปอดของแวนคูเวอร์ เป็นป่าไม้กลางเมืองมีอาณาเขตกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามหลากหลายแบบทั้งป่าเขาและชายหาด มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับ 100 ปี มีเส้นทางเลียบชายหาดระยะทาง 22 กิโลเมตร ให้ปั่นจักรยานชมวิว หรือเดินเล่นออกกำลังกาย ส่วนพื้นที่ด้านในเป็นป่าลึก เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์ป่าหลายชนิด จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ คือ กลุ่มเสาโทเทม (Totem) ของชนชาวพื้นเมืองอินเดียน ที่ตั้งเรียงรายอยู่ที่จุดชมวิว Brockton Point  ทางตะวันออกของสแตนลีย์พาร์ค กิจกรรมห้ามพลาดคือ นั่งรถม้าชมวิว ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม หรือนั่งรถไฟจำลองขนาดเล็ก เพื่อชมธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งจะปิดให้บริการทุกๆ เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ อย่าลืมเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคูเวอร์ (Vancouver Aquarium) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา อีกจุดห้ามพลาดคือ สะพานแขวนคาพิลาโน (Capilano Suspension Bridge) กล่าวกันเป็นสะพานหนึ่งที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก สะพานที่มีความยาวกว่า100 เมตร พาดข้ามแม่น้ำคาพิลาโน ด้วยความสูงถึง 70 เมตร และในจุดที่สูงที่สุดของสะพานมีพื้นกระจกใส ที่จะมองเห็นภาพแม่น้ำข้างล่างลิบๆ น่าตื่นเต้นหวาดเสียวสุดๆ 
  2. 2. อุทยานลินน์แคนยอน (Lynn Canyon Park) อุทยานลินน์แคนยอน  ตั้งอยู่ชานเมืองตอนเหนือของแวนคูเวอร์ เป็นเขตพื้นที่ป่าฝนหนาแน่นสมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแนวผจญภัย สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์เพื่อท่องเที่ยวได้ตลอดปี ผจญภัยไปในป่าฝนอันหนาแน่น ด้วยเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติ (Baden Powell) ที่ทอดยาวเป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางที่สลับซับซ้อนหลายระดับความยากง่าย และยังเคยเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนต์ต่างๆ มากมาย ลัดเลาะผืนป่าไปตามเทือกเขานอร์ธชอร์ (North Shore) ผ่านสะพานแขวนไม้ ลินน์แคนยอน ในระดับความสูง 50 เมตร  นอกจากนี้ภายในอุทยานฯ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์นิเวศวิทยาลินน์แคนยอน (Lynn Canyon Ecology Centre) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงงานนิทรรศการเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพรรณและสัตว์ของอุทยานฯ และมีกิจกรรมพิเศษสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ พื้นที่การเกษตรและเมืองอีกด้วย เดินเขาเลียบแม่น้ำที่เต็มไปด้วยหินของสวนสาธารณะลินน์เฮดวอเตอร์ส (Lynn Headwaters Regional Park) ลัดเลาะไปยังทะเลสาบไรซ์เลค (Rice Lake) เดินตามเส้นทางรอบทะเลสาบเยี่ยมชมชาวประมงที่กำลังจับปลาเทราต์ พักเหนื่อยจิบกาแฟชิมของว่างที่คาเฟ่ ลินน์แคนยอน (Lynn Canyon) สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ เพื่อเข้าชมอุทยานได้ในช่วงกลางวันตลอดปี ยกเว้นช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 
  3. 3. เกาะแกรนด์วิลล์ (Grandville Island)  เกาะแห่งนี้เมื่อหลายสิบปีก่อนยังไม่มีท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากนัก แต่ทุกวันนี้แกรนด์วิลล์ไอส์แลนด์กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จองตั๋วเครื่องไปแวนคูเวอร์ เกาะแกรนด์วิลล์ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนใต้ของ False Creek ซึ่งเป็นเกาะที่เชื่อมระหว่างเกาะแกรนวิลล์และเมืองแวนคูเวอร์ เกาะพื้นที่ 37 เอเคอร์แห่งนี้ เดิมเกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะแห่งอุตสาหกรรม ต่อมาในช่วงยุค 70 ได้เปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทุกเพศทุกวัย และมีกิจกรรมน่าสนใจหลากหลายเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร และโรงละคร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ตลาดแกรนด์วิลล์ไอส์แลนด์พับลิคมาร์เก็ต (Grandville Island Public Market) ตลาดอันเก่าแก่และโด่งดังที่สุดของแวนคูเวอร์ ตลาดพื้นที่กว่า 3,900 ตารางเมตร แห่งนี้ เป็นแหล่งรวบรวมงานฝีมือและศิลปะจากทั่วโลก มีร้านอาหารทะเลหลากหลายตามแนวแม่น้ำ ร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดัง และร้านสไตล์ครอบครัว และมีมุมอาหารจานด่วนด้วย ช่วงที่คึกคักที่สุดคือช่วงกลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงตุลาคม จะมีการเปิดตลาดเกษตร (Farmers' Market) โดยชาวไร่จะนำผลผลิตทางเกษตรมาขายด้วยตัวเอง ทั้งสดใหม่และราคาถูก ที่นี่ยังมีร้านค้าบูทิคที่ขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับสไตล์ดั้งเดิม รวมถึงงานฝีมือและเครื่องประดับแฮนด์เมด ภายนอกยังมีการแสดงริมถนนให้ชมตลอดทั้งปี ทั้งเปิดหมวกร้องเพลง การแสดงมายากล หรือการประดิษฐ์ลูกโป่งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ สำหรับเด็กๆ มีทางเดินให้เดินเล่นชมวิวริมทะเล และมองเห็นสะพานเบอร์ราร์ด (Burrard Bridge) อีกด้วย
  4.  4. ภูเขาเกราส์ (Grouse Mountain) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้รักกีฬาหิมะ หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสความหนาวยะเยือก พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของเมืองในมุมสูง อยู่ห่างจากใจกลางเมืองแวนคูเวอร์เพียงไม่กี่นาที การเดินทางสู่ยอดเขามีทั้งแบบขึ้นกระเช้าลอยฟ้า (Skyride ) ไปถึงยอด และแบบ Hijacking หรือการเดินขึ้นไป ซึ่งคนพื้นที่จะนิยมการเดินขึ้นมากกว่า โดยช่วงที่เหมาะที่สุดคือฤดูร้อนหรือก่อนเข้าฤดูหนาวเต็มตัวเท่านั้น เพราะเส้นทางยังสะดวก ทางเดินบางช่วงจะเป็นหินอยู่มากและจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ลื่นตกเหวระหว่างทาง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบที่ระทึกใจ อาทิ ในฤดูร้อนชมการแสดงจากช่างตัดไม้ชื่อก้องโลก การแสดงโชว์ฝึกนก ชมวิวทิวทัศน์ ณ หอชมวิวทรงกังหันลมอายออฟเดอะวินด์ (Eyes of The Wind)  เยี่ยมชมถิ่นอาศัยของหมีกริซลี ส่วนฤดูหนาวตื่นตาไปกับแสงไฟระยิบระยับที่ประดับไว้ตามทางเดิน ตามแนวลาดชันของโซนสไลเดอร์ ตามลานสเก็ตกลางแจ้ง ตามเส้นทางเดินลุยหิมะ และตามสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย  ในช่วงก่อนฤดูหนาวยังมีหิมะอยู่บ้าง นักเล่นสกีบางตา แต่จะได้เห็นภาพทิวทัศน์ต่างๆ ได้ชัดเจน และอากาศก็ไม่หนาวเย็นมากเดินเล่นกลางแจ้งสบายๆ แต่ถ้าเข้าฤดูหนาวเต็มตัวจะเห็นแต่สีขาวโพลนของหิมะทุกพื้นที่ ภาพนักเล่นสกีพร้อมชุดและอุปกรณ์สีสันจัดจ้านเต็มไปหมด บนยอดเขานอกจากจะมีลานกว้างสำหรับเล่นสกี ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟไว้ต้อนรับผู้มาเยือน ห้ามพลาดถ่ายรูปกับรูปปั้นคนตัดไม้ 3 คน ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ และอาจได้เจอกวางเรนเดียร์และหมีสีน้ำตาลตัวโตๆ แวะมาทักทายด้วย
  5. 5. อ่าวอิงลิชเบย์ (English Bay) อ่าวอิงลิชเบย์ เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ชายหาดแห่งนี้มีประวัติมายาวนานหลายร้อยปี ย้อนไปในปี 1893 เป็นชายหาดที่ผู้คนนิยมมาว่ายน้ำ มีกระท่อมเล็กๆ ไม่กี่หลังตั้งอยู่ริมฝั่ง เพื่อให้ร่มเงาและใช้เป็นที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา กัปตันจอร์จ แวนคูเวอร์ แห่งกองทัพเรืออังกฤษ และกัปตันดิโอนิซิโอ กาเลียโน แห่งกองทัพเรือสเปน ได้ร่วมกันกำหนดแผนที่ขอบเขตของประเทศของตน โดยเรียกอ่าวอิงลิชเบย์รวมถึงชายหาดอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงว่า ชายหาดสแปนิชแบงค์ส(Spanish Banks Beach)  ก็ล้วนแต่เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้เกียรติกับเหตุการณ์ความร่วมมือระดับนานาชาตินี้ เป็นชายหาดที่กว้าง วิวสวยเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ปิกนิกกับครอบครัว สวีทหวานกับคู่รัก เหมาะสำหรับผู้ที่รักการว่ายน้ำ และกิจกรรมการกลางแจ้ง ทั้ง พายเรือแคนูหรือเรือคายัค ปั่นจักรยานหรือจะเดินย่ำเท้าไปในหาดทรายนุ่ม วิวทิวทัศน์ที่มองจากอิงลิช เบย์ สวยงามเป็นอย่างมาก โอบล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวขจีของอุทยานสแตนเลย์ปาร์ค และชายฝั่งทะเล เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม อาหารการกินก็มีให้เลือกหลายร้าน รวมถึงร้าน Milestones ชื่อดัง บาร์นั่งดื่มชิลๆ และทุกปีในช่วงปลายกรกฎาคมถึงสิงหาคม มีการจัดงานประจำปีแข่งขันดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่อลังการในยามค่ำคืนตลอด 3 วัน ส่วนในฤดูหนาวช่วงเทศกาลปีใหม่ มีงาน Polar Bear Swim ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาว่ายน้ำท้าทายความหนาวเย็นมาด้วยระยะทาง 100 หลา อีกด้วย ถือเป็นงานที่สนุกสนานที่มีผู้คนมาจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์เพื่อร่วมงานมากมายทุกปี

  

เทศกาลสำคัญแวนคูเวอร์

  1. เทศกาลเช็คสเปียร์แวนคูเวอร์ (Bard on the Beach Shakespeare Festival) เทศกาลเช็คสเปียร์ประจำปีที่เรียกว่า Bard on the Beach เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้มาร่วมงานกว่า 100,000 คน จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกๆ ปี เป็นเวลาต่อเนื่องถึง 3 เดือน ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนกันยายน โดยรูปแบบของการจัดงานจะมีการแสดงละครเวทีจากวรรณกรรมที่ประพันธ์โดย วิลเลียม เชคสเปียร์ นักประพันธ์ระดับโลก ให้ผู้ที่สนใจด้านศิลปวัฒนธรรมได้รับชมอย่างเต็มอิ่ม โดยจะมีการแสดงทุกคืน ยกเว้นวันจันทร์ และต้องทำการจองตั๋วล่วงหน้าด้วย ไฮไลท์อยู่ที่การแสดงแบบจัดเต็มสุดอลังการบนเวทีหลักที่จุผู้ชมได้ถึง 730 ที่นั่ง ณ เต็นท์โรงละครริมน้ำ ในสวนสาธารณะเวเนียร์ปาร์ค อ่าวอิงลิชเบย์ จองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ล่วงหน้าเพื่อร่วมเทศกาลที่น่าประทับใจนี้
  2.  2. เทศกาลฉลองพลุไฟ (Celebration of Light Internationial Fireworks Competition) เทศกาลฉลองดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแวนคูเวอร์ เป็นงานระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม จัดในรูปแบบคาร์นิวัลตลอด 3 วัน 3 คืน ที่อ่าวอิงลิชเบย์ ของเมืองแวนคูเวอร์ ภายในงานมีการแข่งขันจากทีมระดับโลก การแสดงเทคนิคพิเศษพลุและดอกไม้ไฟที่จะเปลี่ยนท้องฟ้าในยามค่ำคืนให้สว่างไสวไปด้วยสีสัน ท่ามกลางผู้ชมกว่าล้านคนเฝ้ารอชมการแข่งขันพลุไฟตามแนวชายฝั่งที่ยาวที่สุดในโลก จุดชมดอกไม้ไฟที่ดีที่สุด คือ อ่าวอิงลิชเบย์ ย่านคิตซิลาโน ย่านซันเซตบีช และสวนสาธารณะสแตนเลย์ปาร์ค จองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์เพื่อชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกได้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม 
  3. 3. เทศกาลอาหารแวนคูเวอร์ (Dine Out Vancouver Festival) งานเทศกาลอาหารประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในแวนคูเวอร์ นับเป็นเทศกาลที่นักชิมตั้งตารอคอย เป็นการรวบรวมร้านหรูเมนูเด็ด และราคาแพง มาจัดโปรหรือจัดเช็ตอาหารพิเศษ ตั้งแต่อาหารแบบธรรมดาทั่วไป ไปจนถึงแบบ Fine Dinning เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ดื่มด่ำกับอาหารหรู ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก ในแต่ละร้านชื่อดังของแวนคูเวอร์ โดยจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 17 วัน ใน ช่วงปลายเดือนมกราคม เช็คเมนูอาหารและร้านที่ร่วมแคมเปญ ก่อนจองตั๋วเครื่องบินไปแวนคูเวอร์ได้ที่ https://www.dineoutvancouver.com/

 

เคล็ดลับการเดินทางไปแวนคูเวอร์  

  • - เวลาที่แวนคูเวอร์ช้ากว่าประเทศไทย 14 ชั่วโมง และช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม 
  • - ธนาคารในแวนคูเวอร์เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 9.30-16.00 น. และมีบางแห่งที่เปิดให้บริการในวันเสาร์
  • - ไม่อนุญาตให้ขายบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี และไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในอาคารสาธารณะ ระบบขนส่งมวลชน ร้านค้า และภัตตาคาร
  • - ระบบขนส่งสาธารณะทุกคันของแวนคูเวอร์มีชั้นวางจักรยาน การเช่ารถจักรยานตะเวนเที่ยวจึงไม่ใช่เรื่องยาก
  • - ในวันอังคาร หลังเวลา 17.00 น สามารถเข้าหอศิลป์แวนคูเวอร์ได้ฟรี หรือแล้วแต่บริจาคเป็นการกุศล 
  • - วันคริสต์มาสในแวนคูเวอร์ จัดยาวตั้งแต่ช่วงวันขอบคุณพระเจ้าไปจนถึงสิ้นปีเลยทีเดียว มีกิจกรรมฟรีมากมาย   ตลาดคริสต์มาสคึกคักไปด้วยผู้คน รวมถึงมีม้าหมุนคริสต์มาสเพียงแห่งเดียวในแวนคูเวอร์ 
  • - Boxing Day ในวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ร้านค้าแบรนด์ใหญ่ๆ ในแวนคูเวอร์พร้อมใจกันลดราคา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ในบ้าน นักช็อปต้องห้ามพลาดกับกิจกรรมนี้
  • - ตลาดนัดกลางคืนริชมอนด์ (Richmond Night Market) จะเริ่มเปิดช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ศูนย์รวมอาหารอร่อย นักชิมห้ามพลาดเช่นกัน  
Flight-destination-article-image

สายการบินพันธมิตร

สายการบินพันธมิตรทั้งในและระหว่างประเทศ
เราร่วมมือกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับทุกจดหมายปลายทางที่คุณต้องการ

พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงิน

เราร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการชำระเงินของคุณสะดวกและปลอดภัย

เส้นทางยอดนิยม